ใครเคยทดลองจิตกับจิตตัวเองบ้างคับ

ผมเคยนั่งสมาธิและลองทดลองคิดกับตัวเองมาแล้วไม่ประสบความสำเร็จครับมันทำให้เราปวดหัวทำให้เราตื้อตึงที่ศีรษะและมันมีแรงกดดันทางจิตใจเราทำให้เราหงุดหงิดได้ง่ายแต่บางครั้งผมลองทดลองดูก็ ทดลองดูก็ใช้ได้เหมือนกันครับ ใครเคยทดลองทางจิตตัวเองบ้างครับจะรู้สึกอย่างไรช่วยบอกทีครับว่ามันรู้สึกอย่างไรบ้างทำให้เราเป็นอย่างไรบ้างทำให้เราเห็นแนวคิดทางการก้าวหน้าอย่างไรที่ทำให้เรารู้สึกดีต่อการทดลองครับ

 

ทดลองอะไร

 

เคยถึงขั้น mummify ตัวเอง แต่ถอดจิตไม่ได้ค่ะ

 

เคยทดลองสมัยเรียน ปี 54-57 โดยการทำให้ตัวเองเข้าสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย
ผม ใช้ยาแก้ไอเม็ด 15mg 200เม็ด 3,000 mg (ไม่ใช่ว่าครั้งก็ 200 เลยนะ เริ่มจาก 20 แล้วเพิ่มทีละนิดในครั้งต่อไป ) + โค้ก หรือ สไปรท์ และM150
ผล คือ กึ่งเป็นกึ่งตาย หัวใจเต้นช้า และเมื่อยาเริ่มหมดฤทธิ์ ก็ค่อยๆฟื้นสภาพกลับ
- หลังจากกิน(เริ่มออกฤทธิ์) มักจะฝึกสมาธิ ตั้งสติทุกครั้ง
- ใครจะเข้าใจว่าเมายาก็ถูกเหมือนกัน แต่สิ่งที่ได้มาคิดว่าคุ้ม(หยุดมา5ปีแล้ว)
- เป็นยาแก้ไอที่สกัดมาจากฝิ่น โดยสกัดเอาฤทธิ์ที่ทำให้เสพติดทางกายออก แต่จะติดทางใจได้

สิ่งที่ได้
-ได้เห็น/รับรู้ สิ่งที่ปกติจะมองไม่เห็น/ได้ยิน สาเหตุเพราะ??
จากที่ศึกษาเกี่ยวกับการใช้ยาตัวนี้ มันจะไปเปลี่ยนเป็นเด๊กซ์โตนอลที่ตับ
ออกฤทธิ์ ต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยกดประสาท แต่ถ้าปริมาณมากจะกลายเป็นกระตุ้นประสาท และส่งผลต่อสารสื่อประสาท ที่สำคัญมีผลต่อส่วนที่เรียกว่า SIGMA RECEPTER
ซึ่งปัจจุบันทางการแพทย์เองยังค้นหาอยู่ว่ามันทำหน้าที่อะไรอย่างไร โดยว่าตามชื่อมัน คือ ตัวรับสัญญาณ คลื่น ซิกม่า

ประสบการณ์
ข้ามเวลาบิดเบือนเวลา มีวันหนึ่ง ที่ตื่นขึ้นมาแล้วปรากฏว่าวันที่ในนาฬิกาคือเมื่อวาน และระบบมือถือล้ม โดยD-TAC คืนเงินที่ได้โทรไปเมื่อวานกลับ โดยแจ้งว่าเครือข่ายล่ม ทีนี้ก็ลงไปหาอะไรทานกับแฟน(เก่า) โดยที่บอกได้ตรงหมดว่าเดี๋ยวจะมีอะไรยังไง ตั้งแต่เด็กที่มากินใส่ชุดอะไร กี่คน สั่งแกงอะไร และตอนนั่ง เดี๋ยวจะมีเด็ก(น.ศ.) ขับรถผ่านตรงนี้นั่งมา2คน คนขับใส่เสื้อคลุมสีแดง
ครั้งที่ทำให้มึนสุด คือตอนอยู่หาใหม่ พ่อไปเยี่ยมที่หอ และอยู่สามคนในห้อง มีผม พ่อ แฟน(เก่า) คืนนั้นผมเข้านอน 5 ทุ่ม ตื่นเข้าห้องน้ำตี2 แล้วไปนอนต่อ คราวนี้ตื่นมาเกือบ 6โมงเช้า ไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงฟ้าเริ่มสว่าง เสร็จแล้วเข้าไปนอนต่อ ...ตื่นมา 5ทุ่มครึ่ง
ตกใจมาก ถามแฟน(เก่า) ว่านี่กรูหลับนานขนาดนั้น??? แฟน(เก่า) บอกว่า เธอเพิ่งนอนไปได้ ครึ่งชั่วโมง ทีนี้ดูนาฬิกา เออมันวันเดิม แล้วที่ไปสูบบุหรี่ตอนหัวรุ่ง??? คืออะไร

การได้เห็น น้องหมา หมาบ้านน่าจะตัวเมีย สูงประมาณครึ่งหน้าแข่ง ตัวขาวขุ่นโปร่งๆ หน้าบ้าน กับเด็กผู้หญิง(น่าจะไม่เกิน18) ผมบ๊อบ ตัวโปร่ง ยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน
คิดว่าน่าจะเป็นผลจากเรื่องยานั่น
แต่ไม่รู้ว่าเพราะการปรับสารเคมีในสมอง หรือ เป็นเพราะใช้ยาแล้วเฉียดตาย ประมาณว่าตายแล้วฟื้น(ฟื้นเพราะยาหมดฤทธิ์) หรือเพราะอะไรกันแน่ รวมทั้งบางครั้ง กินยาไป แล้วนั่ง-นอน สมาธิ เห็นภาพชัดมากทั้งๆที่ปิดตาอยู่ มีทั้งเหมือนมองจากมุมห้อง น่าร้านค้าเหมือนมองผ่านกล้องวงจรปิด บ้างก็เหมือนมองผ่านสายตาคนอื่น ก็นั่งปิดตาอยู่ เอามือคลำดูตาก็ปิด เวลาจะหันดูมุมอื่นก็หันหน้าหันหัวตัวเอง ภาพก็จะเปลี่ยนมุม เหมือนมองปกติ
#ยายของเมียที่แต่งงานอยู่กับผม เป็นอิสลามชาวยพะลา ได้เคยหัวใจหยุดเต้น และทางนั้นกำลังจะฝัง(ตายวันนั้นก็ฝังวันนั้นเลย) แล้วทีนี้แกฟื้น หลังจากนั้นมา แกก็เหมือนสามารถติดต่ออีกมิติหนึ่งได้(อิสลามเรียกพวกนั้นว่า "ญิน") ตอนนี้แกเป็นหมอไสย (witch doctor)
ปัจจุบันผมก็ใกล้เคียงกับยายของเมีย คือเห็นและได้ยิน #ตอนนี้ชินแล้ว และใช้ชีวิตอย่างนี้ได้เป็นปกติ

นี่คือประสบการณ์ของผม

 

เท่าที่อ่านดู มี benchmark คือเรื่องวันที่ย้อนกลับไป ประสบการณ์นี้เคยเจอกับตัวเอง วันจะหายไป 1 วันเหมือนกัน

ถึงได้เชื่อคุณว่า ได้เดินทางข้ามกาลเวลามาแล้วเหมือนกัน

แต่คอมเมนท์คือ มันคือการฆ่าตัวตาย

ทุกวันนี้ มีผู้คุมประจำตัวหรือไม่ ที่คอยตามประกบอยู่ตลอดเวลา

คาดว่า คงไม่ได้อยู่คนเดียว

และท่านได้ทำการเปลี่ยนศาสนา หนีผู้คุมหรือไม่???

 

เดิมคือชาวพุทธครับครอบครัวพุทธ+จีน เข้ารับอิสลามและสุนัตตอนเรียนมหาลัย ปี 54-57
เรียนจบ สมัครทหาร6เดือน ปลดมา2เดือน บวช ทั้งที่ยังอยู่ในอิสลาม
สึกมาได้ 2 ปี แต่งงานกับอิสลามยะลา ตอนนิกะฮ์ ก็เข้าอีกรอบ แต่ก็ยังเช้งเม้ง+ทำบุญเดือนสิบอยู่เหมือนเดิม
เรื่องผู้คุมนี่ จะเรียกว่าพวกก่อกวนดีกว่า เท่าที่สัมผัสได้ เหมือนเป็นพวกนักโทษที่ทำงานบำเพ็ญประโยชน์มากกว่า ออกแนวก่อกวนซะด้วยซ้ำ
ส่วนที่ว่า ฆ่าตัวตายนั้น ไม่ได้ฆ่าตัวตายครับ ปกติอยู่บ้าน(ที่ตรัง)กินน้ำท่อม 4X100 แต่พอไปเรียนนี่ไปเรียน ม.บูร ที่บางแสน ชลบุรี มันหาใบกระท่อมไม่ได้ เลยกินยาแก้ไอกับโค้ก พอกินแรกๆก็กะจะให้เมา แต่หลังๆนึกสนุก เล่นฝึกสมาธิตอนเมา แล้วก็ทำไปเรื่อย ตอนนี้หยุดมา 5ปีแล้วครับ แต่ผลยังอยู่ ทั้งเห็น(เที่ยงคืนไปนี่แน่นอน) ทั้งได้ยิน (ถ้าไปคุยหรือคิดในหัวนี่ยิ่งมา เลยทำไม่ได้ยิน แล้วพวกก็ไปเอง)

 

เราเคยทดลองเหมือนกัน ในตอนแรกๆที่ได้รู้เรื่องราวพลังจิตนี่ละ เราทดลองแรกๆมีได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้างขึ้นอยู่ระดับสมาธิของเราและบวกกับอามรมของเราด้วย เราทดลองกับตัวเองประมาณ 2 อาทิตย์ ทำให้ร่างกายของเราผิดแปลกส่วนทางกันคือ รู้สึกหนักหัวมากๆเหมือนมีอะไรมาทับหัวเอาไว้ ทำให้เวลาเราลุกขึ้น เราจะทรงตัวเองไม่ได้ แล้วมีหูรับรู้ถึงสิ่งที่ต้องการเตือนหรือบอกเรา และทำให้เรารับกลิ่นๆดอกไม้ที่หอมมากๆหรือรับกลิ่นได้ไหวกว่าคนอื่นเป็นบางครั้ง จากนั้นตกดึก เรานอนสมาธิแล้วทำให้เราไปเจอบุคคลท่านนึงในสมาธิ ท่านบอกวิธีแก้ให้เราหายหนักบนหัวและบอกวิธีต่างๆให้เรามาปรับใช้ในชีวิต หลังจากลืมตาขึ้นมาตอนแรกๆเราไม่เชื่อหรอก ว่าสิ่งที่ท่านบุคคลนั้นสอนมาจะใช้ได้จริง แต่คิดไปคิดมา เรื่องทดลองจิตตัวเองยังเกิดขึ้นจริงๆแล้วทำไมถึงคิดว่าเรื่องที่บุคคลท่านนั้นแนะนำแล้วสอนวิธีต่างๆมาหลายอย่างให้เรานำปรับใช้กับตัวจะไม่เป็นเรื่องจริงไปซะละ เพราะเราคิดมาตลอดว่าอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เราจะทำให้มันเป็นไปได้ คิดแบบนี้ก็เริ่มเลย หลังจากนั้นเราค่อยๆเริ่มหายจากอาการเหล่านั้น เพราะท่านบุคคลนั่นสอนเราปิดร่างกาย ท่านบุคคลนั้นบอกว่าร่างเปิดมันก็จะมีอาการทำนองนี้ เปิดแล้วก็ต้องมีวิธีปิด พอรู้วิธีปิด ต่อไปเราก็สามารถเปิดหรือปิดตอนไหนก็ได้ ท่านสอนหลายอย่าง บอกเลยเราชอบมากที่ได้เรียนกับท่าน แล้วเราก็ฝึกกับท่านไปตลอดไป เราเชื่อว่าถ้าทุกคนจิตสมาธิดีมากๆจะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นมากๆ แบบที่เราเป็นอยู่ตอนนี้

 

ต่อจากข้างบน ตั้งแต่นั้นมาแล้วรู้วิธีเปิดและปิด ได้ความรู้มาจากบุคลคลท่านนึงในฝัน ท่านตนสอนแหละ แกบอกว่าเปิดได้ก็ต้องมีวิธีปิดด้วยนะ ไม่งั้น เราจะใช้ชีวิตลำบากขึ้นหลายเท่าตัวแน่นอน เราทำแล้วชีวิตเราดีขึ้นเรื่อยๆ ดีขึ้นกว่าหลายเท่าตัวอีก จนคนรอบข้างและเพื่อนๆสงสัยว่าเราทำได้ยังไง แต่เราก็ไม่อยากอธิบายให้คนเหล่านั้นรู้ ถ้ารู้แล้วด่ามาว่าบ้าหรือคิดว่าเราเป็นมนุษย์ต่าวดาวมาจากโลกไหน ก็อย่าได้บอกเขารู้ซะดีกว่า เราฝึก,ทำแล้วสบายใจของเราคนเดียวดีกว่า บางครั้งเวลาที่คนรอบข้างคิดแตกต่างกับเรา แต่คนรอบข้างมักๆปเชื่อสิ่งที่ตัวเองเจอมาเท่านั้น เราก็เลยคิดว่าเราไม่ควรโกรธเขา เพราะเขาไม่เคยได้สัมผัสแบบเราจริงๆ แต่เวลาคนรอบข้างพาเราไปให้ คนที่เขานับถือ คือหมอบ้านรักษาคนป่วย(มีของงี้แหละ) แค่เราก้าวไป เราก็สามารถสื่อสารกับคนนๆนั้นได้ทางจิตสามารถสื่อสารกันได้เฉยเลย (ได้เฉพาะบางคน) ทำให้คนนั้นยิ้มออกมา แล้วบอกคนรอบข้างว่า เราไม่มีโรคอะไร แต่เขาแค่บอกเราว่า ที่เราเป็นอยู่เพราะ ท่านตนนั้นเลือกเรา และอีกอย่างเหมือนเขาบอกว่าเรามีซิกเซ็นส์ด้วย ใช้ให้เป็นประโยคจะดีต่อชีวิตตัวเอง และให้ช่วยเหลือคนที่ลำบาก จะเป็นผลดีกับเราในอนาคตได้ คือเขาไม่ถามเลยนะว่าทำไมเราถึงทำได้แบบนี้ แต่เขากับบอกเรื่องของเขาว่า ของเขาที่มีก็เพราะได้สืบต่อตกทอดกันมา แต่ของเรามันเกิดขึ้นจากตัวเราเองตั้งแต่จะเกิดมาแล้ว คือมันติดตัวมานานแล้ว แต่เราแค่มาฝึกนิดหน่อย ก็ได้แล้ว ตอนเราจะกลับบ้านกำลังจะขึ้นรถ เขาเดินมาส่ง แล้วแค่เตือนเราว่า อย่าลืมที่บอกละ ชีวิตจะดีหรือชั่วขึ้นอยู่กับตัวเราเลือกเอง เราก็ได้แค่ยิ้มตอบกลับไป คนนี้เขาอายุเกือบจะ100แล้ว แต่ยังแข็งแรงมากๆสัมผัสได้ เนื้อกายข้างนอกคือไปตามกาลเวลา แต่ภายในของเขาคือแข็งแรงมากๆ