ลักษณะ ความรู้ขั้นโลกุตระ..ที่ควรสังเกตุ

เดี๋ยว จะหัวแตก เสียก่อน

กิเลส มันมี สาม ระดับ

หยาบ กลาง ละเอียด

จริงๆ จะมี ปราณีต อีกชั้นนึง

แต่กว่านั้น ก็ยังมีอีก แล้วแต่ ความสามารถ

กิเลสกลางๆ เป็นเรื่องของ คนปิดอบายได้แล้ว
อายตนะปิดสนิท แต่ ..กิเลสอย่างกลางๆ มีอยู่

พอกิเลสอย่างกลางๆ ไม่มีแล้วก็มี กิเลสละเอียด รออีก

งง ไหม

ต้องใช้คำว่า กิเลสอยู่ แต่ โดยสัจจ กิเลส ไม่มีแล้ว
ไม่ตกนรกแล้ว

หากเรียนธรรม แบบ จับศัพท์ ไม่ได้ สมาทาน
เพียงแค่ การสื่อสาร เป็นอุบาย งง เต็ก

 

นี่เป็นหนึ่งเหตุปัจจัย ที่ได้สนทนากันนะท่าน
"โสดาบัน อายตนะไม่ดับสนิท" แก้ความเห็นผิดไปท่าน

 

ท่านกล่าวมาก็จะไปตัดคำตัวเองที่เน้นว่า "อายตนะดับสนิท" อีก

 

กิเลส หยาบ กลาง หรือละเอียด ต้นเหตุมาจากอะไรท่าน รากเหง้ามาจากที่เดียวกัน

 

ระวังเป็น ไมเกรน นะ

เจอ คำศัพท์คำนึง แล้วไป เพ่ง ให้อยู่ใน ความหมายเดิมๆ

ในทาง ประสาทวิทยา มันจะเป็นการ บังคับให้ เซลลสมอง
ไปใช้ หน่วยประสาทตัวเดิม

เส้นทาง เส้นประสาทเดิม จะถูกใช้ซ้ำ ทำให้ สัญญาณไฟฟ้าค้าง

หนัก มึน ต้องสลัดหัว เพื่อให้หลุด แต่มันไม่หลุด เซลลมันช้ำ

พอหนักๆเข้า คราวนี้พูดคำอื่น สมองตรงส่วนนั้นมัน ช้ำ
มันจะไปหยิบ คำเดิมมา

หมดหนทางสลับโหมด แล้ว สมองเสื่อม ไมเกรนกิน

หนักเข้า จะเกิด การจิตเภท เหมือนมี อีกคน สิงอยู่

ที่ไหนได้ ไม่ใช่ แต่เป็น กลุ่มเซลลสมองช้ำ

 

เนี่ยะ สังเกตไป

มัน เริ่มไป หยิบ ชุดความคิด เดิมๆ

วนจนสำคัญว่า เอ้ย แทงสัจจ

ที่ไหนได้

สมองช้ำ ล้วนๆ

 

เพราะท่านบัญญัติคำนี้ขึ้น เพื่อรู้คนเดียวท่าน
วันก่อนท่านให้ความหมาย

วันหนึ่ง - อายตนะดับสนิท = การไม่ฟังทางผู้อื่น
อีกวันหนึ่ง - อายตนะดับสนิท = ผู้เห็นเหตุ เห็นดับ เห็นทางดับของ อายตนะ
อีกวันหนึ่ง - อายตนะดับสนิท = จิตไม่มีอุปทาน

ท่านต้องการสื่อคำว่า อะไรกันแน่ท่าน ผมอาจไมเกรนขึ้นแบบที่ท่านบอกก็ได้

 

ตามนั้นท่าน
ฝากท่านพิจารณาใหม่ด้วย รู้ว่าท่านรู้ธรรมดี แต่ไม่ต้องเอาธรรมมาขย่ม เพื่อชี้ถูกให้เป็นผิด ก็ได้ท่าน ท่านย่อมรู้แก่ใจดีว่า ถูกผิดยังไง

 

แล้ว ถ้า ยังใส่ใจ จะท้าพิสูจน์ธรรมของพระผู้มีพระภาค

จนเข้าไป สัมผัส ด้วย "อธิปัญญา"(ไม่ใช่ปัญญา แต่เป็น ธรรมอย่างหนึ่ง ยิ่งกว่าปัญญา พิเศษกว่ามากก )

ให้กำหนดรู้ ตอนจะพูดว่า " แง่ว " ในครั้งหน้า

โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ เกิด เหตุให้ต้องร้อง " แง่ว "

คือ ตอนไหนยังสามารถใช้ชุดความคิดเดิม
สมองยังไม่หนัก สัญญาณไฟในหัว ในเซลล
ยังไม่ค้าง ให้กำหนดรู้ว่า "ยังไม่ แง่ว เว้ยเฮ้ย"

แต่พอ ชักหนักหัว รู้ได้เลยว่าเหมือนมี เขม่าในสมอง

ให้กำหนดรู้ "แง่ว" เริ่มมาแล้ว โดยไม่ต้องเห้นตัว

แล้ว รีบเหยีบครัส ใส่คันเร่ง กดเกียรถอย
ปล่อยครัส ยกเบรคมือ สบัดหน้า สลับโหมด ให้ไว

สมองส่วนหน้า จะถูกใช้

พอสมองส่วนหน้าถูก ใช้ อยาตนะ6 จะดับ

จะมี อภิภายตนะอื่น มากมาย เพื่อการหยั่งรู้ มาให้ใช้

เอาเท่านี้ก่อน

ใช้สมองส่วนหน้าจน ชำนาญใน ปิติ สุข เอกัคคตา
ค่อยมาเสวนาต่อ

 

แง่ว แล้ว ยังร้องออกมาได้ว่า แง่ว

นี่เป็น บุญใหญ่ นะ ( สัจจบารมี ก็เรียก )

หากไม่มีตัวนี้ จะไม่เสวนาด้วยเลย

เมาแทน

ปวดหัวมาก เวลาต้องคุยกับ พวกเขม่าสัญญา

 

ปวดหัว กวาดบ้านครับหายแน่นอน

 

ท่านก็ย้อนวันแรก...เมื่อ 2 เดือนที่แล้วที่ผมเพิ่งเข้ามาบอร์ดนี้... ผมตอบธรรมะเป็นอย่างไร?

ตอบแบบ "ถามคำ..ตอบคำ...ก็ว่าได้...
ธรรมดานะท่าน "ธรรมยิ่งตียิ่งแตกออกมา"

ท่านว่า 2 เดือนมานี้ ถ้าพวกเขม่าสัญญามาตอบ ระยะเวลา 2 เดือนท่านเล่าปังว่า แตกธรรมออกมาได้ไหม... ลงกับธรรมได้ทั้งหมดหรือเปล่า.... ถ้าเขม่าสัญญาย่อมมียกผิดจำพลาด... แล้วถ้าจำมาจากตำราย่อมกล่าวธรรมให้ลึกไปไม่ได้.. ข้อนี้ท่านไม่สังเกตุเองท่านเล่าปัง...

 

เห็นกลางวันท่านเล่าปัง น่าจะว่างเยอะ ทำไรหรือ?ท่าน เห็นว่าเทรดอยู่

 

ท่านดีเจล่ะเทรดด้วยไหม

 

ถามได้นะท่าน

 

คนห้องนี้เขาน่าจะรู้จักกันมาก่อนนะ

..........

มันจะง่ายขึ้น ถ้าคุณเป็นผู้หญิง แล้วถ้ามาเล่าสภาวะนี้ที่คุณเจอให้พวกเขาฟัง เขาจะให้คุณเป็นโสดาเลย แบบไม่ต้องสงสัย

...ตามที่สังเกตุ ผญ. มาเล่นห้องนี้ได้แจกตำแหน่งโสดาเยอะ แต่ถ้าคุณเล่นห้องภัย คุณจะได้แจกตำแหน่งอรหันต์แทน

พอดีคุณเป็น ผช. เลยเชื่อยากส์ ...แต่คนห้องนี้บางคนเขาดูธรรมะจ๋ามากๆเลยนะ แต่ก็มีลูกเมียกัน อ่านแล้วก็ฮาดี ...ธรรมะกันซะขนาดนี้น่าจะโสด และมุ่งนิพพานไปเลย

จะดูแปลกๆ ก็คือคุณพูดธรรมบางครั้งเกินพระศาสดาเท่านั้นแหล่ะ

 

เคยเจ๊งมาเลิกเลย
อดนอนบวกวันละ50-70เหรียฯดันอ่านข่าวบ่เป็นหายหมดเลย

 

ให้ตำแหน่งโสดาเพื่อตีว่าอีกคนไม่ใช่ แค่นั้นมั้งท่าน.. เชื่อว่าหมดเหตุการณ์นี้ไป ท่านแนนโดนยึดคืนจากท่านเล่าปังแน่นอน

 

ถ้าคำพูดพลาดพลั้งด้วยความประมาท ถ้าท่านเห็นวานเตือนให้หน่อยท่าน แต่เจตนารับรองว่าไม่มีแน่ท่าน

 

วันละ 50-70 เหรียญอยู่ได้เลยนะท่าน... อันนี้เทรดหรือบาคาร่าท่าน55