อานาปานสติ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย leehonza, 21 พฤษภาคม 2012.

  1. leehonza

    leehonza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +78
    คือว่าผมเกิดเบื่อหนายในอารมณ์เห็นสุขเห็นทุกข์แล้วผมไปฟังคิริมานนทสูตร
    ยิ่งทำให้ผมเกิดความเบื่อหนายเข้าไปอีกแล้วผมมานั่งสมาธินั่งจนมีอาการต่างๆแต่ก้เฉยผมนั่งแบบไม่ยึดสิ่งใดรู้เพียงลมเข้าออกผมอยากทราบว่าการนั่งสมาธิถึงจุดหนึ่งแล้วจิตมันวางหมดทุกอย่างบ้างท่านอาจเห็นนู๋นี่นั้นแต่ผมนั่งมา4วันผมเห็นดอกบัวสีขาวบานออกแต่ผมก็ดูเฉยๆมันก็หายไปผมอยากทราบว่าอาการของผมเกิดจากอะไรครับเวลานั่งทุกครั้งจิตมันปล่อยวางหรือมันไม่รับรู้อามรณ์อะไรเลยแม้แต่ไม่ได้นั่งสมาธิก็ตามรู้ว่ามีแต่ลมเข้าออกเห็นอะไรก็เบื่อเหมือนคนไม่รับรู้อะไรอ่ะครับอยากทราบว่ามันเกิดจากอะไรเพราะอะไร
    ถ้าผิดพลาดประการใดกระผมขอขมาลาโทษด้วยครับขอบคุงครับ
     
  2. leehonza

    leehonza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +78
    ขอเสริมอีกนิดครับคือว่าผมฟังคิริมานนสูตรแล้วไปก็ไปฟังบทพิจารณาบท32แล้วไปดูคลิปการผ่าศพเห็นทุกอย่างในร่างกายจนเกิดความเบื่อหน่ายแล้วผมมานั่งคิดนี่หรือทีเราหลงนักหนายึดถืออยู่ตั้งนานจนผมมานั่งสมาธิตอนแรกนั่งได้10นาทีเพราะมันยังคิดอยู่ก็มานั่งคิดว่าทำไมมันอยู่ไม่ติดเลยลองใหม่นั่งแบบไม่คิดอะไรจะเกิดก็ช่างมันนั่งรู้ลมไปเรื่อยพุทโธอยู่สักพักพอมันปรุงแต่งก็บอกมันเอาแล้วก็ดูเฉยๆสักพักเหมือนจิตตกวูบอาการทุกอย่างมีหมดแต่ก้เฉยพอถึงวันที4เวลานั่งสมาธิมันจะเงียบไปหมดไม่ปรุงแต่งไม่อะไรรู้แต่ลมเข้าออกอย่างเดียวจนมันวางเฉยหรือทีเค้าเรียกอุเบกขานั่งจนเห็นดอกบัวบานออกแต่ก็เฉยนั่งจนมันวูบไปเลยไม่มีอะไรนอกจากว่างเปล่าจากเป็นคนทีใจร้อนกับใจเย็นจากเป็นคนเถียงกับไม่เถียงมันไม่เอาอะไรเลยใครด่าก็เฉยยิ้มเป็นอย่างเดียวผมไปหาดูมาหลายเวปก็แล้วไม่มีคนทีเป็นแบบผมเลยผมแค่อยากรู้ว่ามันเป็นเพราะอะไรผมนั่งสมาธิผมแค่อยากจะหลุดพ้นเท่านั้นเอง
     
  3. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,135
    จิตมันเริ่มถอดถอน อุปาทาน การยึดถือมั่น ในร่างกายสังขาร ในชาติภพนี้หนะครับ

    สำหรับผู้ที่เริ่มถอดถอน มันก็ขึ้นอยู่กับความแรงของการกระทบ และ อัตตา ที่เหลืออยู่ด้วยครับ ผู้ที่เริ่มเกิดปัญญาแล้ว อัตตายังเหลือเยอะอยู่ถ้ากระทบเบาๆ ก็ไม่เป็นไร กระทบแรงๆ ด้วยสัญญาเก่าที่สะสมมานาน ก็หลุดแบบเดิมๆ ยังได้อยู่ แต่ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ก็จะถอดถอนลงไปทีละน้อย ครับ

    จะถอดถอนได้ถึงจริงถึงขั้นไหน ผมไม่ทราบครับ ต้องหาครูบาอาจารย์ ขอความกรุณาให้ท่าน ตรวจสอบดูครับ
     
  4. leehonza

    leehonza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +78
    ผมยังไม่รู้เลยครับว่าจะหาครูบาอาจารย์ได้ทีไหนเมือวานหลังจากผมนั่งสมาธิเสร็จผมก็นอนแล้วไปฝันว่าเจอพระผุ้มีอายุรูปหนึ่งท่านบอกให้ผมนั่งสมาธิเดียวท่านจะดุให้พอผมนั่งไปสักพักท่านบอกให้ผมตื่นไม่ใช่ตื่นจากการนั่งสมาธินะครับทุกครั้งทีนอนไม่เคยฝันอยู่มาฝัน
     
  5. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,135
    มันก็คงถึงเวลาของท่านแล้วหนะครับ แต่ทีนี้ ท่านจะเป็นลูกศิษย์ของครูบาอาจารย์ท่านไหน สายไหน ก็คงต้องหากันต่อไป...
    ยังไงลองโทรไปสอบถาม ตามเบอร์ที่ผมให้ไปใน PM ดูครับ
     
  6. leehonza

    leehonza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +78
    ผมก้อยากทราบเหมือนกันว่าเวลาผมไปวัดหรือทีไหนก้ตามมีแต่คนอยากให้ผมบวช
    ผมเคยไปถามพระท่านหนึ่งว่าถ้าสมมุติญาติโยมถวายปัจจัยมาแล้วเราเอาไปหยอดตู้ได้ไหมท่านบอกว่าได้แล้วท่านบอกว่าแล้วเวลาเป็นอะไรขึ้นมาจะเอาทีไหนผมเลยถามกลับไปว่าไหนเมือเราบวชมาแล้วก็ต้องสละทุกสิ่งท่านเลยบอกว่างั้นก็ต้องไปยู่ในป่าอย่างเดียวอ่า
    แต่ผมก็ขอบคุงนะครับทีช่วยแน่ะนำ
     
  7. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,135
    ขออนุโมทนา สาธุ ครับ กำลังใจแบบนี้ ดีมากเลยครับ
    บางทีเพราะจิตเราเริ่มใสแล้ว บางท่านสามารถรับรู้ได้ เลยถามเช่นนั้นหนะครับ
    ถ้ายังอยากอยู่ทางโลก ก็อธิษฐานบวชใจก็ได้ครับ
    หรือถ้าจะอยากบวชพระเลย ก็ยิ่งดีครับ รบกวนบอกผมด้วย จะขอร่วมเป็นเจ้าภาพครับ

    สำหรับการปฏิบัติของท่าน ผมไม่ทราบได้ครับ ว่าอยู่ขั้นไหน แต่แนะนำว่า ให้ศึกษาเพิ่มเติม ในหมวดวิปัสสนา ตามที่ตัวเองคิดว่าถนัดครับ (ถ้ายังไม่ทราบว่าถนัดทางไหน ลองดู สติปัฎฐาน 4 ดูก่อน)
    ผู้ที่กำลังใจถึงขั้นนี้แล้ว เบื่อหน่ายในร่างกายของตนเองแล้ว และปฏิบัติกรรมฐานเจริญสติปัญญาเป็นประจำ หากไม่มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกรรมแล้ว จะไม่เจ็บป่วยอีกแล้วในชีวิตนี้ครับ (ถ้าป่วยเล็กๆ น้อยๆ ก็จะหายเร็วมาก)
     
  8. leehonza

    leehonza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +78
    บ้างครั้งผมก็สงสัยในอารมณ์ของผมเองว่าผมเป็นอะไรสุขทุกข์ก็รู้อยู่มันเกิดๆดับๆบ้างครั้งมานั่งมองพิจารณาสิ่งรอบตัวแม้จักรยานยังพิจารณาว่ามันไม่เที่ยงเพื่อนผมบอกว่าผมเปลี่ยนไปแม้แต่ก่อนนั่งสมาธิมานั่งดูร่างกายตัวเองนั่งดูเท้าก้พิจารณาจนเห็นแสงสีเขียวค้ลายเงาแม้แต่เงาก็พจารณาไปหมดบ้างครั้งนั่งเฉยๆมันก็พิจารณาถึงตัวผมเองแยกออกมา3ส่วนเนื้อกระดูกตับไตใส้พุงแล้วมันก็แยกออกมาอีกยังคิดอยู่ว่าเราบ้าหรือป่าวการบวชคือฝันอันสูงสุดมีคนบอกผมว่าถ้าบวชเพราะไปนั่งกินนอนกินอย่าบวชเลยแม่ผมอ่าอยากให้ผมบวชผมเลยบอกว่าขอศึกษาทางโลกให้เกิดเบื่อหน่ายแต่ทีผมยังไม่บวชเพราะผมไปสัจจะไว้กับเพื่อนว่าจะยู่ช่วยมัน4ปีถ้าให้ผมเสียสัจจะผมยอมตายดีก่าตอนนี้ผมอายุ25การดูถูกเป็นสิ่งทีดีสำหรับผมเพราะมันทำให้เราได้รู้อะไรอีกเยอะแต่น้อยคนทีจะเข้าใจถ้าบวชสงสัยผมคงได้ไปบวชทีศรีสะเกษอ่าครับเพราะพ่อผมอยากให้ไปบวชให้ปู่ผมเป็นคนยะลาครับถ้าผมบวชผมค่อยบอกอีกทีครับ
     
  9. degba4567

    degba4567 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +348
    คุณอยากรู้อะไรก็ตั้งสัจจะอธิษฐานได้สิครับ ถ้าอยากรู้ว่าจะปฏิบัติอะไร ยังไงต่อไปคุณก็อธิษฐานขอให้ได้เจอคำแนะนำจากที่ไหนก็ตาม คุณก็จะเจอครับถ้ามีศรัทธาจริงเพราะเมื่อผมติดขัดข้อธรรมข้อไหนแล้วไม่มีอาจารย์ให้ถามผมก็จะทำแบบนี้ครับ ในเรื่องหาครูบาอาจารย์ก็เหมือนกันครับ แล้วผมก็ได้ตามที่อธิษฐานไว้ครับในเร็ววันด้วย
     
  10. leehonza

    leehonza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +78
    ผมว่าผมหายสงสัยแล้วยิ่งสงสัยยิ่งทำให้เป็นทุกข์พอไม่สงสัยมันก็ไม่ทุกข์มันเฉยวางอารมณ์ก็เหมือนอากาศหาทีสุดมิได้ถ้าเราคิดว่ามันมีมันก็มีไม่มีก็ไม่มีคือความเป็นกลางแล้วเวลาเราสงสัยเราก็จะหาคำตอบพอเราได้คำตอบแล้วมันก็จะมีคำถามขึ้นมาอีกโดยไม่รู้จบแล้วถ้าเราเลิกสงสัยกับสิ่งนั้นล่ะเราจะรู้สึกยังไงก็เหมือนนักปราชมีเยอะแต่จะหาผู้รู้หรือเข้าใจมีน้อยแม้แต่สายน้ำมีหลายสายไหลไปก็ยังมิรู้จบผมขอโทษผมไม่ได้จะอวดหรืออะไรนะแต่ผมมานั่งคิดดูทุกข์ก็รู้อยู่ว่าทุกข์สุขก็รู้อยู่ว่าสุขยิ่งคิดมันก็ยิ่งทุกข์พอไม่คิดมันก็เฉย
     
  11. HANUMAN_BUDDHA

    HANUMAN_BUDDHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +244
    ขอแนะนำครับ ขอโมทนาในจิตที่เป็นกุศลที่คุณปราถนาจะคองผ้าเหลืองด้วยนะครับ แต่จากประสบการ์ณอารมณ์แบบนี้มันอยู่ไม่นานหรอกครับ
    เดี๊ยวก็เป็นปกติ แต่ถ้าอยากจะบวชก็อยากให้คุณลองไปห่มขาวอยู่วัดสัก สอง ถึงสามเดือนก่อนนะครับ แต่ไม่ต้องถือศีล 8 นะครับ
    ให้ลองถือศีล 227 เลยครับ เพื่อทดสอบกำลังใจว่าเราแน่ไม๊ ดูซิว่าเราจะรักษาได้กี่ข้อ เพราะว่าถ้าเกิดบวชไปแล้ว แล้วเพิ่งไปถือ 227 ข้อตอนนั้น มันจะสายเกินไปครับ และอีกอย่างการบวชเป็นพระนั้นเสี่ยงต่อการอาบัติปาราชิกโดยไม่รู้ตัวได้ง่ายมาก ( ข้อที่ ขโมยสิ่งของที่มีราคาตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป) และถ้าอาบัติแต่ละทีก็โทษรุนแรงมาก แรงกว่าฆราวาสอีกนะครับ ถึงแม้ว่าเราจะปลงอาบัติแล้วแต่โทษนั้นยังอยู่ และถ้าเกิดว่าละเลย ถือเป็นเรื่องเล็กๆน้อย บางทีอาบัติข้อน้อยๆที่เราสะสมมาเรื่อยๆ ผลของมันอาจมากกว่าการอาบัตฺปาราชิกอีกนะครับ (อาบัติปาราชิกนี่ ต้องลงอเวจีมหานรก) แต่ถ้าคิดอีกมุม เราเป็นฆราวาสรักษาศีล 5 แล้วก็ปฏิบัติไปด้วย น่าจะง่ายกว่านะครับ เพราะจากพระไตรปิฎก ฆราวาสสามารถบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้นะครับ ลองไปหาอ่านดู ถ้าเกิดผิดศีลก็ไม่รุนแรงเท่าพระ สบายกว่ามาก ยังไงก็ลองไปตัดสินใจดูนะ อิอิอิ :cool::cool::cool:
     
  12. leehonza

    leehonza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +78
    ขอบคุงสำหรับการแน่ะนำครับกำลังหาเวลาอยู่ครับตอนนี้ก็ศึกษาอารมณ์ไปเรื่อยๆถ้าบวชไปแล้วไม่ถือศีล227ข้อผมก็ไม่บวชครับเสียชื่อตะกูลทีเคยเป็นพระขอบคุงอีกครั้งครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...