สำหรับผู้ที่ชอบแสวงหาครูบาอาจารย์ตามสถานที่ต่าง ๆ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย วิโรจน์07, 26 มกราคม 2010.

  1. วิโรจน์07

    วิโรจน์07 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>เนื่องจากตัวผมเองได้ไปปฏิบัติธรรมกับสหายธรรมหลายท่านที่ อ. แวงน้อย จ. ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านอยู่ตรงข้ามกับสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ที่แรกผมเข้าใจว่าเป็นบริเวณเดียวกับสำนักสงฆ์จิตภาวนา แต่ต่อมาผมและสหายธรรมได้สอบถามกับชาวบ้านบริเวณนั้น ผลปรากฎว่าบ้านหลังนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสำนักสงฆ์จิตภาวนาแต่อย่างใด แต่กลับใช้สำนักสงฆ์นั้นหลอกลวงคนให้เข้าใจผิด<o:p></o:p>
    โดยมีพระรูปหนึ่งอายุประมาณ 50 ปีกว่า ๆ ปัจจุบันนี้สึกแล้ว รูปร่างผอมเกร็งผิวคล้ำ หน้าเสี่ยม อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนี้ และคอยแนะนำกัมมัฏฐาน ยกคำสอนครูบาอาจารย์อาทิ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ดูลย์ มาแอบอ้างในการสอน เมื่อทุกคนที่มาปฏิบัติเริ่มหลงเชื่อ เพราะในครั้งแรกจะสอนตามแนวทางครูบาอาจารย์ได้อย่างดีเยี่ยม ประดุจว่าจำมาจากหนังสือทุกตัวอักษรเลยทีเดียว

    หลังจากนั้นไม่นาน ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงคำสอนของครูบาอาจารย์ไปในทางของตัวเองแทน เช่น ทิฐฐิตัดทิฐฐิได้ มานะตัดมานะได้ แต่ที่ทำให้ผมแปลกใจ นั่นคือ กามตัดกามได้ ซึ่งในความเป็นจริงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเตือนเรื่องนี้ไว้พอสมควรว่า กามราคะไม่สามารถตัดด้วยกามราคะได้ ควรจะชักสะพานกลับเสีย เพราะหากยิ่งมียิ่งรังแต่จะเพิ่มพูนกามราคะขึ้นเรื่อย ๆ แต่อดีตพระนี้กับสอนว่า ให้ทอดสะพานออกไป หากไม่รู้จักกามราคะจะรู้ถึงความทุกข์และดับมันลงได้อย่างไร<o:p></o:p>
    ต่อมาผมได้ทราบจากคำบอกเล่าของสหายธรรมที่เป็นหญิง ที่ไปปฏิบัติธรรมกับเพื่อนเป็นหมู่คณะและค้างคืนที่บ้านนั้น อดีตพระนี้ได้ให้สหายธรรมที่เป็นหญิงนั้น ลูบคลำร่างกายและส่วนอันเป็นที่ลับของตนเอง หากไม่ปฏิบัติตาม อดีตพระนั้นก็จะพูดเป็นเชิงตำหนิว่า ถ้าไม่จับแสดงว่ายังตัดกามราคะไม่ขาด ถ้าจับแล้วไม่รู้สึกอะไรเลยแปลว่าตัดกามราคะได้แล้ว นับว่าเป็นคำสอนที่ตลกและบิดเบือนความเป็นจริงค่อนข้างมาก<o:p></o:p>
    เพื่อนผมเห็นท่าทางไม่ดี จึงรีบเดินทางกลับบ้าน และไม่กลับมาสำนักสงฆ์ที่นี่อีกเลย ต่อมาผมได้ทราบข่าวภายหลังว่า พระรูปนี้เคยบวชแล้วก็สึกอยู่หลายครั้งมาก ครั้งล่าสุดนี้ได้สึกมาอยู่กับสีกาที่ได้มาปฏิบัติธรรมด้วยกัน หลังจากนั้นผมก็ไม่ทราบข่าวคราวอีกเลย
    <o:p></o:p>
    หมายเหตุ: ผมขออนุญาตเอ่ยนามบุคคลที่เป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนาของทุกคน ตอนที่อยู่ในสมณเพศคนจะเรียกท่านว่า "หลวงพ่อเขียว หรือพระอาจารย์เขียว" แต่ชาวบ้านบริเวณสำนักสงฆ์นั้น เรียกว่า "ไอ้เขียว" ผมต้องขออภัยหากใช้คำไม่สุภาพ ผมจึงขอวิงวอนนักปฏิบัติธรรมทุกท่านโปรดระวังบุคคลผู้นี้ไว้ด้วยครับ หากจะลบกระทู้นี้ ผมก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ เนื่องจากเจตนารมณ์ของผม ผมไม่ต้องการให้ผู้อื่นที่แสวงหาหนทางดับทุกข์ เพื่อหลุดพ้นนั้น จะต้องถูกหลอกลวง โดยเฉพาะผู้หญิง อาจจะเสียทั้งตัวและเสียทรัพย์สินที่หามาได้อย่างบริสุทธิ์ใจ จนอาจจะทำให้เสียกำลังศรัทธาในการบำรุงพระพุทธศาสนาและการเจริญภาวนาต่อไป

    </O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2010
  2. aof1982

    aof1982 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +401
    ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า

    แต่ถ้าใช่ก็ถือว่าเป็นทั้งมารศาสนาและมารสังคมเลยครับ...

    น่าเสียดายที่บวชเรียนมานาน อย่างว่าครับ "กรรมใครกรรมมัน ใครทำยังไงก็ได้อย่างนั้น"
     

แชร์หน้านี้

Loading...