ทำอย่างไร จึง "เห็นธรรม"

ดูหนังหน้าผมด้วยใครจะเอา555

 

หลวงปู่พุธ ท่านใช้คำง่ายดีครับ

"ภาวนาไม่เป็นแต่อยากเป็นอาจารย์สอน"

ถ้าคนภาวนาเป็น จะรู้พื้นจิตอันเตวาสิกเคร่าๆ
เช่น
ถ้าพื้นจิตคนไหน พอดี ก็จะให้รุ้แต่ลมเข้าลมออก
ถ้าพื้นจิตคนไหน หยาบขึ้นมาหน่อย ก็จะบริกรรมควบเข้าไป
ถ้าหยาบยิ่งไปกว่านั้นอีก ก้จะเพิ่มการนับตัวเลขเข้าไป

ฉะนั้นแล้ว ทิฐิหลักๆ ของ เวไนย์สัตว์ จะมีอยู่ 2
ตันหาจริต พวก ปัญญาอ่อน
กับ
ทิฐิจริต พวก ปัญญากล้า

ฉะนั้นแล้ว ในสติปัฏฐาน จึงแยกย่อยไว้ให้อีก 21 วิธี ใน4 ฐาน

พอมาตำราชั้นหลัง จะเพิ่ม จริต การทำสมถะเข้ามาอีก 20 กอง

ซึ่งสมถะ 40 กอง ก็ล้วนแล้วแต่ส่งเสริม พวกปัญญาอ่อน
แต่ก็มีมากกว่า 1 กอง ของปัญญากล้าด้วย
พอมี ตำราชั้นหลังนี้

ลุกเศษ ที่ภาวนาไม่ถึงจุดนัดพบ
ก้ สาละวนกะการเหยียด สมถะ หรือ เหยียด วิปัสนา

พวกเหยียด สมถะ ก็จะ สมถะไม่เกิดปัญญา ตัวแข็ง
พวกเหยียด วิปัสนา ก็จะบอกว่า
สมาธิไม่มีจะเอาปัญญามาจากไหน ตะครุบแต่เงาของจิต

แต่ถ้า ถึงจุดนัดพบ ลงกันได้

 

ต้องป้ายแขวนคอโชว์ศีลด้วยปะกฏไม่รู้ดันบอกรู้จักธรรมขำ

 

ถ้ายังไม่รู้แน่ชัดว่ารักษาศีลกี่ข้อ
ก็ตัดสินไม่ได้ครับ

 

อ่อน

เวลาใครมา ขอดู จำนวนข้อศีล ก็เอาป้ายมาแขวนสิ

แล้วก็หัดพูด

" ครับคุณพ่อตา "

 

ไม่เคยตัดสินใครหลอกไม่ใช้หน้าทีผมแค่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

 

ถามตูรยังตูรเอาหรือป่าว

 

เออ เออ

อ่อน น้อม ถ่อม ตน ถูกทางแระ

แต่เพิ่ม หางเสียง นิดนุง

" ครัฟ พ่อตาข๋ราาาาาาาา "

เหมายกครัว ไม่เว้นไปเลย

 

ศีลเป็นตัวตัดสินในตัวอยู่แล้ว
ไม่ต้องมีใครไปตัดสินครับ

 

เมา037ต้องแบบนี้

 

เพราะต้องเรียนรู้วิชาต่างๆให้ครบก่อนหรือปล่าว ถึงจะปล่อยความยึดมั่นสังโยชน์ไปเรื่อยๆได้

แต่ก็มีพระสูตรมากมาย ที่แสดงให้เห็นว่า บางครั้งแค่ฟังธรรม หัวข้อเดียว ก็สามารถรู้ธรรมขั้นต่างๆได้เลย แบบนี้ หมายถึงว่า ผู้แสดงธรรมสามารถรู้ได้ว่า ผู้ฟังยังไม่รู้ในหัวข้อใดหรือปล่าว

ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเพราะเหตุใดจริงๆ แต่ก็อ่านพระไตรฯไปเรื่อยๆ เก็บความรู้ไปทีละนิด
ให้คิดเอง คงต้องอยู่ไปตลอดแน่

 

รู้อริสัจตามความเป็นจริง
วิธีรู้ก็นั่นละ หัวข้อที่มีผู้ถามวันนี้

 

การวางจิตให้เป็นสัมมาทิฐิ ซื่อตรงต่อธรรมก็ถูก ถ้าว่างๆก็นั่งฟังธรรมไปเรื่อยๆได้ แต่ถ้าไล่ทิฐิทีละหัวข้อ ยิบย่อยจะเยอะมาก ขนาดผมยังจำไม่ไหว ต้องเป็นผู้ทรงสุตตะมากถึงจะแจกแจงได้

สรุปรวมลงแค่ อริยะสัจ

 

อัครสาวก หรือ แม้แต่สาวกธรรมดา ก็มีมิจจฉาทิฐิมาก่อน เห็นได้จากเคยเป็นศิษย์ดาบถต่างๆ ที่มิจฉาทิฐิไปคนทางตามแต่ละจริตของสำนัก เพียงแต่เมื่อมาจากศาสดา ก็ผั๊ว เพราะรู้ชัดตามความเป็นจริง ยกเครดิตให้กระทู้ข้างๆ
อนุปุพพีกถา(โหมดเข้าสู่อริยะสัจ การวางจิต)

 

ก็เลยเพราะพอจะจำแนกแจกแจงได้ว่า การวางจิตในเชิงสุญญตา(ซึ่งศาสดาแจกแจงได้เป็นเลิศแค่เพียงผู้เดียว)
หรือจะฟังธรรมแค่เอาเพลิน นิทานอภิญญาเรื่องเล่า

มันคนละกลุ่มเป้า target ทางการตลาด คุณละเป็นลูกค้ากลุ่มไหน?

 

หมาน้อยกลอยใจ

 

การ้อง ได้แต่ ร้อง หา อีทีเรี่ยม

 

เดียวเจอหมาเห่าใบตองแห้ง555

 

" สลึง ต่อ กิโล "

BTS MRT มะ อึง ตัย !!!