หลวงปู่สรวงผู้วิเศษแห่งภูตะแบง

มาขอแจมแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงปู่ค่ะ ... เมื่อปลายปีที่แล้วไปเดินเล่นที่ศูนย์พระแห่งหนึ่ง มีคน(ที่ไม่รู้จัก)ชี้ให้ดูรูปท่านที่ติดไว้ในตู้วัตถุมงคลแล้วบอกว่า องค์นี่ซิ น่าเก็บ พูดจบก็เดินจากไปซะงั้น เราก็ชะโงกหน้าไปดูรูปเล็กๆแสนจะซีดเพราะความเก่า ใต้รูปเขียน "หลวงปู่ทรวง" ไม่เห็นรู้จักเลย แล้วเราก็เลิกสนใจรูปนั้นหันมาดูวัตถุมงคลในตู้ต่อ และแล้วสายตาก็ไปสะดุดกับพระสีวลีองค์เล็กๆองค์หนึ่ง เจ้าของร้านบอกว่าเป็นของหลวงปู่สรวง ราคาหลักร้อยต้นๆ เราก็ว่า เออถูกดี เดี๋ยวค่อยเลือก แต่สุดท้ายเราก็ลืมกลับบ้านไปแล้วถึงนึกได้ว่าลืมเช่าพระสีวลี จากนั้นเราก็เริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับหลวงปู่ทางเน็ต อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับท่านในเว็ปของวัดไพรพัฒนา สนุกมาก ในที่สุดเราก็กลับไปเช่าพระสีวลีมา ... เลี่ยมขึ้นคอก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ความรักและศรัทธาหลวงปู่นั้นมีตั้งแต่อ่านประวัติท่าน ท่านแปลกดี ตรงจริตเรา .. ดังนั้น เมื่อเราได้ทำบุญกับพระอรหันต์องค์หนึ่ง เราก็เลยอธิษฐานให้ท่านได้อนุโมทนาบุญด้วย ... ปรากฏว่า คืนนั้น เราฝันถึงท่าน ว่าท่านเอาผลไม้ที่ปอกแล้วใส่จานมาให้ พร้อมกับบอกว่า เอาของดีมาให้ ในฝันเราหยิบทานไป 2 ชิ้น แล้วเราก็ตกใจตื่น ช่วงเวลานั้น สุขภาพเราไม่ดีนักทำท่าจะป่วยหนักเอาเสียด้วย แต่เชื่อมั๊ย หลังจากที่ฝันสุขภาพเรากลับมาเป็นปกติแข็งแรงดี ในฝันเรารู้ว่าเป็นหลวงปู่ แต่มาชัวร์สุดๆเมื่อกลับไปดูรูปที่ศูนย์พระอีกครั้ง ใช่เลย องค์นี้แหล่ะ หลวงปู่สรวง พระที่จำวัดไปทั่วจักรวาล สาธุ

 

ขอบคุณที่ร่วมแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงปู่ท่านครับ และนับว่าคุณเป็นคนที่มีบุญมากจริงๆ

ในไทยเรานั้นมีเรื่องราวปาฏิหาริย์เกี่ยวกับพระอริยะสงฆ์ ต่างๆมากมาย เช่นหลวงปู่ทวด หลวงปู่โต พรหมรังษี หรืออย่างหลวงปู่สรวงท่าน

เราสามารถพบเห็นปาฏิหาริย์ได้ถ้าเรามีความศรัทธาจริงใจ หมั่นทำความดีให้ถึงพร้อม

และสำหรับท่านที่ต้องการวัตถุมงคลของหลวงปู่ไปที่สวนพุทธรรมบายตึ๊กเจียไดโดยตรงครับไม่ผิดหวังแน่นอน

พระเครื่องรวมถึงเครื่องรางรูปสมมุติของหลวงปู่สรวงทั้งหลายทั้งปวงเป็นของที่มีฤทธิ์ในตัวอย่างสมบูรณ์ด้วยบารมีธรรมของท่าน

บางคนได้ไปแล้วประมาทพระของท่านก็เสด็จหายไปก็มี บางท่านมีความศรัทธาท่านมากก็มีอันได้พระของท่านมาอย่างแปลกๆเช่นเสด็จมาให้เองที่หน้าหิ้งพระเป็นต้น
เป็นเรื่องออจินไตยโดยแท้้

 

หลวงปู่สรวง ภาพที่ 12

 

โอม ฉฬภิญญา อนุตตราจารย์ สิระสา นะมามิ
โอม ฉฬภิญญา อนุตตราจารย์ สิระสา นะมามิ
โอม ฉฬภิญญา อนุตตราจารย์ สิระสา นะมามิ

 

หลวงปู่สรวง ภาพที่ 13

 

อีกอิริยาบทหนึ่งของหลวงปู่สรวง

 

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวและภาพต่างๆ
และอนุโมทนาทุกท่านนะคะ

 

เรียน คุณทิพยจักร และคุณ MOUNTAIN ผมได้นำรูปหลวงปู่สรวงจากกระทู้นี้ซึ่งครั้งแรกตั้งใจจะเก็บเอาไว้บูชาเอง แต่มาคิดอีกที น่าจะได้เผยแพร่ให้ผู้ที่ศรัทธาคนอื่นบ้าง ก็เลยไปให้ช่างอัดภาพออกมา มีขนาด 8 x 10 นิ้ว 2 รูป จะเอาไว้บูชาเอง และขนาดโพสการ์ด จำนวน 50 รูป และผมได้นำภาพทั้งหมดไปเข้าในพิธีปลุกเสกวัดถุมงคลของวัดซับตะเคียน จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยหลวงปู่ขุ้ย ปลุกเสกเดี่ยว เรียบร้อยแล้ว และตั้งใจจะนำไปให้พระอาจารย์อีกท่านหนึ่งซึ่งเป็นสายของหลวงปู่สรวงปลุกเสกให้อีกครั้ง หลังจากนั้นจะนำมาแจกในกระทู้นี้

ขออนุญาต รวมทั้งขอความเห็นจากคุณทิพยจักร และคุณ MOUNTAIN ด้วยนะครับในฐานะเจ้าของกระทู้ และเจ้าของภาพถ่าย

 

ขออนุโมทนาครับ ไม่มีปัญหาเลยครับ ถือว่าเป็นการเผยแพร่ครูบาอาจารย์

การนำเสนอเรื่องหลวงปู่สรวงนั้นตั้งใจว่าเป็นการเผยแพร่ปฏิปทาของผู้ละโลก และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สวนพุทธรรมบายตึ๊กเจีย และวัดเลียบราษฏ์บำรุง รวมทั้งวัดไพรพัฒนา ครับ ถ้าท่านใดได้อ่านกระทู้เรื่องหลวงปู่สรวง มีเวลาก็ลองแวะไปกราบรูปเหมือนหลวงปู่สรวงที่สวนพุทธรรมบายตึ๊กเจียได้ครับยังมีวัตถุมงคลรูปเหมือนหลวงปู่หลายรายการ รับรองว่าเป็นของดีที่น่าบูชาแน่นอน หรือจะไปที่วัดเลียบราษฏ์บำรุง ที่นั่นมีวัตถุมงคลของหลวงปู่ที่หลวงปู่สรวงเคยเสกร่วมกับหลวงพ่อสร้อยก็ยังเหลืออยู่เช่นกันครับ และอีกที่วัดไพรพัฒนาอาจจะไกลหน่อยสำหรับท่านที่อยู่ในกรุงเทพ ที่วัดไพรพัฒนาเป็นสถานที่ประดิษฐานสังขารของหลวงปู่สรวงครับและมีวัตถุมงคดีๆเป็นที่ระลึกถึงหลวงปู่ด้วยครับ

ขออนุโมทนาทุกท่านที่ช่วยกันเผยแพร่ครูบาอาจารย์ครับ

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>


</TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>Re: หลวงปู่สรวงพระผู้อยู่เหนือโลก

</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>

เป็นอีกภาพที่หาดูยากครับ ภาพถ่ายของหลวงปู่สรวงกับหลวงปู่เจียม ปัจจุบันหลวงปู่เจียมท่านนี้ก็มรณะภาพไปแล้วครับ
การเดินทางธุดงค์กับหลวงปู่สรวงนับเป็นเรื่องของบุญวาสนาจริงๆ กล่าวว่าหลวงปู่มักพาไปยังสถานที่ลี้ลับมากด้วยอันตราย บางครั้งไปแล้วเหมืออีกมิติหนึ่ง ผู้ที่เคยไปธุดงค์กับหลวงปู่ท่านเล่าวว่าเคยเห็นทองคำบ้าง เพชรพลอยบ้างงอกออกมาจากพื้นดิน จะเด็ดออกมาก็ไม่ได้ ทั้งๆที่มันอ่อนเหมือนเทียนโดนลน บางครั้งหลวงปู่พาไปดูต้นยาวิเศษที่เรียกว่าไม้เทพธิคุณ หากพกไว้กับตัวจะมีตาทิพย์ เห็นทุกอย่างทะลุไปหมด เวลาจะถอนต้องหันหลังถอนจึงสำเร็จ เมื่อลูกศิษย์ได้ไปคนชิ้นพอเดินเข้าเมืองทุกคนก็เห็นภาพชาวบ้านที่เดินไปเดินมาอย่างกับชีเปลือย มีแต่ความอุดจาดที่สุดทุกคนที่ได้ต้นยาวิเศษไว้ก็ทิ้งกันหมดไม่เอาเลยสักคน เรื่องราวของหลวงปู่สรวงสะท้อนหลายอย่างแก่ผู้ศึกษาในความธรรมดาไม่มีอะไรน่าสนใจในตัวของท่านกลับเต็มไปด้วยความลี้ลับพิสดาร ความเรียบง่ายกับความลี้ลับอยู่ภายในตัวท่านอย่างกลมกลืนที่สุด สัมผัสเรื่องราวและปฏิปทาของท่านก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราๆท่านๆได้น้อมนำปฏิปทาและการมองโลกในมุมมองที่แตกต่างออกไปจากเดิมไม่มากก็น้อยนะครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ด้วยความยินดีครับคุณcharoen.b
สิ่งใดที่กระทำแล้วเป็นกุศล ก่อเกิดผลบุญ ผมก็ขออนุโมทนาด้วยครับ

 

อนุโมทนาด้วยครับ

 

ประวัติ หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล บายติ๊กเจีย

ประวัติ หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล บายติ๊กเจีย อริยสงฆ์ผู้อยู่เหนือโลก 500 พรรษา จำวัดทั่วจักรวาล
​

เรื่องราวของหลวงปู่สรวง พระอริยะสงฆ์ผู้พิสดารที่อยู่เหนือกาลเวลา ได้มีผู้เคยถาม หลวงปู่ฤทธิ์ รตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ ว่า หลวงปู่รู้จัก หลวงปู่สรวง แห่งท้องทุ่งศรีสะเกษ หรือเปล่าครับ? หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านบอกว่ารู้จัก และรู้จักมานานแล้ว เมื่อ คราวที่หลวงปู่ฤทธิ์ ทำบุญวางศิลาฤกษ์ สร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ที่วัดชลประทานราชดำริ หลวงปู่สรวงท่านก็มา เวลาท่านมาท่านก็มาของท่านเองไม่รู้ว่าท่านมาเมื่อไหร่ มารู้อีกทีก็เมื่อตอนที่เห็นท่าน เวลาท่านจะไปท่านก็ไปท่านเดินออกไปทางป่าด้านโน้น อยู่ด้านหน้าศาลาเป็นป่ากว้างมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย ท่านเดินตรงไปแต่พอมองออกไปจะเห็นฝูงสัตว์เดินตามท่านเป็นพรวนแล้วสักพักท่านก็หายไป หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านยังได้พูดว่า เรื่อง หลวงปู่สรวงพูดไปแล้วก็เหมือนกับนิยาย เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ท่านก็มีตัวตนจริง เมื่อหลายสิบปีก่อน ได้พบเห็นท่านอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็เห็นท่านเหมือนเดิม ตัวของหลวงพ่อเองนี่ซิแก่ลงไปทุกวันทุกปีนี่ก็อายุ82 แล้วแต่หลวงปู่สรวงท่านก็อยู่ของท่านอย่างนั้น ส่วนเรื่องอายุของ หลวงปู่สรวงนั้น หลวงปู่ฤทธิ์ท่านก็บอกว่า ท่านไม่รู้เหมือนกันว่าเท่าไหร่?.... สถานที่จำวัด เมื่อตอนที่พบ หลวงปู่สรวงก็คือ กระท่อมเฝ้านากลางท้องทุ่งริมถนนหมู่บ้านละลม-สะเดา ชายแดนด้านเขมร เป็นกระท่อมยกพื้นสูงมุงหลังคาด้วยไม้กระดานเก่าๆ กันลมกันฝนไม่ค่อยได้ ในวันนั้นหลวงปู่สรวงท่านนอนอยู่ในกระท่อม มีชายชราผมขาวนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ ๆ คอยบีบนวดให้หลวงปู่สรวง นอกกระท่อมมีชายหญิงชาวบ้าน 4-5 คนนั่งคุยกันอยู่เป็นชาวบ้านย่านนั้น ข้างฝากระท่อมมีว่าวจุฬาตัวใหญ่เหน็บข้างฝาอยู่ 1 ตัว มีเตาเล็กๆ แลและหม้อหุ้งข้าวเก่าๆวางอยู่ 1 ชุด และก็มีถังใส่น้ำขุ่นๆเข้าใจว่าจะตักมาจากหนองน้ำกลางทุ่งที่อยู่ใกล้ ๆ หน้ากระท่อมหลวงปู่สรวงมีแคร่ไม้ยาว สำหรับนั่ง พวกเราทุกคนเข้าไปกราบท่าน ท่านก็ลุกขึ้นมาแต่ท่านไม่พูดจาอะไร ในปากของท่าน ก็เคี้ยวใบพลูสดอยู่ตลอดเวลา มีพวกผมคนหนึ่งถามท่านว่า หลวงปู่อายุเท่าไรแล้ว ท่านก็ตอบเป็นภาษาส่วย ซึ่งผมเองและเพื่อนที่ไปจากกรุงเทพ ก็ฟังไม่เข้าใจ แต่พรรคพวกที่ศรีสะเกษแปลว่าให้ฟังว่า เรื่องของอดีตลืมไปหมดแล้ว ชื่ออะไรก็จำไม่ได้ เขาเรียกว่าปู่สรวง ก็ปู่สรวง ชื่อเสียงมันก็ไม่ใช่ตัวของเราจะเรียกยังไงก็ได้ ถ้ามาคิดกันอีกแง่นึงก็เหมือนกับว่า ท่านได้สอนธรรมะชั้นสูงให้กับพวกเราให้รู้ว่า ให้มีแต่ปัจจุบันเพราะสิ่งทั้งหลายมันผ่านไปแล้ว มันเป็นเรื่อง สมมุติทั้งนั้น....

ว่าวจุฬาตัวใหญ่ที่เหน็บ ไว้ที่ข้างฝากระต๊อบก็เป็นสิ่งที่สะดุดใจของคณะพวกผม จึงไต่ถาม ชาวบ้านที่มาเฝ้าดูแลท่าน ชาวบ้านบอกว่า หลวงปู่ท่านชอบเล่นว่าว และชอบดูเขาตีไก่ชนกัน ตอนหน้าแล้งชาวบ้านทั่งเด็กและผู้ใหญ่จะไปเล่นว่าวกันที่กลางทุ่ง หลวงปู่สรวงท่านจะนั่งดูยิ้มหัวเราะด้วยความชอบอกชอบใจ บางคนยังเล่าว่า บางครั้งหลวงปู่สรวงท่านหายไปว่าวตัวที่เหน็บอยู่ก็หายไปด้วย เมื่อเห็นว่าเหน็บอยู่ที่กระต๊อบนั่นก็คือหลวงปู่ท่านต้องอยู่ที่กระต๊อบอย่างแน่นอน ผมก็เลยถามว่าเวลาหลวงปู่สรวงท่านออกไปไหนทำไมคนที่เฝ้าอยู่ไม่รู้ ? พวกเขาบอกว่ามาดูแลท่านเฉพาะตอนกลางวัน พอกลางคืนต่างคนก็กลับบ้านในกระต๊อบก็จะมีหลวงปู่สรวงท่านอยู่รูปเดียว เมื่อท่านหายไปไหนจึงไม่มีใครรู้ ชาวบ้านในกลุ่มที่เล่าบางคนถึงกับบอกว่า ท่านบินไปพร้อมกับว่าว ส่วนเรื่องที่ท่านชอบดูเขาตีไก่ชนนั้นก็เป็นเรื่องจริง เพราะมีบ่อยครั้งที่ที่มีการตีไก่จะเห็นหลวงปู่สรวงไปนั่งดูอยู่ด้วย และท่านก็จะหัวเราะชอบใจตบมือตบไม้เชียร์ไก่ก็ยังมี การที่มีผู้คนส่วนใหญ่ไปหาท่านมักจะเป็น เรื่องของตัวเลข เพื่อเอาไปแทงหวย ยิ่งใกล้วันที่หวยออกจะมีรถราหลายสิบคันไปจอดเรียงรายอยู่ใกล้ๆกระต๊อบที่ท่านจำวัด ถ้าใครได้ยินหรือได้ฟังว่าหลวงปู่สรวงทำอะไรออกมาเป็นตัวเลข พวกเขาก็จะคิดกันไปต่างๆนาๆบางคนก็ถูกบางคนก็ไม่ถูก มีคนเล่าให้ฟังว่า คนที่ถูกหวยได้เงินจำนวนมากๆ หลายรายนำเงินสดไปถวายท่าน ท่านก็หยิบขึ้นมาดูแล้วก็โยนเข้ารกเข้าพงไปทั้งปึก คนที่เห็นเหตุการณ์ ก็เข้าไปหาแต่ก็หาไม่พบทั้งๆที่เงินจำนวนไม่ใช่น้อยและบางครั้ง ก็มีผู้นำเงินไปถวายท่านเวลาที่เขากลับหลวงปู่สรวงท่านก็ขออาศัยรถเขาไปด้วยเมื่อรถแล่นไปตามถนนที่มีผู้คนมากๆหลวงปู่ท่านก็จะเอาเงินที่พวกเขาถวายออกมาโปรยไปตาม

ถนนที่รถวิ่งให้กับผู้คนที่ยากจน นับเป็นที่ร่ำรือและฮือฮากันมากสมัยที่มีสงครามช่วงชิงอำนาจของเขมรยังรุ่นแรงอยู่ ก็มีผู้คนอพยพมาตามแนวชายแดนเป็นจำนวนมาก มีคนเล่าว่าหลวงปู่สรวงท่านจะเปลี่ยนเป็นนุ่งขาวห่มขาวออกไปรับผู้ที่อพยพเข้ามาทางชายแดนจุดใดที่ท่านออกไปรับผู้ที่อพยพก็มักจะปลอดภัยจากปืนใหญ่และการติดตาม ของทหารเขมร บางวันหลวงปู่สรวงท่านก็จะเอาผ้าสีขาวปักเป็นธงไว้ในที่สูงให้เห็นกันอย่างชัดเจน ชาวเขมรที่อพยพก็จะไปอยู่กันตรงที่หลวงปู่ปักธงสีขาวเอาไว้ วันนั้นถ้า จะมีปืนใหญ่ถล่ม ยิงมาตามแนวชายแดน ผู้คนที่อพยพมาอยู่ตรงที่หลวงปู่สรวงปักผ้าขาวเอาไว้ก็จะปลอดภัยจากลูกกระสุนปืนใหญ่ภายหลังจากที่สงครามการช่วงชิง อำนาจของเขมรสิ้นสุดลง หลวงปู่สรวงท่านก็พักอยู่ที่กระต๊อบเฝ้านาด้านชายแดนเขมรแถว อำเภอ ขุขันธ์ เวลากลางวันก็มีชาวบ้านแถวนั้นมาคอยดูแลปรนนิบัติรับใช้ท่าน เวลากลางคืนหลวงปู่สรวงก็อยู่ของท่านรูปเดียว บางครั้งท่านก็จะหายไปนานๆ ท่านถึงจะกลับมา เมื่อมีผู้คนเดินทางไปหาท่านเขาก็จะถามร้านตรงที่อยู่ตรงปากทางเข้าบ้านละลม-สะเดา ว่าหลวงปู่อยู่ หรือไม่? ถ้าหลวงปู่สรวงอยู่เขาก็จะบอกว่า ท่านกลับมาแล้วเมื่อคืนนี้ แล้วต่างก็เข้าไปหาท่านที่กระต๊อบเฝ้านา ไม่แห่งใดก็แห่งหนึ่ง ในท้องทุ่งนั้นเคยมีผู้นิมนต์ท่านไปเจิม ร้านวันเปิดร้านทำบุญขึ้นบ้านใหม่ก็มีอย่างปั๊ม ปตท. ปากทางเข้า อำเภอ ขุขันธ์ ที่พวกเราแวะเติมน้ำมันรถและรับประทานอาหารกลางวัน ก็ได้พบรูปหลวงปู่สรวงติดไว้ในร้านทั้งยังมีข้อความใต้ภาพว่า

 

หลวงปู่สรวง ออยเตียนสะรูล พระอริยสงฆ์ เหนือโลก ผู้มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เหลือเชื่อ

เคยมีผู้นิมนต์ท่านไปเจิม ร้านวันเปิดร้านทำบุญขึ้นบ้านใหม่ก็มีอย่างปั๊ม ปตท. ปากทางเข้า อำเภอ ขุขันธ์ ที่พวกเราแวะเติมน้ำมันรถและรับประทานอาหารกลางวัน ก็ได้พบรูปหลวงปู่สรวงติดไว้ในร้านทั้งยังมีข้อความใต้ภาพว่า

 

ปลาลาดกระบัง เล่าเรื่องหลวงปู่สรวง
จากhttp://xchange.teenee.com/index.php?showtopic=30718

หลวงปู่สรวงเป็นผู้วิเศษที่ไม่ยืดติดกับสิ่งใดเลย ปลาอ่านในหนังสือมาว่าลูกศิษย์ที่ถูกหวยแล้วได้เงินมาหลายล้านบาทเอาเงินไปให้ท่าน 2 ก้อน ก้อนละประมาณหนึ่งแสนบาท ท่านดยนเข้ากองไฟหมดเลย ใครให้อะไรก็ไม่เอาส่วนใหญ่ท่านจะก่อก้องไฟไว้ที่ข้างๆกระท่อมที่ท่านอยู่ เมื่อมีคนเอาสิ่งของอะไรมาให้ก็จะโยนเข้ากองไฟ

ท่านแปลกนะคือมีลูกศิษย์ของท่านที่เป็นผู้หญิงเล่าว่า วันหนึ่งเขาไปหาหลวงปู่แต่จอดรถไว้ไกลจากที่กระท่อม ท่านก็บอกว่าให้อุ้มท่านไปที่รถหน่อย ลูกศิษย์ก็ถามท่านว่าผู้หญิงถูกท่านได้ด้วยหรือ ท่านบอกว่าถ้าใจบริสุทธิ์ก็ทำได้ แล้วลูกศิษย์ก็อุ้มท่านไปที่รถ

หลวงปู่ชอบไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่สถานที่จะไปจะเป็นลักษณะ ป่าเขาประมาณนั้น มีลูกศิษย์คนหนึ่งไปรับท่านเพื่อจะไปที่ไหนสักแห่งแต่น้ำมันหมดและไม่มีเงินลูกศิษย์
ก็บอกหลวงปู่หลวงปู่ก็ว่าก็ไปเติมซิลูกศิษย์ก็ดูที่ย่ามหลวงปู่ไม่มีเงินเลย แต่ด้วยหลวงปู่บอกว่าให้เข้าไปเติมจึงเข้าไปจากนั้นหลวงปู่ก็เอาเงินใบละพันขึ้นมาจา
กย่ามลูกศิษย์ถึงกับงง

ท่านบอกหวยแม่นนะแต่ไม่บอกตรงๆ จะบอกด้วยวิธีของท่านลูกศิษย์ก็ไปตีกันเอาเอง ลูกศิษย์บางคนถูกหวยมาแล้วมากกว่า 15 ล้านบาท ที่อ่านมาเขาว่าชื่อ เจ๊น้อย อยู่อำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ แต่ไม่ใช่ว่าถูกครั้งเดียวได้ 15 ล้านนะ แต่ถูกหลายๆ ครั้ง รวมแล้วประมาณนั้น แต่รู้สึกว่าเจ๊แก่จะเล่นหนักด้วย เจ๊น้อยแก่จะไปหาหลวงปู่บ่อย จนวันหนึ่งไปกับหลวงปู่แล้วหลวงปู่พาไปนอนตามป่าตามทุ่งนา เจ๊น้อยแก่เป็นไข้มาเลเรียขึ้นสมอง เป็นหนักจนหมดก็ว่าอาจจะช่วยไม่ได้ นอนอยู่ที่โรงพยาบาลที่โคราชอยู่หลายวัน วันที่แก่หายแก่เล่าว่าหลวงปู่ไปหาแก่ที่ห้องที่โรงพยาบาลแล้วก็ไปลูบหัวแก่ แก่ก็หาย แต่ที่ทรามมาจากคนขับรถเล่าว่าปู่ไปจริงนะ แต่ไม่ได้ขึ้นไปหลวงปู่แค่นั่งรถไปวนๆ อยู่แถวๆโรงพยาบาลเท่านั้นไม่ได้ขึ้นไปหาเจ๊น้อยเลย นี้ก็เป็นอีกครั้งที่หลวงปู่ช่วยลูกศิษย์ให้พ้นจากความตาย

 

พี่ครับขอถามหน่อยน่ะครับหลวงปู่สรวงทําไมท่าชอบดูไก่ตีกันอะครับ
การที่ไก่ตีกัรนี่มัมบาปไม่ใช่เหรอครับ

 

สุดยอดครับ ยังไงเสร็จแล้วแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ ผมขอจองก่อนเลยครับ

 

ผมเชื่อจนสุดหัวใจน่ะว่าท่านเป็นพระทองคําแต่ผมงงว่าทําไมท่านถึงชอบดูไก่ตีกัน มัมบาปอ่ะครับ

 

เราไปด่วนสรุปอะไรง่ายๆไม่ได้หรอกครับ
เพราะเราไม่สามารถล่วงรู้เข้าไปถึงสภาวจิตของพระผู้สำเร็จได้

ดูอย่างหลวงปู่แหวน ท่านสูบบุหรี่ยาเส้น
ท่านบอกว่า เกิดเป็นไฟที่บุหรี่ แล้วเป็นควัน จากนั้นก็มอดไหม้
ชีวิตคนก็ไม่แตกต่างกับบุหรี่ที่จุดแล้ว เป็นทำนองนี้แหละครับ