เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 19 พฤษภาคม 2025 at 17:17.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,874
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,750
    ค่าพลัง:
    +26,615
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,874
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,750
    ค่าพลัง:
    +26,615
    วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่ทองผาภูมิยังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้ เดี๋ยวแดดเดี๋ยวฝน ซึ่งอากาศแบบนี้ ถ้าหากว่าบ้านหรือว่าวัดแห่งใด เทคอนกรีตกลางแจ้งเอาไว้ จะเกิดตะไคร่เร็วมาก เพราะว่าเมื่อถึงเวลาโดนฝนแล้วก็โดนแดด ตะไคร่น้ำจะงอกงามเป็นพิเศษ ใครที่เดินไปเดินมาต้องระมัดระวังให้ดี มีโอกาสที่จะล้มได้อย่างแน่นอน..!

    เมื่อวานเช้า กระผม/อาตมภาพเข้าไปกราบหลวงพ่อสุรสีห์ - พระเทพสิทธิโสภณ (สุรสีห์ กิตฺติโสภโณ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๘ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเชิงชุม วรวิหาร แล้วก็ได้พูดคุยกับหลวงพ่อเจ้าคุณวินัย - พระราชวชิราทร (วินัย สจฺจวํโส ป.ธ. ๕) เจ้าคณะจังหวัดสกลนคร ซึ่งกราบขอบพระคุณแล้วกราบขอบพระคุณอีก เนื่องจากว่าโครงการหล่อรอยพระพุทธบาทจำลอง ๔ รอยด้วยทองคำนั้น เป็นความใฝ่ฝันของท่าน แต่ในยุคที่ราคาทองขึ้นไปจนติดฟ้าแบบนี้ ท่านเองก็ไม่คิดว่าจะสามารถทำได้

    ในเมื่อกระผม/อาตมภาพถวายทองคำที่ญาติโยมทั้งหลายร่วมกันถวายมาให้ท่านไปเป็นจำนวน ๑,๕๐๓.๖ กรัม ประกอบกับครูบาแก้ว สนฺติโก เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสว่าง (ท่าช้าง) เมืองปากงึม แขวงกำแพงเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมบุญมาอีก ๑,๐๐๐ กรัม ก็คือ ๑ กิโลกรัมพอดี จากที่ท่านประมาณเอาไว้ ว่าจะต้องใช้ทองคำประมาณ ๑๐ กิโลกรัม ตอนนี้ก็ได้ไปแล้ว ๑ ใน ๔ แล้ว ท่านจึงดีใจมาก ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้นก็คงจะช่วยท่านได้แค่นี้ เพราะว่าภาระทางด้านอื่นยังมีอีกมาก

    หลังจากนั้นก็ชวนกันออกไปยังบริเวณมณฑลพิธี กระผม/อาตมภาพกราบขออนุญาตหลวงพ่อสุรสีห์เป็นผู้ทำการบวงสรวง โดยมีท่านเจ้าคุณวินัยเป็นผู้จุดธูปเทียนบูชาพระ ระหว่างที่ทำบวงสรวงนั้น ก็ได้ถามท่านสุวัณณนาคราชที่ถือว่าเป็นเจ้าของสถานที่ใกล้ชิดว่า "วันนี้มีหลายแห่งที่ทำบวงสรวงอยู่เหมือนกัน แล้วทำไมถึงมาตรงนี้กันได้ ?"
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,874
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,750
    ค่าพลัง:
    +26,615
    ท่านบอกว่าเกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกก็คือสามารถที่จะแยกกายไปยังหลาย ๆ ที่พร้อมกันได้ สาเหตุที่ ๒ ก็คือ สถานที่นี้ทำในสิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศล เป็นพุทธานุสติใหญ่ ที่จะอนุเคราะห์สงเคราะห์ต่อพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ท่านจึงต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะพรหมเทวดาทั้งหลายที่มานั้น ท่านก็มาด้วยหวังอนุโมทนาส่วนบุญส่วนกุศลตรงนี้ และช่วยกันอำนวยอวยพรให้งานทุกอย่างสำเร็จลงด้วยดี

    กระผม/อาตมภาพในฐานะคนขี้สงสัยก็ยังเรียนถามท่านต่อไปว่า "มีบ้างไหมที่เขาเรียกแล้วไม่ไป ?" เล่นเอาพญานาครูปหล่อหัวเราะหึหึ บอกว่า "มีถมไปครับท่าน บางแห่งถ้าวาระเวรวาระกรรมของเขาเข้ามา บุคคลผู้เรียกหาไม่มีศีลไม่มีธรรม ก็อาจจะมี "ของแถม" ให้ด้วย..!"

    กระผม/อาตมภาพนึกขึ้นมาทันทีถึง ๒ เรื่อง เรื่องแรกก็คือ วันก่อนที่มีการทำบวงสรวงที่ปราสาทนครวัด แล้วเกิดฟ้าผ่าขึ้นมา นั่นน่าจะเป็น "ของแถม" อีกเรื่องหนึ่งก็คือพระอาวุโสของวัดท่าซุงในอดีต ซึ่งอยู่ที่วัดท่าซุงมาก่อนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ จะไปอยู่ ที่พวกเราทันกันก็จะมีพระครูสังฆรักษ์อรุณ ตลอดจนกระทั่งหลวงตาผ่อง และหลวงตานา

    อันว่าพระครูสังฆรักษ์อรุณที่ท่านนิมนต์หลวงพ่อไปอยู่วัดท่าซุงนั้น ก็เพื่อหวังที่จะให้หลวงพ่อเป็น "ผู้ปั๊มเงิน" ให้กับท่าน นี่พูดกันตรง ๆ แบบไม่ต้องอ้อมค้อม..! แต่เมื่อหลวงพ่อท่านทำบัญชีทุกอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีเงินเหลือถึง
    ภายหลังจึงมีการปลุก "ม็อบ" มาขับไล่หลวงพ่อท่านด้วย..!

    ส่วนพระเก่าอีก ๒ รูปนั้นต้องบอกว่า "เก่าจนขึ้นรา" แล้ว ก็คือหลวงตาผ่องกับหลวงตานา อย่ากล่าวให้ชัดเลยว่าท่านฉายาอะไร ? หรือว่านามสกุลอะไร ?
    เนื่องจากลูกหลานของทั้งสองท่านยังมีชีวิตอยู่ ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะหลวงตาผ่อง ท่านพักอยู่ที่อาคารโรงเรียนทหารอากาศสงเคราะห์ ซึ่งปัจจุบันนี้โดนรื้อทิ้งไปแล้ว เป็นอาคารที่ต่อเนื่องกับศาลาหลวงพ่อ ๔ พระองค์

    ถ้าหากว่าใครไปวัดท่าซุงในยุคของการเปิดศาลาหลวงพ่อ ๔ พระองค์ใหม่ ๆ บางคนก็เรียกศาลานี้ว่า "โรงเก็บเหล็ก" เพราะว่าเป็นสถานที่เก็บเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างวัดท่าซุง โดยมีองค์พระประธาน ตลอดจนกระทั่งรูปหล่อหลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่ศุข หลวงปู่ปาน ครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อวัดท่าซุง อยู่ภายในนั้น จนเรียกว่าศาลาหลวงพ่อ ๔ พระองค์ ปัจจุบันนี้มีการสร้างรูปหล่อหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงเพิ่มเติมเข้าไป กลายเป็นศาลาหลวงพ่อ ๕ พระองค์
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,874
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,750
    ค่าพลัง:
    +26,615
    ศาลาหลวงพ่อ ๔ พระองค์ หรือว่า "โรงเก็บเหล็ก" นั้น จะสร้างต่อเนื่องออกมาจากอาคารโรงเรียนทหารอากาศสงเคราะห์ ซึ่งเป็นที่พักของหลวงตาผ่อง จะว่าไปแล้วก็เป็นอาคาร ๒ ชั้น หลวงตาผ่องท่านจะพักอยู่ชั้นบน แล้วท่านก็จะมีปฏิปทาอยู่ในลักษณะที่ว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ทำอะไรก็ตาม หลวงตาผ่องจะเลียนแบบและทำตามทั้งสิ้น เพราะคิดว่าถ้าทำแล้วคนเกิดความเลื่อมใส เงินทองก็จะได้หลั่งไหลไปหาตัวเองบ้าง

    สิ่งอื่น ๆ ก็ไม่ว่าอะไรหรอก สิ่งหนึ่งที่หลวงตาผ่องทำก็คือมีการสวดบวงสรวงเชิญเทวดาเป็นประจำ ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็ตอกย้ำพวกเราแล้ว ตอกย้ำพวกเราอีกว่า "การอัญเชิญเทวดานั้นต้องมีเรื่องสำคัญจริง ๆ และเครื่องบวงสรวงจะต้องถูกต้องครบถ้วนตามพิธีนั้น ๆ ด้วย" แต่หลวงตาผ่องเหมือนอย่างกับสวดเอาสนุก

    วันหนึ่งจึงเกิดเหตุขึ้น ท่านกำลังจะเดินลงจากอาคารโรงเรียนทหารอากาศสงเคราะห์ พร้อมกับ "ปุริมัญจะ ทิสัง ราชา ฯ" ไปด้วย อยู่ ๆ ก็ปลิวจากชั้นบนลงไปตะครุบกบอยู่ชั้นล่าง ปากแตกฟันหักไปเลย..! เมื่อถึงเวลา พวกเราช่วยกันปฐมพยาบาลเสร็จแล้ว กราบเรียนถามหลวงพ่อท่าน ท่านบอกว่า "ท้าวมหาราชหมั่นไส้มานานแล้ว วันนี้วาระกรรมเปิดพอดี ก็เลยช่วยส่งจากชั้นบนลงมาชั้นล่างให้..!"

    ในเมื่อได้ยินท่านท่านสุวัณณนาคราชบอกว่า "ถ้าหากว่าวาระกรรมของเขาส่งผล แล้วผู้ที่ทำบวงสรวงไม่มีคุณงามความดีอะไร ไปเรียกพรหมเรียกเทวดาส่งเดช ก็อาจจะมี "ของแถม" ให้" เมื่อได้ยินถึง "ของแถม" จึงทำให้กระผม/อาตมภาพนึกถึง ๒ เรื่องนี้ขึ้นมา

    หลังจากที่บวงสรวงแล้ว ท่านเจ้าคุณพระรัตนากรวิสุทธิ์ (มณีรัตน์ ติกฺขวีโร) รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนครอีกรูปหนึ่ง ท่านก็ได้นำในการให้ศีล และเจริญชัยมงคลคาถา ในโอกาสที่หลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร และกระผม/อาตมภาพร่วมกันหลอมทองคำรูปพรรณ เพื่อให้เป็นทองคำแท่ง เก็บเอาไว้ใช้ในการหล่อรอยพระพุทธบาท ๔ รอยจำลองทองคำต่อไป
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,874
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,750
    ค่าพลัง:
    +26,615
    จากนั้นกระผม/อาตมภาพก็นั่งรับศรัทธาญาติโยม ซึ่งแห่กันมาทำบุญทั้งทองคำและเงินสด โดยเฉพาะพระปลัดเอกลักษณ์ ปญฺญาคโม เจ้าอาวาสวัดพุทธพรหมยาน นำเอาเงินสดจำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาทเศษมาร่วมบุญในครั้งนี้ด้วย ท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) วัดโพธิลังการ์ ควักเอาแหวนทองคำวงเล็กมา ๑ วง บอกว่ายังโชคดีไม่ถึงกับ "สิ้นเนื้อประดาตัว" มี "ทองเท่าหนวดกุ้ง" ติดย่ามมาเหมือนกัน กระผม/อาตมภาพจึงรับไปก็หัวเราะไป

    จนกระทั่งการทำบุญสิ้นสุดลง
    กระผม/อาตมภาพได้นำทุกคนกล่าวถวายทองคำนี้เป็นพุทธบูชา แล้วนำไปถวายหลวงพ่อสุรสีห์ (พระเทพสิทธิโสภณ) โดยมีท่านเจ้าคุณวินัย (พระราชวชิราทร) เจ้าคณะจังหวัดสกลนคร และพระครูณรงค์ศักดิ์ (พระครูกิตติธรรมนิวิฐ) รองเจ้าจังหวัดสกลนครอีกรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระวิปัสสนาจารย์ ๖๔ ของกระผม/อาตมภาพเอง มาช่วยหลวงปู่สุรสีห์ ซึ่งท่านมีอาการแขนขาอ่อนแรงไปด้านหนึ่ง ทำให้รับสิ่งของไม่ถนัด

    เมื่อรับเสร็จแล้ว หลวงปู่ท่านก็มอบอนุโมทนาบัตร ซึ่งเป็นเงินจำนวน ๔,๘๘๐,๐๐๐ กว่าบาทให้กระผม/อาตมภาพ เป็นการยืนยันว่าได้เป็นเจ้าภาพในการร่วมหล่อรอยพุทธบาท ๔ รอยจำลองทองคำครั้งนี้จริง ๆ

    จากนั้นพวกเราก็เข้าไปสู่มณฑลพิธีพระอุโบสถ วัดพระบรมธาตุเชิงชุม วรวิหาร ซึ่งตอนแรกนั้นหลวงปู่ศิลา (พระราชวัชรธรรมโสภณ วิ.) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน ท่านจะต้องมาร่วมพิธีด้วย ตลอดจนกระทั่งท่านเจ้าคุณสุริยันต์ (พระราชวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ.) วัดป่าวังน้ำเย็น และท่านเจ้าคุณต้อม (พระราชวัชราวิทยาคม) วัดท่าสะแบง ตลอดจนกระทั่งหลวงปู่ทองดี (พระราชวชิรคุณาธาร) วัดใหม่ปลายห้วย

    ปรากฏว่าท่านเจ้าคุณหลวงปู่ทองดีตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปตั้งแต่เช้าวันที่กระผม/อาตมภาพเดินทางไปถึง ส่วนหลวงปู่ศิลา ท่านเจ้าคุณสุริยันต์ และท่านเจ้าคุณต้อมนั้น ติดด้วยต้องไปร่วมงาน "ธรรมนาวา วัง" จึงทำให้กลายเป็นสถานที่ว่างไปหลายที่ ได้หลวงพ่อบุญส่ง (พระครูพิศาลสันติคุณ) วัดเขาแร่ในพระสังฆราชูปถัมภ์ รับไป ๑ ที่ หลวงพ่อพระครูณรงค์ศักดิ์ (พระครูกิตติธรรมนิวิฐ) รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร รับไป ๑ ที่ ท่านเจ้าคุณมณีรัตน์ (พระรัตนากรวิสุทธิ์) รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนครรับไป ๑ ที่ ส่วนของหลวงพ่อนิลและพระปลัดเอกลักษณ์นั้น ก็เป็นที่ปกติของท่านเองอยู่แล้ว
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,874
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,750
    ค่าพลัง:
    +26,615
    เมื่อทำการพุทธาภิเษกเสร็จเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็รีบหนีออกจากมณฑลพิธีเป็นการด่วน เพราะว่าบรรดาญาติโยมแห่กันเข้าไปบูชาวัตถุมงคลรุ่นนี้กันจนโบสถ์แทบแตก เมื่อนั่งรออยู่จนได้เวลาเพล กระผม/อาตมภาพก็ลงไปฉันเพลร่วมกับหลวงพ่อพระครูณรงค์ศักดิ์ รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร และบรรดาพระธุดงค์ซึ่งมาร่วมโครงการธุดงค์ธรรมยาตรา ๒ ฝั่งโขง โดยที่คณะพระวิปัสสนาจารย์ ๖๔ ของกระผม/อาตมภาพเอง เป็นผู้จัดงานในครั้งนี้

    ครั้นอิ่มแล้วก็มาเก็บข้าวของเตรียมเดินทาง ปรากฏว่าหลวงพ่อนิลนั้นได้นำเอาเหรียญรุ่น "เชิงชุมบูรณะ พุทธประเพณี" เนื้อทองคำ ซึ่งหนักประมาณ ๔ บาทเศษ นำมาถวายพร้อมกับกราบขอบพระคุณ ที่กระผม/อาตมภาพช่วยเหลือการงานท่านมาทุกอย่าง เหรียญเนื้อทองคำนี้สร้างแค่ไม่กี่เหรียญ ราคาให้บูชาเพื่อร่วมสร้างรอยพระพุทธบาทจำลอง ๔ รอยด้วยทองคำนั้นก็อยู่ที่ ๓๐๐,๐๐๐ บาทถ้วน กระผม/อาตมภาพตั้งใจว่าจะให้ไอ้ตัวเล็กเอาออกให้บูชาในเว็บไซต์วัดท่าขนุน ใครที่มีกำลังพอจะร่วมบุญตรงส่วนนี้จะได้ร่วมทำบุญต่อไป

    แล้ว
    กระผม/อาตมภาพไปให้โอวาทกับคณะพระธุดงค์ธรรมยาตรา ๒ ฝั่งโขง บอกกับท่านว่า "ให้ทุกคนพยายามรักษาระเบียบวินัยให้ดี ถ้าเราไม่สามารถสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาได้ ก็อย่าทำให้พระพุทธศาสนาต้องเสื่อมลงเพราะมือของพวกเราเลย" ทุกท่านอนุโมทนาสาธุเสียงดังสนั่นหวั่นไหว..!

    หลังจากนั้นทางวัดพระธาตุเชิงชุม วรวิหาร ก็ได้จัดรถนำขบวนให้วิ่งนำรถตู้ ที่ทางวัดจัดให้กระผม/อาตมภาพไปขึ้นเครื่องบินที่นครพนม เนื่องเพราะว่าเที่ยวบินที่สกลนครช่วงบ่ายนั้นโดนยกเลิกทั้งหมด..! กระผม/อาตมภาพและคณะขอเข้าไปกราบรูปหล่อหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ครูบาอาจารย์ใหญ่สายภาคอีสาน ที่พิพิธภัณฑ์บริขาร พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถระ วัดป่าสุทธาวาส แล้วก็เดินทางไปยังสนามบินนครพนม เมื่อไปถึงได้มอบรางวัลให้กับตำรวจซึ่งนำขบวนคนละ ๑,๐๐๐ บาท จากนั้นเข้าไปเช็คอินแล้วก็กลับสู่กรุงเทพมหานครตรงตามเวลาและสะดวกเรียบร้อยทุกอย่าง

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...