ใครดูโฆษณาบ้างคับ หนังสือ พลังแห่งชีวิต

ก่อนหน้านี้ก็เห็นเอาหนังเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าที่อินเดียวเป็นคนทำแต่ก็เห็นมีเรื่องว่า เรื่องราวมันไม่ถูกต้อง แล้วหนังเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าที่เค้าจะทำเนี่ยมันก็ในมุมมองทางมหายานทางมุมมองทิเบต ก็ไม่รู้ว่าจะออกมายังไง

 

เรื่อง Little Budha ไง หลายปีแล้ว ลองหามาดูสิ มีประวัติพระพุทธเจ้า แต่มีถึงตอนที่ ปราบมาร นะ

 

ผมเองก็พยายามหาวิธีช่วยประชาสัมพันธ์ โดยการเอาเว็บพุทธไปลิงค์กับเว็บคริสต์ เช่นที่

ธรรมะ Top 100

http://www.topsitelists.com/start/dhammathai/

และก็เล่าเรื่องที่ได้ประสบพบเห็นตอนบวชให้เพื่อนฟัง คนกิเลสหนาอย่างผม ก็ทำได้เท่านี้แหละครับ

 

ศาสนาพุทธในอเมริกาก้อเริ่มแพร่หลายแล้วน๊า มหาวิทยาลัยหลายๆที่ได้เชิ_(นิมนต์)พระสงฆ์ไทยให้ไปสอนการฝึกจิตให้เป็นสมาธิแก่นักเรียนที่เรียนสมาธิ หรือ ที่เรียนวิชาป้องกันตัว ซึ่งวิชาต่อสู้ป้องกันตัวนี้ นักเรียนจะต้องมีจิตที่เป็นสมาธิเป็นพื้นฐานก่อน การสอนก็ต้องเน้นแต่เรื่องการทำสมาธิและการทำจิตใจให้สงบ โดยที่ผู้สอนจะไม่เน้นเรื่องศาสนาพุทธเลย เพื่อไม่เป็นการรุกรานศาสนาอื่น ผลก็คือ นักเรียนต่างชาติให้ความสนใจเรื่องสมาธิเป็นอย่างมาก และเนื่องจากเวลาเรียนสมาธิในวิชาไม่พอ พวกนักเรียนที่มีความสนใจก็ได้จัดกิจกรรมและการสมนาเรื่องสมาธิต่อที่วัดอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งการมีกิจกรรมที่วัด ทำให้ชาวต่างชาติได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวไทยและศาสนาพุทธ ข้อสำคั_คือพระสงฆ์ที่เป็นผู้สอนนั้น จะต้องมีความพร้อมในการสอนอย่างแท้จริง และ ต้องมีความคล่องแคล่วในภาษาอังกฤษเพื่อที่จะตอบคำถามและอธิบายรายละเอียดต่างๆ ชาวต่างชาตินี้เมื่อมีความศรัทธาแล้ว ความศรัทธาของเค้าจะแรงมากค่ะ

 

ชาวพุทธเราก็มีแจกฟรีครับ

ลองไปดู http://larndham.net/index.php
นะครับ หัวข้อ สมาชิกสัมพันธ์ นะครับ
มีแจก เยอะแยะ เลยครับ ทั้งหนังสือ ทั้ง VCD และข้อหลวงพ่อหลายท่าน

ชอบท่าน ไหนก็ไปเลือกได้

พอได้มาแล้วอยากทำแจก ก็ประกาศ ในนั้น หรือ ที่อื่นๆ ที่นี่ก็ได้
ก็ได้ เผยแพร่ แล้วครับ

จงอย่าเชื่อเรา จนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง --->ตถาคต


ธรรมนำพา ครับ

 

คริสต์ก็ของยิว อิสลามก็ของแขก พุทธก็ของอินเดีย
เรานับถือตัวเองดีกว่า

 

พระพุทธศาสนาเป็นของมนุษย์ทุกคนครับ เป็นความจริงที่พระพุทธเจ้านำมาบอกเฉยๆ ใครไม่นับถือไม่ว่ากัน ถ้าเป็นคนดี ปฏิบัติดีย่อมได้กรรมดี เชื่อฟังพ่อแม่ ใช้ปั__าตนเองตัดสินใจ นี่แหละดีที่สุดครับ

 

เพิ่งเห็น เป็นการเป็นงาน...ก็วันนี้แหละคร๊าบบ อิอิ และเป็นงานให_่ด้วย

.......... **** ที่ว่าเขาจะทำหนังเกี่ยวกับพระพุทธศาสนานั้น เขาคงเป็นแนวธิเบตแน่ๆเลย

**** ผมว่าเรื่องหนังนี้....... เราควรจะเตรียมงานทำหนังเองเลยดีกว่า (ถ้าทำจริงๆก็พอได้นะ ขอท่านทักษิณหรือคนรวยๆ เค้าให้แน่ๆ ถ้าเราจะทำจริงๆ) ......... เป็นแนวที่เราเข้าใจจากพระพุทธศาสนาในเมืองไทย โดยเฉพาะ การใช้มโนฯ เข้าช่วย รับรองเจ๋งที่สุดในโลก

**** สำนักงานที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเราอ่อนแอมากในเรื่องการโฆษณา โดยคิดว่า ให้เขามาหาพระพุทธศาสนาเอง.... เราควรจะตั้งองค์การมาสักองค์กร มาจัดการเรื่องนี้ โดยอยู่ภายใต้การนำของพระสังฆราช ( นะ ถ้าทำได้ )

****** ข้อสรุปธรรมะจากในคนไทย ไม่มีการเผยแพร่มากในหมู่คนผู้นำ ... จึงไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควรของวัยรุ่น ผู้ที่เห็นผู้นำเป็นผู้นำ แม้แต่ดาราเอง ก็เขินอายที่จะบอกว่าตัวเองปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ.... นี่หล่ะสำคั_เลย ..... ... เขาไม่กล้าคิดที่จะบอกว่าเขาปฏิบัติธรรม เขาอาย ... เห็นว่าพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งน่าอายสำหรับวัยรุ่น เพราะยึดหลักที่ห่างจากโลกของเขา ......... ที่จริงมีธรรมสำหรับการครองเรือน ...... และแค่นี้ก็กินศาสนาอื่นขาดแล้ว เพราะเราครอบหมด และไปจนถึงนิพพานได้



****** ออกความเห็นครับ ...... กร่าบบบบบ ********

 

อืมใช่เห็นด้วยกับที่คุณ KomAon11 ที่ว่า "แม้แต่ดาราเอง ก็เขินอายที่จะบอกว่าตัวเองปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ" ต่างจากพวกคริสเตียนมาที่ไม่อายเลยที่จะบอกกับคนอื่นว่านับถือพระเจ้า และจะดีใจถ้าสามารถแพร่ธรรมให้คนอื่นได้

 

Materialism!!!

โลกปัจจุบันกลายเป็นแบบวัตถุนิยมไปแล้วครับ การเผยแผ่ศาสนาปัจจุบันก็ต้องใช้หลัก Marketing ครับ ไม่อย่างนั้นคนก็จะไม่มาสนใจกันเท่าไหร่

 

ได้รับหนังสือพลังชีวิตมาเมื่อวานแต่ยังไม่ได้เปิดอ่านดู
คิดว่าไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่

มีเพื่อนนับถือคริสต์อยู่หลายคนเหมือนกัน
แต่บางคนก็ออกมานับถือพุทธอย่างเก่า
เขาบอกว่ามีการเรียกเก็บเงินด้วยนะที่โบสถ์น่ะ
ตอนแรกก้ไม่มีการเก็บหรอก
แต่ต่อไปนานๆจะมีเรียกเก็บเงินกันด้วย

เคยสนทนากับผู้ที่นับถือคริสต์อยู่หลายคนเหมือนกัน
แต่เราก็จะถามคำถามแบบกวนๆไปหลายอย่างลองดูโทสะเขา
บางทีเขาเล่าว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกเราในเจ็ดวัน มีสร้างต้นไม้
มนุษย์ ดวงอาทิตย์อะไรเทือกนี้ เราก็แย้งไปซะว่า อ่าว
แล้วไดโนเสาร์เกิดมาได้ยังไง พระเจ้าสร้างด้วยเหรอ
แล้วทำไมไม่ระบุไว้ในไบเบิลล่ะ สร้างไดโนเสาร์อะไรพวกเนี่ยะแล้วก็ไอที่สร้างมนุษย์น่ะสร้างมาทำไมรักเหรอ
สร้างมาแล้วทำไมไม่สร้างบ้านสร้างอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆให้มนุษย์
ให้มนุษย์มานั่งทำหอกหินไม้แหลมก่อไฟย่างสัตว์อยู่ได้
เขาก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไรได้แต่โมโห

แล้วก็ตอกเรากลับมาคำนึงทำแสบเหมือนกัน
เขาบอกว่า

บางทีเรื่องของคนน่ะ หมาก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก

เจ็บไม๊ล่ะ ดูมันพูดสิ หุหุ

 

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งหลักความจริง ดังนั้นศาสนาพุทธจึงเปิดกว้างไปทั่วรวมถึงจักวาล และระบบสุริยะ
ศาสนาคริสต์สามารถเผยแพร่ได้ทุกรูปแบบไม่เบื่อ ไม่ติดภาษาบาลี ก็น่าจะอ่านศีกษาไว้
ส่วนตัวข้าพเจ้าก็แสดงความจำนงค์รับหนังสือเพื่ออ่านศึกษา อีกอย่างหากเราเปิดใจกว้างเราก็ย่อมมีความรู้ประสบการณ์เพิ่มเติม ไม่ถือเขาถือเรา ก็ย่อมรู้มากขึ้น สามารถนำมาใช้เป็นความรู้อันนับเข้าในวิปัสสนาได้ทั้งหมด ไม่ว่าศาสนาใดใดก็ตาม อย่างนี้เข้าใจอะปล่าว

 

คุณ telwada พูดได้ดีครับ

 

พลังแห่งชีวิต คือ คำพยานชีวิตที่ผู้เชื่อมีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้า

ผมเข้าใจและเห็นใจในความคิดของแต่ละบุคคล ในมุมมองของแต่ละคน และในประสบการณ์ในชีวิตในสังคมที่ต้องพบกับการหลอกลวง ผมจะขอเล่าให้ทุกท่านฟังเพื่อทุกๆท่านจะได้เข้าใจ คำว่า "พลังแห่งชีวิต" คืออะไร ผมในฐานะคนที่เชื่อพระเยซูคริสต์ (พระเจ้าที่ชาวคริสต์นับถือ)ผมรับเชื่อพระองค์มาแล้ว 24 ปี ขอเล่าให้ฟังว่า บุคคลที่ทุกท่านได้เห็นในจอทีวีนั้น มี คุณอั_ชลี จงคดีกิจ (ปุ๊) คุณบอย โกสิยพงษ์ คุณศศิธร วัฒนกุล (ลอร่า) คุณกอบชัย จิราธิวัฒน์ คุณศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร (โต๋) คุณประพฤติ ชัยธนสกุล (รมย์ สุรินทร์) คุณมนตรี ศรไพศาล คุณคาเรน คล่องตรวจโรค คุณณัฐ ยนตรรักษ์ บุคคลเหล่านี้นั้นล้วนแล้วมีสติปั__าในการทำงานและมีการศึกษา การที่ท่านเหล่านี้ได้อุทิศตนเพื่อแสดงออกถึง "คำพยานแห่งชีวิต" เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของตนเองนั้นย่อมมีเหตุผลอย่างแน่นอน คำพยานชีวิตของแต่ละท่านนั้น ได้สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวที่คนทั่วๆไปก็อาจเหมือนท่านเหล่านี้ แต่ท่านเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นที่ ได้สัมผัสกับพระเยซูคริสต์ แล้วเกิดมีการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมในชีวิตปัจจุบันที่ดีกว่าชีวิตในอดีต ท่านผู้สนใจและท่านผู้ยังสงสัยถึง เรื่องงบประมาณในการลงโฆษณา ผมจะอธิบายให้ทุกท่านฟัง นะครับ เมื่อมีใครสักคนหนึ่งที่ร่ำรวยและมีเงินเหลือใช้ และเมื่อเขาสำนึกถึงความรักที่พระเจ้าคือพระเยซูคริสต์ ยอมตายบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาป และผู้นั้นที่ได้ยอมรับพระองค์เข้ามาในจิตใจ สำนึกถึงพระคุณที่พระเจ้ารักเขา อยากจะบอกถึงความรักของพระเจ้าให้คนทั่วโลกได้รับรู้ และรับการเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีเหมือนที่เขาได้รับและได้สัมผัส โดยประสบการณ์ส่วนตัว ไม่มีใครมาบังคับ นี่แหละครับ ความรักที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง จริงใจ ให้ฟรีๆ รักคนที่ไม่น่ารักได้ ให้อภัยและเข้าใจ ทุกท่าน ถึงแม้ว่าท่านจะไม่เข้าใจ มูลนิธิ อาร์เธอร์ เอส เดอมอส ซึ่งเจ้าของก็เป็นผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์เช่นกัน ไม่ว่าจะชนชาติไหนๆ เราเป็นพี่น้องกันในความรักที่ถูกไถ่จากความบาปเช่นกัน ครับ ถ้าท่านอยากจะได้ข้อมูลให้กระจ่างชัดกรุณาติดต่อผมได้ที่ 06-6264643 หรือ 02-7188119 คุณไพบูลย์ จิระวิจิตรกุล http://www.neramithost.com

 

เคยรู้บ้างหรือป่าว

ในประวัติศาสตร์โบราณมีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งชื่อว่า เดอะก๊อต อิน ดิ อินเดีย หนังสือเล่มนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 9 เล่ม เนื้อหาของหนังสือจะเป็นบัณทึกประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น เขียนด้วยภาษา มคธ ในหนังสือมีอยู่ตอนหนึ่ง บอกว่า
"หลังยุคพระเจ้าอโศกมหาราชผ่านพ้น 200 ปี ครั้งหนึ่งมีสงฆ์ศิษย์พระตถาคตรูปหนึ่ง ได้ศึกษาหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนช่ำชอง ได้ออกธุดงค์เผยแผ่พระศาสนาไปในแถบตะวันตกผู้คนแถบนี้ให้ความต้อนรับและเชิดชูบูชา ให้ความเคารพ พระท่านนี้ได้เกิดกิเลสในขื่อ ได้ตั้งตัวเองเป็นศาสดาบอกเหล่าประชาว่าตัวเองเป็นบุตรแห่งพระผู้เป็นเจ้าในสรวงสวรรค์ ใช้คำสอนดัดแปลงจากพระไตรปิฏก ออกมาเป็นบั__ัติ 10 ประการ แต่ด้วยกรรมแห่งกิเลส ถูกผู้ทรงครองแผ่นดินแห่งนี้จับประหารด้วยไม้กางเขน จากข้อหาพรากความเคารพของเหล่าประชาจากกษัตริย์และไม่ยำเกรงต่อกษัตริย์เห็นว่าตัวเองมีคนเคารพมากกว่า วันที่ถูกประหารจึงประหารแบบประจานบนไม้กางเขนเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ครั้นผู้ที่ยังเคารพอยู่ได้นำศพไปฝังไว้ในถ้ำอย่างสงบ แต่ไม่นานมีข่าวว่าได้ฟื้นขึ้นมา แท้ที่จริงคือตัวปลอมที่มาแทนที่เพื่อให้ความเคารพของเหล่าประชาและสาวก"

ตอนนี้หนังสือเล่มนี้ถูกคริตส์กว้านชื้อไปเผาทิ้งแล้ว 8 เล่ม
เหลือ 1เล่มที่ยังไม่ได้ถูกทำลาย คาดว่าจะอยู่ใน ธิเบต เพราะที่นั่นคริตส์ยังเข้าไปไม่ถึง มีข่าวแว่วมาว่าหลายปีก่อน วิทยาลัยสงฆ์ชื่อดังได้ไปคัดลอกเอามาไว้ในประเทศไทย:'(

 

จากที่คุณ ลูกศิษย์ผู้ที่เอาคัมภีร์มา
กล่าวมาต้องมีหลักฐานครับ เอามาให้ดูกันหน่อยดิ