ทำอย่างไร จึง "เห็นธรรม"

อ่านภาษาอื่นไม่ออก
อ่านออกแต่ภาษาไทย
ตอบได้อย่างเดียวไม่รู้ครับ

 

หมูไหม้กับ น้อง จขกท. ลองฟังนาทีที่ 24-26 ลพ.ปราโมทย์พูดถึงไตรลักษณญาณขั้นต้น คือบรรลุโสดา

 

กาย= ร่างกายคือตำรา
เวทนา=คือตำราความรู้สึก
จิต=คือพาหนะรองรับสติ
มีหน้าที่สัมผัสรับรู้
ธรรม=ธรรมชาติทั้งปวงคือตำรา
เมื่อสติเข้าไปตั้งในฐานใด
หากไม่รู้จักยกตำราขึ้นมาเปิดอ่าน
ก็เหมือนยืนทับนั่งทับนอนทับเดินทับตำรา
นั่งทับนอนทับยืนทับเดินทับตาราเฉยๆ
ทำอย่างนี้อยู่แสนชาติมันก็ไม่เกิดปัญญา
เพราะไม่รู้จักยกตำราขึ้นมาเปิดอ่าน

 

ก่อน อื่น ท่าน ต้องไปเรียนปริยัติ เอาแต่พอ เข้าใจในศัพย์ก่อน
เวลาคุยกะเขาจะได้เทียบเคียงภาษาได้ลงกันได้ครับ ไร้กรม

 

ต้องถามท่านปราบนางฟ้ากลับไปว่า
ปริยัติมาจากไหนหรือครับ

 

เรื่อง จิตหดหู่หรือจิตงอกลับ นี่ก็ไม่แปลกใจ เพราะปกติจะนึก มรณานุสติควบกับอานาปานสติอยู่บ่อยๆ มาพักหลังก็มาเปลี่ยนเป็น เห็นความสลัดคืนควบอานาปานสติ โดยใช้การนึกน้อมหรืออนุโลมไป ก็ไม่รู้ว่าทำถูกหรือเปล่า

ส่วนเรื่อง อิดหนาระอา ตอนนี้ก็เห็นบ่อยขึ้น ก็อายตนะ 6 นี่ จะห้ามไม่ให้มัน ไปรู้ ไปเห็น ไปปรุง ไปแต่ง ก็ไม่ได้ มันก็เลยหดหู่เป็นส่วนมาก ไปสนทนาธรรมกับใครเขา มันเห็นโทสะชัดมาก ออกไปเกือบจะทุกคำที่พิมพ์ออกไป เห็นแล้วก็ไม่อยากจะคุยกับใครเลย มันเหมือนเอากองไฟไปสาดใส่เขา ก็ต้องพยายามควบคุมให้มันเพลาลง ให้เป็นอุเบกขาส่วนมาก เราพิมพ์เราตอบอะไรใครไป ก็ไปอ่านทบทวนดู มันก็เข้าใจมากขึ้น ปล่อยวางได้มากขึ้น

ส่วนเรื่องการรื้อค้นนี่ ช่วยแนะนำได้ไหมครับว่า ควรจะรื้อค้นส่วนไหน

 

คุยกะไร้กรม นี่มึน
พระไตรปิฎกไง ไม่ต้องตอบกลับหรอกนะว่ามาจากการปฏิบัติ

สามผ่านเลย

 

แรงดึงดูดของสัตว์โลกงัยคร้า
กิน กาม เกียรติ
เลิกมีเกียรติกันเถอะ

555

 

ใช่ฮับ.... อย่างหลวงพ่อปราโมทย์ท่านเทศน์
ตอนบรรลุธรรม... ยังไงต้องเกิด
ตอนที่จิตสรุปทุกสรรพสิ่ง ทั้งโลกทั้งจักวาล
มีสภาพเดียวกันนี้...
แต่คนที่ไม่เคยเกิด...พอฟังแบบนี้จะหาว่า
คิดไปเองมั่ง ...อุปาทานแดกมั่ง
.... ทั้งที่ยังไม่เคยรู้ว่าจริงๆเป็นไง...
ก็สรุปกันไปเองฮับ...

 

ช่ายครับไหนๆต้องเกิดละเอาให้มันเท่ห์ๆหน่อยเนาะผมว่า

 

แป่ว รื้อค้น ที่เข้าเป้า ถามเอา
จาก พุกกะพุง ก้ อาตาเล่อจุ่น จิฮับ

ต้อง หาต่อจาก กัลยาณธรรม

แต่ ตอนไปต่อ ความที พุกกะพุง
จะมีพุงล้ำหน้า ก้ จะฟังคลาดไปอีก

จีจี ป๋มว่า คุงกุงส์ น่าจะยกแว้ว

แต่ไปเผลอใข้ ไม่ใข่ เหน

ก้คือ อุเบกขา ตอนที่มา
หลัง ทิฏฐิมานะ กรุณา

อย่าไปเชื่อมัน ยกมันเปน
สิ่งใดสิ่งหนึ่ง รวบยอดเปน
กำ ตั้งมั่น อทุขมสุข ลงไตรลักษณ์
แล้ว โน้มไป นั่นสงบ อย่าให้
ผลิกเปนนั่นปราณีต แลเห็น
ได้ยากส์ แล้วเผลอค้นคว้า....... พรึ๊บ!!!

เชือกร้องเท้าไม่แน่น ตัวใครตัวมัน

 

อ้าว นี่ ยังมีไร้กรม รึนี่

เข้าจายผิด คิดว่า บระสีมหาไช

 

ฮุปปลาทานแหลก มะ แหลก
มันมี วิธีดู

รอยเท้านกในอากาส ไม่มีทาง
ซ้อนทางกัน เปน อฐานะ

พวกก๊อปปี้ มะมีธรรมจริง

ก้เปนได้แค่ ตุตาเสียกะบาน
ด้นเด้า เกาหมัด สร้างบทบาท
โวหารเพื่อหลอกตัวเองก่อน
อันดับแรก

เอ่อ ถ้าเกิดว่า

เปิดประโยตมา ขึ้นว่า

รูป 12:00 13:00
สัญญา 12:00 13:00
......

อะไรแบบนี้ ค่อยมีรสชาติ
รอยเท้านกในอากาส ไม่ซ้อน
ทางกันแม้นแต่นิดเดีบว

ฮะเอ่อ งง เต็ก

 

ได้แว้ว...

ไม่จำเปนต้องจบในรุ่นเรา

พระศาสดา ทรงมีปรกติ ไม่ห้ามศาสดาอื่น

...ต๊อก...จ๊อก..ต็อก...

จะรีบไปไหนๆ

ใช้ หมอง กวนกะทิ

วนไป

 

ไม้เข้าใจตัวปัญญาที่ ลพ.ป อธิบายอ่ะดิ
พยามฝึกต่อไปนะ เผื่อชาตินี้จะมีวาสนาเจอกับเขามั่ง พวกนี้เกิดเร็วมาก เคยขึ้นเครื่องแล้วเห็นความไวของฟ้าแล็บเป็นเส้นๆ ที่แล็บแป๊บเดียวแล้วหายตัวป่ะ เร็วยังงั้นเลย

ถ้าสันตติที่จิตตัดออกให้ขาดจากกัน สัญญาจะยังไม่เข้ามาแปรค่าผลนั้น หยุดแป๊บนึงก่อน ถ้าสันตติไม่ตัดสัญญาจะเข้ามาแปรค่าผลทันที พวกนี้อยู่ในกลุ่มของปหานปริญญา

เห็นพวกลุงชอบว่าพวกนี้วิปลาสมั่ง มโนแดร๊กคูล่ามั่ง สัญญาเสียมั่ง... จริงๆ หวีว่าน่าจะเป็นพวกลุงมากกว่านะได้ตำแหน่งพวกนี้

ยังไงก้อพยามเข้านะ เผื่อจะเจอตัวปัญญากับเขามั่ง ชาตินี้จะได้ไม่ตายเปล่า ไม่เสียเวลาฟรีไปอีกชาติ อะครึ อะครึ

 

โดนย้ายทู้มาจักรวาลคู่ขนานซะงั้น

 

คือยังไงหรอครับ มันจะจบในชาตินี้ไหม ผมไม่อยากเดินทางไกลนะ แค่นี้ก็ทุกข์แย่แล้ว

เห็นจิตผู้รู้ไม่เที่ยง ก็คือ ภาวะยิบยับกลางอก นี่เห็นมาตั้งแต่สมัยอยู่ pantip และคุยกับท่าน 563 แล้ว ตอนนี้มันก็มีบ้างไม่มีบ้าง นานๆมีที เวลามีมาก็นั่งพิจารณาและดูความยินดียินร้าย ก็เห็นว่าเป็นอุเบกขาทั้งก่อนและหลัง บางทีก็มีไปยิบยับตรงอื่นเหมือนกัน ไม่รู้ว่าใช่หรือเป็นสภาวะหลอกหรือเปล่า อะไรมีขึ้นมาในกายใจ ก็จะพิจารณาลงไตรลักษณ์ไปเรื่อย

เวลาปฏิบัติส่วนใหญ่ก็อาศัยหาฟังเอาและนำมาปฏิบัติิ ไม่เคยไปกราบพระที่ไหนเลย โดยเฉพาะช่วงนี้ยิ่งลำบากเข้าไปอีก อาจารย์คนแรกก็คือ พระอาจารย์ปราโมทย์ ที่ปฏิบัติไปจน........หมุนขึ้นมา

 

ถ้า .... หมุน อันนี้ก้ ควร ทำสมถะ บ้าง

พระท่านอาจจะกล่าวว่า ไม่ต้อง
ไปดูมันหมุน กรณีที่ เผลอมุ่งเอา
อามิสจากการเหนมันหมุน

เมื่ออบนมจิตดีแล้ว ไม่เกิเดปัญหา
ก้ควร หมุนให้ได้ทุกจังหวะชีวิต
หากสถานการิำนวย เช่น อยู่ในรถ
เมล เรือเมล เมโท กรำกรวด ซึ่ง
ก้จะเกิดไซทเอฟเฟต เหินฟ้า ดำดิน
ไปดูสมบัติผู้อื่น เคาะประตูสิลาแม้น
ไม่ให้เข้า ก้ต้องไปบ้าง

สาย สวนสือเลิกกิจการ ออกแนว
อเนญชา ถ้าฝึกดีๆ ก้ไม่ต้องเสียค่า
รถตู้ ก้ยังไปหาได้ แต่ใช่หรือเปล่า
ก้ต้องแยกแยะอีกที แต่ถ้าต่อยอด
ได้ก้ดีกว่า ไม่ได้ฝึดแจงแวงฟ้าแจ้ง
แจงแวงแต่งชุดแรงออกปพบแพลงเพลง..

สมถะกองอื่น หากตล่องตัว ก้ต้อง
น้อมไปในญานทัสนะ ให้สำเระ
เจโตวิมุตตผลสมถะกองนั้นๆ ให้หมด

เพราะ มันมีความเปนไปได้ มี่ไม่ผ่าน
เพราะยังไม่ได้บีบมะนาวใส่ปาก
ก้จะทำให้ ภาวนาไม่ผ่าน ซึ่งเกิด
จากฉันทะในการก่อนๆ ที่อาจ
เคยเที่ยวดูละครแสมขาวสำนัก
โน้ยสำนักนี้มา พอบีบมะนาว
ใส่แล้วจืดดังติดโควิดแล้ว ฉะนั้น
ก้จะเหน ฉันทะดับ เปนกรณีไป

อย่างไรก้ดี ยิบยับ สำคัญสุด
พระท่านจะกล่าวว่า แจร๋นแปร๋น
ปัญญาสำคัญกว่า อันนี้กรณี
ชาตินี้ ลพ ดูหน้าตาแล้วไม่ผ่านแน่ๆ

ส่วนที่ เขียนว่า ศาสดามีปรกติไม่
หวงศาสดาอื่น ตรงนี้เพื่อให้ถอย
จากเมตตา กรุณา ถ้า เจตสิกสอง
ตัวนี้ไม่เคบยดับให้ดู ก้จะเปนอวิชชา
ที่ขวาง สัทธาเจตสิก สำหรับทาง
แยกขึ้นเรือ ข่ามฝั่ง หากว่าจะกล่าว
คำลา ไม่กลับคำเสียล่า เฮัดดีให้ได
เฮดดรให้ได ก้จะหัวซา...