แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

กราบเรียนพี่หนุ่มครับ หลวงปู่เริ่มไม่เคยพูดถึงหลวงปู่ทิมครับ พอดีผมได้อ่านเรื่องนี้จากเว็บสวนขลังเมื่อซักเกือบ 2 ปีมาแล้ว โดยผู้เผยแพร่เรื่องนี้ คือ อาจารย์เบิ้ม ศิษย์ฆราวาสหลวงปู่โต๊ะ จากในเว็บสวนขลัง อาจารย์เบิ้มยืนยันว่า หลวงปู่เริ่มพูดถึงหลวงปู่โต๊ะองค์เดียวครับ เดี๋ยวถ้าค้นเจอในเว็บสวนขลังจะเอามาแปะให้อ่านครับพร้อมลิ้งค์ครับ

 

ติดตามชมครับ

เข้ามาอ่านกี่ที

ก็ยังตงเป็นกระทู้ที่อบอุ่นเหมือนเดิมครับ

 

อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะ

 

สวัสดีครับคุณหนุ่ม และทุกๆท่าน ห้อยพระเพื่อเตือนจิตเตือนใจ ยามมีภัยพระท่านย่อมช่วยได้ตามแต่วาระแห่งกรรม ข้อมูลเข้มข้นขึ้นทุกวัน ......สาธุ

 

สวัสดียามเช้าพี่ๆทุกท่าน วันนี้นำปริศนาธรรมและคติธรรมมาฝากครับ

คติธรรมในท่านั่งของสมเด็จโต<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->ข้อมูลจากเว็บ ธรรมจักร

จากท่านั่งของสมเด็จฯ ที่กำมือทั้งสองไว้ระหว่างอกนั้น เป็นการสร้างปริศนาให้ท่านที่มีความเคารพและศรัทธาในองค์ท่านได้ขบคิดปริศนาธรรม ทำไมท่านทำท่าเช่นนั้น เมื่อได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ปริศนาธรรมนี้มีความหมายอยู่ 2 ประการ สองมือที่กำซ้อนกันอยู่นั้น หมายถึงกรรม 2 อย่าง คือ กรรมดี และกรรมชั่ว การที่ท่านยกขึ้นไว้ใกล้กับหัวใจนั้น หมายถึงใจเป็นตัวต้นเหตุให้เกิดการกระทำต่าง ๆ ขึ้นมา ฉะนั้นการกระทำใด ๆ ทั้งทางกาย ทั้งทางวาจา และใจ ต้องใคร่ครวญเสียก่อนว่า ที่จะทำ จะพูด จะคิดนั้น ถูกหรือผิด
จะดีหรือจะชั่ว ต้องมีสติ อย่าปล่อยให้กิเลสครอบงำจิตใจ คิดและใคร่ครวญให้รอบคอบเสียก่อนแล้วจึงกระทำแต่สิ่งที่ถูกต้องและสมควร

คติธรรมที่สมเด็จฯ ประทานไว้ในท่าที่นั่งของท่านนี้ จะเป็นประโยชน์ยิ่งแก่สาธุชนผู้นำไปปฏิบัติ ทั้งแก่ตนเอง ครอบครัวและแก่สังคม<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>

ปริศนาธรรม + คติธรรม​

ลำดับที่1 "ปัจจุบันในโลกเรานี้มีพระอรหันต์อยู่5องค์ คือใครและอยู่ที่ไหน?"


ลำดับที่2 "สี่คนหาม สามคนแห่ สองคนนั่งแคร่ หนึ่งคนพาไป"
ลำดับที่3 "ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ไม่จริง"(เจ้าคุณนรฯ)(สมเด็จโตฯ)
ลำดับที่4 "จิตนั้นเหนือสรรพสิ่ง จิตนั้นไม่ยึดมั่นในสิ่งใด ตนนั่นแหละเป็นผู้ทำตนให้หลุดพ้น"(สมเด็จโตฯ)
ลำดับที่5 "ประตูนิพพานเส้นผมผ่าแปดถึงจะเข้าได้"(สมเด็จโตฯ)
ลำดับที่6 "ที่พึ่งสูงสุดในพระพุทธศาสนาคืออะไร"
ลำดับที่7 "ไหว้พระพุทธอย่าให้ถูกทองเหลือง
ไหว้พระธรรมอย่าให้ถูกคำภีร์
ไหว้พระสงฆ์อย่าให้ถูกลูกชาวบ้าน"(ของดีอีสาณ)
ลำดับที่8"มนุษย์ผู้ใดเห็นแก่งานส่วนตัว มนุษย์ผู้นั้นจะไม่มีงานทำ
ในไม่ช้า มนุษย์ผู้ใดเห็นแก่ทรัพย์ส่วนตัว มนุษย์ผู้นั้นจะไม่มีทรัพย์ครองในไม่ช้า มนุษย์ผู้ใดเห็นแก่นอนมาก มนุษย์ผู้นั้นจะไม่ได้นอนในไม่ช้า
อาณาจักรของอาตมา พร้อมที่จะโกยสัตว์โลกให้พ้นจากไฟอเวจี แต่ไม่มีสื่อนำ เทวดาพร้อมที่จะช่วยมนุษย์ แต่ไม่มีมนุษย์ให้สถิต เพราะฉะนั้นจะช่วยมนุษย์ได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับมนุษย์ต่อ
มนุษย์"(หลวงปู่ทวดฯ)
ลำดับที่9"เมื่อยึดตน เมื่อครองตน เมื่อหลงตน จะไม่มีตน
เมื่อเหนี่ยวทรัพย์ เมื่อยึดทรัพย์ เมื่อครองทรัพย์ ทรัพย์ไม่มี
เมื่อยืนกิน เมื่อนั่งกิน เมื่อนอนกิน ขี้ไม่มีกิน
น้ำพระธรรม เรือพระโพธิสัตว์ แต่ไม่มีสัตว์ขึ้น
องค์อมรินทร์ ยกทัพมาโลกา เหยียบถึงโลกา ไม่มีม้าทรง
สันติสุขจะเกิดขึ้น เมื่อมนุษย์ถึงมนุษย์ มนุษย์อยู่ "(สมเด็จโตฯ)
ลำดับที่10"ศาสนาสำคัญในโลกนี้มีกี่ศาสนาและองค์ศาสดาของศาสนานั้นชื่อใดบ้าง
ลำดับที่11"ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข ละได้ย่อมเป็นสุข"(สมเด็จโตฯ)
ลำดับที่12"พอจิต พอใจ พออยู่ สามพอย่อมเป็นสุข"(สมเด็จโตฯ)
ลำดับที่13"อยากรู้ถามหญิงคันหูก....อยากทำถูกถามเด็กเลี้ยงควาย
คนสามบ้านกินน้ำบ่อเดียว.....เดินทางเดียวอย่าเหยียบรอยกัน
นะอยู่หัว สามตัวอย่าละ......นะอยู่ที่ไหน ตามเอามาให้ได้"(หลวงปู่เทพโลกอุดร)
ลำดับที่14"สามศักดิ์สิทธิ์คืออะไร"
ลำดับที่15"ลม7ฐานคืออะไร อยู่ที่จุดไหนบ้าง?"
ลำดับที่16 "อัตตาหิ อัตโน นาโถ".....มีความหมายในขั้นโลกิยะและขั้นโลกุตระอย่างไร?



คติธรรม

1)ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต
ผู้ใดปฏิบัติธรรม ผู้นั้นรู้เอง.......(พุทธวัจนะ)
2)พูดมาก เสียมาก พูดน้อย เสียน้อย
ไม่พูด ไม่เสีย นิ่งเสียโพธิสัตว์.....(หลวงปู่ทวดฯ)
3)ใหญ่ถูกที่-คือใหญ่ให้เหมาะกับสถานที่
ใหญ่ถูกกาละ-คือใหญ่ให้เหมาะกับเวลา
วางตนถูกเทศะ-คือให้เหมาะกับสถานที่
คำพูดต้องถูกกาละ-คือให้เหมาะกับแก่เวลา.....
(หลวงปู่ทวดฯ)
4)สิ่งใดทำไปแล้ว สัตว์โลกมีความสุข สิ่งนั้นควรทำ
นี่คือหลักแห่งความจริงของธรรมะ.....(หลวงปู่ทวดฯ)
5)แม่น้ำ ทะเลและมหาสมุทรไมมีที่สิ้นสุดของน้ำฉันใด
กิเลสตัณหาของมนุษย์ก็ย่อมไม่มี้สิ้นสุดฉันนั้น......
(หลวงปู่ทวดฯ)
6)ภูเขาถูกมนุษย์ทำลายลงมาได้ แต่สันดานของคนเราที่นอนนิ่งอยู่ในก้นบึ้งซึ่งไม่เหมือนกัน ย่อมขัดเกลาให้ดีเหมือนกันได้ยาก......(หลวงปู่ทวดฯ)
7)ผู้ที่จะดัดสันดานเดิมของตนที่ไม่ดี จะต้องหมั่นพิจารณาตนเอง จึงจะได้ผลและดัดสันดานที่ไม่ดีได้....(หลวงปู่ทวดฯ)
วจีกรรมนี้เป็นโทษที่หนักที่สุด เราต้องอย่าเป็นนักพูดมาก แล้วจงพยายามหัดเป็นนักฟังที่ดี.......(หลวงปู่ทวดฯ)
9)กรรมฐาน นั้นหมายถึงการกำหนดจิตของเราให้จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อรวมพลังจิตไม่ให้ฟุ้ง เมื่อรวมพลังจิต
จนได้อารมณ์แห่งปีติ คือนิ่งเฉยแห่งจุดนั้น เมื่อนั้นให้ขึ้น
วิปัสสนา.......(หลวงปู่ทวดฯ)
10)วิปัสสนา คือให้พิจารณาในทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็น
อนัตตา คือการเดินทางไปสู่โลกแห่งนิพพาน โลกแห่งอรหันต์ โลกแห่งโพธิสัตว์ โลกแห่งอนาคามี.........(หลวงปู่ทวด).......

จากลำดับ11-26จะเป็นคติธรรมของหลวงปู่ทวดฯล้วนๆครับ
11)สุดยอดของนิพพาน คือ "ละ"จนถึงที่สุด
12)พิจารณากายในกาย พิจารณาธรรมในธรรม พิจารณาวิญญาณในวิญญาณ นั่นแหละคือ สานุศิษย์อันแท้จริงของพระพุทธเจ้า
13)สิ่งลี้ลับในโลกนี้ยังมีอยู่มาก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโลกนี้ยังมี ความ
ยุติธรรมในโลกนี้ยังมี
14)มนุษย์จะรู้ตนและเข้าใจตน คือต้องให้มนุษย์หยุดและพิจารณาตนโดยใช้สติสัมปชัญญะควบคุมตนให้สงบ(ศีลและมรรค8)
15)ทำจิตท่านให้แข็งแกร่ง ทำให้จิตท่านหลุดพ้น ทำจิตท่านให้สงบ ทำให้มีสติพร้อม
16)ทุกอย่างในโลกนี้เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ท่านจะมีความสุขที่สุด ท่านต้องพยายามเป็นผู้ที่ไม่มีเกียรติ ไม่ยึดเกียรติ และไม่หลงเกียรติ
17)ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน เป็นจุดสำคัญที่ช่วยให้ท่านหลุดพ้นจากวัฏฏะ(การเวียนว่ายตายเกิด)ได้
18)ทุกอย่างต้องสลาย เมื่อมีเกิดขึ้นก็ต้องมีสลาย
19)ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว บางคนอยู่ในโลกมนุษย์สบาย แต่ไปใช้กรรมในโลกวิญญาณแสนที่จะลำบาก ซึ่งมนุษย์ก็ไม่สามารถจะเห็น เพราะเป็นช่องว่างระหว่างมนุษย์กับโลกวิญญาณ
20)ตีธรรมข้อใดแหลกแตกแล้วถือว่าถึงแล้ว มันไม่ถึงหรอก ผู้ใดเข้าใจว่าตัวนั้นถึงพุทธภูมิ ผู้นั้นเข้าไม่ถึงพุทธภูมิ
21)ทำความดีเพื่อความดี ทำความดีเพื่อคนอื่น
ทำความดีเพื่อความสุขของส่วนรวม
22)แม่น้ำสามารถเปลี่ยนทิศทางได้ ภูเขาสมารถละลายลงมาเป็นถนนได้ แต่อนุสัยคนเปลี่ยนไม่ได้ มันเป็นสันดานที่นอนนิ่งเป็นตะกอนสันดานสตรียังไงๆก็ต้องเป็นสตรีที่จะกระทำตนเป็นบุรุษย่อมไม่ได้
23)เราทำเพื่อคนอื่น เราทำเพื่อสันติ เราทำเพื่อความร่มเย็น
เราทำเพื่อให้คนอื่นมีความสบาย เราย่อมมีเกียรติเหนือกว่าใคร
เราย่อมมีคุณธรรมเหนือกว่าเขา
24)กาลเวลาล่วงเลยไปโดยไม่มีการกลับคืน
กาลเวลากินหมดทั้งความดีและความชั่ว
กาลเวลากินทั้งพระอาทิตย์และพระจันทร์
กาลเวลากินแม้กระทั่งตัวเราเอง
25)คนคือคนไม่รู้จักหน้าที่การเป็นคน ไม่รู้จักหน้าที่ของตน ไม่รู้จักขอบเขตของตน ไม่รู้จักสำนึกว่าตนมีความสามารถขนาดไหน ไม่พิจารณาว่าตนมีหน้าที่อะไร เป็นเหตุให้เกิดความสับสนวุ่นวาย
ถ้าทุกคนรู้หน้าที่ รู้ฐานะ รู้การกระทำของตนแล้ว โลกก็คงไม่วุ่นวาย
26)มาไม่มีอะไร ไปไม่มีอะไร มีอยู่ก็แต่จิตใจและวิญญาณ ท่านทำดี
ก็เสวยกรรมดี ทำไม่ดีก็ตกนรกไป ท่านอย่านึกว่าท่านตายแล้วสูญเปล่า ท่านทั้งหลายจะพบกันในโลกวิญญาณอีก หนี้สินที่ท่านสร้างขึ้นในโลกมนุษย์ ก็จะชดใช้กันในโลกวิญญาณ ใช้ไม่หมดก็ต้องไปเกิด ไม่งั้นไม่เรียกว่าเวียนว่ายตายเกิด โลกนี้กลม ไม่สิ้นภพ โปรดพิจารณาตัวท่านเมื่อไม่มีสิ่งใดปกปิดเถิด.......


พระมหาธาตุเจดีย์ บางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์

***เมื่อหลวงปู่เทพโลกอุดรเฉลยปริศนาธรรม***




มีเรือน แต่ไม่มีผู้อยู่…….
มีข้าวแต่ไม่มีผู้กิน……..
มีทาง แต่ไม่มีผู้คน……..


ปริศนาธรรมนี้ มีผู้กล่าวว่า เป็นคำสืบทอดมาจากพระกัสสปะเถรเจ้า จริงเท็จอย่างไรยากจะสืบสาว แต่ขอให้ศึกษาด้วยเหตุของภาวะธรรมเถิด
สมัยหนึ่ง มีคำเล่าว่า พระอรหันต์ผู้แตกนิกายออกไป ผู้ตกตายแล้วหรือปรินิพพานแล้ว มีกระดูกสารีริกธาตุ เป็นแก้วเพชรพลอย เฉลยความไว้ว่า

มีเรือน ไม่มีผู้อยู่………..เพราะโลกเกิดสงคราม คนจึงละบ้านช่องหลบภัย
มีข้าว ไม่มีผู้กิน…………เพราะระหว่างเกิดสงคราม คนหนีภัย จึงขนข้าวไปได้แต่น้อย
ส่วนเหลืออยู่ในเรือนร้าง จึงไม่มีคนกิน
มีทาง ไม่มีผู้เดิน……….เพราะสมัยโลกเจริญ มีแต่การตัดถนนหนทาง มีรถลามาก คนจึงเดิน
ทางด้วยพาหนะ ไม่ต้องเดินด้วยเท้าเช่นแต่ก่อน

ต่อมาราว พ.ศ.2532 มีพระสงฆ์รูปหนึ่ง ผู้เป็นพระบวชในนิกายดั้งเดิมมหานิกาย ได้แสดงตนตอบปัญหา เฉลยปริศนาธรรมนี้มีนามว่า “หลวงพ่อสาวกโลกอุดร ธัมมปาโล” แสดงคำเฉลยไว้อย่างอาจหาญ ความว่า

มีเรือน ไม่มีผู้อยู่ หมายถึง วัดวาอารามเรือนกุฎีที่โยมสร้างอุทิศถวายไว้ ในบวร
พระพุทธศาสนา ไม่มีผู้อยู่ คือ ผู้ที่เป็นพระอรหันต์มาอยู่ ตามที่ผู้
สร้างปรารถนา
มีข้าว ไม่มีผู้กิน หมายถึง คำข้าวอันปราณีตอุทิศไว้ที่โยมนำมาใส่บาตรทุกวันนั้น
ไม่มีผู้กิน คือ ผู้ที่บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มารับมาฉัน

มีทาง ไม่มีผู้เดิน หมายถึง ทางแห่งมรรคของอริยเจ้า ไม่มีผู้เดิน หมายถึงสาวก
ตถาคต ทั้งภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ดำเนินตามอย่างถึง
ที่สุด

นี่คือ สองปัญญาของนักปฏิบัติธรรมทั้งคู่ ย่อมบ่งบอกอะไรบางอย่างบ้าง ไม่มากก็น้อยว่า ใครคือ ผู้เข้าถึงผลแห่งการปฏิบัติอันแท้จริง

สำเนียงบอกภาษา กริยาบอกตระกูล

บัณฑิตจะรู้กันได้ ด้วยการสนทนาปสาทะ เพราะอย่างน้อยหลวงตาเทพสัมมา ก็ขอเลือกศึกษาธรรมของหลวงพ่อสาวกโลกอุดร ธัมมปาโล ด้วยเหตุผลการตอบปัญหาข้อหลังนี้ ยิ่งหนังสือ “หยั่งลงก้นมหาสมุทร”ของท่านแล้ว ยิ่งกลับโลกใหญ่ เรียกว่าสะเทือนไปถึงชั้น”ภวคพรหม”โน่น แต่เมืองพุทธนี่ ที่ประเทศไทย ไม่ยักกะรู้เรื่อง สู้ข่าวพระอรหันต์มีเมียออกลูกมาเป็นกระต่ายไม่ได้ อนิจจา…….
หลวงพ่อท่านเล่าว่า มี “มหาเชื้อ”มาถามปัญหาว่า”……เมื่อมีทุกข์เกิดขึ้น เราจะทำอย่างไร?”
ท่านเจ้าคุณผู้โด่งดังทางปักษ์ใต้ตอบว่า
“ต้องตั้งสติ …..รักษาสติไว้ให้มั่น “

หลวงพ่อโลกอุดร ตอบมหาเชื้อว่า

“ต้องดับสติ”

พระมหาเชื้อก็ซักว่า อ้าว…..แล้วจะดับสติอย่างไร? หลวงพ่อโลกอุดร ก็ย้อนถามว่า……แล้วให้ตั้งสติอย่างไร? ท่านมหาเชื้อ ก็อธิบายอย่างที่ได้รับรู้จากท่านเจ้าคุณใหญ่ว่า เมื่อเราเห็นทุกข์ ก็เหมือนไฟ ก้อนถ่านแดงอยู่ เราก็ตั้งสติ รีบจับ รีบวาง เราก็ไม่ร้อนมาก หลวงพ่อโลกอุดร ก็ถามย้อนอีกว่า….”.แม้รีบจับ รีบวาง ก็ต้องถูกไฟร้อนอยู่ ใช่หรือไม่ล่ะ? ……ก็เอาอย่างนี้ซิ …..เมื่อเห็นไฟร้อน เราไม่จับ เราก็ไม่ร้อน และก็ไม่ต้องวางอะไรทั้งนั้น…….นี่คือ การดับสติ ดับการระลึกรู้แต่แรก เราไม่ใส่ใจเสียแต่แรกไม่ดีกว่ารึ ท่านมหา “

ท่านมหาเชื้อ ถึงกับตาค้าง ก้มลงกราบอย่างใจน้อมยอมรับในคำเฉลยธรรมนั้น
เอาละ…..บัดนี้ พอจะยอมรับ ฟังคำของหลวงตาเทพสัมมาหรือยังว่า หลวงพ่อสาวกโลกอุดร มีความรู้เฉลยธรรมลึกซึ้งเพียงไหน ว่าที่พอจะเป็นอาจารย์ของหลวงตาเทพสัมมาได้อย่างดีเยี่ยมหรือไม่?………..



ที่มา: http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=102

 

คุณหนุ่ม และ เพื่อนสมาชิกครับ
องค์นี้ทันหลวงปู่กวยปุกเสกมั้ยครับ
แล้วองค์นี้ดูดีมั้ยครับ ขอบคุณครับ

 

ได้ครับ ผมขออนุญาติจากท่านที่ได้รับเหรียญไปมาแบ่งให้ คุณfarin001 และคุณCheKuvara คนละใบ แบ่งๆกันไป

PM ชื่อที่อยู่มาครับ

 

ขอนำภาพเหรียญจากเวบอื่นมาให้ชมครับ

อยากสอบถามว่าเหรียญนี้หลวงปู่ทิม ปลุกเสกด้วยมั้ยครับ
อ่านตามที่เค้าเขียนไว้ หลวงพ่อทิพย์และหลวงพ่อทิม เป็นสหธรรมิก กัน

 

สวัสดี....ยามเช้า..ทุกท่านค่ะ.....
ไม่อยู่หลายวันนะคะ.....ไปราชการแต่จะเข้ามาติดตามกระทู้ให้ทันค่ะ....

(ยังนอนดึกอยู่ใช่มั้ย เธอผอมไปหรือเปล่า...อย่าลืมเล่าสู่กันฟังค่ะ)

 

ขอบคุณมากครับ ผมเองไม่แน่ใจว่าจำชื่อผิดหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้จับแค่จุดเล็กๆ แต่อ่านหรือฟังมาจะเอาแต่ความหมายและแก่นเนื้อของเรื่องอาจสลับชื่อกันได้กับอาจารย์ท่านอื่นๆ และหลวงปู่โต๊ะก็อาจไม่ได้เจอหลวงปู่ทิมเฉพาะในงานที่อาจารย์เบิ้มอยู่ด้วยเท่านั้น และก็อาจไม่ได้เป็นเรื่องที่เอามาเขียนในหน้าหนังสือเท่านั้น แต่ความหมายจะเป็นแนวนี้ครับ หากเขียนชื่อผิดไปก็ต้องขอโทษด้วย และผมเคยได้คุยกับศิษย์หลวงปู่ทิมที่เป็นญาติกันซึ่งอยู่ที่ระยอง เขาก็พูดในแนวนี้เช่นกันเมื่อครั้งเขาตามรับตามส่งหลวงปู่ไปพิธีปลุกเสกต่างๆและเคยเจอหลวงปู่โต๊ะในงานเดียวกัน
จุดหมายเพียงเพื่อบอกว่า หากฝีมือต่างกันจะมีอยู่หนึ่งเดียวที่โดดเด่นต่างจากผู้อื่นๆ หากฝีมือเท่ากัน คำว่าโดดเด่นอย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่มี แต่จะเป็นยอดเยี่ยมทุกอย่าง เด่นทุกทาง

 

สมเด็จมงคลมหาลาภครับ

พี่หนุ่มเมืองแกลงครับ ช่วยดูสมเด็จมงคลมหาลาภองค์นี้ให้ที่ครับตัดสินใจ
เช่ามาจากเวปเพื่อนบ้าน ด้วยความตั้งใจที่อยากใด้มีไว้บูชาจริงๆ

 

สวัสดียามเช้าทุกท่านครับ ขอขอบคุณเรื่องราวดีๆของทุกๆท่านครับ

 

พระที่มีอายุขนาด50 ปีแล้วต้องมีธรรมชาติแบบนี้ครับ แม้ว่าไม่ได้ลงกรุหรือไม่ได้ใส่บรรจุในช่องเก็บใต้ดินก็ตาม ต้องมีการย่อยสลายของอินทรีย์วัตถุในเนื้อพระ มีการทำปฏิกิริยากับอากาศ มีการ set ตัวของเนื้อพระเมื่อเวลาผ่านไป
ที่ดูง่ายๆและสำคัญคือขอบข้างพระ สีจะต้องเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ขนาดกระดาษสีขาวขนาดไหน ใส่ไว้ในตู้เซฟอย่างดี แค่ยี่สิบปีผ่านไป เอาออกมาดูยังเหลืองอ่อนๆเลย แล้วของอื่นๆที่มีส่วนผสมหลายๆอย่างทำไมสีไม่เปลี่ยนไปบ้าง
คำตอบนี้ พิจารณาดีๆบอกทุกอย่างไว้แล้วครับ

 

สวัสดีตอนเช้าครับทุกๆท่าน..(^_^)....

เมื่อคืนเซ็งสเปนมากๆ....รู้งี้เปิดดูไทรโศกแทนดีกว่า..5555

 

มีครับ แต่อาจมองไม่เห็นเด่นชัดเพราะจะมีอย่างใดอย่างหนึ่งแสดงออกมาเป็นวิสัยให้เรามองเห็นแค่นั้น เพราะมีหลายองค์ที่เคยเรียนทางเวทมนต์คาถามาก่อนจนแสดงฤทธิ์ได้แล้ว แต่ภายหลังหันมาบำเพ็ญเพียรจนได้ธรรมขั้นสูง แต่ส่วนมากแล้วเมื่อก้าวข้ามวาระจิตที่แสดงฤทธิ์มาแล้ว ท่านจะหยุดและยึดในการปฏิบัติเป็นที่มั่นไปชั่วชีวิต จิตของท่านจะลบไปเสียซึ่งอำนาจฤทธิ์ที่เคยกระทำได้ หายากมากที่จะมีน้ำร้อนและน้ำเย็นในแก้วเดียวกัน เมื่อเอาน้ำแก้วนั้นใส่ตู้เย็นทั้งแก้วจะเป็นน้ำเย็น หากเอาไปต้ม ทั้งแก้วก็จะเป็นน้ำร้อน ฉันใดก็ฉันนั้น

การเกิดอิทธิฤทธิ์ เป็นจากการฝึกสมาธิจนได้อภิญญา สามารถแสดงฤทธิ์ได้ หรือมีวิชาเฉพาะที่ได้เรียนรู้มาเป็นพิเศษ

สำหรับการเกิดบุญฤทธิ์ อาจมาจากการบำเพ็ญเพียร จนเหนือกรรมและมีบารมีธรรมจนยากหยั่งถึง ซึ่งฤทธิ์ของท่านจะมาจากผลพลอยจากการปฏิบัตินั่นเอง

หากจะดูที่วัตถุมงคลจะพิจารณาง่ายกว่าและยังพอให้เห็น เช่นพระกริ่งชินบัญชร อุดผงพรายกุมาร ซึ่งท่านใช้พลังคุณวิเศษจากพระคาถาชินบัญชรซึ่งเป็นบารมีจากพระพุทธเจ้าและเทพเทวดา เป็นพลังบุญฤทธิ์แท้ๆ พร้อมกับได้อิทธิฤทธิ์จากผงพรายกุมารที่ท่านกำกับไว้เพื่อเพิ่มอำนาจวิเศษให้เกิดเร็วมากขึ้น แบบนี้เป็น 2 in 1

 

สมเด็จมงคลมหาลาภ

ขอบคุณครับพี่หนุ่มเมืองแกลง ผมเป็นคนที่ไม่มีความรู้เรื่องพระเลยครับ
หรือมีก็น้อยมาก อ่านกระทู้ของพี่แนะนำสมเด็จมงคลมหาลาภก็เลยตัดสินใจเช่ามาทั้งๆที่เงินทองก็ไม่ค่อยมี ตกลงองค์นี้ไม่ดีใช่ไหมครับพี่

 

หากเป็นผมไม่เพิ่มแล้วครับ หากอยากเพิ่มก็เอาแบบที่ต่างผู้เสกก่อนและต้องมีในสิ่งที่เราขาดอยู่ แหวกม่าน ลพ.ทรงครับดีมาก ตรงจุดที่กำลังขาดอยู่

 

ชัดเจนเป็นประโยชน์มากครับพี่หนุ่ม....(^_^)....
เด๋วผมจะลองไปจัดเซทการแขวนพระตามแนวทางนี้ดูนะครับ..เผื่อจะช่วยส่งเสริมให้ชีวิตและหน้าที่การงานดีขึ้นอ่ะครับ...

อ่อ..ถามนิดนึงครับพี่หนุ่ม...ปกติผมแขวนเดี่ยวตลอด..เพราะแขวนเป็นพวงๆมันหนักคอและทำงานไม่สะดวกอ่ะครับ..แต่ก็มักจะสลับแขวนเฉลี่ย..2 วันต่อหลวงพ่อนั้นๆ 1 องค์อ่ะครับ..อยากทราบว่าถ้าหากเราอยากรู้และพิสูตรพุทธคุณที่พระองค์นั้นจะมีผลต่อเรา..เราควรจะแขวนองค์นั้นๆกี่วันติดกันจึงจะแสดงผลบ้างอ่ะครับ....คือแบบว่าเสียดายพระที่มีอยู่อ่ะครับ..มีมากองค์แต่ก็อยากอารธนาสลับแขวนเปลี่ยนหมุนเวียนให้ครบๆอ่ะครับ..อุตส่าหาเช่ามาแล้วก็เอามาวางไว้บนหิ้งเฉยๆไม่มีประโยชน์อ่ะครับ..ยกตัวอย่างเช่นเมื่อช่วงที่ศรัทธาหลวงปู่หมุนใหม่ๆ ช่วงนั้นก็เที่ยวหาบูชาไว้มากองค์..และก็แขวนองค์ๆนั้นอยู่องค์เดียว..ปล่อยให้พระเครื่ององค์อื่นๆที่มีอยู่แล้วหรือที่เป็นสมบัติปู่ย่าตายายที่ให้เราไว้วางแช่อยู่บนหิ้งอย่างนั้น..ปัจจุบันก็เลยเปลี่ยนแขวนองค์ล่ะวันอ่ะครับ..ถ้าใครมีความเห็นยังไงรบกวนด้วยนะครับ.....(^_^)...

 

พระสมเด็จหลังพระสิวลี เป็นพระที่ออกวัดราชนัดดา นิมนต์หลวงพ่อกวย และเกจิยุคนั่นปลุกเสกครับ เก๊ก็มี แท้แต่ไม่ทันก็มี ต้องดูเนื้อหาความเก่าครับ

 

พี่หนุ่ม ครับ

รบกวนขอคำแนะนำ เกี่ยวกับ พ่อ พ พาน ของ หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ

ไม่แน่ใจว่าเคยมีการกล่าวถึงในกระทู้หรือยังนะครับ ไล่อ่านยังไม่ครบ

ถ้าเคยพูดถึงแล้ว ต้องขออภัยด้วยครับ