สวดคาถาชินบัญชรและเมตตาใหญ่ทำไมจึงร้องไห้ไม่หยุด

ในห้อง 'ประสบการณ์ ผลของการสวด' ตั้งกระทู้โดย siwapoch, 30 สิงหาคม 2014.

  1. siwapoch

    siwapoch Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +42
    รบกวนหน่อยค่ะ เป็นเพื่อนของดิฉันเอง เค้ามาเล่าให้ดิฉันฟังว่า พอเวลาสวดมนต์จะสั่น ร้องไห้ออกมาโดยที่บังคับตัวเองไม่ได้ ทั้งๆที่ก่อนสวดก็ไม่ได้มีอารมณ์ โกรธ ทุกข์ หรือเศร้าใจอะไร เป็นมาอย่างต่อเนื่องค่ะ จึงอยากสอบถามผู้รู้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
     
  2. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,852
    ถาม:พอดีตอนสองทุ่มครึ่งวันนี้ผมได้ไหว้พระสวดมนต์ และนั่งสมาธิตามปกติที่ทำทุกวันครับ แต่ในวันนี้ในขณะที่กำลังนั่งสมาธิอยู่นั้นเกิดมีอาการหนาวขนลุก และมีอาการเหมือนจะร้องไห้ครับ เลยอยากเรียนสอบถามว่าอาการที่ว่านั้นเกิดจากอะไรครับ

    ตอบ:
    เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นกับหลายๆคนครับไม่ต้องตกใจ ลักษณะการขนลุกบ้าง เหมือนจะน้ำตาไหลร้องไห้บ้าง ตัวหมุนส่ายไปมาบ้าง ฯลฯ เป็นอาการของปีติอย่างหนึ่งที่เกิดจากการสวดมนต์นั่งสมาธิจนจิตเกิดความละเอียดสงบนิ่งมากขึ้น เมื่อจิตสงบมากขึ้น พลังงานของจิตก็จะปรับตัวเองเข้าสู่สภาวะที่ละเอียดมากขึ้น ซึ่งในช่วงที่กำลังปรับเปลี่ยนความละเอียดของจิตจากหยาบไปสู่ละเอียดขึ้นนี้เอง ที่ทำให้เกิดการกระทบกันของพลังงานและทำให้เกิดอาการต่างๆเหล่านั้นขึ้น
    เหมือนเครื่องบินที่กำลังจะแลนดิ้งลงจอดนั่นล่ะครับ ตอนแรกบินมาเร็วๆ(จิตหยาบ) พอจะลงจอดให้นิ่งๆ มันก็ต้องมีกระเด้งกระดอนบ้างสักพัก (อาการปีติ ขนลุก ร้องไห้ ฯลฯ) พอลงได้ที่แล้ว เครื่องก็จะจอดนิ่งสงบบนรันเวย์ได้ในที่สุด (จิตละเอียด)
    ดังนั้นเมื่อเกิดอาการเช่นนี้ขึ้นก็ไม่ต้องตกใจครับ ไม่ต้องสนใจอาการเหล่านั้น เพราะถ้าไปตกใจ ไปสงสัย จิตก็จะหลุดจากสมาธิ แล้วก็ต้องไปเริ่มกันใหม่อยู่เรื่อยไป ให้สวดมนต์ภาวนาต่อไปด้วยใจเบาๆสบายๆไม่เครียดไม่เกร็งสักพัก พอจิตเริ่มปรับพลังงานเข้าสู่ความละเอียดมากขึ้นได้ อาการเหล่านั้นก็จะหายไปเอง เหลือแต่ความเบาสบายสงบนิ่งในที่สุด

    หรือนอีกกรณีหนึง อาการเหล่านั้นอาจเกิดจากการที่จิตเราสงบละเอียดมีพลังงานมากขึ้นจากการสวดมนต์ภาวนา เลยทำให้สัมผัสพลังงานต่างๆที่ละเอียด(เช่นภพภูมิต่างๆ)ได้มากขึ้น เลยทำให้เกิดอาการขนลุก เหมือนจะน้ำตาไหล ก็เป็นได้ อาจจะเป็นเทวดา ญาติพี่น้องที่เสียไปแล้วของเรา มาอนุโมทนาบุญกับเรา หรืออาจจะมีพลังงานไม่ดีบางอย่างอยู่กับตัวเราเช่น เจ้ากรรมนายเวร โรคภัยต่างๆ ความทุกข์เศร้าใจ ฯลฯ พอมีการสวดมนต์ภาวนาเพิ่มกำลังบุญ ก็เลยทำให้พลังงานไม่ดีเหล่านั้นถูกกระทบ และมะลายหายไป เหมือนเทน้ำดีไปล้างน้ำเสีย ก็ต้องมีการกระทบกันของน้ำสองสายให้เกิคลื่นลมต่างๆกันบ้าง

    ดังนั้นไม่ว่าอาการของคุณจะเกิดจาก การปรับจิตให้ละอียดขึ้นจากการสวดมนต์ภาวนา หรือ การสัมผัสภพภูมิมาอนุโมทนาบุญ มาเยี่ยมเยียนเรา หรือเป็นการใช้พลังงานบุญชะล้างพลังงานไม่ดีต่างๆที่อยู่กับเราให้หายไป ทุกสาเหตุสามารถแก้ไขด้วยวิธีเดียวกันคือ

    ให้คุณทำใจให้สบาย นึกถึงภาพพระให้มั่นคง แต่อย่าเครียดอย่าเกร็ง นึกแบบสบายๆ สวดมนต์ภาวนาต่อไป ไม่ต้องไปสนใจกับอาการเหล่านั้น
    -หากอาการนั้นเกิดจากปีติจากการปรับสมาธิให้ละเอียดขึ้น พอสวดมนต์ภาวนาต่อไปเรื่อยๆ จิตก็จะค่อยๆสงบละเอียดขึ้นไปเอง
    -หากอาการนั้นเกิดจากภพภูมิมาอนุโมทนาบุญ มาเยี่ยมเยียนเรา เราสวดมนต์ภาวนามากเข้า เขาก็ยิ่งอนุโมทนากับเรา เป็นสุขกันทุกฝ่าย
    -หากอาการนั้นเกิดจากสัมผัสพลังงานที่ไม่ดี หากเราสวดมนต์ภาวนามากเข้า พลังงานที่ไม่ดีเหล่านั้น ก็จะค่อยๆถูกชะล้างจากพลังงานบุญที่เราได้หมั่นสวดมนต์ภาวนานั้นไปเองในที่สุด

    พยายามปฏิบัติเข้านะครับ จะคอยเอาใจช่วย

    ที่มา
    เรียนสอบถามเกี่ยวกับอาการขณะนั่งสมาธิครับ

    ปิติ ๕
    ๑. ขุททกาปีติ มีลักษณะ คือ
    ๑. เกิดอาการคล้ายหนังหัวพองและขนลุก เป็นดังอาบน้ำในเวลาหนาว
    ๒. เกิดปรากฏเป็นดังเส้นผมตำแลคายเพียงเล็กน้อย
    ๓. เกิดในหทัยวัตถุให้สั่นระรัวเป็นดั่งปั่นผลหมาก
    ๔. เกิดในการให้เนื้อตัวหนักมึนตึงและเวียนอยู่

    ๒. ขณิกาปีติ มีลักษณะ คือ
    ๑. ให้ปรากฏในจักขุทวารเป็นดังฟ้าแลบและเป็นประกายดังตีเหล็กไฟ
    ๒. เกิดในกายทวารเป็นดังปลาซิวตอดในเวลาอาบน้ำ
    ๓. เกิดเนื้อเต้นและเอ็นกระตุก
    ๔. เกิดในการให้ตัวร้อนทั่วไป
    ๕. เกิดแสบทั่วกาย ให้กายแข็งอยู่
    ๖. เกิดเป็นดังแมลงเม่าไต่ตอมตามตัว
    ๗. เกิดในอกให้หัวใจและท้องร้อน
    ๘.เกิดในใจสั่นหวั่นไหว
    ๙. เกิดในการให้เห็นเป็นสีเหลือง สีขาวเป็นไฟไหม้น้ำมันยางลามไปในน้ำ

    ๓. โอกกันติกาปีติ มีลักษณะ คือ
    ๑. กายไหวดังคลื่นกระทบฝั่ง
    ๒. เป็นดั่งน้ำกระเพื่อมเกิดเป็นฟองน้ำ
    ๓. เกิดเป็นดังขี่เรือข้าน้ำมีระลอก
    ๔. กายและในเป้นดังไม้ปักไว้กลางสายน้ำไหล สั่นระรัวอยู่
    ๕. เป็นดังน้ำวน
    ๖. เป็นดังหัว อก ไหล่ และท้องน้อยหนักผัดผันอยู่
    ๗. เกิดวาบขึ้นเป็นดังไฟลุก
    ๘ .เกิดเป็นดังลมพัดขึ้นทั่วกาย

    ๔. อุพเพงคาปีติ มีลักษณะ ๘ คือ
    ๑. เกิดพองกายเนื้อตัวทั้งมวลหวั่นไหวอยู่
    ๒. เกิดเต้นเหยงๆ ขึ้น และลุกแล่นไป
    ๓. เกิดร้อนทั่วตัวและทั่วสันหลัง ศีรษะ สะเอว และท้องน้อย
    ๔. เกิดแสบร้อนป็นไอขึ้นทั้งตัว เป็นดังไอข้าวสุกร้อน
    ๕. เกิดปวดท้อง และปวดน่องเป็นดังลงท้องเป็นบิด
    ๖. กายและเนื้อตัวเบาและสูงขึ้น
    ๗. หนักแข้ง ขา บั้นเอว ศีรษะ เป็นดังไข้จับ
    ๘. เกิดเป็นสมาธิหนัก และเย็นอยู่

    ๕. ผรณาปีติ มีลักษณะ ๘ คือ
    ๑. เกิดในจักขุทวาร ดูกายเนื้อตัวนั้นแผ่ไป ดูใหญ่ และสูงขึ้น
    ๒. เกิดแผ่ไปทั่วกาย ให้ตัวเย็นเป็นดังลงแช่น้ำ
    ๓. กายยิบๆ แยบๆ เป็นดังไรไต่
    ๔. เป็นดังประกายไฟพุ่งออกจากปากกระบอก
    ๕. กายเบาเป็นดังนั่งและนอนอยู่เหนือสำลี
    ๖. กายหนาวสั่นตัวงอ และหนักหางตาเป็นดังอาบน้ำในฤดูหนาว
    ๗. กายอุ่น และเป็นไอขึ้น
    ๘. กายเย็นซาบซ่านทั่วตัว

    ที่มา
    http://www.wattham.org/piti.php
     
  3. siwapoch

    siwapoch Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +42
    ขอบพระคุณมากค่ะ
     
  4. bk_chai

    bk_chai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +88
    สวัสดีครับ

    ระหว่างสวดมนต์ ผมจะหาวตลอด โดยไม่ได้มีอาการง่วงนอน

    เกิดจากอะไรครับ


    .
     
  5. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,852
    แน่ใจน่ะครับ ว่าไม่ง่วง ถ้าไม่ง่วงก็ปิติครับ แบบว่ามีญาติธรรมมาร่วมแจมอ่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2014
  6. bk_chai

    bk_chai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +88
    ขอบคุณครับ
     
  7. ทิพย์ศรัทธา

    ทิพย์ศรัทธา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +28
    ตั้งแต่สวดบทเมตตาใหญ่ทำไมแขนข้างซ้ายถึงรู้สึกแสบร้อนตลอดค่ะเกี่ยวกันหรือเปล่าหรือเป็นอาการป่วยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...