@ คชสีห์/เทพพระพิฆเนศ อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ งาแกะ เรื่มเปิดที่เบาๆ @

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย พลังชาตรี 13, 7 พฤศจิกายน 2010.

  1. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    [​IMG]


    ประวัติหลวงพ่อตัด ปวโร "พระพุทธวิริยากร" วัดชายนา

    พระพุทธวิริยากร หรือ หลวงพ่อตัด ปวโร เป็นเจ้าอาวาส วัดชายนา หมู่ที่ 2 บ้านใน ต.หนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

    หลวงพ่อตัด วัดชายนา อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี อายุ 78 ปี พรรษา 58 ท่านโด่งดังมานานไม่ว่าจะเป็น ตะกรุดหลวงพ่อตัด หรือปลัดขิกหลวงพ่อตัด ท่านเป็นพระที่ชอบเรียนวิชาอาคมมาก สนใจตั้งแต่ยังหนุ่ม ท่านบอกว่า "สมัยก่อน ปี 2496 เอาหมด เอาทุกอย่างที่ไหนเขาว่าดีไปหมด ในกระจิวนี้ไปขอเรียนมาหมด..." พูดง่ายๆว่าตำราเก่าๆในจังหวัดเพชรบุรีนี้ท่านเรียนมาหมด

    หลวงพ่อตัด ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะวัตถุมงคล ตะกรุดเนื้อตะกั่ว ที่มากด้วยพุทธคุณและประสบการณ์

    หลวงพ่อตัด ปวโร เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดเพชรบุรี มีประชาชนให้ความเคารพนับถือมาก แต่ด้วยความที่ท่านไม่เคยอวดตัว ไม่ยอมให้สัมภาษณ์หรือนำเสนอเรื่องราวประวัติของท่านหรือวัตถุมงคลไปลง หนังสือหรือรายการโทรทัศน์ใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ไม่สามารถสืบค้นประวัติในช่วงวัยเยาว์ได้อย่างละเอียด ทราบแต่เพียงว่าตาม ประวัติหลวงพ่อตัด ท่านบวชมาตั้งแต่เป็นสามเณร จนกระทั่งอุปสมบท

    หลังอุปสมบทได้ฝึกปฏิบัติธรรม และได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคม กล่าวได้ว่าตำราเก่าๆ ในจังหวัดเพชรบุรี ท่านศึกษาผ่านตาทั้งสิ้น เช่น เรียนวิชาการทำตะกรุด จากหลวงพ่อทอง วัดเขากระจิว และเรียนตำราของหลวงพ่อกริช ที่ตกทอดมาซึ่งเป็นพระยุคเก่าเป็นอาจารย์สายหลวงพ่อกุน วัดพระนอน เรียนทำปลัดขิก ซึ่งเป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง จากหลวงพ่อชุ่ม วัดกุฏิบางเค็ม ซึ่งมีเคล็ดลับว่า "ให้ใช้ไม้ผูกคอตาย ทำถึงจะดี" และท่านยังได้เดินทางไปต่อวิชากับหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง รวมทั้งอีกหลายอาจารย์ ท่านเป็นพระที่ใฝ่หาความรู้วิชาอาคมต่างๆ อย่างจริงจัง

    หลวงพ่อตัด เป็นคนพูดตรงๆ เหมือนคนไทยสมัยก่อน ผู้ที่เคยเข้าไปหาหลวงพ่อครั้งแรกจะตกใจ เนื่องจากหลวงพ่อเป็นคนพูดตรง ทำให้มองภาพลักษณ์ท่านเป็นคนดุ แต่ใจดี พูดคำไหนคำนั้น ไม่ชอบคนเซ้าซี้วกวน อยากได้อะไรบอกท่านไปตรงๆ ได้ คือได้ ไม่ได้ คือ ไม่ได้

    หลวงพ่อตัด ท่านไม่ใช่พระพูดหวานหู แต่ค่อนข้างโผงผาง ออกจะเหมือนเล่นตัว แต่ถ้าคุ้นเคยจะทราบดีว่าท่านใจดี คุยได้ทุกเรื่อง แต่อย่าคุยเรื่องของที่ท่านทำว่าวิเศษอย่างไร ดีอย่างไร ท่านไม่ตอบ หลวงพ่อตัด ท่านมักจะพูดแต่ว่า "มาทำไม กูไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร พระบ้านนอก ไม่มีอะไร"

    ครั้งหนึ่ง มีลูกศิษย์จากกรุงเทพฯ เดินทางไปหาท่าน เข้าไปกราบ ท่านถามว่า "มาจากไหน" ลูกศิษย์ บอกว่า "มาจากกรุงเทพฯ จะมากราบท่าน" หลวงพ่อตัดท่านตอบไปว่า "ที่กรุงเทพฯ ไม่มีพระหรือวะ ถึงมาถึงนี่ กราบทำไม กูไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร"

    บางครั้งก็มีลูกศิษย์ให้ท่านช่วยรดน้ำมนต์ให้ "หลวงพ่อช่วยรดน้ำมนต์ให้หน่อย" หลวงพ่อตัด บอกทันทีว่า "รดทำไม พื้นเปียกหมด" แต่สุดท้าย ท่านก็รดน้ำมนต์ให้

    ดังมีแม่ค้าจำนวนมากมาหาหลวงพ่อตัด เพื่อขอ วัตถุมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนาไปเก็บไว้เพื่อให้ค้าขายดี หลวงพ่อตัด กลับบอกว่า "กูไม่มี ถ้าต้องการขายดี ก็ต้องขายให้ราคาถูก" ท่านจะพูดในทำนองนี้

    แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะโดนหลวงพ่อดุ แต่คนเหล่านั้น ล้วนต้องกลับมาหาหลวงพ่ออีก เพราะหลวงพ่อใจดี ถึงบางครั้งจะพูดจาดุด่าบ้าง แต่ก็เป็นการพูดตักเตือนตามความเป็นจริง


    หลวงพ่อตัด ปวโร วัดชายนา จ.เพชรบุรี

    สำหรับวัตถุมงคล พระเครื่องหลวงพ่อตัด วัดชายนา มีชื่อเสียงด้านเมตตามหานิยม วัตถุมงคลที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ตะกรุดและปลัดขิกผูกคอตาย โดยเฉพาะ ตะกรุดหลวงพ่อตัด วัดชายนา จะโด่งดังมากในทางคงกระพันชาตรี ส่วนปลัดขิกหลวงพ่อตัด ก็ไม่ธรรมดาเมตามหาเสน่ห์ดีเยี่ยม ทำให้หลวงพ่อมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย

    เคยมีลูกศิษย์เรียนถามท่านว่า "ตะกรุดหลวงพ่อตัด มีข้อห้ามอะไรบ้าง"

    ท่านบอกว่า "พ่อแม่ คือ พระ อย่าด่าว่าพ่อแม่ ทั้งของเราแล้วของคนอื่นเค้า ถือศีล 5 ไว้ ของจะดีเพราะคนมันดี"

    ลูกศิษย์เรียนถามท่านว่าแขวน ตะกรุดหลวงพ่อตัด "ลอดราวผ้า เสื่อมหรือเปล่า" ท่านบอกว่า "ตะกั่วมันก็เป็นตะกั่ว ตะกรุดก็คือตะกรุด ไม่มีเสื่อม ไม่ได้ห้าม ของดีอยู่ที่ใจคนใช้มันดี ใจมันไม่ดี ของก็ไม่ดี"

    ผู้ที่เลื่อมใสท่าน เข้าไปหาท่านที่วัดชายนา ท่านจะนำตะกรุดมาแจกทั้งสิ้น ถ้าท่านไม่อยู่ จะมีลูกศิษย์คอยนั่งแจกทั้งวัน ในส่วนวัตถุมงคลที่อยู่ในตู้ให้ทำบุญ หลวงพ่อจะสร้างวัตถุมงคล เพื่อนำปัจจัยที่ได้มาซ่อมแซมบูรณะโบสถ์ ซึ่งมีพระกริ่ง พระผง รูปเหมือนและเหรียญ มีประชาชนไปบูชาทำบุญกับท่านไม่ได้ขาด แต่พอปัจจัยที่ได้ในการบูรณะโบสถ์เพียงพอแล้ว หลวงพ่อท่านจะสั่งปิดตู้งดบูชาทันที

    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551 เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา หลวงพ่อตัด ได้รับโปรดเกล้าฯพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์จาก พระครูบวรกิจโกศล เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระพุทธวิริยากร

    แม้ด้วยวัยใกล้ 80 ปีแล้ว แต่หลวงพ่อตัด มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่ทว่าในช่วงเช้าวันที่ 3 พฤษภาคม 2552 หลวงพ่อได้ออกเดินตรวจความเรียบร้อยรอบวัดเหมือนปกติ กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. พระในวัดได้ยินหลวงพ่อบอกว่าแน่นหน้าอก จุกแน่นตั้งแต่ช่วงท้องไปจนถึงหน้าอก หายใจไม่ออก

    คณะลูกศิษย์ จึงได้นำหลวงพ่อตัดไปโรงพยาบาลท่ายาง อ.ท่ายาง แต่ไม่ทันการณ์ ด้วยหลวงพ่อตัด สิ้นลมหายใจและมรณภาพลง ในเวลา 07.37 น. คณะแพทย์ระบุเบื้องต้นเกิดจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน


    หลวงพ่อตัด วัดชายนา มรณภาพแล้ว

    วงการพระเครื่องวัตถุมงคลและพุทธศาสนิกชนเมืองเพชรบุรี ได้ถึงวาระกาลสูญเสียพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูป ด้วย "หลวงพ่อตัด ปวโร" แห่งวัดชายนา จ.เพชรบุรี มรณภาพลง ในวัย 78 ปี พรรษา 58 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2552

    หลังจากเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกอย่างกะทันหัน พระลูกวัดและคณะศิษย์ รีบนำเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลท่ายาง แต่ไม่ทันการณ์ หลวงพ่อตัดได้มรณภาพลงระหว่างทาง

    คณะแพทย์ลงความเห็นว่า หลวงพ่อตัด วัดชายนา มรณภาพแล้ว ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว และได้นำศพหลวงพ่อตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดชายนา สร้างความเศร้าสลดอาลัยเป็นอย่างยิ่ง

    เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.00 น. คณะกรรมการวัด ได้เคลื่อนย้ายศพ พระพุทธวิริยากร หรือหลวงพ่อตัด ตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาการเปรียญของวัด เพื่อประกอบพิธีรดน้ำศพหลวงพ่อ โดยมีพระเถรานุเถระและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด เดินทางมาร่วมรดน้ำศพเป็นจำนวนมาก

    ส่วนเวลา 17.00 น. นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ

    นอกจากนี้ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ได้เขียนห้ามมิให้นำร่างออกหาทุน มีข้อความว่า "ศพของเรา ห้ามฎีกา ออกหาทุน เกณฑ์ชาวบ้าน มารวมหุ้น ให้วุ่นวาย มีเท่าไร ทำเท่านั้น ตามสบาย ไม่มีข้อควรละอายอย่างไร"

    สำหรับศพหลวงพ่อตัด ตั้งสวดพระอภิธรรมศพเพียงแค่ 7 วัน ตามความประสงค์ของหลวงพ่อตัด ที่ได้สั่งเสียไว้ก่อนมรณภาพ ทั้งนี้ จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพไปจนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2552 และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ เวลา 16.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม 2552

    เปิดประมูลตะกรุดหลวงพ่อตัด วัดชายนา

    รายการที่ 1.

    ตะกรุดชุดกรรมการหายากสุดๆ 26 โค๊ด ความยาว 4 นิ้ว ประสบการณ์ลือลั่นทั่วเมืองเพชร และมีหลายท่านนำไปทดสอบยิงไม่ออกครับ เป๊นตะกรุด ยันต์ ตรีนิสิงเห
    (ขอบพระคุณท่าน ซักวันจะคิดออก) ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ

    เปิดประมูลเริ่มแรกที่ 1013 บาท (ต่ำกว่าเล่นหามากครับ)

    บิดขึ้นครั้งละเท่าไรก็ได้ครับ

    ปิดประมูลวันเสาร์ที่ 5 ก.พ 54 เวลา 21.00 น.


    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2011
  2. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    รายการที่ 2. นะครับ

    รายการที่ 2.

    ตะกรุดหลวงพ่อตัด ตะกั่ว 5 นิ้ว วซน. ยอดประสบการณ์ หายากมาก

    เปิดประมูลที่ 1013 บาท

    บิดขึ้นเท่าไรก็ได้แล้วใจชอบครับ

    ปิดประมูลวันเสาร์ที่ 5/02/54 เวลา 21.13 น.

    หายากทั้ง 2 รายการไม่ควรพลาด



    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2011
  3. ongvip

    ongvip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +2,216

    1313...............................................
     
  4. ซักวันจะคิดออก

    ซักวันจะคิดออก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,556
    ค่าพลัง:
    +6,330

    ดอกนี้คือ ตรีนิสิงเห ครับ

    พุทธคุณครอบจักรวาล

    ทั้งกันไสย กันผี อีกทั้งยัง หนุนดวง หนุนชะตา อีกด้วย
     
  5. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ขอบพระคุณคุณ อ๋อง ที่เปิดหัวรายการที่ 1. ให้ครับ ขอบคุณๆๆๆๆ

    ขอบพระคุณท่าน ซักจะคิดออก ที่กรุณาให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ ขอบคุณๆๆๆๆ
     
  6. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    [​IMG]


    ประวัติหลวงพ่อตัด ปวโร "พระพุทธวิริยากร" วัดชายนา

    พระพุทธวิริยากร หรือ หลวงพ่อตัด ปวโร เป็นเจ้าอาวาส วัดชายนา หมู่ที่ 2 บ้านใน ต.หนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี

    หลวงพ่อตัด วัดชายนา อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี อายุ 78 ปี พรรษา 58 ท่านโด่งดังมานานไม่ว่าจะเป็น ตะกรุดหลวงพ่อตัด หรือปลัดขิกหลวงพ่อตัด ท่านเป็นพระที่ชอบเรียนวิชาอาคมมาก สนใจตั้งแต่ยังหนุ่ม ท่านบอกว่า "สมัยก่อน ปี 2496 เอาหมด เอาทุกอย่างที่ไหนเขาว่าดีไปหมด ในกระจิวนี้ไปขอเรียนมาหมด..." พูดง่ายๆว่าตำราเก่าๆในจังหวัดเพชรบุรีนี้ท่านเรียนมาหมด

    หลวงพ่อตัด ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะวัตถุมงคล ตะกรุดเนื้อตะกั่ว ที่มากด้วยพุทธคุณและประสบการณ์

    หลวงพ่อตัด ปวโร เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดเพชรบุรี มีประชาชนให้ความเคารพนับถือมาก แต่ด้วยความที่ท่านไม่เคยอวดตัว ไม่ยอมให้สัมภาษณ์หรือนำเสนอเรื่องราวประวัติของท่านหรือวัตถุมงคลไปลง หนังสือหรือรายการโทรทัศน์ใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ไม่สามารถสืบค้นประวัติในช่วงวัยเยาว์ได้อย่างละเอียด ทราบแต่เพียงว่าตาม ประวัติหลวงพ่อตัด ท่านบวชมาตั้งแต่เป็นสามเณร จนกระทั่งอุปสมบท

    หลังอุปสมบทได้ฝึกปฏิบัติธรรม และได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคม กล่าวได้ว่าตำราเก่าๆ ในจังหวัดเพชรบุรี ท่านศึกษาผ่านตาทั้งสิ้น เช่น เรียนวิชาการทำตะกรุด จากหลวงพ่อทอง วัดเขากระจิว และเรียนตำราของหลวงพ่อกริช ที่ตกทอดมาซึ่งเป็นพระยุคเก่าเป็นอาจารย์สายหลวงพ่อกุน วัดพระนอน เรียนทำปลัดขิก ซึ่งเป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง จากหลวงพ่อชุ่ม วัดกุฏิบางเค็ม ซึ่งมีเคล็ดลับว่า "ให้ใช้ไม้ผูกคอตาย ทำถึงจะดี" และท่านยังได้เดินทางไปต่อวิชากับหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง รวมทั้งอีกหลายอาจารย์ ท่านเป็นพระที่ใฝ่หาความรู้วิชาอาคมต่างๆ อย่างจริงจัง

    หลวงพ่อตัด เป็นคนพูดตรงๆ เหมือนคนไทยสมัยก่อน ผู้ที่เคยเข้าไปหาหลวงพ่อครั้งแรกจะตกใจ เนื่องจากหลวงพ่อเป็นคนพูดตรง ทำให้มองภาพลักษณ์ท่านเป็นคนดุ แต่ใจดี พูดคำไหนคำนั้น ไม่ชอบคนเซ้าซี้วกวน อยากได้อะไรบอกท่านไปตรงๆ ได้ คือได้ ไม่ได้ คือ ไม่ได้

    หลวงพ่อตัด ท่านไม่ใช่พระพูดหวานหู แต่ค่อนข้างโผงผาง ออกจะเหมือนเล่นตัว แต่ถ้าคุ้นเคยจะทราบดีว่าท่านใจดี คุยได้ทุกเรื่อง แต่อย่าคุยเรื่องของที่ท่านทำว่าวิเศษอย่างไร ดีอย่างไร ท่านไม่ตอบ หลวงพ่อตัด ท่านมักจะพูดแต่ว่า "มาทำไม กูไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร พระบ้านนอก ไม่มีอะไร"

    ครั้งหนึ่ง มีลูกศิษย์จากกรุงเทพฯ เดินทางไปหาท่าน เข้าไปกราบ ท่านถามว่า "มาจากไหน" ลูกศิษย์ บอกว่า "มาจากกรุงเทพฯ จะมากราบท่าน" หลวงพ่อตัดท่านตอบไปว่า "ที่กรุงเทพฯ ไม่มีพระหรือวะ ถึงมาถึงนี่ กราบทำไม กูไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร"

    บางครั้งก็มีลูกศิษย์ให้ท่านช่วยรดน้ำมนต์ให้ "หลวงพ่อช่วยรดน้ำมนต์ให้หน่อย" หลวงพ่อตัด บอกทันทีว่า "รดทำไม พื้นเปียกหมด" แต่สุดท้าย ท่านก็รดน้ำมนต์ให้

    ดังมีแม่ค้าจำนวนมากมาหาหลวงพ่อตัด เพื่อขอ วัตถุมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนาไปเก็บไว้เพื่อให้ค้าขายดี หลวงพ่อตัด กลับบอกว่า "กูไม่มี ถ้าต้องการขายดี ก็ต้องขายให้ราคาถูก" ท่านจะพูดในทำนองนี้

    แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะโดนหลวงพ่อดุ แต่คนเหล่านั้น ล้วนต้องกลับมาหาหลวงพ่ออีก เพราะหลวงพ่อใจดี ถึงบางครั้งจะพูดจาดุด่าบ้าง แต่ก็เป็นการพูดตักเตือนตามความเป็นจริง


    หลวงพ่อตัด ปวโร วัดชายนา จ.เพชรบุรี

    สำหรับวัตถุมงคล พระเครื่องหลวงพ่อตัด วัดชายนา มีชื่อเสียงด้านเมตตามหานิยม วัตถุมงคลที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ตะกรุดและปลัดขิกผูกคอตาย โดยเฉพาะ ตะกรุดหลวงพ่อตัด วัดชายนา จะโด่งดังมากในทางคงกระพันชาตรี ส่วนปลัดขิกหลวงพ่อตัด ก็ไม่ธรรมดาเมตามหาเสน่ห์ดีเยี่ยม ทำให้หลวงพ่อมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย

    เคยมีลูกศิษย์เรียนถามท่านว่า "ตะกรุดหลวงพ่อตัด มีข้อห้ามอะไรบ้าง"

    ท่านบอกว่า "พ่อแม่ คือ พระ อย่าด่าว่าพ่อแม่ ทั้งของเราแล้วของคนอื่นเค้า ถือศีล 5 ไว้ ของจะดีเพราะคนมันดี"

    ลูกศิษย์เรียนถามท่านว่าแขวน ตะกรุดหลวงพ่อตัด "ลอดราวผ้า เสื่อมหรือเปล่า" ท่านบอกว่า "ตะกั่วมันก็เป็นตะกั่ว ตะกรุดก็คือตะกรุด ไม่มีเสื่อม ไม่ได้ห้าม ของดีอยู่ที่ใจคนใช้มันดี ใจมันไม่ดี ของก็ไม่ดี"

    ผู้ที่เลื่อมใสท่าน เข้าไปหาท่านที่วัดชายนา ท่านจะนำตะกรุดมาแจกทั้งสิ้น ถ้าท่านไม่อยู่ จะมีลูกศิษย์คอยนั่งแจกทั้งวัน ในส่วนวัตถุมงคลที่อยู่ในตู้ให้ทำบุญ หลวงพ่อจะสร้างวัตถุมงคล เพื่อนำปัจจัยที่ได้มาซ่อมแซมบูรณะโบสถ์ ซึ่งมีพระกริ่ง พระผง รูปเหมือนและเหรียญ มีประชาชนไปบูชาทำบุญกับท่านไม่ได้ขาด แต่พอปัจจัยที่ได้ในการบูรณะโบสถ์เพียงพอแล้ว หลวงพ่อท่านจะสั่งปิดตู้งดบูชาทันที

    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551 เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา หลวงพ่อตัด ได้รับโปรดเกล้าฯพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์จาก พระครูบวรกิจโกศล เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระพุทธวิริยากร

    แม้ด้วยวัยใกล้ 80 ปีแล้ว แต่หลวงพ่อตัด มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่ทว่าในช่วงเช้าวันที่ 3 พฤษภาคม 2552 หลวงพ่อได้ออกเดินตรวจความเรียบร้อยรอบวัดเหมือนปกติ กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. พระในวัดได้ยินหลวงพ่อบอกว่าแน่นหน้าอก จุกแน่นตั้งแต่ช่วงท้องไปจนถึงหน้าอก หายใจไม่ออก

    คณะลูกศิษย์ จึงได้นำหลวงพ่อตัดไปโรงพยาบาลท่ายาง อ.ท่ายาง แต่ไม่ทันการณ์ ด้วยหลวงพ่อตัด สิ้นลมหายใจและมรณภาพลง ในเวลา 07.37 น. คณะแพทย์ระบุเบื้องต้นเกิดจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน


    หลวงพ่อตัด วัดชายนา มรณภาพแล้ว

    วงการพระเครื่องวัตถุมงคลและพุทธศาสนิกชนเมืองเพชรบุรี ได้ถึงวาระกาลสูญเสียพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูป ด้วย "หลวงพ่อตัด ปวโร" แห่งวัดชายนา จ.เพชรบุรี มรณภาพลง ในวัย 78 ปี พรรษา 58 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2552

    หลังจากเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกอย่างกะทันหัน พระลูกวัดและคณะศิษย์ รีบนำเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลท่ายาง แต่ไม่ทันการณ์ หลวงพ่อตัดได้มรณภาพลงระหว่างทาง

    คณะแพทย์ลงความเห็นว่า หลวงพ่อตัด วัดชายนา มรณภาพแล้ว ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว และได้นำศพหลวงพ่อตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดชายนา สร้างความเศร้าสลดอาลัยเป็นอย่างยิ่ง

    เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 เวลา 13.00 น. คณะกรรมการวัด ได้เคลื่อนย้ายศพ พระพุทธวิริยากร หรือหลวงพ่อตัด ตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาการเปรียญของวัด เพื่อประกอบพิธีรดน้ำศพหลวงพ่อ โดยมีพระเถรานุเถระและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด เดินทางมาร่วมรดน้ำศพเป็นจำนวนมาก

    ส่วนเวลา 17.00 น. นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ

    นอกจากนี้ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ได้เขียนห้ามมิให้นำร่างออกหาทุน มีข้อความว่า "ศพของเรา ห้ามฎีกา ออกหาทุน เกณฑ์ชาวบ้าน มารวมหุ้น ให้วุ่นวาย มีเท่าไร ทำเท่านั้น ตามสบาย ไม่มีข้อควรละอายอย่างไร"

    สำหรับศพหลวงพ่อตัด ตั้งสวดพระอภิธรรมศพเพียงแค่ 7 วัน ตามความประสงค์ของหลวงพ่อตัด ที่ได้สั่งเสียไว้ก่อนมรณภาพ ทั้งนี้ จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพไปจนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม 2552 และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ เวลา 16.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม 2552

    เปิดประมูลตะกรุดหลวงพ่อตัด วัดชายนา

    รายการที่ 1.

    ตะกรุดชุดกรรมการหายากสุดๆ 26 โค๊ด ความยาว 4 นิ้ว ประสบการณ์ลือลั่นทั่วเมืองเพชร และมีหลายท่านนำไปทดสอบยิงไม่ออกครับ เป๊นตะกรุด ยันต์ ตรีนิสิงเห
    (ขอบพระคุณท่าน ซักวันจะคิดออก) ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ

    เปิดประมูลเริ่มแรกที่ 1013 บาท (ต่ำกว่าเล่นหามากครับ)

    บิดขึ้นครั้งละเท่าไรก็ได้ครับ

    ปิดประมูลวันเสาร์ที่ 5 ก.พ 54 เวลา 21.00 น.


    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    ///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


    รายการที่ 2.

    ตะกรุดหลวงพ่อตัด ตะกั่ว 5 นิ้ว วซน. ยอดประสบการณ์ หายากมาก

    ดอกใหญ่ๆ 5 นิ้วส่วนมากจะไม่ค่อยได้พบเห็นนะครับ หลุดแล้วหาเจอยากแน่นอนครับ

    เปิดประมูลที่ 1013 บาท (เปิดต่ำกว่าการเล่นหามากครับ)

    บิดขึ้นเท่าไรก็ได้แล้วใจชอบครับ

    ปิดประมูลวันเสาร์ที่ 5/02/54 เวลา 21.13 น.

    หายากทั้ง 2 รายการไม่ควรพลาด



    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    ///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2011
  7. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    อีก 1 ชม. ครับผม
     
  8. ongvip

    ongvip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +2,216
    ผมขอรับรายการที่ 2 ในราคาเดียวกับรายการที่ 1 ด้วยได้ไหใครับ

    ด้วยความเคารพ
    อ๋อง
     
  9. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ไม่ได้ครับ แต่ถ้ารับก็ได้ครับในราคาเปิดที่ 1013 ครับผม

    ขอบพระคุณมากครับ ท่าน อ๋อง


    ชมของดีๆจากกระทู้ใหม่ได้ที่นี่ครับ กดเลยครับ

    http://palungjit.org/forums/@@@-%...ml#post4326409
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2011
  10. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    คุณ อ๋อง จองๆๆๆๆ ไม่รู้ว่าทราบหรือยังครับที่ใหน 55555555

    ฝากรูปสวยๆให้ท่านเจ้าของตัวจริงชมครับ ลูกอมกับตะกรุดเทียมเท่า ขุนแผนผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมทุกประการครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2011
  11. ongvip

    ongvip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +2,216
    คิดว่าทราบครับพี่ แค่ลายถักทั้ง 2 แบบที่จอง ยังไม่มีใน Collection ครับพี่

    ด้วยความเคารพ
    อ๋อง
     
  12. SilentSoar

    SilentSoar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    481
    ค่าพลัง:
    +2,384

    สวยมากครับ ^_^ :cool:
     
  13. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    กุมารทองอุดผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม และ สุดยอดสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ

    กุมารทองพรายกระซิบอุดผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ บวก สีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ

    หลวงปู่รินทร์ วัดภูถ้ำพระ เป็นผู้จัดสร้างแล้วนำไปให้

    หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ปลุกเสกเดียว จนกุมารทองเคลื่อนไหวได้ทุกตัวตน

    วัตถุอาถรรพ์ในการจัดสร้างกรุมารทองพรายกระซิบอุดผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม ที่ใต้ฐาน น้องกุมารครับ วัตถุอาถรรย์หลวงปู่ชื่นที่ให้หลวงปู่รินทร์ในการจัดหาประกอบด้วย เหล็กขนานผีตายท้องกลม เหล็กขนานผีภูตผีพราย ตะปูโลงศพ 7 ป่าช้า และโหละอาถรรพ์อีกหลายชนิด หลวงปู่ได้นำเอามาหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันแล้วนำมาจัดสร้างเป็นกุมารทองพลายกระซิบ

    สาเหตุที่ท่านสร้างขนาดเล็กก็เพราะวัตถุอาถรรพ์มีจำนวนจำกัดมากๆ เมื่อได้กุมารทองแล้วหลวงปู่ท่านก็ทำการพิธีปลุกเสกตั้งธาตุให้มีฤทธิ์มีเดช ขันธ์ 5 ใส่อาการ 32 ให้ครบ ไล่ทั้งแต่เส้นผมถึงปลายเท้าแล้วก็กลับกันปลายเท้าถึงเส้นผมโดยการอนุโลมปฏิโลม 32 ครั้ง เพื่อใหกุมารทองเกิดขึ้นมาแล้วนำจิต/ธาตุ/นาม ของกุมารทอง มีธาตุน้ำคือเลือดเนื้อและเสกบรรจุปารณคือ ลมหายใจ ให้กุมารทองตรึงรูปตรึงนามจน กุมารทองเคลื่อนไหวได้ในบาตรทุกๆตน ให้มีชีวิตซึ่งลูกศิษย์ลูกหาท่านที่เข้าพิธีเห็นกันเป็นที่ประจักษ์กันทั่วหน้าครับ

    คาถากำกับ กุมารทองพรายกระซิบ มีว่า

    "จิเจรุนิ จิตตัง เจตตะสิกังรูปัง นิมิตตัง กุมาโรวา กุมารทอง อาคัจฉาหิ เอหิเอหิ นะ มะ พะ ทะ กุมารทองพลายกระซิบ"


    ชุดนี้ท่านเจ้าของเดิมท่านได้ขอแบ่งเอาสีผึ้งหลวงพ่อทาบจากเพื่อนมาผสมใว้ครับ

    สุดยอดสีผึ้งหนึ่งในสยาม

    สีผึ้งเขียวพ่อท่านทาบ ทิ้งไว้เป็นสมบัติโลกให้แก่ผู้คนที่มีวาสนา ดังที่ท่านเคยลั่นวาจาไว้



    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2011
  14. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853

    ขอปิดกระทู้นี้ครับ

    ขอบพระคุณคุณ อ๋อง และทุกๆท่านที่ให้ความสนใจสอบถามมาครับ
     
  15. SomeO

    SomeO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +1,476
    สวัสดีครับพี่ ยังมีของดีน่าเป็นเจ้าของมาเพียบเลยนะครับ พี่คงสบายดีนะครับ
     
  16. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853

    สบายดีครับคุณ phromkaew

    ขอบพระคุณมากนะครับที่เข้ามาเยี่ยมชม
     
  17. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    [​IMG]


    หลวงปู่จันทร์ จันทะโชติ วัดนางหนู จ.ลพบุรี

    หลวงปู่จันทร์ ท่านท่านเป็นเกจิอาจารย์ดังร่วมสมัยหลวงพ่อจาด/จง/คง/จันทร์/จะเรียกกันโดยทั่วไปสมัยนั้นว่า จาด จง คง จันทร์

    ท่านเชี่ยวชาญเวทย์มนต์คาถาอย่างเอกอุท่านหนึ่งในลพบุรี และได้เป็นพระเกจิอีกท่านหนึ่งที่เข้าร่วมมหาพุทธาพิเษกที่วัดราชบพิตรสมัยนั้นซึ่งเกจิอาจารย์ที่ได้เข้าร่วมต้องมีวิชาอาคมที่แข็งกล้าทแบทั้งสิ้น

    หลวงปู่จันทร์ ได้ออกเรื่องรางของขลังตะกรุดไม้รวกให้แก่ทหารตำรวจที่เข้าร่วมรบสงครามอินโดจีนร่วมกับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จนได้ชื่อว่า
    "ทหารผีเช่นกันครับ"

    วัตถุมงคลของท่าน ท่านใดที่มีจะห่วงแหนกันนักหนาไม่ค่อยออกมาให้เห็นกันจึงทำให้คนยุดหลังๆไม่ค่อยรู้จักเท่าที่ควรทั้งๆที่เป็นของสุดยอดพุทธคุณอีกท่านหนึ่งของเมืองไทยก็ว่าได้ครับ

    พุทธคุณท่านเด่นๆมากในเรื่อง แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เป็นเลิศเอกอุก็ว่าได้ครับ



    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2011
  18. บัวสุวรรณ56

    บัวสุวรรณ56 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2011
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +12
    โอ้โห สวยๆ ทุกรายการเลยนะคุณอา พลังชาตรี ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2011
  19. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ขอบใจมากครับ ไว้ดูศึกษาหาความรู้ได้ดีครับ
     
  20. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    [​IMG]


    มีดเทพศาสตราวุธหลวงพ่อเดิม

    หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ พระเกจิอาจารย์ที่ท่านใดไม่รู้จักท่านผมว่าน้อยเต็มที มีดหมอหลวงพ่อเดิมขึ้นชื่อได้ว่ามีดหมอที่ทรงอนุภาพทรงด้วยพุทธคุณที่สุงล้นเป็นอันดับหนึ่งของเมืองไทย

    วันนี้ผมขอนำเสนอมีดหมออันทรงอนุภาพของหลวงพ่อเดิม ครับ

    ด้วยบรรยากาศแบบสบายๆพี่ๆน้องๆ ครับ เป็นการชี้แนะและศึกษาเบื้องต้นในความเป็นมีดหลวงพ่อเดิมตามสิ่งที่ผมได้ยินได้ฟังกับผู้เฒ่าผู้แก่แถบ อยุธยา/อ่างทอง/สิงห์บุรี/ชัยนาท/และนครสวรรค์

    บรรยายคร่าวๆครับ

    มีดหมอของหลวงพ่อเดิมมีองค์ประกอบในการดู 3 องค์ประกอบหลักๆก่อนพิจารณาในการบูชาดังนี้ครับ

    1. ใบมีด นั้นดูศิลปะช่างและเหล็กของใบมีด

    2. ปลอกและด้ามเป็นลักษณะใหนทำในยุดใหนถึงไม่ถึงในอายุของความเก่า

    3. ชุดแหนหรือบางท่านเรียกแหม ทีนี้มาดูตามภาพสำหรับมีดเล่มนี้ครับ 1.ใบมีด (ดูภาพที่ลงไปประกอบครับ)จะเห็นถึงสนิมเหล็กดำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอย่างไม่เป็นระเบียบขุมใหญ่บ้างเล็กบ้าง ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเกิดจากการที่หลวงพ่อเดิมท่านได้นำเอาเหล็กหลายๆชนิดมารวมกันและมาหลอมด้วยกัน เช่น ตะปูโลงศพ เผาไฟแล้วร่วงหล่น เหล็กเขี่ยศพ บาตรแตก ถือกันว่า เป็นวัตถุอาถรรพณ์ ในสมัยก่อนหากต้องการให้บ้านใดเดือดร้อน จะนำไปลงอักขระแล้วเอาเศษบาตรแตกไปไว้ที่ใต้ถุนบ้านศัตรู จะทำให้บ้านนั้นเดือดร้อนไม่มีที่สิ้นสุด ตะปูสังขวานร เป็นเครื่องยึดเนื้อไม้อุโบสถที่เป็นโบสถ์เก่าสังขวานรเป็นโลหะผสมคล้ายเนื้อตะกั่ว ถือเป็นของอาถรรพ์อย่างหนึ่ง ตะปูสังขวานรจึงใช้เป็นตัวยึดเหมือนตะปู การที่ถูกฝังในเนื้อไม้นาน ๆ กลายเป็นวัตถุอาถรรพณ์ไปในตัว เหล็กน้ำพี้ เหล็กเนื้อดีมีความเหนียว ใบมีดหลวงพ่อจะขึ้นสนิมกัดใบ มากน้อยต่างกันไปอยู่ที่ผู้บูชาพกติดตัวมากน้อยแค่ไหน ส่วนตรงปลายด้ามของใบมีดนั้นที่ฝังอยู่ในงาก็จะเกิดสนิมของเหล็กด้ามใบมีดสนิมก็จะดันและซึมเข้าเนื้อของงา ทำให้สนิมของกั่นมีด ดันจนงาฉีกแตก ซึ่งเล่มนี้จะเห็นการซึมสนิมและลอยแตกลายงาที่กำลังจะแตกในไม่ช้าครับ มาดูรอยต่อของกั่นมีดกับใบครับจะเห็นคลั่งเก่าที่มีความแห้งและหมองเป็นไปตามธรรมชาติไม่เงาวาวๆอย่างของใหม่ที่จงใจทำขึ้น

    หลวงพ่อเดิมท่านได้ศึกษา วิชามีดหมอมาจากหลวงพ่อขำ วัดเขาแก้ว อำเภอพยุหะคีรี นครสวรรค์ และได้มาศึกษาจากผู้พี่ หลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล ต่อมาท่านก็ได้สร้างมีดหมอขึ้นมา และการสร้างมีดในยุคแรกนั้นท่านก็ได้สร้างมีดเล่มใหญ่ให้แก่ควาญช้างของท่าน ซึ่งมีขนาดทั้งด้ามทั้งฝักยาวประมาณหนึ่งศอก ในสมัยต่อมามักเรียกกันว่า มีดควาญช้างหลวงพ่อเดิม ต่อมาท่านก็ได้ทำมีดให้มีขนาดเล็กลง ขนาดพอพกได้พอดีจนมาถึงมีดขนาดเล็ก พกใส่กระเป๋าเสื้อได้ในที่สุด

    การปลุกเสกมีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

    เมื่อช่างตีด้ามมีด และปลอกมีดเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อเดิมจะ บรรจุแผ่นโลหะชิ้นเล็กๆ ที่ได้ลงเหล็กจารอักขระยันต์ต่างๆ ไว้แล้ว หรือแผ่นตะกรุด รวมทั้งผงวิเศษ และเส้นผมของท่าน เข้าไปในแกนกลางของด้ามมีด จากนั้นจึงให้ช่างตีเข้าด้ามให้แน่น แล้วรวบรวมมีดหมอทั้งหมดที่ช่างสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้หลวงพ่อปลุกเสกพร้อมๆ กันอีกครั้งหนึ่ง

    มีดเทพศาสตราวุธ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์ ที่ผ่านการบรรจุวัตถุธาตุมงคล คาถาอาคม ที่ลงไว้ กับพลังปราณอันบริสุทธิ์ของหลวงพ่อเดิม ทำให้มีดหมอของท่านมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง นับเป็นวัตถุมงคลชนิดเครื่องรางของขลัง ตระกูล "มีดหมอ" อันดับหนึ่งของเมืองไทย หรือหนึ่งในสยาม

    ฝีมือช่างแกะ มีดหมอหลวงพ่อเดิม จะมีอยู่หลายๆท่าน ที่จะกล่าวถึงคือ ช่างฉิม ช่างไข่ ที่เป็นที่นิยมและยอมรับ ช่างที่แกะสลักแต่ละคนจะมีฝีมือที่แตกต่างกัน ลายแกะ น้ำหนักมือที่แกะสลักจะหนักเบาไม่เท่ากัน ช่างแต่ละคนจะรู้การตอกลายบนใบมีด ลายถักของวงรัดด้ามมีด และปลอกมีด ไม่เหมือนกันทั้งหมด

    มีดเทพศาสตราวุธหลวงพ่อเดิม มีหลายแบบหลายขนาดและหลายฝีมือ เป็นเครื่องลางที่ทรงอานุภาพมาก ที่มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธคุณครอบจักรวาล ยังถือได้ว่าเป็นงานศิลปะที่เกิดมาจากภูมิปัญญาของชาวบ้านที่เป็นคนไทยแท้ๆ มาแต่โบราณ ในปัจจุบันมีดหมอของหลวงพ่อเดิมแท้ๆนั้นหายากมาก สำหรับมีดหมอพ่อเดิม หายากมากที่รู้ก็เก็บเป็นมรดกตกทอดเฉพาะลูกหลานกันหมด เพราะต่างได้มีประสบการณ์กันมาว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และฤทธิ์อำนาจมากมายเกินพรรณา อิทธิคุณในพุทธคุณ

    วิธีใช้มีดหมอเทพศาตราวุธ ตามตำรับหลวงพ่อเดิม มีดังนี้ครับ

    1. ป้องกันคุณไสยเวลาติดตัวอยู่ไม่ต้องกลัวใครกระทำย่ำยีแต่อย่างใด อารธนาทำน้ำมนต์แก้คุณไสย หรือแก้เสนียดจังไรต่างๆ แก้ยาเบื่อ ยาสั่งได้ ตลอดจนฝันร้ายได้

    2. ป้องกันตัวเองจากศัตรูหมู่รัาย เป็นมหาอำนาจ เป็นเมตตา เป็นแคล้วคลาด เป็นมหาอุตม์ แก้อาถรรพณ์ความคงกระพันต่างๆ ป้องกันอสรพิษ สัตว์มีพิษ

    3. ขับภูตผีปีศาจที่เข้าคนธรรดา หรือมีผู้ปล่อยมาให้เข้าสิง บูชาไว้กับบ้านป้องกันอัคคีภัย และโจรภัย

    4. ด้ามงานั้นอารธนาฝนกับฝาละมีหม้อดิน ด้วยน้ำล้างใบมีดจะแก้พิษสัตว์กัดต่อยได้ ทาบริเวณที่ถูกสัตว์กัดต่อย

    5. เมื่อไปต่างถิ่นจะไปกินอาหารแต่ไม่แน่ใจว่าจะมีพิษหรือไม่ ให้เอาด้ามมีดหมอของหลวงพ่อจุ่มลงไปในอาหารเสียก่อน เป็นการป้องก้น ถ้างามีสีดำอย่ากิน ในกรณีที่กินเข้าไปแล้วมีอาการแสลง ให้นำมีดหมอของหลวงพ่อออกจาฝัก อารธนาถึงหลวงพ่อแกว่งลงไปในขันน้ำ แก้วน้ำ หรือภาชนะอื่นใด ใส่น้ำดื่มกินเข้าไปจะแก้ยาเบื่อ ยาสั่งได้ ถ้าเป็นยาพิษจะลดกำลังลงพอหาหมอแก้ไขได้ทันที

    วิธีการที่จะนำมีดหมอของหลวงพ่อเดิมมาใช่ให้เกิดคุณอนันต์

    ควรใช้คาถาอาวุธ 5 ประการทุกครั้งกำกับด้วยดังนี้ "สักกัสสะวชิราวุธธัง เวสสุวัณนะสะคะธาวุธธัง อาฬาวะกะสะธุสาวุธธัง ยะมะสะนัยนาวุธธัง นารายยะสะจักกะราวุธธัง ปัญจะอาวุทธานัง เอเตสังอานุภาเวนะ ปัญจะอาวุธธานัง ภัคคะภัคขา วิจุณนัง วิจุณาโลมังมาเมนะ พุทธะสันติ คัจฉะอะมุมหิ โอกาเสติฐาหิ" ซึ่งพระคาถานี้รวมอาวุธห้าประการที่ถือว่ามีอิทธิฤทธิ์

    ความหมายของพระคาถาอารุธ 5 ประการ

    1. วชิราวุธ อาวุธประจำกายพระอินทร์ที่ปราบมารร้ายและอสูร

    2. ไม้เท้ากระบองที่ยันกายขององค์ท้าวเวสสุวรรณ อันเป็นเจ้าแห่งภูตผีทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นผีอะไรต้องเกรงกลัวท่านท้าวเวสสุวรรณทั้งนั้น

    3. ผ้าแดง ของอาฬาวะกะยักษ์ ที่พ่ายแพ้แก่บารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผ้าแดงนี้เป็นอาวุธที่ร้ายแรงตามที่โบราณกล่าวว่าถ้าผ้าผืนนี้ตกลงบนพื้นพิภพแห่งใดจะไหม้เป็นจุณและปลูกอะไรไม่ขึ้นจนตลอดกาล

    4. นัยเนตร ของท่านพญายมราช ที่เพ่งแล้วภูตผีทั้งหลายจะมอดไหม้ไปเป็นจุลมหาจุล

    5. กงจักร ของพระนารายณ์ ตามลัทธิพราหมณ์ถือว่ากงจักรของพระนารายณ์นี้ปราบได้ทั้งสวรรค์ อสูร และใต้บาดาล มีอิทธิฤทธิ์มากมายเหลือคณานับ เมื่อหลวงพ่อได้อัญเชิญความศักดิ์สิทธิ์ของอาวุธทั้ง 5 ประการ ด้วยอำนาจอาคม และไสยวิธีมาสถิตย์ในมีดหมอของหลวงพ่อก็ย่อมวางใจได้ว่า ต้องทรงอำนาจในทางปราบมารร้าย ภูตผีปีศาจอำนาจฝ่ายต่ำ การกระทำย่ำยี และป้องกันอันตรายจากมนุษย์และสัตว์โลกได้อีกด้วย

    วิธีอาราธนามีดหมอของหลวงพ่อเดิมเวลาจะไปไหนมาไหนให้ระลึกถึงหลวงพ่อเดิมแล้วว่า

    "พระพุทธังรักษา พระธรรมมังรักษา พระสังฆังรักษา ศัตรูมาบีฑาวินาศสันติ”

    การนำไปบูชา พุทธคุณที่ป้องกันภัยอันตรายได้ต่างๆ

    สำหรับวิธีการใช้บูชาและป้องกันภัยต่างๆ คือ

    1. ป้องกันคุณไสยเวลาติดตัวอยู่ไม่ต้องกลัวใครกระทำย่ำยีแต่อย่างใด
    2. ป้องกันตัวเองจากศัตรูหมู่ร้าย เป็นมหาอำนาจ เป็นเมตตา เป็นแคล้วคลาด เป็นมหาอุตม์
    3. ขับภูตผีปีศาจที่เข้าคนธรรดา หรือมีผู้ปล่อยมาให้เข้าสิง
    4. อาราธนาทำน้ำมนต์แก้คุณไสย หรือแก้เสนียดจังไรต่างๆ ตลอดจนฝันร้าย
    5. แก้อาถรรพณ์ความคงกระพันต่างๆ แม้จะสักยันต์ใดหรือกินว่าน หรือมีของดีตามธรรมชาติ เมื่อโดนมีดหมอของหลวงพ่อจะคลายเหนียวทุกทีไป นักเลงสมัยก่อนกลัวมีดหมอของหลวงพ่อกันนัก เพราะถูกทีไรเป็นเปื่อยยุ่ยไม่คงทน
    6. สำหรับด้ามงานั้นอาราธนาฝนกับฝาละมีหม้อดิน ด้วยน้ำล้างใบมีดจะแก้พิษสัตว์กัดต่อยได้ ทาบริเวณที่ถูกสัตว์กัดต่อย
    7. ป้องกันอสรพิษ สัตว์มีพิษ ทั้งหลาย เมื่อมีมีดหมอของหลวงพ่อติดตัว ตลอดจนเขี้ยวงาต่างๆ
    8. มีดหมอหลวงพ่อไม่ทำอันตรายกับผู้ที่มีมีดหมอเหมือนกัน เป็นการป้องกันการที่ลูกศิษย์อาจารย์เดียวกันทำร้ายกัน
    9. บูชาไว้กับบ้านป้องกันอัคคีภัย และโจรภัย อาราธนาแล้วมีอันตรายจะรู้ตัวก่อนทุกทีไป
    10. เมื่อไปต่างถิ่นหรือต่างบ้าน หรือนอนกลางดินกลางทรายในป่า ให้เอาปลายมีดของหลวงพ่อกล่าวขอขมาแม่พระธรณี แล้วขีดวางลงไปเป็นรูปเหลี่ยมหรือรูปวงกลมรอบๆตัวของผู้ที่พักนอน มดและสัตว์จะไม่มาใกล้ รวมทั้งกันภูตผีปีศาจด้วย
    11. เมื่อจะไปทางน้ำกลัวอันตรายจากสัตว์เช่น จระเข้ หรือสัตว์ร้ายอื่นๆ เช่นผีพราย ปลาไหลไฟฟ้า ให้ชักมีดออกจากฝักคาบไว้ในปากเวลาข้ามน้ำ หรือคาบทั้งฝักก็ได้ หรือเอามีดโบกน้ำนำหน้าไปจะปลอดภัย
    12. เมื่อฝีร้ายอาการกลัดหนอง ปวดร้าว ทรมาน หรือเพิ่งเริ่มเป็นให้ใช้มีดหมอของหลวงพ่อ เอาทางปลายแหลมวนเบาๆ เป็นวงกลมรอบๆหัวฝีระลึกถึงหลวงพ่อแล้วเป่าลมกำกับด้วย ถ้าเพิ่งเริ่มเป็นจะยุบหาย ถ้าเป็นมากกลัดหนอง ให้วนด้วยปลายมีดแล้วยกมีดหมอเหนือหัวฝีกลั้นใจทำการผ่าหัวฝีบนอากาศเหนือผิวหนัง กรีดอากาศไปมาสลับกันแล้วเป่าลมระลึกถึงหลวงพ่อ ฝีจะแตกภายใน 3 วันและไม่เป็นพิษแต่อย่างไร
    13. เมื่อไปต่างถิ่นจะไปกินอาหารแต่ไม่แน่ใจว่าจะมีพิษหรือไม่ ให้เอาด้ามมีดหมอของหลวงพ่อจุ่มลงไปในอาหารเสียก่อน เป็นการป้องก้น ถ้างามีสีดำอย่ากิน ในกรณีที่กินเข้าไปแล้วมีอาการแสลง ให้นำมีดหมอของหลวงพ่อออกจาฝัก อาราธนาถึงหลวงพ่อแกว่งลงไปในขันน้ำ แก้วน้ำ หรือภาชนะอื่นใด ใส่น้ำดื่มกินเข้าไปจะแก้ยาเบื่อ ยาสั่งได้ ถ้าเป็นยาพิษจะลดกำลังลงพอหาหมอแก้ไขได้ทันที
    14. เมื่อถูกคุณ(ลมเพลมพัด) เรียกว่าปล่อยมาตามอากาศ ทำให้มีอาการบวมตามตัว เป็นลูกๆ เดี๋ยวบวมที่โน่น เดี๋ยวบวมที่นี่ ให้เอามีดหมอหลวงพ่ออาราธนาทำน้ำมนต์ระลึกถึงบารมีของหลวงพ่อกินเข้าไป แล้วจึงเอามีดหมอออกจากฝัก ไล่ก้อนที่บวมนั้นตั้งแต่บริเวณต้นที่บวมถ้าเป็นคุณที่ถูกปล่อยมาก้อนบวมนันจะเคลื่อนหนีปลายมี

    หลวงพ่อเดิม ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ ที่มีพลังจิต สูงมาก เชื่อกันว่า ท่านสำเร็จอภิญญา หรือฌาณสมาธิขั้นสูง สามรถเรียกลม เรียกฝนได้
    เครื่องรางของขลัง ของท่านเป็นที่ประจักกันดีว่ามีพุทธคุณด้านคงกระพัน และมหาอุดเป็นที่สุด ที่รู้จักกันดี และเป็นที่ปรารถนาของผู้ที่นิยมพระเครื่อง
    ของขลังเป็นที่สุด ก็คือ มีดหมอ พระเครื่องงาแกะรูปเหมือนปั้ม และ รูปเหมือนหล่อ เหรียญรูปไข่ พ.ศ. 2482 ที่เรียกว่าเหรียญบัวคว่ำ บัวหงาย ผ้ายันต์รอยเท้า และอื่นๆอีกมากมาย หลายรายการ
    กลับมาที่การไขปริศนาของเส้นแบ่งความตาย ของหลวงพ่อเดิม ที่มีต่อการอาราธนาพระเครื่องที่เกิดต่อหน้าผู้คนมากมาย หลายคนด้วยกัน
    ว่ากันว่าวันหนึ่งมีคนวิ่งกระหืดกระหอบ มากราบเรียนหลวงพ่อเดิม ว่าลูกศิษย์รัก ของท่าน คนหนึ่งถูกยิงตาย หลวงพ่อเดิมเมื่อทราบข่าว ก็ขี่ช้างเพื่อไปดูศพ ที่อยู่ไม่ไกล จากวัดหนองโพธิ์นัก เมื่อท่านไปถึงตำรวจ กำลังพลิกศพอยู่พอดี
    หลวงพ่อเดิมท่านจึงสั่งให้ตำรวจ นำเหรียญรูปท่านซึ่งผู้ตายแขวนคออยู่ที่คอ เป็นเหรียญรูปไข่ รุ่นปี พ.ศ. 2482 ที่เคยมีคนมีประสบการณ์ด้านคงกระพัน มานับครั้งไม่ถ้วน ไปวางห่างจากศพ ประมาณหนึ่งวา แล้วท่างจึงสั่งให้ตำหรวจท่านหนึ่ง ที่เป็นลูกศิษย์ของท่าน ยิงไปที่เหรียญรูปเหมือนของท่าน แต่ตำรวจท่านนั้นไม่กล้ายิง จนท่านต้องสั่งกำชับให้ยิงได้
    ปรากฎว่าไม่ว่าจะยิงสักกี่นัด ปืนก็ไม่ลั่น และจะเปลี่ยนปืนสักกี่กระบอกกระสุน ปืนก็ไม่ทำงาน แล้วท่านก็ได้มอบเหรียญนั้นให้ด่ตำรวจที่ยิงไป แล้วท่านก็เดินทางกลับวัดหนองโพ
    แต่ก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับ ท่านได้พูดไว้ให้เป็นปริศนาธรรมให้หลายๆคนคลายข้อสงสัยท่านกล่าวไว้ว่า
    ถ้ามัน(หมายถึงผู้ตาย) ขยับเดินออกไปอีกสองก้าว มันจะไม่ตาย หรือถ้ามันมาถึงที่ตรงนี้เร็วหรือช้ากว่านี้ไปอีกสักหน่อย มันก็จะไม่ตาย
    ที่มันตายเพราะถึงฆาตถึงเวลา ไม่ใช่เพราะเหรียญของข้า ...
    จากคำพูดของหลวงพ่อเดิม น่าจะอธิบายได้ว่า
    คนเรานั้นเมื่อถึงที่ต้องตาย คำว่าถึงที่ก็คือถึงฆาต ชะตาขาดมักไม่รอด
    นอกจากจะมีบุญเก่ามาช่วยหนุนช่วยเสริมเอาไว้มาช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้บ้างเท่านั้น คนที่รู้จักเคล็ดลับนี้ ก็จะแก้ไขได้
    เรื่องนี้เคยปรากฎมาแล้ว ในสมัยพุทธการ โดยพระพุทธเจ้าทรงให้พระสงฆ์ สวดมนต์ช่วยเหลือสามเณรที่มีชื่อว่าอายุวัฒนะ ให้รอดตายมาแล้ว
    นอกจากจะไขปริศนาเส้นแบ่งแห่งความตายแล้วหลวงพ่อเดิมได้ตอบคำถามของศิษย์ที่ขี้สงสัย ที่ถามท่านเกี่ยวกับการใช้เครื่องรางของขลังติดตัว ว่ามีข้อห้ามประการใดบ้าง
    หลวงพ่อเดิมท่านตอบว่า พระเครื่องรางของขลังของท่านมีฤทธิ์เหมือนงูเห่า ที่เลื้อยผ่าน กองอุจจาระ ปัสสาวะ เพราะมันไม่รู้ว่าคือสถานที่ใด แต่พิษมันก็คงมีอยู่และกัดคนตาย พระเครื่องก็เป็นเช่นเดียวกัน หากปราศจากเจตนาแล้ว เพชรยังไง ก็ยังเป็นเพชร อยู่เสมอ...
    น่าเสียดาย ที่มีดหมอของหลวงพ่อเดิมได้หายไป บ้างก็ว่า เกิดจากอุบัติเหตูเรือร่ม
    เดิมมีดหมอนี้อยู่กับอาจารย์โน้ม ซึ่งมีทั้งมีดหมอ และ มีดควาญช้างของหลวงพ่อเดิม
    ซึ่งจากปากคำของผุ้เฒ่าผู้แก่ ชาวพิจิตร ว่ากันว่า เมื่ออาจารย์โน้มรู้ตัวว่าจะถูกจับถ่วงน้ำ ท่านได้ขว้างปาของขลัง ทิ้งลงแม่น้ำ รวมทั้งพระเครื่องเหล็กไหล และมีดหมอประจำตัว
    ซึ่งต่อมาหลายๆคนว่ากันว่า เครื่องรางของหมอโน้ม ที่เป็นของขลังอันศักดิ์สิทธ์ยิ่งของหลวงพ่อเดิมนี้ ได้ตกอยู่ในมือของท่านขุนพันธ์นั่นเอง

    จากเบื้องต้นถ้าท่านได้อ่านผมว่าก็พอจะทราบกันแล้วนะครับ ว่าทำไมมีดหมอหลวงพ่อเดิมถึงได้เป็นอันดับหนึ่งในเมืองไทยที่ทรงอนุภาพยิ่งที่สุดไม่เป็นสองรองใคร

    สำหรับมีดเล่มนี้ที่นำเสนอในการประมูลนี้ ตามตำราจากท่านที่ได้ศึกษาอย่างละเอียดท่านได้กล่าวไว้ว่า ในระยะเริ่มต้นนั้นหลวงพ่อเดิมท่านไปดูการสร้างมีดหมอที่วัดหนองสีนวลซึ่งเป็นญาติผู้พี่ที่หลวงพ่อเดิมให้ความเคารพยิ่ง ถึงขนาดว่ามีดที่ท่านทำขึ้นมานั้นท่านยังต้องให้หลวงพ่อสดขี่ช้างมาให้หลวงพ่อรุ่งที่วัดหนองสีนวลทำการปลุกเสกก่อนแล้วจึงนำกลับมาที่วัดหนองโพทำการปลุกเสกทีหลัง มีดหมอเล่มนี้ตามประวัตินั้นหลวงพ่อเดิมท่านได้ทำไว้และมีการฝังตะกรุดใว้ที่สันมีดเช่นกัน มีดเล่มนี้ถ้าท่านได้บูชาไปแล้วในเรื่องพุทธคุณจะได้เท่ากับ 2 พระอาจารย์ได้ปลุกเสกเลยครับ

    มีดเล่มนี้พี่ชายได้ตามเก็บมาจากผู้เฒ่าผู้แก่ท่านที่อยู่ตาคี่ ท่านใช้ติดตัวมาตั้งแต่หนุ่มรวม 40 ปีใช้งานสารพัดไม่ถนอมเลยเมื่อมีดไม่คมท่านก็นำไปลับเพื่อประโยชน์ในการใช้และได้มีประสบการณ์ในการใช้มาอย่างมาก จริงๆแล้วท่่านหวงมากแต่ก็จำใจให้มาเพราะลูกหลานครับ



    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    เปิดประมูลเริ่มแรกที่ 9013 บาท

    บิดขึ้นครั้งละเท่าไรก็ได้ครับ

    ปิดประมูลวันอังคารที่ 15 ก.พ 54 เวลา 21.00 น.

    ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2011

แชร์หน้านี้

Loading...