[IMG] วันอาทิตย์ คิดดี มีความสุข พูดทำถูก เป็นเหตุดี ไม่มีสอง ขออำนวย อวยชัย ให้สมปอง สิ่งใดข้อง หมองร้าย จงคลายลง อันพระธรรม คำสอน ในกลอนกล่าว เป็นเรื่องราว ดำเนินครบ จบประสงค์ สำคัญถูก ปลูกจิต พินิจปลง จึงจบลง ตรงจิตว่าง เป็นทางเบา
ครับ รู้สึกตัวมากเข้าก็เป็นทางหนึ่งที่จะ พบการรู้สึกตัวที่แท้จริง และสิ่งที่จะทำให้รู้สึกตัวนั้นเข้าถึงได้หลายทาง อันนี้ก็นเป็นเรื่องของสติปัฏฐานสี่ นี่เองเรื่องดูกาย ดูใจ ไม่ได้ออกนอกสติปัฏฐานสี่ ส่วนที่เคยกล่าวไว้ เรื่องพิจารณาธรรม อันนั้นก็เป็นสติปัฏฐานสี่เช่นกัน ในหมวดธรรมครับ กายเวทนา จิต ธรรม เมื่อเราได้รู้ตัวขึ้นในเรื่องใดก็ตาม เราจะรู้พร้อมทั้งสี่ เลยทีเดียว เนื่องจากมีอาการเดียวกันเป๊ะเลย ขอให้ผ่านโดยสะดวกโยธิน ฮับ ผมคงจะได้รู้สึกตัวตาม เค ไปติด ๆ บ้างอ่ะคับ
[IMG] จริง ๆ แล้ว นิพพานใช่ว่าจะไปจะถึงยาก เพียงให้รู้แท้แน่จริง ว่านิพพานเป็นอย่างไร มีลักษณะอาการเช่นไร ส่วนจะได้ไม่ได้ก็ขึ้นกับบุญบารมี ให้รู้ว่า นิพพานมีอยู่แล้วในแต่ละคน ดั่งคำที่ว่าจิตเดิมแท้นั้น ประภัสสร อาการของนิพพานมิได้สูงส่ง อย่างที่เราเคยคาดคิดไว้ เพียงเราลองวางจิตโดยปลดปล่อย ความคิด หรือสิ่งที่มาประกอบ โดยสลัด อารมณ์ ความกังวล ความสุข ความทุกข์ บุญบาป เมื่อทุกอย่างถูกสลัดออกไปจากใจทั้งหมด นิพพานจะปรากฏอยู่ตรงหน้า ตรงนั้นทันที อาการของนิพพาน ไม่มีอาการสะดุ้งหวาดกลัว ไม่มีอดีต อนาคต มีเพียงปัจจุบัน ไม่มีภัยใด ๆ อยู่เพียงกิจปัจจุบันคือความรู้ตัว เมื่อความสงบระงับเกิดขึ้นโดยสมบูรณ์ นิพพานจะอยู่ตรงนั้น ให้หมดความสงสัยลงทันที พระโสดาบันเริ่มรู้จักนิพพาน พระอนาคามี ทำนิพพานได้เร็วมาก แต่พระอรหันต์ไม่ต้องทำนิพพานเลย เพราะท่านเสวยวิมุตินิพพานเป็นปกติในปัจจุบันอยู่แล้ว เพียงก้าวผ่านพ้นประตูของความหลงได้ จะเรียกว่าเป็นผู้เริ่มรู้สึกตัวก็ว่าได้ แต่คุณค่าของสิ่งนั้นคือการก้าวผ่านโคตรของปุถุชน หรือการก้าวไปสู่บุคคลหนึ่งในแปดจำพวก ซึ่งเรียกว่าโสดาบันบุคคล ลำดับของพระอริยะนั้น การผ่านขั้นต้น เป็นพระโสดาบันนั้น ยากที่สุด ถ้าผ่านความไม่รู้ตัวขึ้นเป็นผู้รู้ตัวแล้วเมื่อใด นั่นจึงจะได้ชื่อว่าได้ทำพระนิพพานให้แจ้งแล้ว แล้วสักวันผมคงตาม เค ไปสู่ประตู อารยะอ่ะคับ
พรุ่งนี้ ไป เมืองกาญจน์ ทิ้ง รูป ไว้ ให้ ดู ต่างหน้า ตัวอักษร ไม่อยู่ นะเอย นะเอย อย่า ลืม ดูเเล แฟน สันโดษ ดีๆ ด้วย รักมากมาย ไม่ต้อง งง ......คนนั้นละ ที่คิด ใช่ เลย