การทดลองกสินไฟ - ไฟเย็น - ไฟลุกท่วมตัว - ไฟท่วมบ้าน

ในห้อง 'การทดลองทางจิต' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 16 สิงหาคม 2005.

  1. virot05

    virot05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,679
    อยากฝึกมั้งจัง
     
  2. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    การที่จะฝึกกสิณอะไรก็แล้วแต่นะ อยู่ที่พื้นฐานทางจิตร จิตรสงบแค่ไหน จิตรมีพลังแค่ไหน ใช่ว่าใครอยากจะฝึกก็ฝึกได้ ก่อนที่จะทำการใดๆก็แล้วแต่ควรที่จะสั่งสมบารมีให้เพียงพอเสียก่อน พรหมวิหาร4 และอิทธิบาท4 คุณขาดตกบกพร่องตรงไหนบ้างมั้ย ลองไปสำรวจดูก่อนว่าสมบูรณ์หรือไม่ ศีล สมาธิ ปัญญา อย่าได้ขาด คือสิ่งที่จะนำพาคุณสู่ความสำเร็จ บางคนฝึกจนละสังขารก็ไม่สำเร็จ บางคนฝึกแค่ไม่กี่ปีก็บรรลุสมใจปรารถนา ตัวผมเองก็ยังไม่สำเร็จใดๆ เพียงแต่มาแนะแนวถึงความเป็นไปได้ ถ้ามีกิเลสหรือมีความอยากไม่มีทางที่จะสำเร็จได้เลย เห็นคนอื่นฝึกทำได้มีฤทธิ์เดช อยากฝึกอยากเป็นอยากได้ อีก10ชาติก็ไม่สำเร็จ เพราะว่าคุณมีกิเลส....
     
  3. คุณ วัชรพงษ์

    คุณ วัชรพงษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +30
    -----------------------------------------------------------------------

    ผิดแล้วครับท่าน เสียเวลาตรงไหน การเพ่งกสิณก็เป็นหนึ่งในการทำ (สมถกรรมฐาน)ซึ่งมี40อย่าง คือกสิณ10 อสุภะ10 อนุสติ10 พรหมวิหาร4 อรูปกรรมฐาน4 อาหาเรปฏิกูลสัญญา1 จตุธาตุววัฏฐาน1 ///วิปัสนาที่ท่านว่านั้นอยู่ในหมวดของ อนุสติ10 จงไปศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนนะครับ และกสิณเป็นกรรมฐานอันดับ1ในพระพุทธศาสนา และทุกวันนี้ในวัดทั่วไปส่วนมากจะเจริญอานาปานสติเป็นหลัก เพราะคิดว่าไม่ต้องหาอุปกรณ์ให้ยุ่งยากและสะดวกต่อการทำสมาธิ
     
  4. รักในหลวงครับ

    รักในหลวงครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +102
    ถ้าคุณกลัวระหว่างฝึกกสิณให้ลองเเผ่เมตตาดูครับมันจะช่วยได้มากเลย
    เรื่องพลังเเห่งกสิณไม่จำเป็นต้องได้หรอกครับให้เราเอาเเค่ใจเราสงบเเละทรงอยู่ในสมาธิให้ได้นานๆก็พอเเล้วครับ
     
  5. พรหมมรกต

    พรหมมรกต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +46
    ลองเล่นได้ครับ เป็นกรรมฐานกองหนึ่งเหมือนกัน
    เล่นได้แล้วอย่าไปอวดมันจะเสื่อม เอาไว้ใช้ช่วยเหลือ
    เพื่อนมนุษย์ ดีกว่าจะได้บารมีเพิ่ม เอาไปเล่นมั่วไม่ได้
    อันตรายครับ ได้กสิณแล้วก็เก็บไว้ครับ เล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อ
    เป็น "ปัจจัตตังครับ"
     
  6. phoenix88

    phoenix88 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +5
    ใครที่อยากฝึกก็ลองสอยถามไปที่วัดยานนาวาก็ได้มีที่ให้ฝึกอยู่
    หรือลองหาหนังสือกสินไฟของ อ.บูรพา มาอ่านดูก็ได้
     
  7. สราวุธ ลำพูน

    สราวุธ ลำพูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +302
    คน3คนกินน้ำบ่อเดียวกัน เข้าออกไม่เบียดกัน
    หมายถึง เล่นกสิน ดิน ไฟ ลม (น้ำ)สามารถทำได้โดยใช้จิตเดียวกัน
    จิตเดียวกัน คือ ไม่เบียดเบียนกัน
    เล่นเดี่ยว หมายถึง กสิน1อย่าง เล่นคุ่ หมายถึงกสิน2อย่างพร้อมกัน
    (สามารถ เนรมิตกสินพร้อมกัน 2อย่างในเวลาเดียวกันได้) แต่ยากหน่อย
    ...............ขออภัยที่ข้าพเจ้าตอบแบบโง่เขราตามความคิดของข้าพเจ้า
    แต่ อาจารย์ อาจคิดแปลมาอีกอย่างครับ..
    ..ทั้งนี้ ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม ในความคิดของข้าพเจ้าด้วยเทอน
     
  8. คนสามตา

    คนสามตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +311
    คำปริศนา... "คนสามคนกินน้ำบ่อเดียว เข้าทางเดียวกันไม่เหยียบทางกัน"

    ตอบ...รู้สภาวะธรรมชาติของจิตที่เกิดขึ้นทุกขณะ มี สภาวะรู้อารมณ์
    จิตรู้จิต จิตรู้อารมณ์ จิตรู้กาย กายรู้อารมณ์ อารมณ์รู้ธาตุ
    ดิน น้ำ ลม ไฟ รู้กาย จิตไม่หลง กำกับอารมณ์ด้วย นะมะพะธะ, นะมะอะอุ
    อารมณ์รู้กาย รู้ธาตุ รู้จิต กำหนดจิตรู้ที่ธาตุ แยกออกไป ดิน น้ำ ลม ไฟ
    ตามที่ปราถณาของจิตเถิด

    ...ได้หลง มีติด คิดชอบ ออกนาน...
     
  9. ใจสวรรค์

    ใจสวรรค์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +105
    การฝึกกสินไฟไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ใช่เรื่องยาก ในเวลาเดียวกัน เพียงแต่คนที่จะสามารถฝึกและเจริญเตโชกสินให้ได้ดีนั้นต้องมีพื้นเดิม สัญญาเดิมมาก่อนจึงจะง่ายขึ้น ส่วนผู้ที่ไม่เคยฝึกมาก่อนนั้นก็สามารถฝึกได้เช่นกันแต่ต้องมีความเพียรเป็นที่ตั้ง และถ้าจะให้ดีจะฝึกกสินกองใดก็แล้วแต่ให้ลองทบทวนและพิจารณาจริตของเราให้ดีเสียก่อนว่าอยู่ในข่ายใด จึงจะสามารถฝึกกสินกองนั้นได้รวดเร็วขึ้น
     
  10. JCkula

    JCkula สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +3
    ฮึ...
    ก็แค่หลงผิด กิเลสทั้งนั้น
     
  11. มนตรา_นาคี

    มนตรา_นาคี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +179
    อยากฝึกบ้างค่ะ
     
  12. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    กสิณไฟใช้ต้านหนาวได้ดีทีเดียวครับ ชอบจริงๆ
    แต่น่าเสียดายผมไม่มีอาจารย์
    แต่อย่างไรเราก็มีพระมหาอาจารย์พระองค์เดียวกันอะนะครับ
    พระพุทธเจ้าผู้มาโปรดสัตว์ทั้งหลาย
     
  13. 262538

    262538 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +13
    ฝึกเเล้วจะเป็นบ้าไหมคะ มีคนเเถวบ้านฝึกเเล้วเป็นบ้าค่ะพ่อเคยบอกเพ่งกสินไฟโดยไม่มีครู
     
  14. NCK2046

    NCK2046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +3,793
    ตอนนี้ได้กสิณนิมิตพระอาทิตย์ทรงกลดค่ะ

    ทำพระอาทิตย์ทรงกลดทุกวันเลย(ตอนนี้อยู่สุโขทัย)

    แต่ยังไม่เคยทำตัวอื่น
     
  15. tnktnk

    tnktnk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +45
    ขอสอบถามเรื่องการเพ่งกสิณครับ

    ผมพึ่งสมัครสมาชิกใหม่นะครับ ยอมรับว่าใหม่กับเรื่องแบบนี้มากๆ หลังจากอ่านหนังสือกสิณไฟของอ.บูรพาแล้วมีความสนใจอยากลองปฏิบัติครับ
    ผมมีข้อสงสัยอยากรบกวนสอบถามผู้รู้หน่อยครับผไม่รู้จะถามใครเลยจริงๆครับผม)
    คือเมื่อคืนที่แล้วผมได้ลองนั่งเพ่งเทียน เสร็จแล้วก้หลับตา เรียกนิมิต สิ่งที่ผมเห็นก็คือเป็นดวงไฟสีส้มๆ รูปรีๆ ซึ่งเมื่อเราพยายามจะเพ่งให้ชัด ดวงไฟก้จะลอยขึ้นข้างบนแล้วหายไป เป็นอย่างนี้หลายๆครั้งแล้วก้หายไปเลย
    ผมก้เพ่งเทียนใหม่ แล้วทำในลักษณะเดียวกัน ครั้งต่อๆมา ดวงไฟนั้นมีลักษณะใหญ่ขึ้นกว่าครั้งก่อน และมีรุปร่างที่ใกล้เคียงกับเปลวเทียนมากขึ้น ส่วนยอดเริ่มพลิ้วไหว แต่ทั้งนี้ภาพที่เห็นก็ยังไม่ชัดเท่าเปลวเทียนที่เป็นของจริง
    ไม่ทราบว่าผมมาถูกทางหรือยังครับ
    อีกข้อสงสัยหนึ่งก็คือ การเรียกนิมิต เป็นการพยายามมองภาพที่เราได้เพ่งไป ผ่านดวงตาที่หลับ คือเป็นการมองผ่านหนังตาที่หลับอยู่ใช่มั้ยครับ เพราะก่อนหน้านี้ผมเข้าใจว่าเป็นการจินตนาการเอาจากสิ่งที่เคยเห็น เป็นคนละอย่างกันใช่ไหมครับ
    รบกวนผู้รู้ผู้มีประสบการณืด้วยนะครับ ผมอยากรู้จริงๆครับ
    ขอบพระคุณครับ
     
  16. TK the Naka

    TK the Naka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,190
    พระพุทธองค์ของเราไงครับคือครูของพวกเราเอง
    ถ้าเราปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์จะปฎิบัติทางไหนก็ไปได้ไม่เป็นบ้าหรอก
     
  17. AFIKLIFI

    AFIKLIFI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +53
    ฝึกอย่างไรนั่งสมาธิเหรอครับ
     
  18. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    สำหรับข้าพเจ้าฝึกสมาธิโดยเริ่ม
    จากมโนยิทธิของหลวงพ่อพระฤาษีลิงดำ
    เป็นหลักอาจจะมีความรู้ไม่มาก

    แต่ข้าพเจ้าก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าพเจ้า
    สัมผัสได้ด้วยความบังเอิญเรียกว่ากสินไฟหรือไม่
    เมื่อข้าพเจ้าฝึกสมาธิได้ถึงระดับหนึ่ง
    ด้วยความบัญเอิญมองไปที่หลอดโคมไฟสีส้ม
    ก็เห็นแสงนิมิตลอยไปลอยมา
    แต่เมื่อจิตเป็นสมาธิเพ่งนานขึ้น
    แสงไฟที่เรามองแล้วกำหนดจิตนิ่ง
    จะเห็นเหมือนมีดวงตาสีฟ้ามองเราอยู่
    พร้อมกับเห็นอะไรเป็นดวงๆ มองเราเหมือนกัน
    ถ้าจิตเรานิ่งขอเห็นภาพชัดเจนขึ้น ก็เห็นเป็นดวงตา
    ปรากฏขึ้นดวงตานั้น เหมือนดวงตาคน
    ปรากฏหลากหลายดวงตามองเราอยู่ข้าพเจ้าตกใจ
    ทุกวันนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าดวงตาเหล่านั้นคืออะไร


    ;aa20
     
  19. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    หลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็ได้อ่านว่าการเพ่งแสงไฟ
    เรียกว่ากสินไฟ แต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ
    จึงเริ่มลองปฏิบัติอีกครั้ง ว่าให้เพ่งแสงเทียนไฟ

    ดังนั้นข้าพเจ้าก็ไหว้พระสวดมนต์ภาวนาเสร็จ
    ก็นั่งสมาธิเพ่งแสงเทียนไฟ ด้วยจิตที่เป็นสมาธิ
    ข้าพเจ้าสังเกตุเห็นว่า ถ้าเป็นวันพระ จะเห็นดวงตา
    เหมือนดวงตาคนมากมายปรากฏขึ้นมองเรานั่งสมาธิ
    ดวงตาสามารขยับไปมาได้ พร้อมกับที่ดวงตาสีฟ้า
    ก็ปรากฏขึ้นมองเราเหมือนกันเราจึงกำหนดจิตขอเห็นให้ชัดขึ้น
    สักพักก็เห็นสันจมูกแล้วก็รูจมูกของเขาด้วย

    ข้าพเจ้าก็ตกใจ เพราะทุกวันนี้ยังไม่ทราบเหมือนกัน
    ว่าเวลาข้าพเจ้าเพ่งกสินไฟ ทำไมจึงมีภาพเหล่านั้น
    ปรากฏขึ้นมาด้วย ก็เกิดความกลัวเหมือนกัน
    เพราะฝึกด้วยตัวเอง แต่ก็แผ่เมตตาให้เขาไปค่ะ
    ภายหลังนั่งสมาธิเสร็จแล้ว

    ถ้ามีผู้รู้ท่านใดทราบช่วยตอบด้วยค่ะ
    ว่าดวงตาที่ข้าพเจ้าเห็นเหล่านั้นคือสิ่งใด


    :z9
     
  20. KWANPAT

    KWANPAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,733
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ข้าพเจ้าคิดว่าผู้ที่ฝึกกสินไฟ
    ควรจะดับกิเลสในใจให้ได้ด้วย
    มิฉะนั้นอาจจะเป็นอันตรายตัว่ท่านเองได้
    ที่มีเพื่อนถามว่าอาจจะเป็นบ้าได้หรือไม่
    ข้าพเจ้าคิดว่าเพราะเกิดจากสิ่งนี้เอง

    ถ้าเราควบคุมจิตไม่ได้ธาตุในไฟในร่างกายแตก
    ก็จะเป็นอันตรายหรืออาจจะเป็นบ้าได้

    คือ กิเลสที่เกิดจาก โลภะ โทสะ โมหะ

    ซึ่งข้าพเจ้าเองก็ได้ถูกทดสอบจากสิ่งศักดิสิทธิ์
    เหมือนกันจากกิเลส ตัวที่ว่า ขอยกตัวอย่าง
    จากกสินไฟที่ข้าพเจ้า ถูกทดสอบ ด้วยความแรงของโทสะ

    โทสะ แปลว่า วามโกรธ ความขัดเคือง ความไม่พอใจ

    ปกติข้าพเจ้าเป็นคนใจเย็น ไม่ค่อยจะยึดติดอะไรมาก
    พี่สาวของข้าพเจ้าเป็นคนใจร้อน การพูดจาบางครั้ง
    โผงผาง โวยวาย ชอบติเตียน คนอื่น

    ปกติชอบบ่นทุกเรื่อง ข้าพเจ้าก็ไม่ถือสา แต่ด้วยความเป็นกันเอง
    ก็ชอบพูดจาใส่อารมณ์กับข้าพเจ้าทุกครั้ง ข้าพเจ้าคิดว่ามนุษย์เราทุกคน
    ถ้าโดนเพียงครั้ง 2 ครั้ง ไม่กี่ครั้ง คงจะไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อโดนเรื่อยๆ
    มากกว่าเป็น สิบๆ ครั้ง ก็เปรียบเหมือนถูกสะสมความรู้สึกนั้นไว้โดยไม่รู้ตัว
    ถึงจิตเราว่าไม่โกรธในตอนนี้ แต่สำหรับผู้ฝึกจิตท่านก็มาทดสอบว่าจริง

    เราสามารถผ่านด่านนี้ได้หรือไม่ ผู้จิตจะมีความแรงกว่าคนธรรมดา
    ดังตัวอย่างที่เกิดข้าพเจ้าต่อไปนี้ มีอยู่คืนหนึ่งที่ข้าพเจ้านอนสมาธิ
    ก็เกิดภาพนิมิตว่าได้ถูกพี่สาวพูดจาไม่ดี ไร้เหตุผลมากๆ
    จนถึงขั้นทะเลาะกันรุนแรงมาก ในนิมิตเขาตบตีข้าพเจ้า
    จนข้าพเจ้าทนคำพูดเขาไม่ไหว ลงมือบีบคอเขาเหมือนจะฆ่าเขา

    ซึ่งข้าพเจ้าในจิตรู้ตัวตลอดเวลา สักพักร่างกายของข้าพเจ้าเหมือนมีไอควันขึ้น
    แล้วอุณหภูมิร่างกายค่อยๆ ร้อนขึ้น สักพักร่างกายติดไฟ เหมือนตัวเองเป็นมนุษย์ไฟ
    ข้าพเจ้ารู้ได้ทันทีว่า สิ่งศักดิสิทธิ์ ทดสอบเราอยู่ เราจะไม่โกรธ
    เราไม่เคยคิดจะฆ่าพี่สาวตัวเอง เมตตา ๆ แล้วบอกกับตัวเองในจิตว่า
    สิ่งนี้ไม่ใช่ตัวตนของข้าพเจ้า นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ พระองค์ทรงมาทดสอบจิตเรา

    สักพักไฟที่ลุกท่วมที่เผาไหม้อยู่ ก็ค่อยมอดลง อุณหภูมิความร้อนค่อยลดลง
    เสมือนจริง เพราะ เรารับรู้ถึงความร้อนของเพลิงที่เผาไหม้ได้ ก็เพลิงแห่งจิต
    ที่มีโทสะ ดังนั้นทำให้ข้าพเจ้าทราบว่า เมื่อไรที่มนุษย์เกิดความโกรธ
    เพลิงในกายสามารถเผาได้ทุกสิ่ง สามารถทำสิ่งที่ผิดพลาดได้ทุกอย่าง
    หากเราไม่ได้ยั้งคิด รวมถึงการฝึกจิต ถ้าเรายังตัดไม่ได้

    เพลิงกิเลสเหล่านี้ สามารถทำลายผู้ฝึกปฏิบัติ ทำให้เป็นบ้า
    หรือเป็นโทษกับจิตกับกายสังขารของผู้ฝึกปฏิบัติได้

    เมื่อข้าพเจ้าอธิฐานต่อสิ่งศักดิสิทธิ์ว่าข้าพเจ้ารู้แล้ว
    สิ่งทีี่่่ท่านมาสอนสั่งในนิมิตเรื่องนี้ อุณหภูมิร่างกาย
    ของข้าพเจ้าเย็นลง จึงออกจากสภาวะสมาธินิมิตนี้ได้

    ผู้เขียนเองมิได้จะมีเจตนาอวดอ้างอะไร
    แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับตัวข้าพเจ้า
    จึงต้องการเล่าเป็นประสบการณ์สำหรับผู้ฝึกกสินไฟ
    หรือฝึกสมาธิไว้ เตือนสติตัวเอง
    ทุกครั้งเมื่อท่านมาทดสอบจิตเรา
    เพื่อจะได้ไม่เป็นอันตรายกับตัวเอง

    อนึ่งข้าพเจ้าคิดว่าผู้ฝึกสมาธิจะมีจิตแรงกว่าคนธรรมดา
    ที่ยังไม่เคยผ่านการฝึก ดังนั้นทุกท่านจะรู้ด้วยตัวของท่านเอง
    หากท่านหันมาปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าก็เป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ
    แต่ที่สามารถเล่าได้เพราะเกิดจากการปฏิบัติจริงเท่านั้น

    rabbit_sleepylove_

     

แชร์หน้านี้

Loading...