พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย tee_tores, 10 กุมภาพันธ์ 2025.

  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5078.jpeg IMG_5080.jpeg IMG_5079.jpeg

    รายการที่ 499

    เหรียญหลวงพ่ออี๋/พระเจ้าตาก/เสด็จในกรม วัดสัตหีบปี2543

    บูชา 400 บาท
     
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5063.jpeg IMG_5064.jpeg

    รายการที่ 500

    เหรียญพระอาจารย์ธรรมโชติ วัดโพธิ์เก้าต้น ปี2520 หลวงพ่อกวย ร่วมเสก

    บูชา 350 บาท


    หลวงพ่อแพ หลวงพ่อจวน หลวงพ่อบุญมี หลวงพ่อกวย หลวงพ่อจรัญ หลวงพ่อชม และอีกหลายรูป ร่วมปลุกเสก

    พระอาจารย์ธรรมโชติ ศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านบางระจัน


    พระอาจารย์ธรรมโชติ เดิมชื่อ โชติ ขณะบวชได้ฉายาทางพระว่า ธรรมโชติรังษี พื้นเพเป็นชาวเมืองสุพรรณ ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย บวชเรียนแล้วจำพรรษา เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ณ วัดเขาขึ้นหรือเขานางบวช ท่านมีความรู้ด้านวิชากสิณ ด้านวิชาอาคมที่แก่กล้า ด้วยทั้งพรรษาและวิชาต่างๆที่ได้ศึกษาฝึกพร่ำร่ำเรียนมา ใครเห็นล้วนแต่เกิดศรัทธา

    พระอาจารย์ธรรมโชติ ตามประวัติเดิม พำนักอาศัยอยู่ ณ วัดเขานางบวช ต่อมาชาวบ้านบางระจันได้อาราธนาไปพำนักอยู่ ณ วัดโพธิ์เก้าต้น จังหวัดสิงห์บุรี ในปี พ.ศ. 2308 ด้วยเหตุที่พระอาจารย์ธรรมโชติมีวิทยาอาคมสูง และได้ลงวิทยาอาคมกับผ้าประเจียด ตะกรุดพิสมร แจกจ่ายให้กับนักรบค่ายบางระจัน

    สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงพระนิพนธ์ในหนังสือไทยรบพม่าว่า พระอาจารย์ธรรมโชตินั้นได้หายสาบสูญไปหรือจะมรณภาพในเวลาเสียค่ายแก่พม่า หรือหนีรอดไปได้หาปรากฏไม่ แต่ตามความเชื่อและตำนานท้องถิ่นของชาวจังหวัดสุพรรณบุรีเล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อค่ายบางระจันมีทีท่าว่าจะแตก ลูกศิษย์ใกล้ชิดพระอาจารย์ธรรมโชติก็ได้นิมนต์ท่านหลบหนีออกจากค่าย โดยที่ท่านไม่ได้เต็มใจ เพราะคิดจะอยู่สู้ด้วยกัน ตายด้วยกัน แต่สุดท้ายท่านก็ขัดศรัทธากิจนิมนต์ของชาวบ้านที่รัก หวงแหน และเชิดชูท่านเสียมิได้ ว่าผ้าเหลืองไม่เหมาะที่จะมาจมกองเลือดจมพื้นพสุธาให้คนต่ำช้าสามานย์เยี่ยง พม่าข้าศึกได้ย่ำยีสุดท้ายลูกศิษย์จำนวนหนึ่ง (ซึ่งไม่มากนัก เพื่อไม่ให้เป็นการแลดูน่าสงสัยแก่ผู้พบเห็นทั่วไป) ได้พาท่านออกมาจากค่ายบางระจัน ชั่วครู่ก่อนค่ายจะแตก แล้วลี้ภัยข้าศึกอยู่ในป่าเขาลำนำไพรจวบจนสงครามสงบจึงกลับมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดเขานางบวช

    บ้างก็ว่าหลังจากออกจากค่ายบางระจันมา ท่านก็ไม่ไปหลบอยู่ที่ไหน แต่ขอกลับมาอยู่วัดเขานางบวช วัดเดิมที่ท่านเคยจำพรรษาอยู่ โดยลูกศิษย์ทำช่องลับไว้ให้ท่านหลบอยู่บริเวณวิหารของท่าน (ซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่) ไว้ให้ท่านนั่งเจริญสมาธิกรรมฐาน บำเพ็ญกุศล บำเพ็ญเพียรโปรดแก่เหล่าสรรพสัตว์ วิญญาณวีรชน และชาวบ้านบางระจัน

    หนังสือพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ได้กล่าวถึงเหตุผลที่ทำให้เครื่องรางของขลังที่พระอาจารย์ธรรมโชติได้มอบให้ แล้วเสื่อมพลานุภาพลงไว้ ดังนี้

    “ครั้นถึง ณ วันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือน 8 ปีจอ อัฐศก พม่าก็ยกเข้าตีค่ายใหญ่บ้านบางระจันแตก ฆ่าคนเสียเป็นอันมากที่จับเป็นไปได้นั้นก็มาก บรรดาครอบครัวชายหญิงเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งเหลือตายอยู่นั้นให้กวาดเอาไปสิ้น แล้วเลิกทัพกลับไปยังค่ายพม่า

    ตั้งแต่รบกันมาห้าเดือนจนเสียค่ายนั้น ไทยตายประมาณพันเศษ พม่าตายประมาณสามพันเศษ และพระอาจารย์ธรรมโชตินั้นกระทำสายสิญจน์มงคลประเจียดตะกรุดต่าง ๆ แจกให้คนทั้งปวง แต่แรกนั้น มีคุณอยู่คงแคล้วคลาดคุ้มอันตรายอาวุธได้ขลังอยู่ ภายหลังผู้คนมาอยู่ในค่ายมากสำส่อน ที่นับถือแท้บ้าง ไม่แท้บ้าง ก็เสื่อมตบะเดชะลง ที่อยู่คงบ้าง ที่ต้องอาวุธบาดเจ็บล้มตายบ้าง และตัวพระอาจารย์นั้น ที่ว่าตายอยู่ในค่ายก็มี ที่ว่าหายสูญไปก็มี ความหาลงเป็นแน่ไม่”

    หลวงพ่อจรัญได้ไปธุดงค์แถวปากช่องกับพันเอกชม ได้ไปเจอจารึกที่พระอาจารย์ ธรรมโชติเขียนไว้ในถ้ำว่า
    เหตุที่บางระจันยืนหยัดต่อสู้กับพม่าได้นั้น เพราะมีผู้หญิงอยู่คนนึง ชื่อคุณหญิงปล้องเป็นเมียท่านขุน ในสมัยนั้นที่ถูกพม่าฆ่าตาย ก็เกิดความแค้นที่พม่าฆ่าผัวตัวเองก็ได้รวบรวมเหล่าแม่ม่ายแม่ร้าง ที่หัวอกเดียวกับตัวเองที่พม่าฆ่าตาย ยอมเปลืองตัว ร้องเพลงแซวพม่า(ปัจจุบันคือเพลงอีแซว) พม่าก็จะร้องเห่กลับมา ที่ปัจจุบันเรียกว่าเพลงพม่าเห หรือพม่าเห่ ซึ่งเพลงพวกนี้ก็เกิดในสมัยนั้น
    ได้ทำการเกี้ยวพาราสี มอมเหล้าพม่า เมื่อเมาก็เอามีดปาดคอพม่าตายจนหมด
    จนแม่ทัพใหญ่พม่า เกิดความสงสัยที่ส่งคนไปเท่าไหร่ทำไมถึงตายหมด จนถึงทหารมอญอาสาที่จะปราบบ้านบางระจัน และได้สืบรู้มาว่าเกิดจากฝีมือผู้หญิง
    โดยได้ออกอุบายใช้จุดอ่อนของผู้หญิงให้แตกคอกันเอง เพราะรู้ว่าผู้หญิงขี้ระแวง โดยออกอุบายว่าบอกผู้หญิงที่มีสามี ว่ากำลังมีผู้หญิงแม่ม่ายแม่ร้าง ไปพัวพันสามีตัวเอง
    ส่วนพระอาจารย์ธรรมโชติ ท่านรู้ด้วยด้วยญาณของท่านรู้ว่าถึงชะตาบ้านบางระจันจะแตกคืนนั้น ท่านเลยเรียกชาวบ้านบางระจันที่เป็นลูกศิษย์ท่าน(ถ้าจำไม่ผิด เป็นกลุ่มผู้หญิงที่เหลืออยู่) คนที่มีฝึกสมาธิ แล้วมีพลังจิตสูงท่านก็ให้คาถา บังไพร ไว้ คาถาบังไพร สามารถบังตาศัตรูได้ชั่วคราว หักไม้แล้วศัตรูมองไม่เห็น ก็จะมีชาวบ้านกลุ่ม นี้ ที่หลบหนีออกมาได้ ส่วนตัวอ.ธรรมโชติ เองหายตัว มา ที่ถ้ำที่ดงพญาไฟ
     
  3. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5089.jpeg IMG_5090.jpeg IMG_5091.jpeg IMG_5092.jpeg IMG_5093.jpeg

    รายการที่ 501

    พระรอดชานหมากครูบาชัยวงค์ ฝังพระธาตุข้าวบิณฑ์
    ซองเดิมจากวัด


    เมื่อ พ.ศ.2542 สร้างจากชานหมากที่หลวงปู่เคี้ยว ผสมผงเกสรดอกไม้ ธูปเทียน ที่หลวงปู่ใช้ไหว้พระ ด้านหลังฝังพระธาตุข้าวบิณฑ์ พุทธคุณแคล้วคลาด โชคลาภ เมตตา ครบครัน พระเนื้อชานหมากของหลวงปู่ที่ดังมากๆ คือ พระรอดชานหมาก ว่ากันว่ามีพุทธคุณเทียบเท่ากับพระรอดกรุมหาวันเลยทีเดียว เล่ากันปากต่อปากว่า หลวงปู่ท่านเคยพูดว่าในอดีตชาติท่านคือฤาษีวาสุเทพ ผู้ร่วมสร้างพระรอดลำพูนที่โด่งดัง เลยเชื่อกันว่าใช้พระรอดชานหมากของท่านก็ไม่ต้องไปหาพระรอดของแท้องค์เป็นล้านๆ และมีศิษย์หลายต่อหลายคนเคยได้พระรอดที่หลวงปู่คายออกมาจากปากหลังเคี้ยวหมากด้วยครับพุทธคุณทางด้านเมตตา แคล้วคลาด ชานหมาก หมายถึง การกินดีอยู่ดีเหลือกินเหลือใช้ เมตตามหานิยม

    พระรอด พระเครื่องที่มีพุทธคุณทางเด่นทางด้านเมตตาแคล้วคลาด รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง รุ่นนี้มีหลายท่านนำไปใช้เเล้วเกิดประสบการณ์ "ประสบอุบัติเหตุรอดตายมาหลายครั้ง" เป็นพระเครื่องที่มากด้วยประสบการณ์ที่ปัจจุบันกายากแล้วครับ

    บูชา 950 บาท
     
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5050.jpeg IMG_5049.jpeg IMG_5101.png

    รายการที่ 502

    หลวงพ่อโต วัดบางกระทิง หลวงพ่อรักษ์ พร้อมตะกรุดจารมือ หายาก

    ประวัติหลวงพ่อรักษ์ วัดน้อยแสงจันทร์ เถราจารย์สังขารอมตะแห่งเมืองสมุทรสงคราม

    พระครูสุธรรมธาดา หรือหลวงพ่อรักษ์ ฐิตธรรมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดน้อยแสงจันทร์ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม

    เกจิอาจารย์ผู้ถูกจัดลำดับหนึ่งในร้อยแปดเกจิขลังเมื่อครั้ง ๔๐-๕๐ ปีที่แล้ว ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสรูปที่ ๔ ของวัดน้อยแสงจันทร์ ซึ่งถือว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ ๕ (พ.ศ.๒๔๔๔) ในครั้งนั้นได้มีคหบดี ๔ ราย บริจาคที่ให้สร้างวัด คือ นายน้อย นางแสง นายจันทร์ และนายเหม็น วัดนี้จึงได้รับการตั้งชื่อตามผู้บริจาคที่ดิน เพียงแต่รายที่ ๔ ซึ่งมีนามว่านายเหม็นนั้น เจ้าตัวเห็นว่าชื่ออาจจะไม่เป็นมงคลนัก จึงให้ใช้ชื่อเพียง ๓ รายว่า “น้อยแสงจันทร์” เป็นชื่อวัด


    คนแม่กลองนับถือหลวงพ่อรักษ์ วัดน้อยแสงจันทร์กันมากๆ เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณท่าน พระเกจิย่านแม่กลองและมหาชัย ถ้าไม่เก่งจริง คงไม่มีใครเขานับถือกันหรอกครับ ท่านเป็นพระยุคเดียวกับหลวงพ่อสุด วัดกาหลง แต่คนละจังหวัด ครูบาอาจารย์ที่ถือเป็นองค์หลักของท่านเลย คือ หลวงพ่อช้าง วัดเขียนเขต ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี แต่จะได้เรียนกับหลวงพ่อเปลื้องด้วยหรือไม่นั้นไม่มีหลักฐานยืนยัน นอกจากนี้ท่านยังได้ชื่อว่ามีความกตัญญูเป็นเลิศ เลี้ยงดูบิดามารดาจนสิ้นอายุขัย ที่วัดศิษย์สายหลวงพ่อคง ท่านก็ว่าหลวงพ่อรักษ์ เก่งเอาการ วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์เรื่องป้องกันภัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์สูงมาก ประเภทรถคว่ำพังยับแต่คนที่แขวนพระของท่านไม่เป็นอะไร ที่ว่าประสบการณ์ด้านนี้มีเยอะก็เพราะว่าแถบแม่กลองจะมีการขนส่งผลไม้ ของทะเล ฯลฯ

    หลวงพ่อรักษ์ท่านมีสมณศักดิ์ที่พระครูสุธรรมธาดา ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ทำการบรรพชาอุปสมบทกุลบุตรทั้งใกล้ไกลนับไม่ถ้วน เป็นที่เคารพรักเทิดทูนบูชาของลูกศิษย์โดยเฉพาะชาวจังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดใกล้เคียง รวมไปถึงจังหวัดปทุมธานี ที่องค์อาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทพระเวทย์วิทยาคมให้แก่หลวงพ่อรักษ์ คือ หลวงพ่อช้างวัดเขียนเขต หลังจากได้รับการประสิทธิ์ประสาทวิชาจากหลวงพ่อช้างอย่างหมดสิ้น ปี ๒๔๙๔ ท่านก็ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดน้อยแสงจันทร์ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม และท่ายังได้ศึกษาพระเวทย์อาคมกับท่านพ่อบัณฑูรย์สิงห์ ฆารวาสผู้กระเดื่องนามที่มีเกจิอาจารย์ยุคเก่าเป็นลูกศิษย์ของท่านมากมาย

    หลวงพ่อรักษ์แห่งวัดน้อยแสงจันทร์องค์นี้จัดเป็นเกจิขลังอาจารย์ดังผู้มี “ดี” อย่างแท้จริง ท่านจะปลุกเสกวัตถุมงคลทุกรุ่นด้วยตัวท่านเองเพียงลำพัง ไม่มีการจัดพิธีพุทธาภิเษกแต่อย่างใด แม้ท่านจะจากไปในปี ๒๕๓๘ ด้วยวัย ๘๖ ปี แต่ลูกศิษย์ลูกหาของท่านยังเหนียวแน่น ในจำนวนวัตถุมงคลของท่านหลายรุ่นหลายแบบทั้งเนื้อผง รูปหล่อ และเหรียญ หลายรุ่นหลายวาระ ตั้งแต่เหรียญรุ่นแรก ปี ๒๕๐๖ ด้านหลังเป็นพระพุทธชินราชเนื้ออัลปาก้า อันเป็นที่นิยมและแสวงหาด้วยสูงประสบการณ์อย่างครบถ้วนทั้งแคล้วคลาดคงกระพัน
    ว่ากันว่าถ้าท่านไม่เก่งจริงจะไม่สร้างพระเครื่องที่เป็นครุฑแบกท่านได้ครับ

    บูชา 800 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5101.png
      IMG_5101.png
      ขนาดไฟล์:
      959.2 KB
      เปิดดู:
      2
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ดูแลสุขภาพกันทุกๆท่านนะครับ

    พร้อมด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก คนสะสมพระใว้เพื่อหวังอนาคต จึงต้องนำมาเพื่อประครองชีพกัน แม้ราคาที่ตั้งหวังใว้สูง แต่เมื่อไม่ได้จำยอมต้องปล่อย ทั้งที่อาจจะบูชามาแพงแต่ต้องยอม พระเครื่อง/เครื่องรางบางรายการ ราคาจึงต่ำกว่าที่บางท่านอาจจะเคยเช่าซื้อ/ขายไป ไม่ต้องตกใจครับ

    พระเครื่องชุดที่ลงใว้วันนี้แทบจะเป็นพระเก่าเก็บของลุงท่านนึงที่ตั้งวจสะสม แต่ด้วยความจำเป็น จึงต้องยอม ทุกองค์มีการเขียนกำกับแทบทุกองค์ ไม่ใช่ผมเขียนเอง รับประกันแท้สากล ท่านใดสนใจจริง จองได้ไม่เกิน 4วันนะครับ หรือถ้าบูชาหลายรายการ เกินกว่านั่นได้ครับ แต่ขอให้พยายามอย่ายกเลิกนะครับ เพราะมันจะเสียเวลาและเสียโอกาศท่านอื่นๆ บางรายการราคาที่ลงไปอาจจะสูงเกินในใจท่าน ขอให้บอกคร้บ ถ้าสนใจจริง ของคุณมากๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2025 at 09:19
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5115.jpeg IMG_5116.jpeg IMG_5120.png IMG_5117.png IMG_5118.png IMG_5119.png IMG_5114.jpeg IMG_5113.jpeg

    รายการที่ 503

    สมเด็จปรกโพธิ์เก้าใบหลังพระสีวลี รุ่นเจ้าสัวเศรษฐี หลวงปู่ฉิมพะลี(สิมพะลี) 1ใน1,099 องค์ เลข๒๙๐

    บูชา 950 บาท

    ท่านบวชกับหลวงปู่มั่นพร้อมกับหลวงปู่แหวน อายุ 126 ปี วัดป่าวิชัยรวมมิตร จ.เลย หายากแล้ว เลี่ยมพร้อมบูชา

    หลวงปู่สิมพะลี พระสายกรรมฐานได้ศึกษาธรรมะ จากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และได้รับการอบรมสั่งสอนวิชาจากหลวงปู่เทพโลกอุดร ตอนอายุ 95 ปีกายสังขารเริ่มเปลื่ยนแปลงจากแก่ชรากลับคืนมาเป็นผู้ที่แข็งแรง สายตาดี เดินเหิน พูดคุยได้เหมือนอายุ 60 ปี วัตถุมงคลของหลวงปู่มีประสบการณ์มากมาย พุทธคุณ เรียกโชคลาภ เงินทอง ไม่ขาดสาย,เมตตามหาเสน่ห์,ใครเห็นใครรัก,หญิงเห็นชายเห็นแล้วชมชอบและ เพิ่มพลังกาย รอดจากภัยพิบัติ ปลอดภัยทุกคนไม่ว่าเจออุปสรรคอะไรคุ้มครองได้ตลอดไม่มีอันตรายทั้งสิ้นดีตลอดไปเพราะว่าหลวงปู่ทำสุดยอดแล้ว สมเด็จปรกโพธิ์เก้าใบหลังพระสีวลี รุ่นเจ้าสัวเศรษฐี หลวงปู่ฉิมพะลี(สิมพะลี) เสก 5 เดือนช่วงเข้าพรรษา 2558 มาจนถึง มกราคม 59 หลวงพ่อ อดิเทพ วัดพรมเหนือ จ.ชัยภูมิ เสก กันรังสีนิวเคลียรกันฝนมีพิษ นาน 3 เดือน ก่อนเข้าพรรษา 58 ชุดนี้จึงพร้อมไปด้วย พลิกดวงไม่มีโชค ให้เป็นคนมีโชค พลิกดวงจากไม่มีเป็นเศรษฐีเร็ววัน ทันตาเห็น เมตตา เสน่ห์แรงมากๆ โดยเฉพาะสมเด็จปรกโพธิ์ ท้าพิสูจน์ได้เลย วัตถุมงคลชุดนี้ เน้นทำมาหากินเป็นหลัก ค้าขายไม่มีเงียบ ปรับดวงคนที่ไม่ค่อยมีโชคให้มีโชค มีเงินมีทองกับเขาบ้าง ตลอดจนถึงคนที่เก็บเงินไม่อยู่ เงินมาเท่าไหร่ ออกไปหมด ชุดนี้เสกให้หมดครบทุกอย่าง แคล้วคลาด มหาอุต กันรังสี ป้องกันฝนกรดหรือฝนมีพิษ พลิกดวงขะตาได้ สะท้อนกลับได้นะ สิ่งไม่ดีหรือมีผู้กลั่นแกล้ง สิ่งเหล่านั้นจะสะท้อนกลับไปหาเจ้าของ ลองดูนะ สมเด็จปรกโพธิ์เก้าใบหลังพระสีวลี สร้างน้อยเพียง 1099 องค์ โอกาสเป็นของผู้ที่มองเห็นเสมอ รับประกันชั้นหนึ่งครับ
     
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5112.jpeg IMG_5111.jpeg IMG_5110.jpeg IMG_5109.jpeg

    รายการที่ 504

    ดวงตากายสิทธิ์ หลวงปู่ฉิมพลี

    สร้างแจกเฉพาะลูกศิษย์ใกล้ชิด ยุคแรกๆ หายากสุดๆ เลี่ยมพร้อมบูชา

    บูชา 1,200 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2025 at 13:13
  8. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    ปิดครับ


    รายการที่ 505

    พระผงรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดร สร้างโดยหลวงพ่อจิตติ วัดวังปลาหมู ในปี 2540-41

    อีกหนึ่งพระเครื่องในตำนาน สายในดง.. ว่ากันแรงครับ...

    (ผสมผง หลวงพ่อ ชาญณรงค์)

    มวสาร เข้มข้น




    ปู่โทน ลำแพร ฆราวาสผู้เรืองเวทย์แห่งเมืองนครสวรรค์ ศิษย์พระครูเทพโลกอุดร เป็นผู้รวบรวมสุดยอดมวลสารวิเศษจากเกจิต่างๆ มวลสารของหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต รวมถึงมวลสารและเกศาของหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินได้เสกไว้ นำมาสร้างพระผงรูปเหมือนหลวงปู่โลกเทพอุดร ที่ถ้ำวัดวังปลาหมู กาญจนบุรี เมื่อปั้มพระผงฯเสร็จ หลวงพ่อจิตติ ได้ผ่านญาณหลวงปู่เทพโลกอุดรมาปลุกเสกนานร่วมพรรษา ที่วัดวังปลาหมู หลังจากนั้นปู่โทนได้นำพระชุดปิดทองในพิมพ์ ประมาณ 3 กล่อง มาให้หลวงปู่สรวงเสก เสกเสร็จท่านแล้วตบที่กล่องพระ 3 ครั้งแล้วดันกลับให้ปู่โทนนำกลับมาเก็บไว้ในถ้ำหนองวัวแดงประมาณหนึ่งอาทิตย์ จึงได้นำพระชุดนี้กลับไปที่วัดวังปลาหมูเพื่อถวายคืนให้หลวงพ่อจิตติครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งปู่โทนได้นำมาให้หลวงปู่สรวงปลุกเสกอีกครั้งในพิธีปลุกเสกพระรุ่นสมปรารถนา ที่สำนักสงฆ์โคกแก้ว หลังจากนั้นปู่โทนจึงได้นำมาแจกให้กับหมู่ลูกศิษย์ท่าน
    พระรุ่นนี้ มีทั้งหมด 3 พิมพ์
    1. พิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรนั่ง พื้นหลังเรียบ
    2. พิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรนั่ง ด้านหน้าฐานแจกันดอกบัวไม่มีซุ้ม
    3. พิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรนั่ง ด้านหน้าฐานแจกันดอกบัวมีซุ้ม
    พระที่ปิดทองในพิมพ์มี 128 องค์ รวมทั้ง 3 พิมพ์ โดยพระพิมพ์ไม่มีซุ้มกับแจกันดอกบัวจะสร้างน้อยที่สุด พระชุดนี้มีองค์ปิดทองในพิมพ์ฝังตะกรุดด้วย ประมาณ 26 องค์
    รวมสร้างทั้งหมด 70,000 กว่าองค์
    หลวงพ่อจิตติ วัดวังปลาหมู จ.กาญจนบุรี ท่านไปมาหาสู่ปู่โทนเสมอ ท่านมีความสัมพันธ์กับหลวงปู่เทพโลกอุดรอย่างลึกซึ้ง ไม่สามารถสรุปว่าท่านเป็นลูกศิษย์ปู่ใหญ่ เพราะ ปู่ใหญ่อยู่กับท่านตลอดเวลา เวลาปู่ใหญ่ท่านมา จะมีกลิ่นหอมทั่วท้องฟ้า แล้วใบหน้าของหลวงพ่อจิตติก็กลายเป็นใบหน้าปู่ใหญ่ เหมือนในรูปถ่ายไม่มีผิด ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดฝาด ผมได้มีโอกาสได้กราบปู่ใหญ่พร้อมกับคนอื่นๆเกือบสามสิบคนในวันเผาศพปู่โทนที่ตาคลี มีพระฤาษีและพระป่าอีก4-5รูป มาจากไหนไม่รู้ เข้ามากราบปู่ใหญ่ ปู่ใหญ่มาประมาณ 10 นาที พอทุกคนได้กราบครบแล้ว ปู่ก็ไป ร่างกายผมชาไปทั้งตัว เต็มไปด้วยความปิติ
    ฆราวาสจอมคาถา "ปู่โทน หลำแพร" ผู้เรืองเวทย์แห่งเมืองนครสวรรค์ ศิษย์ "พระครูเทพโลกอุดร" พบกันครั้งแรกในนิมิตขณะนั่งเจริญกรรมฐาน
    จากตำนานของหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งมีความลี้ลับมหัศจรรย์ในพระพุทธศาสนาลากร้อยหลายพันเรื่องปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นภายใต้ร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนานั้น เรื่องของ "หลวงปู่เทพโลกอุดร" นับเป็นเรื่องหนึ่งที่อยู่ในกระแสแห่งความสนใจของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงนักปฏิบัติกรรมฐาน สำหรับความลี้ลับมหัศจรรย์นี้ เกิดขึ้นแก่ผู้ที่ศรัทธา กล่าวคือ มีฆราวาสท่านหนึ่งได้พบเจอกับปาฏิหาริย์ของ หลวงปู่เทพโลกอุดร นั่นก็คือ "ปู่โทน หลำแพร" ฆราวาสที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องพระกรรมฐาน
    ปู่โทน หลำแพร เป็นชาวบ้านโพธิไทร อำเภออินทร์บุรี จังหวัด สิงห์บุรี เมื่อสมัยยังเป็นหนุ่มน้อยได้บวชเป็นสามเณรอยู่ ๓ พรรษา และอุปสมบทเป็นพระภิกษุต่ออีก ๒ พรรษา ขณะที่บวชเรียนอยู่นั้น ปู่โทนก็สนใจในวิชาวิปัสสนากรรมฐาน ได้เคยศึกษาและปฏิบัติ จากพระอาจารย์ผู้มีความรู้ทางด้านนี้หลายรูป ต่อมาแม้เมื่อได้ลาสิกขาออกมาครองเพศฆราวาสแล้ว ปู่โทนผู้นี้ก็ยังสนใจในวิชาวิปัสสนากรรมฐานอยู่ พยายามหาโอกาสออกแสวงหาสถานที่วิเวกเพื่อบำเพ็ญธรรม อยู่เสมอ ขณะที่ท่านมีอายุได้ประมาณ ๓๐ ปี ครั้งหนึ่งก็ได้ออกไปแสวงหาสถานที่วิเวกเพื่อบำเพ็ญ และในที่สุดก็ได้พบกับสถานที่ที่ต้องการแห่งหนึ่ง คือ ในถ้ำพระ ซึ่งอยู่หลังเขาช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
    คืนหนึ่งขณะที่ท่านนั่งสมาธิอยู่ พอจิตได้อารมณ์เป็นสมาธิแน่วนิ่งแล้วก็บังเกิดความประหลาดขึ้น โดยมีพระภิกษุรูปหนึ่งได้ปรากฏให้เห็นในนิมิต ตามคำบอกเล่าของปู่โทนบอกว่า พระภิกษุรูปนั้น มีลักษณะเหมือนคนโบราณ แต่ผิวพรรณผ่องใส มีสง่าราศีน่าเคารพนับถือ ดูจากรูปร่างภายนอกแล้วเห็นว่ายังหนุ่มแน่นแต่ศีรษะมีหงอกขาวโพลน ครั้นได้เห็นพระภิกษุรูปนั้น ปู่โทนก็เข้าใจว่าคงจะเป็นพระอาจารย์ทางวิปัสสนากรรมฐานผู้มีญาณวิเศษ สามารถถอดจิตมาสนทนากันได้ในนิมิต และการมาของท่านก็คงจะมาเพื่่อสนทนาธรรมหรือช่วยชี้แนะข้อธรรมกรรมฐานที่ท่านติดขัดอยู่ ปู่โทนจึงได้เรียกถามท่านไป (ในนิมิต) ว่า
    "พระคุณเจ้าเป็นใคร"
    พระภิกษุหนุ่มผู้มีสง่าราศีน่าศรัทธายิ่งรูปนั้น ก็ตอบให้ทราบว่า ท่านคือหลวงปู่เทพโลกอุดร เป็นพระธุดงค์อาศัยอยู่ตามป่าเขาลำเนาถ้ำเป็นวัตร ที่มานี่ก็เพื่อต้องการจะมาชี้แนะธรรมปฏิบัติบางอย่าง เพราะเห็นว่าอุบาสกโทนยังปฏิบัติไม่ถูกต้อง ปู่โทนได้ทราบอย่างนั้นก็ปลื้มปิติยิ่งนัก ที่จะได้มีพระอาจารย์ผู้มีความรอบรู้มีคุณวิเศษเลิศล้ำ มาเมตตาชี้แนะข้อธรรมให้ ซึ่งบัดนั้นปู่โทนไม่ได้ทราบว่า หลวงปู่เทพโลกอุดร ที่ว่านั้นเป็นใครมาจากไหน เพราะว่า ท่านไม่เคยได้พบเจอ หรือได้ยินได้ทราบกิตติศัพท์มาก่อนว่า ท่านผู้นี้อยู่ที่ไหนแต่ปู่โทนก็ยินดีที่จะน้อมรับคำแนะนำเรื่องการวิปัสสนาจากพระภิกษุผู้มาอย่างแปลกประหลาดรูปนี้
    หลังจากนั้นหลวงปู่เทพโลกอุดรก็เมตตาชี้แนะวิธีทำกรรมฐานให้กับปู่โทนอธิบายจนปู่โทนเข้าใจดีแล้ว ก็หายวับไป ปู่โทนกลับคืนอารมณ์ปกติ แต่ก็ยังจำเหตุการณ์นั้นได้ติดตา และยังปลื้มปิติไม่หาย ปู่โทนได้คำแนะนำนั้นมาปฏิบัติจนเห็นผลในเวลาไม่นาน ครั้นบำเพ็ญธรรมกรรมฐานอยู่ที่นั่นพอสมควรแล้วปู่โทนก็กลับมายังบ้าน เพื่อประกอบสัมมาอาชีพเลี้ยงครอบครัวต่อไป แต่แม้ว่าปู่จะกลับมาอยู่บ้าน แต่ก็ไม่เลิกทำกรรมฐานเสียเลย ยังคงบำเพ็ญอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่ก็น้อยกว่าเวลาไปบำเพ็ญในที่วิเวกตามป่าเขาลำเนาถ้ำเท่านั้นเอง และหลังจากนั้นปู่โทนก็ได้หาโอกาสไปบำเพ็ญธรรมที่ถ้ำพระนั้นอีก และก็ได้พบพระอาจารย์ในนิมิต ที่ท่านรู้จักในนาม หลวงปู่เทพโลกอุดรมาคอยชี้แนะข้อธรรมะให้อีก และสอนในระดับสูงขึ้น ๆ ปู่โทนไปอยู่ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์ในนิมิคที่นั่นอยู่เป็นนานพอสมควร จนกระทั่งวันหนึ่ง พระอาจารย์หลวงปู่เทพโลกอุดรก็ได้บอกให้กับศิษย์คือ ปู่โทนถอดจิตออกจากสมาธิแล้วลืมตาขึ้น บัดนั้นเอง ปู่โทน ศิษย์ผู้ที่เคยแต่ได้เห็นอาจารย์แต่เพียงในนิมิต ก็ได้เห็นพระอาจารย์หลวงปู่เทพโลกอุดรด้วยตาเนื้อจริง ๆ
    เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนักเพราะว่ารูปร่างลักษณะของพระอาจารย์หลวงปู่เทพโลกอุดร ที่ศิษย์ปู่โทนได้เห็นด้วยตาเปล่าในขณะนั้นเหมือนกับที่ได้เห็นในนิมิตอย่างไม่ผิดเพี้ยนเลย เพราะเหตุนี้เอง ในเวลาต่อมาปู่โทนจึงเชื่อว่า หลวงปู่เทพโลกอุดรนั้นท่านยังไม่ได้มรณภาพ ท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ท่านอยู่ในที่ของท่านและท่านไม่ค่อยจะปรากฏให้ใครได้เห็นง่าย ๆ คนที่จะได้เห็นท่านนั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนา หรือเคยบุญเกี่ยวข้องกันมาแต่ชาติปางก่อน ตั้งแต่มานั้นการเรียนการสอนจึงได้ดำเนินมาทั้งในนิมิต และภาพจริง ๆ วิชาความรู้ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรได้ถ่ายทอดให้กับศิษย์ ปู่โทน หลำแพร ในตอนนั้น นอกจากจะเป็นวิชาเกี่ยวกับการนั่งวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ท่านยังได้สอนในเรื่องเวทมนตร์คาถา เพราะท่านสามารถกำหนดจิตทราบได้ว่า ปู่โทนต้องการจะเด่นในทางทรงฤทธิ์เดชและนอกจากนั้นแล้วท่านยังได้สอนวิชาแพทย์แผนโบราณ การใช้ยาสมุนไพรต่าง ๆ ประกอบยาให้ด้วย
    ซึ่งในเวลาต่อมาปู่โทนก็ได้ใช้วิชาความรู้เหล่านี้มาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้รอดพ้นจากการถูกทรมานด้วยโรคร้าย และนอกจากนั้นแล้ว ท่านยังได้เป็ผู้เชี่ยวชาญและแนะนำการวิปัสสนากรรมฐานให้แก่บุคคลทั่วไป ถือได้ว่า ท่านเป็นวิปัสสนาจารย์ที่เป็นฆราวาสผู้มีความรอบรู้คนหนึ่ง เมื่อครั้งที่อยู่ศึกษาวิชาต่าง ๆ กับหลวงปู่เทพโลกอุดรนั่น ปู่โทนได้เปิดเผยถึงประสบการณ์ ที่ท่านประทับใจมากอย่างหนึ่ง และผู้เขียนเห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดเป็นยิ่งนัก แต่เมื่อนำมาเล่าแล้วท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่ ก็สุดแต่ท่าน ขอให้ใช้วิจารณญาณพิจารณาเอาเอง
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก เพจพระบรมครูหลวงปู่เทพโลกอุดร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2025 at 14:38
  9. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    ปิดครับ

    IMG_5122.jpeg IMG_5123.jpeg IMG_5121.jpeg

    รายการที่ 506

    พระสมเด็จเหนือคน รุ่น 1 หลวงปู่ แม่น วัดหน้าผา เพชรบูรณ์
    เหนือคน เหนือดวง นำชัย มีโชค

    - เนื้อแก่ว่านกระชายกินเหล็ก โชคลาภลอย(เนื้อน้ำมันอมน้ำตาล)
    สร้าง 999 องค์

    บูชา 500 บาท เลี่ยมพร้อมบูชา

    สมเด็จทรงครุฑเหนือคน เอามาให้ พวกแกได้ใช้ติดเนื้อติดตัว แกจะเหนือคน เหนือเขาเหนือกว่าเจ้านาย แกไปค้าขายก็จะเป็นยอดพ่อค้า ไปรับราชการก็จะได้ราชศักดิ์สโมสร เดินทางจรก็จะสำเร็จประสงค์ ทำงานรับจ้างต่างถิ่นก็จะยิ่งใหญ่มีคนชุบอุปถัมภ์ ไปจีบผู้หญิง เอาดีทางเมตตาปรานีคนก็จะรักแกมากกว่าใคร ผู้หญิงก็จะหลงรักดูแล เหนือคนเขาตลอดไป ได้ชัย เอาโชคมาให้

    สมเด็จเรียกว่า “ยอดพระ” สมเด็จเหนือคน เรียกว่า “ยอดสมเด็จ” ข้าฯมันก็แค่พระหลวงตาแก่ๆเฝ้าวัด ก้มหน้าก้มตาเดินตามพระพุทธเจ้า โลกเขาไปไหน ข้าฯไม่รับ ไม่รู้ด้วย ข้าฯทำ พระคล้ายของสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต ให้แกไว้ใช้สักองค์ ให้คุณพระ คุณครูของข้าฯ ขี่เมฆมาช่วยแก หอบแกขึ้นฟ้าอยู่เหนือหัวคน ดีมั้ยละ

    หลวงปู่ลบผง พุทธคุณทั้ง 5 ว่าตั่งแต่ ผงพุทธคุณ ผงมหาราช ผงปัถมัง ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห แต่ละผงใช้แป้งดินสอพองแช่น้ำปลุกเสก3เดือน ปั้นเป็นแท่ง เอาแท่งไปลงยันต์ว่าสูตรสนกลวิธี ลงแล้วลบ ทับถม ไป ลงผงพุทธคุณจบ เอาแท่งผงที่ได้ลบสูตร ผงมหาราชต่อ เลื่อยไป ถึงตรีนิสิงเห ว่าด้วย ปัดอุปสรรคปัดเสนียดจัญไร กันกระทำสะท้อนกลับสิ่งชั่วร้าย (พุทธคุณเหนือคน ๕ สถาน)

    ได้ผงแล้ว เอามาผสม รังผึ้งร้าง รังต่อตาพระพุทธ หมาล่าเดือน5 ชันโรงปากรูดิน ดินทางเสือผ่าน หางนกโพระดก ขนนกยูงรำแพน ทรายทองปากน้ำ หินสะดือทะเล ของวิเศษวิโส จาก เวหา นภากาศ คงคาวารี และบนปฐพี (พุทธคุณเหนือคน 3 ทำเล)

    สร้างสมเด็จเหนือคน รุ่นแรก

    อัญเชิญ พระพุทธเจ้าทรงพระคุณ เหนือ เทวดา มาร พรหม ในหมื่นโลกธาตุ แสนโกฏิจักรวาลพระพุทธเจ้าอยู่เหนือที่สุด เหนือยอดคน

    พญาครุฑ เหนือพื้นแผ่นดิน เสด็จมานภากาศ ครุฑนำทัพ นำชัยชนะ พระนารายณ์ พระราชามหา กษัตริย์จะเสด็จไปไหนๆต้องมีครุฑนำ ครุฑเหนือธนาคาร จะเอาเงินไปเข้า จะเอาเงินออกต้องรอดพญาครุฑ เห็นมั้ยครุฑ อยู่เหนือคน

    ด้านหลังยันต์พระเจ้า๑๖ พระองค์ ยันต์เหนือคน นี่ดีแท้ ๆ

    ใช้พระสมเด็จเหนือคนองค์นี้ พร้อมว่าคาเสกข้าวกินสามคำอยู่ยงคงกระพัน เสกข้าวกินสามคำเป็นเวลา2 ปีกระดูกจะเป็นทองแดง เป็นยอดวิชาชาตรี สิทธิการิยะ พระอาจารย์ แต่งอุปเท่ไว้ให้เป็นแก่สมณะชีพราหมณ์ กุลบุตรทั้งปวง พระองค์นี้เรียกว่า ยอดพระสารพัดกันอันตรายทั้งปวง คุณผีคุณคน ก้างติดคอเสกพระเอาจุ่มน้ำให้กิน พรมข้าวผสมน้ำกินทุกวันอยู่คงแก่อาวุธทั้งปวง

    อยากให้คงถึงบริวารในบ้าน ให้เอา พระองค์นี้ ว่าคาถาปลุก ๑๐๘ ที ใส่ตุ่มข้าวเสกทับอีก ๗ ที จงคนเสียให้ทั่ว หุงกินแล้วคงทนทั้งเรือน ถ้าศัตรูไล่มาให้เอาพระองค์นี้ แขวนกิ่งไม้ขวางทางไว้ ศัตรูจะเห็นเป็นขวากหนามกั้น ทำให้ตามมิทัน ถ้าขโมยเอาของไปจะมิให้มันหนีรอด เอาพระองค์นี้ ทำน้ำมันมนต์ ทาลงไม้กาหลงหรือใบไม้ทั้งปวงก็ได้ แล้วนำไปฝังตรงที่มันขโมยของไปมันจะมิไปไหน เดินวนเวียนอยู่ในที่นั้นเองหาทางออกมิเจอ ถ้าจะให้มันเจ็บเท้า ให้เอาน้ำมันมนต์ทาหนามแหลมแทงรอยตีนมัน จะเป็นที่ส้นหรือกลางตีน มันไปมิได้ ให้เจ็บเหมือนเหยียบขวากหนามแล พระองค์นี้ฝอยนั้นว่ากันว่าท่วมหลังช้าง แล.(จากต้นฉบับตำราเก่า)

    ยันต์พระเจ้า 16 พระองค์

    พระพุทธเจ้า 16 พระองค์นี้ ตามคติโบราณนับถือกันว่า ทรงพระพุทธคุณในการประสิทธิ์ประสาทชัยชนะเหนือศัตรู และมีผู้บัญญัติอักขระย่อแทนพระนาม ผูกเป็นยันต์พระเจ้า 16 พระองค์ เพื่อเป็นการสักการบูชา บูรพาจารย์ในอดีตได้กล่าวยกย่องไว้ว่าเป็นยสุดยอดทางคงกระพันชาตรี
    แม้แต่ลุงอ่ำเมืองเสาไห้ ใช้คาถานี้ยังรอดจากปากไอ้เข้ใหญ่ยาว ๗ศอกได้

    สมเด็จทรงครุฑเหนือคน จึงเอามาให้ พวกแกได้ใช้ติดเนื้อติดตัว แกจะเหนือคน เหนือเขาเหนือกว่าเจ้านาย แกค้าขายก็จะเป็นยอดพ่อค้า ไปรับราชการก็จะได้ราชศักดิ์สโมสร เดินทางจรก็จะสำเร็จประสงค์ ทำงานรับจ้างต่างถิ่นก็จะยิ่งใหญ่มีคนชุบอุปถัมภ์ ไปจีบผู้หญิง เอาดีทางเมตตาปรานีคนก็จะรักแกมากกว่าใคร ผู้หญิงก็จะหลงรักดูแล

    คาถาปลุก พระสมเด็จเหนือคน
    ตั้ง นะโม 3 จบ
    นะมะนะอะ นอกอนะกะ
    กอออนออะ นะอะกะอัง
    อุมิอะมิ มะหิสุตัง
    สุนะพุทธัง สุอะนะอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2025 at 13:14
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5128.jpeg IMG_5129.jpeg IMG_5130.jpeg IMG_5127.jpeg IMG_5131.png

    รายการที่ 507

    พระขุนแผน หลวงพ่อน่วม วัดโพธิ์ศรีเจริญ

    บูชา 600 บาทเลี่ยมพร้อมบูชา เมื่อก่อนพันขึ้น

    พระขุนแผนบ้านกร่าง หลวงพ่อน่วม วัดโพธิ์ศรีเจริญ จ.สุพรรณบุรี รุ่น"นะเศรษฐี มหาสำเร็จ" อายุครบ ๘๘ ปี

    ปลุกเสกไตรมาส๕๑ ปี ๒๕๕๑ เนื้อผงเก่ากรุบ้านกร่าง หลังฝังเหรียญเม็ดแตงหลวงปู่น่วม, ฝังปลากัดเนื้อตะกั่ว, ฝังตะกรุดเงินมนต์เสน่ห์ขุนแผน 2 ดอก, ฝังพลอยโกเมน, โรยผงตะไบพระกริ่ง, ผงแร่เกาะล้าน, ผงแร่ทองธรรมชาติ พุทธคุณเด่นทางเรื่องมหาเสน่ห์กับเพศตรงข้าม เรื่องเมตตามหานิยม เรื่องแคล้วคลาดคงกระพัน เรื่องของโชคลาภ เรื่องการค้าการขาย เรื่องการเจรจางาน พระสวยสภาพสมบูรณ์พร้อมเลี่ยมครับ
     
  11. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5133.jpeg IMG_5134.jpeg เปิดดูไฟล์ 6547651 IMG_5132.jpeg

    รายการที่ 508

    พระกรุวัดบางสะแก

    วัดบางสะแกนอก และ วัดบางสะแกใน ทั้งสองวัดอยู่ใกล้กัน ในแขวงตลาดพลู ฝั่งธนบุรี คนมักสับสนชอบสลับวัดกันอยู่เรื่อยๆ ในอดีตวัดบางสะแกใน มีพระเกจิชื่อดังอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ชื่อ หลวงพ่อเม่ง วัดบางสะแกใน พระเครื่องของท่านมีพุทธคุณโดดเด่นด้านคงกระพัน เป็นที่ร่ำลือกันมาก แต่พระเครื่องของท่านมีน้อยที่ได้รับความนิยมากๆในวงการคือเหรียญปั้มเสมา รุ่นแรกปี2496 และเหรียญกลม ปี 2506 เป็นต้น ซึ่งถ้าเป็นพระแท้สวยๆราคาเป็นหมื่นเหมือนกัน แต่ของแท้หายาก ใครมีก็หวงไม่ค่อยยอมออกตัว ที่เจอขายกันโดยมากเป็นพระแค่เกือบแท้ทั้งน้าน สำหรับวัดบางสะแกนอก ในอดีตเมื่อราวปี 2511 เคยมีพระกรุเนื้อดินพิมพ์ต่างๆแตกกรุออกมา เซียนพระรุ่นเก่าๆต่างยืนยันว่าสร้างมาไม่ต่ำกว่าสมัยรัชกาลที่ 5 แน่นอน เพราะดูจากความเก่า คราบกรุและรารัก พระกรุนี้มีสร้างนับสิบพิมพ์ จำนวนสร้างในสมัยนั้นอาจถึง 84000องค์ เท่าจำนวนพระธรรมขันธ์ ตามคตินิยมของคนโบราณ อย่างไรก็แล้วแต่ พระกรุนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยทั้งในแง่พุทธศิลป์และความเก่าไม่ต่ำกว่าร้อยปี

    บูชา 950 บาท
     
  12. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    ปิดครับ

    IMG_5147.jpeg IMG_5154.jpeg IMG_5153.jpeg IMG_5157.png

    รายการที่ 509


    ลูกอมผงพุทธคุณหลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง มีจาร เลี่ยมเก่า

    ลูกอมผงพุทธคุณเก่าแก่ วัดหูช้าง ถูกค้นพบภายในกุฏิขณะที่ทางวัดทำการย้ายของเพื่อทำการบูรณะ ช่วงเวลาประมาณเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๖ ที่ผ่านมา ลูกอมเก่าแก่ที่ถูกเก็บรักษามาตั้งแต่สมัยหลวงปู่กี๋ เจ้าอาวาสองค์ก่อน หรืออาจจะนานกว่านั้นมาก สืบค้นข้อมูลเบื้องต้นจากคณะศิษย์ วัดหูช้าง หลายท่าน ได้ความตรงกันว่าลูกอมทั้งหมดไม่มีใครกล้าแตะต้อง ถูกเก็บรักษาในบาตรดินจำนวนเต็มบาตรพอดิบพอดี วางไว้ด้านข้างโต๊ะหมู่บูชาเก่าที่หลวงปู่กี๋ท่านใช้เป็นที่เจริญภาวนา สวดมนต์คาถา เป็นประจำ เต็มไปด้วยพระพุทธรูป พระบูชาเก่า และมีแต่ผู้ที่หลวงปู่กี๋ท่านไว้วางใจเท่านั้นที่สามารถเข้าไปยังห้องดังกล่าวได้ ลักษณะทางกายภาพของลูกอมนัั้นมีความแข็ง แกร่ง มากๆ แลคล้ายเนื้อผงพุทธคุณผสมปูนซีเมนต์ เนื้อหาจัดจ้าน เข้มข้นมาก เนื้อแท้ของลูกอมมีโซนเดียวคือ ขาวอมชมพูอ่อนอมเขียวเล็กน้อย ค้นพบทั้งสิ้นสามลักษณะ คือ เนื้อขาวนวล เนื้อคลุมดินสนิมน้ำตาลเข้ม และเนื้อคลุมสนิมสีแดง ลูกอมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโดยประมาณเฉลี่ย 1.7 เซนติเมตร
    การผ่าพิสูจน์เนื้อในลูกอมเก่าชุดนี้มาฝากกัน อะไรที่สงสัยมันต้องค้นหาความจริงครับ ตามสไตล์คน วหช. ภายหลังจากปฏิบัติการทุบเสร็จสิ้นโดยน้าๆ หน้าตู้ พบเนื้อลูกอมเนื้อหาแปลกประหลาดมากเลยนะครับ ลักษณะไม่ใช่หินที่มีเม็ดหรือเกร็ดหินเล็กๆ แทรกตัวอยู่ด้านใน ไม่ใช่ดินที่มีเม็ดกรวดละเอียดแทรกตัวอยู่ พิจารณากันหลายต่อหลายตาแล้วภายในเนื้อลูกอมมีความละเอียดมาก เนื้อผสานกันจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ลูกอมชุดนี้มีทั้งจารด้วยดินสอ จารด้วยหมึกเมจิกสีน้ำเงิน และไม่มีรอยจาร
    ประวัติที่ชัดเจนของลูกอมเก่าชุดนี้จะให้ชี้ชัด ฟันธง ลงไปเลยนั้นเป็นเรื่องยาก เหตุเพราะบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นได้เสียชีวิตเป็นส่วนใหญ่จะมีก็แต่บางคนที่ยังมีชีวิตอยู่ คาดการณ์ว่าลูกอมทั้งหมดที่พบนี้คงจะมาอยู่ที่วัดหูช้างในสมัยของหลวงพ่อจวน เจ้าอาวาสองค์เก่า ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับยอดเกจิแห่งกรุงเก่า หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค โดยที่หลวงพ่อปานท่านได้มาจําวัดที่วัดหูช้างหลายครั้ง หลายโอกาส หนึ่งในครั้งสําคัญ คือ การมาหล่อพระประธาน พระพุทธนิมิตรกิจจานุการ ภายในอุโบสถวัดหูช้าง ลูกอมและบาตรนํ้ามนต์ดินเผาใบที่เห็นนี้จึงสัญนิษฐานว่ามีมาก่อนสมัยหลวงปู่ท่านกี๋ท่าน โดยที่หลวงปู่กี๋ท่านเป็นเจ้าอาวาสในปี พ.ศ.๒๔๙๐ ภายหลังจากการสอบถามบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้ความตรงกันว่า บาตรดินใบนี้ตั้งวางอยู่ภายในห้องมานาน ไม่มีใครกล้าแตะต้อง เพิ่มเติมอีกนิดมีหลายคนถามเข้ามาว่าทําไมของดีเช่นนี้จึงตกทอดมาสู่ปัจจุบันโดยที่ไม่มีการแจกจ่าย เรื่องนี้มีประเด็นน่าคิดอยู่อย่างหนึ่ง ผมเองได้สนทนากับพี่หมูตุ่นในเรื่องนี้พอบอกกล่าวกันคร่าวได้ว่า หลวงปู่กี๋ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีวัตรปฏิบัติที่สมถะ เรียบง่าย และเคร่งขรึม จนหลายคนคิดว่าท่านดุ ประกอบกับหลวงปู่ท่านไม่ค่อยแจกพระให้กับใครง่ายๆ แต่ถ้าผู้นั้นมาช่วยวัด บําเพ็ญประโยชน์ หรือบริจาคเงินเพื่อสร้างวัดท่านจึงจะให้ของดีกลับไปเป็นการตอบแทน ตอนนี้กหลายท่านที่รู้จักได้นําลูกชุดนี้ไปตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ต่างลงความเห็นในทิศทางเดียวกัน และมีชาวบ้านในพื้นที่ที่ทราบข่าวเรื่องลูกอม ได้มาเอาจากวัดไปเป็นจํานวนมากซึ่งแต่ละฝ่ายก็ต่างคิดไปในทางเดียวกันว่าเป็นลูกอมของยอดเกจิแห่งเมืองกรุงเก่า ยุคต้น เป็นเนื้อผงพุทธคุณผสมปูนฯ .....
    แบบมีจารมีน้อยหายากแล้วนะครับ

    บูชา 1,800 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2025 at 13:14
  13. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    ปิดครับ

    IMG_5143.jpeg IMG_5146.jpeg IMG_5144.jpeg IMG_5142.jpeg

    รายการที่ 510

    ลูกอมหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ

    ตัวจริงหายากและนิยมขึ้นเรื่อยๆครับ
    ลูกนี้ใหญ่ เลี่ยมพร้อมบูชา รับประกันแท้สากล

    เจ้าของเดิมเลี่ยมพร้อมเขียนกำกับแปะติดด้านใน

    บูชา 2,500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2025 at 13:06
  14. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5155.jpeg IMG_5156.jpeg IMG_5147.jpeg

    รายการที่ 511

    ลูกแก้ว หลวงพ่อโอภาสี

    บูชา 950 บาท
     
  15. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    ปิดครับ

    IMG_5162.jpeg IMG_5161.jpeg IMG_5163.jpeg IMG_5164.jpeg IMG_5165.jpeg IMG_5166.jpeg

    รายการที่ 512

    ตะกรุดหนังเสือ หลวงพ่อเที่ยง

    ใช้คาดเอว

    บูชา 950 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2025 at 13:19
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5137.jpeg IMG_5138.jpeg IMG_5139.jpeg

    รายการที่ 513

    สีผึ้งพันคาถามหานิยม วัดสุทัศเทพวราราม รุ่น1 ปี2543

    หลวงปู่หมุนปลุกเสก ผสมว่าน 108 ตะกรุดเงิน กลิ่นหอมมากครับ หายาก

    บูชา 1,200บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2025 at 13:23
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    ปิดครับ

    IMG_5170.jpeg IMG_5171.jpeg IMG_5173.jpeg IMG_5174.jpeg IMG_5175.png

    รายการที่ 514

    พระผงพิมพ์ท้าวเวสสุวรรณ หลวงปู่ตี๋ วัดท่ามะกรูด

    ออกวัดเขาเขียว ปี 2515 หลวงพ่อกวยเสก เนื้อผงพุทธคุณ หลังยันต์

    บูชา 1,850 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2025 at 16:14
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5167.jpeg IMG_5168.jpeg IMG_5169.jpeg IMG_5176.jpeg
    IMG_5190.png

    รายการที่ 515

    พระสมเด็จหลวงพ่อโตเนื้อผงพุทธคุณหลังยันต์ดวงแก้วสีวลีโชคลาภ ปี 2513 องค์นี้มีเกศา

    พระรุ่นสร้างพระอุโบสถวัดวังขรณ์((วัดวังขรณ์เป็นวัดที่หลวงพ่อกวยท่านเคยไปจำพรรษาอยู่2 พรรษา)) หลวงพ่อนำมวลสารแหวกม่านไปร่วมสร้าง ถือเป็นของดีราคาเบา แต่หายากแล้วครับ #มีผู้นำไปบูชาแล้วเกิดประสบการณ์ได้รับโชคลาภ เกิดเมตตามหานิยมค้าขายร่ำรวย

    #วาระปลุกเสกมีดังนี้

    ️หลวงพ่อกวยปลุกเสกลงกรุ ปี 2513
    ️เข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ปี 39 วัดโฆสิตาราม
    ️ปี 40 หลวงปู่หมุนเข้าปลุกเสก. พระได้ 3 พิธีใหญ่

    บูชา 2,500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2025 at 14:50
  19. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5179.jpeg IMG_5180.jpeg IMG_5181.png

    รายการที่ 516

    พระยอดขุนพลวัดหลวงปรีชากูล จ.ปราจีนบุรี ปี 2515

    พิธีพุทธาภิเษกพระคณาจารย์ ทั่วราชอาณาจักร 259 รูป อาธิเช่น หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี , หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม

    พระยอดขุนพลวัดหลวงปรีชากูล จ.ปราจีนบุรี สร้างในวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2515(เสาร์ห้า)โดยอาราธนาพระคณาจารย์จากจังหวัดต่างๆทั่วราชอาณาจักร 259 รูป พระคณาจารย์สวดคาถาจุดเทียนชัยและเจริญพุทธมนต์จำนวน 109 รูป เป็นพระเกจิที่มีความเข้มขลังของเืมืองปราจีบุรีและจังหวัดต่างๆ ดังนี้
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ,หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ,หลวงพ่อมิ่ง วัดกก , หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร ,หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร , หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช,หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ , หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์ลพบุรี ,หลวงพ่อจุฬ วัดถ้ำคูหาสวรรค์ , หลวงพ่อโอด วัดจันเสน ,หลวงพ่อปี้ วัดลานหอย , พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น ,หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง , หลวงพ่อสังข์ วัดกันตม ,พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ,หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง ,หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม , หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ,หลวงพ่อถิร วัดป่าเรไร , หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว,หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม ,หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี,หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน , หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม,หลวงพ่อทอง วัดสระแก้ว ฯ ล ฯ
    พระสวดคาถาพุทธาภิเษก-สวดคาถาจักรพรรดิ์ตราธิราชและสวดภาวณา 12 รูป พระคณาจารย์สวดคาถาดับเทียนชัยและเจริญพระ
    พุทธมนต์ฉลอง 29 รูป โดยมีท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพน เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย และฯพณฯจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นประธานจุดเทียนชัยบูชาพระรัตนตรัย ท่านเจ้าคุณพระธรรมรัตนากร วัดมหาธาตุ เป็นประธานดับเทียนชัย ท่านพลตรี ศรีศักดิ์ ธรรนรักษ์ ผู้ว่าราชการปราจีนบุรี เป็นประธานบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระอาจารย์ไสว สุมโน วัดราชนัดดา เป็นเจ้าพิธีฝ่ายสงฆ์ พระราชครูวามเทพมุนี ประธานพราหมณาจารย์แห่งประเทศไทย เป็นเจ้า พิธีฝ่ายพราหมณ์ จึงนับเป็นพิธีมหาพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อประกอบพิธี และมีการฉลองสมโภช 5 วัน 5 คืน สร้างเพื่อหารายได้ สร้างอาคารศูนย์การเรียนการศึกษาคณะสงฆ์ปราจีนบุรี คุณเกษม มงคลเจริญ ช่างสร้างพระเครื่องชั้นหนึ่งของประเทศไทย เป็นผู้ออกแบบพระกริ่งและพระชัยสันติสุข เหรียญพระแก้ว พระผงสันติสุข เหรียญสันติสุข และออกแบบได้อย่างวิจิตรงดงามมาก

    บูชา 900 บาท เลี่ยมมาแบบโบราณๆคลาสสิคครับ
     
  20. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    13,059
    ค่าพลัง:
    +53,079
    IMG_5184.jpeg IMG_5185.jpeg IMG_5186.jpeg IMG_5160.jpeg

    รายการที่ 517

    พระกริ่งมหาเศรษฐีหลวงปู่บุญมา

    เนื้อทองชนวน ตะกรุดทองแดง สร้าง 199 องค์ เลข ๑๕๑

    บูชา 650 บาท

    โลกยุคใหม่เจริญก้าวหน้าขึ้น สิ่งลี้ลับและความอาถรรพ์ต่างๆ ก็เริ่มลดน้อยลง สมัยก่อนพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคมมีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ แต่ละรูปล้วนมีชื่อเสียง สาธุชนคนใจบุญรู้จักกันถ้วนทั่ว และพระเกจิอาจารย์เหล่านั้นก็ล้วนแต่เป็นพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งสิ้น และพระดีนั้นก็ย่อมไม่อวดอ้างคุณความดี ที่สาธุชนชาวพุทธสามารถกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ ทำให้นึกถึงพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งนาม หลวงพ่อบุญมา โชติธมฺโม ที่พักสงฆ์เขาแก้วทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี

    มีผู้ไปพบพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเรืองวิชาอาคมจำพรรษาอยู่ที่พักสงฆ์เขาแก้วทอง ต่างเล่าลือปากต่อปากถึงบารมีหลวงปู่และประสบการณ์เกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงปู่บุญมา แสดงพลังอิทธิปาฏิหาริย์อยู่ยงคงกระพันคุ้มครองลูกศิษย์ที่แขวนวัตถุมงคลของหลวงปู่ อยู่บ่อยครั้งและปรากฏอิทธิปาฏิหาริย์เชิงประจักษ์ให้เห็นอยู่มากมายในสื่อหลายแขนง จนชื่อเสียงของ “พระครูสุนทรโชติธรรม” หรือ “หลวงพ่อบุญมา โชติธมฺโม ค่อย ๆ เริ่มปรากฏและโด่งดังอย่างรวดเร็วเมื่อกาลเวลาผ่านมา

    ย้อนอดีต...ในปีพุทธศักราช ๒๔๘๒ ตรงกับวันอังคารที่ ๗ พฤศจิกายน ปีเถาะ ครอบครัว “เกตุศรี” โดย นายพ่วง และ นางทองคำ เกตุศรี ไผ่เจริญ ได้บุตรคนที่สองของครอบครัว คนแรกเป็นผู้หญิงชื่อ เด็กหญิงเลียบ เกตุศรี คนที่สองตั้งชื่อเรียกขานว่า เด็กชายบุญมา เกตุศรี และหลังจากให้กำเนิดเด็กชายบุญมาแล้ว ปีต่อ ๆ มานางทองคำได้ให้กำเนิดสมาชิกในครอบครัวอีก ๒ คน คือ เด็กชายสุวิทย์ และ เด็กหญิงสมหมาย เกตุศรี รวมลูก ๔ คน สมาชิกทั้งบ้าน ๖ คน

    เด็กชายบุญมาเจริญวัยตามกาลเวลา จวนจบกระทั่งถึงวัยที่จะต้องได้รับการศึกษาเล่าเรียน ผู้เป็นพ่อส่งเด็กชายบุญมาให้ไปอยู่กับ หลวงพ่อเขียน หรือ พระครูประสารวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดบ้านกุง ซึ่งเด็กชายบุญมามีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อเขียน สมัยนั้นหลวงพ่อเขียนเป็นพระเกจิอาจารย์เก่งทางด้านอยู่ยงคงกระพัน

    เด็กชายบุญมาอยู่รับใช้หลวงพ่อเขียน และศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดบ้านกุง จนกระทั่งจบการศึกษาประชาบาลชั้นประถมปีที่ ๓ นายพ่วงผู้เป็นพ่อก็ไปรับตัวกลับให้มาอยู่กับ “หลวงปู่เอี่ยม” พระเกจิอาจารย์ที่มีคนให้ความเคารพนับถือกันมาก ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” หลวงปู่เอี่ยมนั้น มีวิชาอยู่ยงคงกระพันชาตรี หลวงปู่เอี่ยม รับเด็กชายบุญมาไว้เป็นลูกศิษย์แล้วก็ส่งให้เรียนต่อชั้นประถมปีที่ ๔ จนจบพอโตเป็นหนุ่มหลวงปู่เอี่ยมก็สอนวิชาอาคม ให้ร่ำเรียนอักขระวิชาต่าง ๆ ฝึกให้ทำจิตให้เป็นสมาธิ สอนการนั่งวิปัสสนากรรมฐานให้

    นายบุญมาใช้ชีวิตทางโลกอยู่จนกระทั่งอายุ ๒๕ ปี เข้าวัยเบญจเพศจึงหันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เป็นศิษย์พระตถาคตเจริญรอยตามพระพุทธองค์ โกนหัวปวารณาตัวอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดทุ่งแฝก หมู่ ๒ ตำบลกบินทร์บุรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมี พระครูศรีวิเลิศ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สวัสดิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการกรอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า“โชติธมฺโม”

    เมื่อบวชแล้ว ภิกษุหนุ่มนามบุญมาก็ศึกษาพระธรรมวินัย จนสามารถสอบนักธรรมเอกได้ในเวลาต่อมา จังหวะนั้นเองทางวัดบ้านแก่ง ว่างสมภารลง หลวงพ่อใหญ่ก็ได้ให้ หลวงปู่บุญมา มาเป็นสมภารวัดบ้านแก่ง สืบแทนหลวงพ่อทองดีที่มรณภาพ หลวงปู่บุญมา พอมาอยู่วัดบ้านแก่ง ก็ทำนุบำรุงพัฒนาวัดตามแต่อัตภาพ หลวงปู่บุญมา พัฒนาวัดบ้านแก่งมาตลอดจนสามารถสร้างกุฏิ สร้างศาลาการเปรียญ ทำการยกช่อฟ้าอุโบสถผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต และสร้างโบสถ์ใหม่ได้สำเร็จ ในปี ๒๕๓๘ ปัจจุบันท่านได้ย้ายมาจำวัด ที่พักสงฆ์เขาแก้วทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี

    ขณะอยู่วัดหลวงปู่บุญมาก็ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน โดยเฉพาะพระกรรมฐานนั้น หลวงปู่บุญมาให้ความสนใจเป็นพิเศษ ได้รับถ่ายทอดวิชาจากหลวงปู่เอี่ยมนำมาปฏิบัติด้วยตนเองอย่างเคร่งครัด หลวงปู่บุญมาทำกรรมฐานโดยกำหนดเอาแสงสว่างจากเปลวเทียนเป็นหลัก เพ่งกสิณจากเปลวแสงเทียนที่เรียกกันว่า “เตโชกสิณ” คือ การทำสมาธิจิตเพ่งแสงสว่างแห่งเปลวไฟ ภิกษุที่ทำได้ต้องมีสมาธิมั่นตั้งอยู่ในกรรมฐาน กำหนดเอาธาตุทั้ง ๔ อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นมั่นคง แล้วพุ่งกระแสจิตสู่สิ่งที่กำหนดนั้น จนดวงจิตสงบนิ่งบังเกิดความสว่างขึ้นกลางมโนจิต เป็นการบรรลุกำหนดจิตให้เป็นสมาธิอันแน่วนิ่งและมั่นคงได้ จึงจะถือว่าผ่านการทดสอบของการบำเพ็ญพระกรรมฐานและการทำกสิณเตโชธาตุแล้วนั่นเอง

    แม้ว่าท่านจะเป็นเกจิอาจารย์ยุคใหม่ แต่บารมีของท่านได้ประจักษ์แก่ลูกศิษย์ลูกหามากมาย โดดเด่นในด้านแคล้วคลาดคงกระพันชาตรีเป็นที่ประจักษ์โดยทั่ว ว่ากันว่าแขวนวัตถุมงคลของหลวงปู่บุญมาไปด้วยปลอดภัยกันทุกคน หรือแม้ว่าจะต้องมีเหตุด้วยคมหอกคมดาบหรือปืนผ่าหน้าไม้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ได้แค่แผลเลือดออกแค่ยางบอนเท่านั้นเอง ดั่งที่เห็นตามข่าวบ่อยๆ ทั้งเรื่องที่ยิงไม่ออก รถชนแต่ไม่เป็นไร

    ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านราคาขยับตัวไปสูงมากในเวลาอันสั้น และยังขยับขึ้นทุกวัน บางรุ่นกลายเป็นวัตถุมงคลในฝันไปแล้ว ในอนาคตภายหน้าวัตถุมงคลของหลวงปู่จะเป็นที่แสวงหาและเป็นตำนานบทใหม่อีกบทหนึ่งของเมืองปราจีนบุรีแน่นอน

    ผู้เขียนขอกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า "เสื้อเกราะเมืองปราจีนถิ่นหนุมาน" ต้องหลวงปู่บุญมา โชติธัมโม ที่พักสงฆ์เขาแก้วทอง ปราจีนบุรี

    ด้วยความเคารพและศรัทธา

    พงศ์ อิทธิบารมี เรียบเรียง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2025 at 14:24

แชร์หน้านี้

Loading...