!!!อัศจรรย์หลวงปู่ทวดช่วยบูรณะวัดคงคา จ.นนทบุรี !!!เลี้ยงเพลกับแจกก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกหมูครับ

หน้าสุดท้ายปกหลัง

 

ความฝันที่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับครูบาอาจารย์

เมื่อประมาณ 14-15ปีที่แล้วผมเคยฝันว่า

ได้เดินลงจากเนินเตี้ยๆไปยืนอยู่ที่ริมแหล่งน้ำแห่งหนึ่ง ห่างจากฝั่งไปพอสมควรมีดอกบัวบานอยู่ และตอนที่ตามองไปเห็นดอกบัวนั้นเท้าก็ก้าวลงไปในน้ำพร้อมกับมีพญานาคตัวใหญ่ว่ายน้ำเข้ามาหาในทันที

และพลันที่เท้าของผมก้าวลงแตะบนพื้นผิวน้ำลำตัวของพญานาคก็มารองรับเท้าของผมไม่ให้จมลงไป พูดได้ว่าได้ขี่หลังพญานาคแล้วพญานาคกก็แหวกว่ายตรงไปที่ดอกบัวนั้นด้วยความเร็วพอประมาณคือไม่ช้าหรือเร็วเกินไป พอไปถึงใกล้ดอกบัวผมก็เอื้อมมือไปเก็บดอกบัวแล้วพญานาคก็ว่ายกลับเข้าฝั่ง พอถึงฝั่งผมก็ตื่นขึ้นพอดี

เคยเรียนถามพระอาจารย์ถึงความฝันนี้ท่านก็บอกว่าจะมีครูบาอาจารย์(งูใหญ่)ช่วยเหลือในการปฏิบัติธรรม

 

หลวงปู่ทวดธุดงค์(สีวลี) หลวงปู่ทวดนั่งสมาธิ อุดผง

 

หลวงปู่ทวดธุดงค์ นิมิต 2 ธันวาคม 2552 (มวลสาร ชนวนโลหะจากรูปหล่อหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ 4.99 เมตรและอื่นๆ



ไม่ทราบเป็นเนื้อไหนครับ ตอนบูชาวันนั้นค่อนข้างรีบเพราะวัดกำลังจะปิดครับ เลยไม่ได้สอบถามกับพระที่ดูแลตู้บูชาวัตถุมงคล

 

หลวงปู่ทวด นั่งสมาธิอุดผง ขนาดเล็กสูงประมาณ 1-2 ซม.



ไม่รู้เป็นเนื้ออะไรครับ เดี๋ยววันหลังไปสอบถามรายละเอียดที่วัดอีกครั้งนึงครับ

 

หลวงปู่ทวดเนื้อว่าน พิมพ์จัมโบ้ รุ่นสร้างอุโบสถ ปี 2539 ฝังลูกเหล็กไหลที่พระอาจารย์ท่านได้มาจากบุรีรัมย์



องค์นี้เพิ่งได้มาครับ อธิษฐานอยู่สามอาทิตย์หลังจากที่ได้ไปกราบหลวงปู่ทวดที่วัดคงคา ลูกเหล็กไหลฝังไว้ใต้แข้งของหลวงปู่ทวดที่วงสีแดงไว้ครับ เท่าที่ลองหาอ่านดูในเวบ บอกว่าจำนวนสร้างเท่าปี พ.ศ. คือ จำนวน 2539 องค์

 

ด้านหลังครับ

 

เหตุสร้างบุญส่งผลให้คำอธิษฐานสำเร็จ



เงินงวดแรกออกแล้วครับ ดีใจมากที่ได้มีปัจจัยทำบุญเลี้ยงเพลพระและแจกทานคนที่มาทำบุญที่วัดคงคาด้วยก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกหมู(เหมาร้านก๋วยเตี๋ยวมาตั้งที่วัด 150 ชาม) พร้อมขนมถ้วย 90 ถ้วย แถมด้วยเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวก็นำขนมเบเกอรี่มาร่วมเลี้ยงพระด้วย

 

เลี้ยงเพลพระกับแจกทานก๋วยเตี๋ยวเรือ 150 ชาม ขนมถ้วย 90 ถ้วย ขนมปังเบเกอรี




เลี้ยงเพลพระ 13 รูป ณ. วัดคงคา บางใหญ่ นนทบุรี

 

ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก+ แคบหมู

ตอนแรกนึกว่าคนคงน้อยเพราะเป็นวันธรรมดา ก๋วยเตี๋ยวคงเหลือเยอะแน่
แต่พอถวายเพลเสร็จให้ลุงคนที่มัคทายก ประกาศออกไมค์ให้ผู้คนในวัดมารับก๋วยเตี๋ยว ทะยอยมากันเรื่อย น้องเจ้าของร้านก็เตรียมมาเผื่อมากกว่า 150 ชามน่าจะถึง เกือบสองร้อย ผมเลยให้เงินน้องเพิ่มอีกห้าร้อยบาท

 

เงินงวดที่สองออกแล้วครับ ตั้งใจไปทำบุญ หลักหมื่นไปร่วมสร้างพระเจดีย์ที่ จังหวัดปราจีนบุรี และชดใช้หนี้สินเดิมครับ

 

ช่วงนี้ผมได้คุยกับพี่คนนึง ที่เป็นเจ้าของเรื่องราวเรื่องหนึ่งในหนังสือเล่มนี้ ทำให้ผมได้เข้าไปดูเมลย้อนหลังของเพื่อนสมาชิกที่ได้แจ้งเตือนผมมา เกี่ยวกับการเช่าบูชาพระ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2017


ผมเลยขอถือโอกาสนี้ ชี้แจ้ง อาจจะดูเนิ่นนานเกินไปแต่ด้วยความตะหนักในสิ่งที่เพื่อนสมาชิกที่ส่งเมลมาหาผม จึงต้องขออธิบาย ดังนี้ครับ

สาเหตุที่นำเรื่องราวนี้มาเผยแพร่

1. ด้วยความศรัทธาต่อหลวงปู่ทวด
ตัวผมเอง เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงปู่ทวดมาสองครั้ง

ครั้งแรกเลยคือได้รับสัมผัสกับกระแสจากรูปหลวงปู่ทวดที่วางขายอยู่ข้างถนน ลาดพร้าว ตลาดโชคชัย 4 เมื่อประมาณปี 2538-2539

ครั้งสองที่วัดสะแก อยุธยา

ตอนผมไปทำบุญกับหลวงน้าสายหยุดที่กุฏิ ท่านเป็น ลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ ตอนนั้นประมาณปี 2549-2550
หลังจากทำบุญเสร็จก็ทะยอยกันเข้าไปกราบ ปะพรมน้ำมนต์จากท่าน ผมเข้าไปกราบท่านเสร็จ ก็ถอยออกมาให้แฟนกับลูก เข้าไปกราบต่อ

ตอนที่แฟนกับลูกๆผมกำลังก้มลงกราบอยู่นั้น ผมก็มองไปเห็นหลวงน้าสายหยุด ดูท่านมีลักษณะคล้ายคนแก่ชรามาก ทั้งที่จริงตอนนั้นท่านมีอายุแค่ประมาณ 60 ต้นๆเอง แต่ผมกับเห็นท่าน มีหน้าตาเหี่ยวย่น ปากก็ย่น มีเส้นที่หน้าผากหลายเส้นมาก ดูแล้วเหมือนหลวงปู่ทวดในรูป ที่ผมเคยรับสัมผัสกระแสมาสมัยปี 2538

ผมเห็นแล้วรู้สึกตกใจมาก แต่น่าเสียดายที่ผมเห็นอยู่แค่คนเดียว ส่วนแฟนผมไม่ได้เห็น เพราะกำลังก้มกราบท่านอยู่

 

2. ไม่ได้มีเจตนา ที่จะโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อรับรองหรือรับประกัน ความแท้หรือไม่แท้ของพระเครื่อง เพื่อให้ตัวผมเองหรือให้ใครๆหรือกลุ่มใดๆ ให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์

พระองค์นี้ที่ผมนำมาลงประกอบเรื่องราวความศรัทธาต่อพระหลวงปู่ทวด ผมเช่าต่อมาจากคนที่เคยไปทำบุญที่วัดคงคา คนนี้บอกว่า ตอนนั้นที่วัดกำลังปูพื้นอะไรสักอย่าง เพื่อนเขามาชวนให้ทำบุญ ก็เลยบูชามา

และพระหลวงปู่ทวดองค์นี้ ก็ได้มาจากการที่ผมได้รับรู้เรื่องราวหลวงปู่ทวดวัดคงคาจากพี่คนนึงที่ศรัทธาหลวงปู่ทวดเหมือนกัน และยังเป็นเจ้าของเรื่อง ตอนหนึ่งในหนังสือเล่มที่ผมนำมาเผยแพร่ (พี่คนนี้มีตัวตนอยู่จริง พี่คนนี้ผมก็ไม่เคยเจอตัวเป็นๆ แต่พี่คนนี้อยู่ในใจผมเสมอ )

ตอนที่ผมรู้ความเป็นมาของพระรุ่นนี้ ผมก็ได้ไปดูพระที่ตู้ในอาคารใต้หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ( ผมดูเฉพาะตู้ให้เช่าพระในอาคารนี้ที่เดียวเท่านั้น) เลยรู้ว่า พระหมดไปตั้งนานแล้ว มีแต่พิมพ์จัมโบ้ธรรมดาไม่มีตะกรุด ผมเลยทำบุญเช่ามาในราคา 1,000 บาท (ปี 2558) ก็มาเลี่ยมกรอบเสตนเลสแขวน

และพระหลวงปู่ทวดองค์นี้ ผมคิดว่า ที่ผมได้มาก็ด้วยแรงตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีของหลวงปู่ทวดวัดคงคา ผมขอว่า ....ถ้าผม.....ขอให้ผมได้พระรุ่นนี้มาบูชา ก็เป็นเวลาอยู่เกือบเดือนกว่าจะเจอ แต่เจอแบบที่ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เจอง่ายๆแบบนี้ คือไม่ได้เจอตามแผงพระหรือส่องตามเวบให้เช่าพระทั่วไป แต่กับไปเจอพระหลวงปู่ทวดวางอยู่ในตู้ในร้านขายของ เป็นตู้กระจกที่ทางร้านเอาไว้ เก็บของมีค่าอะไรต่างๆ เป็นของส่วนตัวของเจ้าของร้าน ผมดันไปเห็นเข้า

 

ผมเชื่อว่า ทุกอย่างล้วนเป็นบุญสัมพันธ์ บุญแต่ชาติปางก่อน ถ้าเราได้เคยร่วมสร้างบุญกับครูบาอาจารย์องค์ไหนมา ยังไงก็ต้องมีโอกาสมาพบเจอกันอีก ผมหมายรวมถึง พระเครื่อง/วัตถุมงคลของครูบาอาจารย์องค์นั้นๆที่เราอยากได้ไว้บูชาด้วยนะครับ

 

บุญแต่ปางก่อน
ตอน 1

ถ้าใครเคยอ่านเรื่องจับพลังพระเครื่อง คงจะจำได้ว่า พระอาจารย์ท่านสามารถรู้หลายอย่างเกี่ยวกับพระเครื่อง ว่าแต่ละองค์ว่าเป็นด้านไหน ใครสร้าง สร้างด้วยกรรมวิธีอะไร ท่านเห็นจนถึงขณะทำพิธีตอนสร้างพระ พระอาจารย์ท่านเสียไปแล้วตั้งแต่ปี 2558 ที่ผมต้องเล่านี้ ผมคิดว่า เชื่อว่า มันเหมือนกับทุกอย่างในปัจจุบันของเรา มันมีตัวเชื่อมโยง เหนี่ยวนำให้มาประสบพบเจอกันอีก

สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านก็เล่าให้ผมฟังว่า ท่านเคยเกิดเป็นทหารพระเจ้าตากสิน แต่ผมไม่เคยสนใจอดีต สนแต่พระเครื่องที่วางอยู่ข้างหน้าที่ขอให้ท่านช่วยดูให้ เท่านั้น จนมาปลายปี 2561 ผมไปบวชแก้บน 10 วันที่วัดเนินมะคึกวนาราม อ.เมือง จ.ตาก ที่จริงต้องบวชตั้งแต่ ปี 2551 แต่ด้วยต้องขอเลือกวัด เลือกพระก่อน ดูวันลาด้วย หลายอย่าง จนผลัดมาเป็นเวลาถึง 10 ปี จนมารู้จักกับน้องผู้หญิง กับสามีเป็นช่างเลี่ยมกรอบพระ ซึ่งผมเสริชหาจากกูเกิ้ล เลยรู้ว่าร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้าน เลยนำพระไปเลี่ยม

น้องผู้หญิงคนนี้เป็นคน กำแพงเพชร สามีเป็นคนนครพนม เมื่อก่อนทำอยู่ร้านจิวเวอรี่ ตอนหลังออกมารับเลี่ยมพระเข้ากรอบ อยู่กับบ้าน ตอนไปส่งไปรับพระ ก็เลยได้คุยกัน นานไม่ต่ำกว่า 2 ชม. ผมเลยรู้จากน้องเขาว่า เขาเคยโดนคุณไสย์ ได้พระอาจารย์องค์นี้ช่วยแก้ให้จากที่จะเป็นบ้า หายเป็นปกติ ผมเลยรู้ว่า พระอาจารย์องค์นี้เป็นสายเดียวกับผม คือท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่แป้น วัดไทรงามฯ ที่สุพรรณบุรี ผมเป็นลูกศิษย์ของคุณแม่สมใจ ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อแป้น คุณแม่สมใจ ท่านจะเรียกหลวงพ่อว่า พระคุณอาจารย์ใหญ่

 

บุญแต่ปางก่อน
ตอน 2

ตอนนั้น ผมดีใจมาก เพราะเราได้รู้จักวัดแล้วคราวนี้ จะได้บวชแก้บนสักที ผลัดมา 10 ปีแล้ว เลื่อนแล้วเลื่อนอีก คราวนี้เหมาะเหม็งมากครับ บวชช่วงเดือนธันวาคม นี้เหมาะมากครับ เพราะมีวันหยุดหลายวัน ผมลาแค่ไม่กี่วัน สรุปผมเลยตัดสินใจบวชแก้บนที่วัดเนินมะคึกวนาราม ในอ.เมือง จ.ตาก แต่ตอนบวชไปบวชกับพระอุปัชฌาย์ ที่วัดไผ่สีซอ อยู่ห่างกัน ประมาณ 5 กม.

ตอนนั้นผมก็คิดแค่นั้นว่าคือหาวัดบวชแก้บนให้ได้ แต่พอไปบวชอยู่วัด ก็ได้รู้ประวัติของวัดเนินมะคึวนาราม คนที่นั่นก็เล่าให้ฟังว่า คนแก่ผู้เฒ่าบรรพบุรุษ เล่าต่อๆกันมาว่า ที่วัดเนินมะคึกวนารามเคยเป็นที่ตั้งค่ายรบของพระเจ้าตากสิน เพื่อยันสู้กับกองทัพพม่า ที่ยกมาจากชายแดนแม่สอด

ตอนที่ผมฟังจากชาวบ้านผมก็ยังนึกภาพไม่ออก จนได้มาดูแผนที่ ประกอบกับได้รู้เรื่องเกี่ยวกับวัดเนินมะคึกวนารามจากน้องคนนึงอยู่ที่จังหวัดระยอง ผมมีเหตุที่ทำให้ได้ไปเจอกับน้องเขา(คือหลังผมสึกจากพระแล้ว) ช่วงสิ้นปี 61 ต่อวันขึ้นปีใหม่ ปี62

จากแผนที่ผมใส่ตำแหน่งของวัดเนินฯกับวัดหนองพม่าให้เห็นภาพ ตามที่ผมรู้มาครับ

 

บุญแต่ปางก่อน
ตอน 3

ตอนที่ผมบวชอยู่ที่วัด ผมยังนึกแปลกใจว่า ตอนที่พระอาจารย์ท่านมาจำวัดที่ ตาก-สุโขทัย นั้นมันเป็นที่พักสงฆ์ชื่อที่พักสงฆ์เขาน้ำฝน(อีแร้งทองคำ) ผมเองยังเคยไปนอนค้างกับพระอาจารย์อยู่หนึ่งคืนตอนประมาณปี 2550 อยู่ไม่ไกลจากวัดเนินมะคึกวนาราม คือเลยไปทางสุโขทัยประมาณ ไม่ถึง 10 กม. เกือบถึงด่านลานหอย จ.สุโขทัย

เรื่องแต่ละเรื่องมันเหมือนรูปตัวต่อจิ๊กซอว์ ทำให้ได้คิด แล้วค่อยๆนำมาปะติดปะต่อเป็นเรื่องยาวขึ้นมา ตอนผมบวชอยู่ที่วัด มีพระรูปนึงที่เป็นลูกวัด ตอนเวลาพักก่อนทำวัตรสวดมนต์เย็น ท่านก็บอกมาว่า ผมนี่เป็นทหารพระเจ้าตาก ผมก็มองหน้าท่าน แต่ไม่ได้ซักถามอะไร เพราะผมไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย ซึ่งณ.เวลานั้นผมยังไม่ทันนึกถึง คำของพระอาจารย์ที่ท่านเคยบอกกับผมว่าท่านเคยเกิดเป็นทหารพระเจ้าตาก

พอหลังจากสึกมา ผมก็มานั่งค้นเรื่องราวของ พระเจ้าตาก เพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางเดินทัพกอบกู้แผ่นดิน คือที่จริงผมได้รู้เรื่องราวในทางลับของพระเจ้าตากมาก่อนหน้านี้ สองครั้ง ช่วงประมาณปี 2538-2539 ผมได้ฟังพระสายวัดป่า(ลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัวรูปหนึ่ง) ท่านเล่าให้พี่คนที่ชวนผมไปนอนค้างที่วัด ตอนค่ำ พี่ก็พาไปหาพระอาจารย์ที่กฎิ พี่เค้าก็ซักถามพระอาจารย์หลายเรื่อง ผมก็นั่งฟังไป ง่วงนอนไปจนถึงกับนั่งสัปหงก แต่ตอนตื่นก็ได้ยินท่านกำลังเล่าเรื่องของพระเจ้าตาก ตามที่ท่านรู้มาจาก ฌานสมาธิ ผมก็ฟังท่านเล่าและจำได้

หลังจากนั้นก็ได้มาอ่านเรื่องราวของพระเจ้าตากผ่านหนังสือของลูกศิษย์ของหลวงพ่อจรัญ สิงห์บุรี ซึื่งมีส่วนตรงกับที่ผมรู้มา แต่ในหนังสือนี้มีรายละเอียดเยอะกว่ามาก ผมยังนึกแปลกใจเลยว่า ที่รู้มาตอนที่พระเจ้าตากไม่ได้ถูกทุบด้วยท่อนจันท์ แต่ท่านได้ถูกพานั่งเรือออกมา แล้วไปอยู่ที่นครศรีธรรมราช นี้มันตรงกันอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าสองวาระ สองที่ แต่เรื่องตรงกัน

 

บุญแต่ปางก่อน
ตอน 4

หลังจากสึกมา ผมก็มาค้นประวัติศาสตร์ รอยทัพพระเจ้าตาก ตามเวบต่างๆ ทั้งจากเฟซที่ได้รับทุนวิจัยตามรอยทัพพระเจ้าตาก เป็นอาจารย์ม.เก่าแก่ ก็ลงเรื่องแต่ละสถานที่ตามเส้นทางเดินทัพ
พออ่านไปอ่านมา เลยนึกอยากเดินทางตามรอยทัพพระเจ้าตากบ้าง กะไว้ช่วงสิ้นปี หยุดยาว 4 วัน ซึ่งเป็นช่วงวันที่จัดงานวันที่ 28 ธันวาคม ของพระเจ้าตากสินพอดี

พอถึงวันหยุดวันแรก ของสิ้นปี ผมกับครอบครัวก็ไปเริ่มต้นที่วัดพิชัยญาติ ตามรอยทัพเป็นจุดแรกที่ทัพพระเจ้าตากตีฝ่ากองทัพพม่าไปทางทิศตะวันออก ตามด้วยวัดสามบัณฑิต วัดโพธิ๋สาวหาญ และสุดท้ายของวันไปจบที่วัดพรานนก ซึ่งตอนที่ไปกำลังมีงานบุญปิดทองฝังลูกนิมิตอยู่พอดี เลยได้ทำบุญเพิ่มเติมจากที่ตั้งใจไว้ คือผมจะเตรียมของถวายเป็นสังฆทานชุดเล็กพร้อมปัจจัยใส่ซอง ซองละ 200 บาท ตามวัดตามรอยทัพพระเจ้าตาก


พอเสร็จจากวัดพรานกก็มุ่งหน้ากลับบ้านแฟนที่นครนายก เพราะช่วงปีใหม่แฟนต้องกลับบ้านไปหาพ่อแม่ เผอิญเป็นทางเดียวกับรอยทัพ เราเลยสบาย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว พอกลับไปถึงบ้านก็คิดว่า พรุ่งนี้จะเดินทางไปปราจีนบุรีตามรอยไปที่วัดสองแห่งที่ระบุไว้ว่ากองทัพพระเจ้าตากผ่านมาแวะกับข้ามแม่น้ำ

 

บุญแต่ปางก่อน
ตอนที่ 5

ที่ตัวเมืองปราจีนบุรี มีสองวัดตามรอยทัพ ตามงานวิจัย เขาบอกว่ากองทัพพระเจ้าตากมาแวะพักอยู่ที่วัด ก่อนถึงตัวเมืองปราจีนบุรีในปัจจุบัน ผมจำชื่อวัดไม่ได้ ครับ กองทัพพระเจ้าตากก็เดินทางมาตามริมแม่น้ำปราจีนบุรี มาข้ามฝังที่วัดกระแจ เลยตัวเมืองปราจีนบุรีมาพอไม่ไกลมาก เห็นตามประวัติ ตรงนี้เป็นจุดที่แคบที่สุดของแม่น้ำปราจีนรบุรี ทัพพระเจ้าตากจึงข้ามฝั่งตรงจุดนี้ และได้พักกินข้าวกันอยู่ที่นี่ แล้วจึงออกเดินทางต่อ


หลังจากช่วงนี้ผมยังอ่านมาไม่ละเอียด เลยไม่ได้แวะเข้าไปหาที่ตามเขาลงไว้ เกรงว่าจะไปถึงระยองมืดเกิน เลยหาที่กินข้าวกลางวัน และก็เดินทางกันไประยองต่อเลย ผมจองที่พักไว้ใกล้กับวัดลุ่มมหาชัย ที่พระเจ้าตากสินชนะศึกยึดเมืองระยองได้ ผมก็กะว่า พรุ่งนี้จะแวะที่วัดลุ่มฯ ก่อนแล้วจึงไปต่อที่วัดราชบัลลังก์ฯ อ.แกลง จ.ระยอง

พอตอนสายก็เดินทางออกจากโรงแรมในตัวเมือง มาแวะไหว้พระเจ้าตากสินที่ วัดลุ่มๆ เสร็จแล้วก็เดินทางไปที่ วัดราชบัลลังก์ฯ อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่มีพระบัลลังก์ของพระเจ้าตากสินประดิษฐานอยู่ แต่เห็นเขาบอกว่า พระบัลลังก์ตัวจริง เขาเอาไปไว้ที่วัดอรุณฯ ฝั่งธนบุรี

และที่วัดราชบัลลังก์ฯ ผมได้เจอกับน้องผู้ชายคนนึง อายุอ่อนกว่าผมประมาณสิบปี เขาก็เพิ่งจะมาที่วัดราชบัลลังก์เป็นครั้งแรกเหมือนกัน แต่ของเขามาแบบพิเศษ คือมาตามความฝัน น้องเขาฝันถึงที่วัดราชบัลลังก์ฯ ติดต่อกัน 3 ครั้ง ขอเล่าอย่างย่อๆ น้องเขาฝันว่าได้มาที่นี่ และเจอกับคนในฝันเข้ามาถามว่าจำพวกเขาได้ไหม น้องก็ตอบไปว่าจำไม่ได้ พอคืนที่ 2 ก็ฝันอีก ในฝันมีคนเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ก็มาถามน้องเขาว่า จำได้ไหม น้องก็ตอบว่าจำไม่ได้ แล้วคนในฝันก็พาเดินดูรอบวัด ว่ามีอะไรตั้งอยู่ตรงไหน พอครั้งที่ สาม น้องก็ฝันว่า คนที่มาในสองคืนแรก พาน้องเข้าไปในบ้านเรือนไทยที่ตั้งอยู่ในบริเวณวัด พอขึ้นไปก็เจอคนหลายคนเลยเหมือนเตรียมงานอะไรบางอย่าง พอน้องขึ้นไป คนก็มารุมถามไถ่กัน เขาก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใครเพราะมีหลายคน มาก

 

บุญแต่ปางก่อน
ตอนที่ 6

หลังจากนั้น คนที่พาเที่ยวชม ก็พาน้องเขาเดินลงมาจากบ้านเรือนไทย แล้วก็บอกย้ำว่า ให้มาที่วัดราชบัลลังก์ แล้วจะได้เจอกับพระวิปัสสนา แล้วจะรู้เอง บอกให้น้องมาให้ได้ แล้วคนที่พาน้องก็เดินหายเข้าไปในเจดีย์ คือที่วัดราชบัลลังก์ฯ จะมีเจดีย์เก่า ที่สันนิษฐานว่าเป็นที่บรรจุกระดูกทหารของพระเจ้าตากที่เสียชีวิตจากการศึก

น้องคนนี้ก็ตื่นขึ้นมา แบบต้องคิดต่อว่า วัดนี้มีอยู่จริงหรือเปล่า แต่เรื่องความฝันเกี่ยบกับพระเจ้าตาก น้องคนนี้ฝันมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กๆ แล้วครับ แต่ฝันคราวนี้มันก็ต้องหาข้อพิสูจน์ว่าจะจริงหรือเท็จ น้องก็เลยไปสอบถามคนแถวบ้าน ในตัวเมืองระยองว่ามีใครรู้จักวัดนี้ บ้าง แต่ในฝันเขาก็บอกชื่อว่า วัดทะเลน้อย มาด้วย

ถามหลายคนอยู่จนมีคนรู้จักบอกว่า วัดนี้ก่อนชื่อวัดทะเลน้อย อยู่ อ.แกลง น้องก็บอกว่า ชื่อนี้แหล่ะในฝัน สงสัยน่าจะจริงแล้ว พอใกล้วันหยุดสิ้นปี น้องก็วางแผนว่าจะมาที่วัดตามความฝัน แต่วันหยุดสองวันแรกคือวันเสาร์ที่ 29 - วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคมมีเหตุทำให้น้องไม่ได้เข้าไปที่วัด เพราะแม่ยายมีธุระ น้องเขาเลยเลื่อนวัน มาเป็นวันจันทร์ที่ 31 ธัันวาคม น้องก็พาครอบครัวมาที่วัดราชบัลลังก์ แบบถามทางคนมาตลอดทาง ว่ารู้จักวัดนี้ไหม จนมาถึงวัด

พอมาถึงวัดราชบัลลังก์ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะใช่ตามที่ฝัน เลยเข้าไปถามคนที่ดูแลดอกไม้ไหวัพระว่า ที่วัดนี้มีพระที่นั่งทางในเก่งๆ หรือเปล่า พี่คนดูแลดอกไม้ไหว้พระ ก็บอกว่า ไม่มี มีแต่พระนักเทศน์ น้องเค้าเล่าให้ผมฟังว่า พอได้ยินคำตอบก็ รู้สึกว่าสงสัย ฝันคงไม่จริงแล้ว เพราะในฝันเขาบอกว่าให้มาแล้วจะเจอพระวิปัสสนา (น้องเขาเข้าใจคำว่าวิปัสนาคือนั่งทางในเก่งๆ)