94.เก็บเรื่องมาเล่า : ผ่านเขาใหญ่ อยากไปดูช้าง

94


เก็บเรื่องมาเล่า : ผ่านเขาใหญ่ อยากไปดูช้าง





​

หลังจากแก๊งค์เที่ยวไม่ได้รวมตัววางแผนกันไปเที่ยวร่วมๆ 3 เดือน (ในระหว่างนั้น ก็มีแค่ทริปเล็กๆ เช่น ไปพาสาน ไปวัดคีรีวงศ์ แต่อาจจะไม่เล่าเนอะ) ก็เกิดผุดไอเดียจะไปกางเต็นท์นอนที่เขื่อนบ้าง ที่กาญจนบุรีบ้าง อุทยานแห่งชาติบ้าง เรื่องเต็นท์กับอุปกรณ์เครื่องนอน ไม่มีปัญหา เพราะมีอยู่ครบ จะมีปัญหาก็ตรงเรื่องห้องน้ำกับอากาศร้อน สรุปว่า ไม่เต็นท์ ไปนอนบ้านพักรีสอร์ทแทน ให้เพื่อนหาที่พักอ่านตามรีวิวต่างๆ แล้วก็จองกันไป และระหว่างทางจะแวะอะไรบ้าง สร้อยฟ้ามาลาไม่รู้ จะพาไปไหนก็ไปกัน แค่นครนายกกับโคราช ไม่ไกล

​

 

วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์

วันนี้เป็นวันมาฆบูชา สร้อยฟ้ามาลาขี่มอไซด์ไปรวมตัวที่บ้านเพื่อน เมื่อมากันครบแล้ว 5 คน ออกเดินทางโดยสร้อยฟ้ามาลาเป็นคนดูแผนที่เหมือนเดิม

สายๆ นี้แวะเติมพลังที่ครัวคุณหญิง อิ่มแล้วก็ไปต่อ พวกเราใช้เส้นทางรังสิต นครนายก ถนนเส้นนี้สร้อยฟ้าฯ ไม่ถนัด เคยขับมาไม่เกิน 10 ครั้ง รู้สึกว่าเป็นถนนที่วุ่นวายยังไงไม่รู้ สร้อยฟ้าฯ ถามเพื่อนแก๊งค์ว่า จะไปไหนกัน ก็บอกกันว่าไปวัดที่มีอุโมงค์ต้นไผ่ อืมม...

วัดป่าไผ่เหรอ ไม่รู้จัก เสิร์ชจหากูเกิ้ล ได้ชื่อว่า วัดจุฬาภรณ์วนาราม ดูแผนที่ก็ไม่ไกลนะ แต่ขับๆ ไปกว่าจะถึงเที่ยงกว่าแน่ะ...

 

​

ประวัติวัดจุฬาภรณ์วนาราม สร้างขึ้นในวโรกาสที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงพระชนมายุ 50 พรรษา ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2550 และได้พระราชทานนามวัด"วัดจุฬาภรณ์วนาราม” พร้อมด้วยพระราชทานตราสัญลักษณ์ จภ เป็นตราประจำวัด เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550


พวกเราทำบุญ ปิดทองไหว้พระ แล้วก็มาถ่ายรูปกันที่อุโมงค์ต้นไผ่ แต่ว่าวันนี้เป็นวันมาฆบูชา ผู้คนจึงมาวัดกันเยอะ ทำให้หามุมถ่ายรูปยากมากกกกกกๆๆๆๆ

 

​

เดินเก็บภาพได้นิดหน่อยก็มาซื้อของที่ตลาดชาวบ้านข้างๆ ป่าไผ่

 

​

 

​

จากนั้นขึ้นรถไปกันต่อ
ที่ต่อไปเป็นวัดหลวงพ่อปากแดง ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน

วัดหลวงพ่อปากแดง หรือวัดพรหมณี พระอารามหลวง สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕

หลวงพ่อปากแดง เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ศิลปะล้านช้าง ปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 1 เมตร จีวรเป็นลายดอกพิกุล พระโอษฐ์ แย้มทาสีแดง ชาวบ้านจึงเรียกว่า "หลวงพ่อปากแดง"

เขาเล่าว่า “มีตำนานความเชื่อ หลวงพ่อปากแดง เป็นพระพุทธรูปพี่น้องกับหลวงพ่อพระสุกและหลวงพ่อพระใส ที่ประดิษฐานอยู่ที่ จังหวัดหนองคาย ที่ได้อัญเชิญมาจาก นครเวียงจันทน์ พอมาถึงประเทศไทย ชาวบ้าน ได้แยกย้ายไปตาม วัดต่างๆ ส่วนหลวงพ่อปากแดง ก็มาเป็นพระพุทธรูป ศักดิ์สิทธิ์ ของชาวนครนายก”

 

​

อืมมมม....

ตอนที่เข้าไปกราบท่านก็คุ้นๆ อยู่ว่าเหมือนเคยเห็นพระพุทธรูปลักษณะนี้ที่ไหน ก็คล้ายกับหลวงพ่อพระใสอยู่นะ

แต่ว่า หลวงพ่อพระสุกกับพระใสมีพี่น้องอีกองค์คือหลวงพ่อพระเสริม ไม่ใช่หลวงพ่อปากแดง ไม่ใช่เหรอ งง ???

คือ พระใส อยู่ที่วัดโพธิ์ชัย หนองคาย
พระเสริม อยู่ที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
พระสุก ตกน้ำโขง เขาว่าอัญเชิญขึ้นมาได้นานแล้ว อยู่ที่วัดศรีธรรมาราม พระอารามหลวง ยโสธร

​

มาไหว้หลวงพ่อปากแดง คงหนีไม่พ้นเรื่องตัวเลข ลองเสี่ยงกันคนละกี่ใบ ไม่รู้สิ...

 

​

ไหว้พระแล้ว พวกเราก็หาข้าวเที่ยงตอนบ่าย 2 แถวๆ วัดนั่นแหล่ะ

เป็นร้านก๋วยเตี๋ยว กะลา นู๊ดเดิ้ล

 

​

อิ่มแล้วไปกันต่อที่อุทยานพระพิฆเณศ ที่นี่แวะทำบุญถ่ายรูปแป๊บเดียว เพราะแดดร้อนเปรี้ยง

 

​

 

​

 

จากนั้นพวกเราก็เดินทางเข้าที่พักคืนนี้อยู่กันที่ ตามตะวัน การ์เด้น
ทางเข้าอยู่ตรงข้ามวัดกลางโสภา ที่นี่บรรยากาศดี เงียบสงบ
ถ้าจะเข้ามาพักต้องตุนเสบียงเข้ามาด้วย และคืนนี้ ที่นี่ทั้งหมดเป็นของพวกเรา ก็มีหลังเดียว แถมมีเวทีเล็กๆ อยู่ลานหน้าบ้านด้วยนะ

​

 

​

 

สำรวจบ้านพัก มี ลำโพงคาราโอเกะ ทีวีไซด์ยักษ์ หม้อสุกี้ปิ้งย่าง เครื่องชงกาแฟสด ตู้เย็น จาน ชาม กระทะ คือ พร้อมที่จะทำครัวได้เลย เจออย่างนี้ พวกเราก็ชวนกันออกไปซื้ออาหารสด ตรงทางแยกถนนใหญ่ที่ขาเข้ามามีตลาดนัดกับร้านสะดวกซื้อ 2 เจ้า ที่ชอบมาเปิดคู่กัน (เจ้าไหนคงเดาออก) ขับรถออกมาเป็นสิบกิโลเลย แต่ก็ได้ของครบเมนูปิ้งย่าง

​

 

​

 

ตอนก่อนเข้ามาที่พัก เห็นวัดอยู่ปากทางเข้า เพื่อนบอกว่าจะออกไปเวียนเทียน
แต่คงไม่ได้ออกไปแล้วหล่ะ


อิ่มแล้ว นอนได้...

​

 

วันรุ่งขึ้น
ทำอาหารเช้า เสร็จแล้วเก็บของอำลาที่พัก คุยๆ กันว่า คราวหน้ามาเที่ยวนครนายก จะมาที่นี่อีก ติดใจ

พวกเราขับรถย้อนออกทางเก่า แวะทำบุญไหวพระที่วัดเขานางบวช มีรอยพระพุทธบาทจำลองอยู่บนเขา แต่พวกเราไม่ได้ขึ้นไป เพราะขึ้นไม่ไหว(หรือเปล่า)

​

 

จากนั้นก็ไปกันต่อที่

พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ สวนพุทธชยันตี
ที่นี่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางแสดงโอวาทปาติโมกข์ขนาดใหญ่หน้าตัก 9 เมตร สูง 13.5 เมตร เป็นตัวแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บริเวณโดยรอบมีพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 90 ซม. อีก 1,250 องค์ เป็นตัวแทนพุทธสาวกแสดงถึงเหตุการณ์สำคัญเมื่อครั้งพุทธกาล

​

 

วันมาฆบูชา เป็นวันจตุรงคสันนิบาต ประกอบด้วยองค์ 4 คือ
1.พระภิกษุสงฆ์ซึ่งเป็นพุทธสาวกจำนวน 1,250 รูป มาชุมนุมพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย
2.พระพุทธสาวกล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา
3.พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์
4.เป็นวันเพ็ญเดือนมาฆะ

เมื่อคืนไม่ได้เวียนเทียน มาเดินเวียนเทียนตอนกลางวันแดดเปรี้ยงๆ แทน

​

 

ทำบุญไหว้พระแล้ว ไปกันต่อที่ เขื่อนขุนด่านปราการชล

เขื่อนขุนด่านปราการชล
สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เพื่อเก็บกักน้ำในช่วงหน้าฝนไว้ในหน้าแล้ง และควบคุมไม่ให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร ไร่นาและพื้นที่การเกษตรในหน้าฝน โดยสร้างครอบฝายท่าด่านเดิม เป็นเขื่อนคอนกรีตอัดบดยาวที่สุดในโลก มีความยาวรวม 2,720 เมตร ความสูง 93 เมตร จุน้ำมากถึง 224 ล้านลูกบาศก์เมตร

​