53.ไปไหว้พระเมืองสามน้ำกัน…

เป็นทริปที่น่าสนใจจัง....

เมื่อพูดถึงหิ่งห้อย ที่อัมพวาจะเป็นแห่งเดียวในประเทศก็ว่าได้ที่ยังสามารถมีให้เห็นได้ง่ายและเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมเสน่ห์อัมพวา ถ้าธรรมชาติถูกทำลายไปมากกว่านี้ เสน่ห์อัมพวาก็คงจะหมดลงด้วย.....

 

​

นอกจากนี้ภายในวัดยังมีศาลาเก๋งเรือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๑ ลักษณะเป็นทรงไทยชั้นเดียว ใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาเก๋งเรือพระราชทาน เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๔๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยสมเด็จเจ้าฟ้า เจ้านายหลายพระองค์ และข้าราชบริพาร ได้เสด็จทางชลมารคโดยเรือพระที่นั่ง ซึ่งเป็นเรือดมาด ๔ แจว ขุดจากซุงไม้สักหรือตะเคียน พระองค์ได้จอดแวะพักและผูกเรือพระที่นั่ง ณ ต้นสะเดา เพื่อทำครัวเสวยพระกายาหารเช้า เก๋งเรือพระราชทานนี้ ปัจจุบันทางวัดได้บูรณะซ่อมแซมจากของเดิมที่ชำรุดให้ สมบูรณ์สวยงาม

ต้นสะเดา ที่ผูกเรือพระที่นั่ง​

สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงบันทึกไว้ใน “จดหมายเหตุเรื่องประพาสต้นในรัชกาลที่ ๕” ซึ่งมีเนื้อความที่เกี่ยวข้องกับวัดประดู่ไว้ว่า


“...วันที่ ๒๑ กรกฎาคม เวลาเช้าเสด็จประพาสตลาด ไปพบยายเจ้าของเรือที่แกเคยเห็นเจ้าชีวิต ๓ หน แกพาลูกมาเฝ้า ทรงพระกรุณาพระราชทานเครื่องแต่งตัวแก่เด็กนั้นหลายอย่าง ประพาสตลาดแล้วออกเรือจากเมืองราชบุรี กระบวนเรือพลับพลาให้ล่องลงไปตามลำน้ำใหญ่ไปคอยที่เมืองสมุทรสงคราม เสด็จเรือมาด ๔ แจว มีเรือต้นที่ซื้อใหม่เป็นเรือพระที่นั่งรอง พ่วงเรือไฟเล็กเข้าทางแม่น้ำอ้อม ไปแวะซื้อเสบียงอาหารที่ตลาดปากคลองวัดประดู่....


...ออกจากตลาดแจวเข้าคลองเล็กไปจนถึงวัดประดู่ หยุดพักทำครัวเสวยเช้าที่วัดนั้น กองล้างชามเที่ยวตรวจได้ความแปลกประหลาดที่วัดนี้ว่า เป็นหมอน้ำมนต์ มีผู้ที่เจ็บไข้ไปคอยรดน้ำมนต์รักษาตัวอยู่หลายคน ได้ความว่าเป็นโรคผีเข้าบ้าง ถูกกระทำยำเยียบ้าง และโรคอย่างอื่นๆ บ้าง เมื่อเลี้ยงกันเสร็จแล้ว จึงพร้อมกันไปดูรดน้ำมนต์ รดน้ำมนต์อย่างนี้ฉันก็พึ่งเคยเห็น คนพูดจากันอยู่ดีๆ พอเข้าไปนั่งให้พระรดน้ำ ก็มีกิริยาอาการวิปลาศไปต่างๆ...”

​

 

​

ภายในวัดยังมี พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก สร้างใน พ.ศ.๒๕๔๘ ลักษณะเป็นทรงไทย ๒ ชั้น ๔ หลังคาแฝด ชั้นบนเป็นไม้สักทอง ฝาสกล สร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เมื่อครั้งเสด็จทรงเยี่ยมวัดประดู่เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๘ ได้เสด็จทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์เครื่องราชศรัทธา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โดยเหตุในการเสด็จครั้งนั้น พระองค์ได้เคยเสด็จวัดประดู่เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ โดยได้เสด็จมาพร้อมกับพระบิดาของพระองค์ท่าน ซึ่งขณะนั้น รับราชการเป็นปลัดอำเภออัมพวาและพระองค์ได้ทอดพระเนตรวีซีดีประวัติวัดประดู่อีกครั้งเพื่อย้อนรำลึกถึงเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ที่พระองค์ได้เคยเสด็จมาวัดประดู่แห่งนี้

​

พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระญาณสังวรฯ แห่งนี้นอกจากจะเป็นอนุสรณ์ให้กับชุมชนชาววัดประดู่แล้วยังเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไปได้รู้จัก พระสังฆราช ตั้งแต่องค์แรกจนถึงองค์ ปัจจุบันผ่าน หุ่นปั้น ตลอดจนสิ่งของต่างๆที่ทางสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกพระราชทานถวายให้กับวัดประดู่

​

 

สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่สำคัญในวัดประดู่ก็คือ ศูนย์สาธิตศิลปะการทำหัวโขนและเศียรครู(หอศิลป์) สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๘ ด้วยเล็งเห็นว่าศิลปวัฒนธรรมต่างๆถือเป็นมรดกล้ำค่าที่ควรจะอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นมรดกของลูกหลาน ซึ่งหอศิลป์แห่งนี้เปิดให้ชุมชนและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาขั้นตอนการทำและการฝึกทำหัวโขนและเศียรครู โดยมีหลักสูตรการเรียนรู้จากผู้ชำนาญของผู้ดูแลศูนย์ซึ่งเป็นบุคคลในชุมชนวัดประดู่ที่ได้เล่าเรียนศึกษาจากผู้ที่มีความรู้ในเรื่องการทำหัวโขนและเศียรครูโดยตรง (ไม่ได้ไปดู)

​

สำหรับพระอุโบสถวัดประดู่ภายในสวยงามด้วยภาพเขียนผนังสีสันสดใสสวยงาม ตรงกลางด้านหลังพระประธานเป็นภาพเขียนต้นพระศรีมหาโพธิ์โดยมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระประธานในพระอุโบสถ พร้อมอัครสาวกเบื้องซ้ายและขวา บริเวณด้านข้างหน้าต่างทั้งซ้ายและขวามีเทวดาประจำวันอยู่ด้วย

​

ด้านศาลาการเปรียญใกล้ๆ กับพระอุโบสถ มีภาพวาดบนผนังเพดานแบบดั่งเดิมที่วาดด้วยสีฝุ่นดินสอพองสมัยรัชกาลที่ ๒ถึงรัชกาลที่ ๓ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากจีน อาทิ รูปชุมนุมเทวดา รูปชุมนุมเทพ รูปหนุมานเหินหาว รูปพุทธประวัติ เช่น พระเจ้าสุทโธทนะอภิเษกกับ พระนางสิริมหามายา ประสูติเจ้าชายสิทธัตถะ เป็นต้น (ไม่ได้ไปดู)


นอกจากนี้บริเวณพื้นที่ด้านหลังของพระอุโบสถ ซึ่งติดกับท่าน้ำได้นำมาใช้ประโยชน์ให้ชาวบ้านนำสินค้ามาจำหน่าย เช่น อาหารและสินค้าชุมชนต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาศึกษาหา ความรู้ได้เรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นภายในวัดและจะสร้างประโยชน์ให้กับชาวบ้านได้อีกทางหนึ่งด้วย

 

สรุปสถานที่และสิ่งที่น่าสนใจภายในวัดประดู่
๑. อุโบสถหลวงพ่อใหญ่
๒. พิพิธภัณฑ์เครื่องราชศรัทธา รัชกาลที่ ๕
๓. พระตำหนักสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
๔. ภาพจิตรกรรมเพดานเขียนด้วยสีฝุ่นสมัยรัชกาลที่ ๒
๕. เก๋งเรือพระราชทานรัชกาลที่ ๕
๖. ศูนย์สาธิตศิลปะการทำหัวโขนและเศียรครู
๗. ต้นสะเดาประวัติศาสตร์
๘. บ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์
๙. หุ่นปั้นรูปเหมือนด้วยดินสอพอง ฯลฯ

​

 

​

ตอนนี้เกินเวลาเที่ยงวันมาสองชั่วโมงครึ่ง ข้าวกลางวันยังไม่ได้กินกันเลย โชคดีที่วัดนี้มีร้านอาหารตรงริมคลองอยู่หลายร้านจึงได้เติมพลังกัน มีทั้งผัดไท หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่งก็มี ก็สั่งกันไปตามอัธยาศัยแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะหิวจึงลืมนึก พอเช็คบิลเสร็จลองคิดว่าตกจานละเท่าไหร่ ปรากฏว่า ผัดไทที่สั่งไป จานละ ๑๕ – ๒๐ บาท อะไรจะถูกปานนั้นอ่ะ ออกจากวัดอินทรารามก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่า ก็ไม่ได้แวะไหว้พระที่วัดไหนแล้ว ขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านก็ลุ้นกันอีกว่าจะโผล่ออกถนนใหญ่ (สายสมุทรสงคราม – บางแพ) ที่จะมุ่งสู่ตัวเมืองสมุทรสงครามถูกหรือเปล่าเพราะว่าขับรถเข้ามาลึกเกิน แต่ก็รู้สึกว่าเป็นโชคดีเพราะก็มีรถที่มาเที่ยวไหว้พระเหมือนกันกำลังขับรถหาทางออกเหมือนกันจึงขับตามๆ กันไป ก็ออกมาได้โดยไม่หลงทาง แต่ขับมาถึงทางที่จะออกไปยังถนนพระราม ๒ ทำไมรถติดยาวอย่างนี้ ทุกทีที่เคยมาไม่เคยเจอรถติดอย่างนี้ ก็นึกถึงได้ ๒ กรณีคือ อุบัติเหตุ หรือว่ารถวิ่งเข้ากรุงเทพฯ เยอะเพราะเป็นวันอาทิตย์ตอนเย็น แต่ในใจคิดไว้ก่อนแล้วว่าทางข้างหน้าต้องมีเหตุอะไรแน่ๆ เมื่อออกสู่เส้นพระราม ๒ ได้ ก็ขอแวะซื้อเกลือข้างทางก่อนมีออเดอร์มา พอซื้อเสร็จก็คลานมาเรื่อยๆ จากที่เคยขับไม่ชั่วโมงนิดๆ ก็เข้าเขตกรุงเทพฯ แต่นี่บ่ายสี่โมงเศษแล้วยังไปไม่ถึงไหนเลย จึงเปิด จส.๑๐๐ ฟัง ปรากฏว่าเกิดเหตุรถบรรทุกสารเคมีหัวเชื้อน้ำกรดความเข้มข้น ๙๘ % คว่ำมีสารเคมีไหลนองพื้นตรงลงสะพานแม่น้ำท่าจีนไปแล้วใกล้ๆ ตลาดทะเลไทย มหาชัย มีคนตาย ๒ คนในที่เกิดเหตุและปิดการจราจรในช่องทางคู่ขนานแล้วด้วย ซึ่งพวกเราก็ใช้ช่องทางนี้อยู่ พอดีคุณพ่อปวดห้องน้ำก็เลยแวะปั๊มน้ำมันกันดีกว่า พอจอดรถได้ ฝนเทลงมาเปียกหมดเลยต้องวิ่งเข้าร้านเซเว่น และซักพักแสบหน้าแซบตัวไปหมดเพราะว่าสารเคมีได้ระเหยขึ้นบรรยากาศแล้วตกลงมาพร้อมฝน กว่าฝนจะซาได้ห้าโมงเย็น เผอิญได้ฟัง จส.๑๐๐ อีกครั้งว่ามีเส้นทางลัดไปออกแถวๆ กระทุ่มแบน โดยให้เข้าซอยข้างปั๊มน้ำมัน ปตท.ก่อนที่จะขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน อ้าวพวกเราอยู่ที่ปั๊มที่เขากำลังพูดถึงนี่ ก็เลยตัดสินใจเสี่ยงเข้าไป ตอนแรกๆ ยังมีบ้านอยู่เต็มสองข้างทาง พอขับรถเข้าไปลึกๆ เหมือนเข้าไปในดงอีกแล้ว สองข้างทางมีแต่ดงหญ้า GPS ก็ดันมาพึ่งไม่ได้ ป้ายบอกทางก็ไม่มี ถนนก็แคบทางก็เริ่มมืด เพื่อนร่วมทางนานๆ โผล่มาสักคัน ยิ่งขับยิ่งลึก เพื่อความแน่ใจก็จอดรถถามทางเขา ก็บอกว่ามาถูกทางแล้วตรงไปเจอแยกเลี้ยวขวาแล้วตรงไปเรื่อยๆ เจอไฟแดงเลี้ยวซ้าย ก็ขับต่อไปแต่ตอนตรงไปเจอแยกนี่แหล่ะมันไกลขนาดไหนเนี่ยะถึงจะเจอแยก โชคดีพอเจอแยกจริงๆ มีเพื่อนร่วมทางอีกเพียบเลย คงจะหนีมาทางนี้กันหมด แล้วก็มาโผล่แถวๆ กระทุ่มแบนจนได้ ตอนนี้เสื้อผ้าแห้งหมดแล้วแต่แสบและคันไปหมด ปรากฏว่าถึงบ้านทุ่มกว่าๆ อาบน้ำก่อนเลย......

​

 

......................................................



สุดท้ายจากการที่ได้ไปทำบุญไหว้พระในครั้งนี้ กุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำ
ข้าพเจ้าขออุทิศถวายแด่ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์
คุณบิดาคุณมารดา วงศาคณาญาติทั้งหลาย คุณครูบาอาจารย์
ถวายเป็นส่วนในพระราชกุศลพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช
สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี
สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
สมเด็จพระศรีพัชรินทรา พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนี พระพันปีหลวง
พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัชดา
พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์
พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตน์นารีนาค กรมขุนอัครวรราชกัญญา
พระราชชายาเจ้าดารารัศมี
เจ้านายพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพระอารามและพระพุทธปฏิมา

เทพยดาทั้งหลาย พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ ท่านท้าวจตุโลกบาล
ท่านท้าวเวสสุวรรณ เจ้ากรุงพาลี ภูมิเจ้าที่ทั้งหลาย
คุณแม่พระธรณี พระคงคา พระพาย พระเพลิง พระโพสพ
พระพิรุณ พระยายมราช นายนิรบาล
พระสยามเทวาธิราช
หลักเมือง เสื้อเมือง ทรงเมือง
ตั้งแต่ชั้นจตุมหาราชิกาจนถึงเบื้อบนที่สุดพรหมมา
เบื้องล่างตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษยโลก
โดยรอบสุดขอบจักรวาล อนันตจักรวาล
เทวดารักษาตัวของข้าพเจ้า
บริวารของข้าพเจ้า
เจ้ากรรมนายเวร
สัตว์โลก วิญญาณโลก และวิญญาณทุกดวงในสถานที่ที่ข้าพเจ้าได้ไปเยือน


ด้วยกุศลนี้ คำว่าไม่มี จงไม่บังเกิดแก่ข้าพเจ้า
จงเป็นเหตุปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้พบพระพุทธเจ้า
และศาสนาของพระองค์ในทุกๆ ชาติ
ได้สดับรับฟังคำสั่งสอนของพระองค์ทุกภพทุกชาติ
ได้อยู่ท่ามกลางกัลยาณมิตร
ให้ข้าพเจ้าได้ละอายและเกรงกลัวต่อบาป
หมดซึ่งกิเลสและตัณหา
จนถึงพระนิพพานเป็นที่สุด


........................................​

 

ที่มาของข้อมูล

วัดบางแคใหญ่
http://www.banplatabtimresort.com/i...4%E3%CB%AD%E8+%CD%D1%C1%BE%C7%D2&bttcol=False
วัดบางแคใหญ่ สมุทรสงคราม ข้อมูลท่องเที่ยว รีวิว รูปภาพ แผนที่ การเดินทาง
http://www.geocities.ws/deksilphahay/kaeyai.html
ประวัติวัดบางแคใหญ่
Wat Bangkea Yai / ÇÑ´ºÒ§á¤ãË­è Photo Gallery by Chounchai Wangvisarn at pbase.com http://samutsongkhramculture.com/index.php?c=showitem&item=456
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์


พระยาวงศาสุรศักดิ์บุคคลสำคัญ ปราชญ์ชาวบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่น จ.ราชบุรี: สกุล "วงศาโรจน์ " กับ จ.ราชบุรี
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/K3683137/K3683137.html.78e



วัดบางแคน้อยhttp://www.banplatabtimresort.com/i...%C7%C2%E4%C1%E9%CA%D1%A1%B7%CD%A7&bttcol=True
http://moohin.com/trips/samutsongkram/bangkaenoi/
วัดบางแคน้อย สมุทรสงคราม ข้อมูลท่องเที่ยว รีวิว รูปภาพ แผนที่ การเดินทาง



วัดอินทารามวัดอินทาราม อัมพวา สมุทรสงคราม | (^_^)V
Bloggang.com : WanWan-Sweety :
ประสบการณ์ผี:อาถรรพณ์ที่วัดอินทาราม : http://happy.teenee.com/xfile



วัดประดู่

http://www.hotsia.com/samutsongkhram/2546.shtml
http://www.อัมพวา-ที่พัก.com/วัดประดู่.html





ภาพโดย สร้อยฟ้ามาลา
เรียบเรียงเรื่องราวโดย สร้อยฟ้ามาลา
....................................................

 

เก็บภาพมาฝาก



​

​

​

 

เก็บภาพมาฝาก​

​

 

เก็บภาพมาฝาก


​

 

เก็บภาพมาฝาก


​

 

เก็บภาพมาฝาก


​

 

เก็บภาพมาฝาก


​

 

เก็บภาพมาฝาก


​

 

เก็บภาพมาฝาก


​

 

เก็บภาพมาฝาก


​

 

เก็บภาพมาฝาก


​

 

เก็บภาพมาฝาก


​

 

เก็บภาพมาฝาก




เด็กๆ ที่ช่วยดูแลสถานที่​