นั่งสมาธิเพราะอยากเรียนเก่งแต่

หนูนั่งสมาธิตั้งแต่จำความได้ ไม่ได้เชื่อเลย เพราะเชื่อในวิทยาศาสตร์ และสิ่งที่มองเห็น ชอบเรียนคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ แต่เพราะเรียนหนังสืออ่อน ความจำไม่ดี เพื่อนไม่มี ครอบครัวแตกแยก คิดว่าถ้าหนูเรียนเก่ง คงมีเพื่อน พ่อแม่รัก จึงสวดมนต์ นั่งสมาธิ ยึดพระพุทธเจ้าเป็นอาจารย์ ช่วยเหลือเพื่อน พอเรื่องไม่มี ก็กลับต้องอยู่คนเดียว ครอบครัวก็ต่างคนต่างอยู่ แต่การเรียนหนูไม่ดีขึ้นเลย ติวให้เพื่อนได้ แต่คะแนนตัวเองกลับแย่ สอบเข้ามหาลัยไม่ติด เพื่อนในกลุ่มจะเรียนจบแล้วปีนี้ปีสุดท้าย ตัวหนูยังหาที่เรียนไม่ได้ ปีนี้จะสอบเข้าแพทย์ กสพท(สอบเพื่อเป็นนิสิตปี2553)คงจะสอบครั้งสุดท้ายแล้ว อยากถามผู้รู้ 1.ทำไมหนูรักการเรียน ตั้งใจ(ครูชม)อ่านหนังสืออยากเป็นแพทย์เพื่อช่วยคนยากจน (ตั้งแต่เรียนมาผลสอบไม่เคยได้ดีเลย ยิ่งถ้าต้องแข่งขัน แพ้ตลอด) นั่งสมาธิไม่ช่วยอะไรเลยเหรอคะ มีวิธีไหนจะช่วยทำให้สอบแข่งขัน ชนะ บ้างค่ะ
2ตอนเป็นเด็ก สัมผัสได้ถึงวิญญาณ (เจ้ากรรมานายเวร)พอจบม.6เค้าก็อโหสิกรรมให้แล้วไป และยิ่งเห้นวิญาณมากขึ้นบนถนนและทั่วๆไป สามารถติดต่อพวกเค้าได้แต่หนูไม่ได้อยากติดต่อนะ หนูจะเฉยๆไม่สนใจ ไม่บอกใครด้วย จนวันหนึ่งได้พบญาติเพื่อนมาขอร้องให้ช่วยบอกเพื่อน(ไม่สนิด)แต่หนูก็ทำให้เค้าเชื่อ และช่วยบอกเจ้ากรรมนายเวรให้ คล้ายๆเป็นสื่อกลาง แต่ครั้งนี้หนูไม่แน่ใจว่าทำผิดหรือเปล่าเพราะครั้งนี้เป็นเจ้ากรรมนายเวร ที่เค้าไม่อยากได้ส่วนบุญ เค้าต้องการให้คนชั่วใช้กรรม แต่หนูก็ไปแทรกแทรง(คือให้ทำบุญหนีและทำสำเร็จ)เค้าโกรธหนูมากที่หนูแนะทาง หนูผิดไหมค่ะ?หนูอยากให้ท่านผู้รู้ช่วยแนะนำ การสอบครั้งนี้สำคัญมาก หนูอยากเรียนเก่ง อยากทำฝันให้เป็นจริง อยากเรียนแพทย์ ขอบพระคุณมากคะ

 

อนุโมทนาครับ สำหรับการอยากช่วยเหลือผู้อื่น

เรื่องการไปแทรกแซงกรรมผู้อื่นนั้น ก่อนจะแก้กรรมต้องตกลงกับเจ้ากรรมนายเวรก่อน

ถ้าไม่ตกลงกันไปช่วยผู้อื่นทำบุญหนีกรรม เราเองจะต้องรับผลกรรมจากที่ไปแทรกแซงครับ

เรื่องการฝึกสมาธิเพื่อให้เรียนดีนั้น ต้องบอกว่าคุณตั้งเป้าหมายที่ผิด เพราะกิเลส

ทำให้คุณสนใจฝึกสมาธิ ลองตั้งกำลังใจใหม่นะครับ ว่าเราฝึกสมาธิเพื่อจะได้นำความรู้

ความสามารถที่เราเรียนมาแนะนำผู้อื่นต่อ และเพื่อให้เราสามารถช่วยผู้อื่นได้

ขอให้เราได้เข้าคณะแพทย์ที่เราต้องการจะช่วยเหลือคน ได้เทอญ

ปล.ผมไม่รู้ว่าคุณฝึกสมาธิมาทางไหนนะ ถ้าอยากฝึกให้ได้ผล ผมจะได้แนะนำ
น้องคนนึงให้ครับ เพราะน้องคนนี้เค้าฝึกสมาธิและเอาสมาธิมาช่วยเรื่องเรียนได้

ก่อนจะทำอะไรเราต้องตั้งกำลังใจเพื่อส่วนรวมก่อนเสมอครับ แล้วผลที่ได้จะทวีคูณโดยที่เราคาดเดาไม่ได้เลย

 

อนุโมธนาด้วยคะและขอบคุณมากๆค่ะ ปกติหนูจะไม่เล่าเรื่องวิญญาณกับคนอื่น เพราะหนูเด่นทางวิชาวิทยาศาสตร์และอยากเรียนแพทย์ถ้ามาพูดแบบนี้จะดูแปลกๆคนไม่เชื่อก็จะมองว่า บ้า แต่ดีใจนะคะที่มีคนเข้าใจ ถึงหนูจะสวดมนต์ นั่งสมาธิ แต่หนูไม่ได้สนใจจะศึกษาเรื่องพวกนี้เลย หนัง ภาพยนต์ ก็จะดูหนังแนว แอดชั่น วิทยาศาสตร์ หนังผีก็ผีชีวะ ไม่คิดว่าตัวเองจะสร้างภาพเลยนะแต่ก็แปลกที่เห้น เรียกว่าเจอวิญญาณ ตั้งธรรมดา เจ้าที ถึงเทพ(เค้าบอกนะ) หนูอยากนั่งสมาธิช่วยเรื่องเรียนจริงๆคะ เรื่องอื่นๆที่เล่า ไม่ได้สนใจเลย ขอความกรุณาช่วยแนะวิธีด้วยนะคะ กรุณาด้วย หนูอยากเรียนเก่ง ถามฝากไว้หน่อยนะคะ ว่า คิดอย่างหนูหรือเปล่า คนที่สอบติดทุกที่(สอบเข้าเรียนที่ไหนตั้งแต่เด็กจนโตสอบเข้ามหาลัย คณะไหนก็ติด)นอกจากเค้าจะขยัน(บางคนก็ ธรรมดา อ่านหนังสือพอๆกันกับหนูด้วย เค้าอาจจะเคยทำบุญอะไรสักอย่าง ช่วยให้การเรียน รุ่ง( หนูเคยคิดว่าเพราะถวายสังฑานหลอดไฟ ก็เลยไปทำบ้าง อยากเป้นแพทย์ ก็เอาตู้ยาไปถวาย) แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นหรือว่ามีอย่างอื่นอีกคะ กรุณาแนะนำด้วยค่ะ จะเป็นพระคุณอย่างสูง

 

ลองทำใจสบายๆ ซัก 1-2 นาทีนะครับ แล้วลองนั่งอ่านที่คุณถามผมมา จะเจอคำว่าอยาก อยาก อยาก

เยอะมาก ลองไม่อยาก แล้วปฏิบัติดูซิครับ แล้วจะได้เกินจากที่คุณหวังไว้เยอะเลยครับ

อยากจะเก่ง หรืออยากจะช่วยคนครับ ถ้าอยากจะช่วยคน เพื่อเอนท์เข้าคณะแพทย์ได้

ไม่ต้องไปสนใจคนที่เค้าเก่งมากๆ หรอกนะครับ ไม่งั้นเราจะมัวไปตั้งคำถามว่าทำไม ทำไม ทำไม

เรื่องปฏิบัติถ้าสนใจจริงๆ ก็ถามมาทาง pm นะครับ ยินดีจะแนะนำให้

 

ผมช่วยสอนเรื่องวิธีในการจำดีได้ฟังนะมันเป็นทางโลกไม่ใช่ทางธรรม จดจำแล้วนำไปใช้ผมใช้ไ้ด้ผลมาแล้ว ที่มา มาจากหนังสือ ยอดนักจำต้องทำอย่างนี้ (ไม่รู้ว่าชื่อผิดหรือเปล่ามันนานมาก ประมาณ 4-5 ปีที่แล้วที่ผมได้วิชานี้มา)
ก่อนอื่นต้องทำให้คุณอยากเรียนวิธีนี้ก่อนโดยการบรรยายสรรพคุณ
1.คุณจะสามารถจดจำของ 30 -50 อย่าง ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาทีเป็นอย่างสูง(ถ้าฝึกบ่อย 10-15 นาที อ่านรวดเดียวก็จำได้เลย)
2. เคยเห็นฝรั่งจำไผ่ทั้ง สำรับไหม 52 ใบ คุณก็ทำได้ เหมือนกับหนังเรื่่อง 21 แต้มอะไรสักอย่างนี้แหละจำชื่อเรื่องไม่ได้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเล่นไพ่ของพระเอกซึ่งต้องการนำเงินไปเรียนต่อ แล้วเค้าก็มีวิธีในการจำไพ่ ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ผมกำลังจะบอกคุณ
3.จำหน้าตาของคนจำนวนมากได้พร้อมระบุชื่อด้วย (เจ๋งปะ)
4. จำเบอร์โทรศัพท์ของทุกคนได้

เริ่มเลยละกัน
คุณว่าที่หมอคงรู้นะครับว่าสมองของคนเรามันสุดยอดมากอยากจำกลับกลายเป็นลืม แต่บางครั้งคุณอยากลืมแ่ต่ทำไมมันจำ นั่นเป็นเพราะ ธรรมชาติของมนุษย์จะจำสิ่งที่มันกระตุ้นจิตใจ เช่นคุณยังจำเหตุการณ์ตอนเด็กที่คุณหกล้มหัวแตก เพื่อนแกล้ง รถชน หมาตาย เรื่องที่ตลกที่สุด มีแฟนครั้งแรก แล้วเค้าพาไปเที่ยวที่ไหน ฯลฯ ดังนั้นเราจะเอาเทคนิคตรงนี้มาใช้ครับ
1. ให้นึกสิ่งของที่ไม่ซ้ำกันมา 20 อย่าง เช่น สบู่ กรรไกร แก้วน้ำ ยาหม่อง โต๊ะ ปากกา ฯลฯ
2. โยงความสัมพันธ์โดยเปลี่ยนจาก สิ่งของเป็นภาพใช้จิตระลึกถึงภาพ สบู่มันมีแขนขาเหมือนตัวการ์ตูนนะครับจากนั้นมันโดนกรรไกรวิ่งไล่ตัดมันขณะที่มันวิ่งอยู่นั้นมีแก้วน้ำจากไหนไม่รู้หล่นมาทับมันจนแบน(นึกภาพในใจตามนะครับกำลังจะไคลแมกซ์) สบู่มันลุกขึ้นมาหลังจากโดนแก้วน้ำทับแล้วมันก็หยิบยาหม่องขึ้นมาทาหัวของมัน แล้วมันก็เดินไปที่โต๊ะแต่โต๊ะตัวนี้ใหญ่เ้ท่าบ้าน แล้วมันก็เงยหน้าขึ้นไปปรากฎว่ามันเจอปากกายักษ์กำลังชี้หน้าด่ามันอยู่
ตอนนี้คุณได้เทคนิคของผมไปแล้ว สรุปคือทำให้สิ่งทีุ่คุณอยากจำเป็นรูปภาพที่ตลก ขนาดใหญ่เกินจริง ทะลึ่งบ้างบางครั้ง(อันนี้ผมชอบใช้ครับมันทำให้จำได้เร็ว) หรือสะยดสยองน่ากลัวเกินจริงไปเลยยิ่งทำให้จำได้ง่าย หากยังจำไม่ได้อีกเนื่องจากเป็นมือใหม่อยู่จินตนาการยังไม่ถึงขั้นเทพ ก็เปลี่ยนใหม่ แรกๆจะใช้เวลาแต่งเรื่องนานหน่อยบางครั้งนั่งยิ้มคนเดียวในห้องสอบก็เพราะไอ้จินตนาการแปลกๆของเราเนี่ยแหละทำให้ได้ A มาแล้ว พอหลังจากเป็นนักแต่งเรื่องไปสักพักคุณจะรู้สึกถึงคำ่ว่า อยากจำเมื่อไหร่ก็จำได้ แต่ถ้าคุณอยากลบเรื่องราวต่างๆทิ้งไปคุณต้องฝึกวิปัสนากรรมฐาน แล้วเน้นที่การฝึกสติ ถ้าฝึกถูกต้องภายใน 7 วัน หลังจากนั้นไม่ว่าเรื่องใดจะเข้ามาคุณจะตัดมันเหมือนกับเรื่องมดกัด เลยอันนี้ผมก็ยังไม่เทพเท่าไหร่ ตัดยากกว่าจดจำไว้ เอ้ามาต่อกัน

เรื่องจำไพ่ก็เช่นเดียวกัน จับไพ่ทั้งสำรับมาเปลี่ยนเป็นรูปภาพทั้งหมดแล้ว จำมัน

เรื่องจำหน้าตาคน ก็เหมือนกัน เช่น คุณสมชาย คุณก็ดูว่าคุณสมชายมีจุดเด่นตรงไหน แล้วโยงจุดเด่นของสมชายเข้าสู่เนื้อเรื่องของคุณ เช่น สมชายมีไฝที่มุมปาก คุณรู้จักดาราชื่อคุณชาย ชาตโย... ไหม เอาเค้ามาใช้ให้เป็นประโยชน์ เห็นหน้า ชาย เติมไฝเข้าไปกลางหัวล้านๆของเค้าเลย คราวนี้ละพี่น้องครับ กลายเป็นใครก็ไม่รู้ แต่สมองคุณจะสั่งงานทันทีว่า ชาย ไฝ หัวล้าน แล้วคุณก็นึกได้ทันทีว่าคนนี้ชื่อ สมชาย (การจำหน้าคนนี้น่าจะเหมาะกับคุณนะเพราะเจอทั้ง พยาบาล หมอ คนไข้ คิดดูนะถ้าคุณสามารถจำประวัติคนไข้ โดยการโยงเข้ากับใบหน้า ได้ อะไรจะเกิดขึ้น คอมพิวเตอร์จะมีไว้ทำไมครับ อนาคตคุณจะเป็นคนที่ทุกคนกล่าวกันว่า "หมอคนนี้เค้าจำเราได้ยังไง เจอคนตั้งมากมาย" น่าสนใจแล้วนะครับ ผมแค่บอกคุณในเรื่องที่คุณชอบคุณจะได้หลงอ่านเรื่องของผมจนจบไง ทางธรรมเรียกอุบายหลอกให้คนสนใจในเรื่องที่ บุีีคคลนั้นชอบ หรือสอนคนให้ถูกกับจริต ประมาณนั้นนะครับ)

ต่อไปเรื่องจำเบอร์สาว (เอ้ยไ่ม่ใช่) จำเบอร์คนสำคัญ ทำเช่นเดียวกันครับ เปลี่ยนจากตัวเลขเป็นภาพ เช่น 1=หนู 2=ตะเกียบ 3=ไม้เท้า 4=เด็กกำลังยืนฉี่ (เสียงมันดังสี่สี่เลยเอามาใช้นะครับคงไม่ว่ากัน 5 6 7 8 ก็เช่นเดียวกันครับ แล้วเราก็เริ่มแต่งเรื่องให้มันส์สะใจไปเลยครับ)

พิมพ์เยอะเมื่อยมือแล้วครับมีอะไรเพิ่มเติมก็ถามมานะครับถ้าไม่ขี้เกียจจะตอบให้
สรุปนะครับ
1.ฝึกไม่ต้องมากครับแค่ทั้งวันครับ เจออะไรก็คิดมันให้เป็นภาพให้หมด ดาราเกาหลีก็เอามาใช้ได้ครับ wonder girl ดง บัง ชิน กิ, Rain อะไรก็เอามา mix กันให้หมดครับ พอสมองเริ่มเข้าที่ก็จะเร็วขึ้น ตอนนี้ผมเลิกฝึกไปละเพราะโชว์มากเดียวตกใจกัน ไอ้ฝร้่งนั้นมันสุดยอดครับ มันเล่นจำหน้งสือทั้งเล่ม มันเกินไปครับ อะไรที่ควรจำก็จำนะครับ แต่ให้นึกอยู่เสมอว่า บางเรื่องต้องปล่อยมันไปครับอย่าไปจำมัน ยิ่งจำยิ่งทุกข์นะครับ อกหักรักร้าวตัดมันทิ้งไปครับ ช่างหัวมัน จำเรื่องการงานดีกว่า

สิ่งที่ผมต้องการจากคุณฟังให้ดีนะครับถ้าคุณทำไม่ได้แสดงว่าผมโง่ไม่สามารถสอนคุณได้ผมจะเสียใจไปตลอดชีวิต(พูดซะเวอร์เลย)
1. วิชาพวก anatomy ร่างกายมนุษย์ที่ต้องจำรายละเอียดเส้นเลือด, เส้นเอน, capilary โปเตโ้ต้, โดมิโน (2 อันหลังไม่เกี่ยวนะครับ) คุณต้องไ้ด้ไม่ต่ำกว่า B ผมถึงจะพอใจ แต่คุณต้องฝึกทุกวันนะครับขอย้ำ
2. วิชาอื่นที่ต้องใช้ความจำ แล้วเอาไปสอบ (ขนาดวิชาที่ใช้สูตรผมยังเคยใช้เทคนิคนี้ก็ได้ผลอยู่นะแ่ต่มันจะสับสน แนะนำว่าถ้าเป็นวิชาคำนวณให้หมั่นฝึกพลังยุทธบ่อยๆ ดีกว่ามันจะซึมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเราเอง) ต้องสามารถประยุกต์ใช้เทคนิคการจำที่ผมให้คุณไปให้ได้นะครับ
3. ครอบครัวแตกแยกไม่สามารถทำให้ใจเราแตกกระจายได้ครับ มันเป็นธรรมดาของโลกเมื่อมีพบย่อมมีพลัดพราก ผมเคยเจอเพื่อนคนหนึ่งพ่อแม่แยกทาง คุณรู้ไหมมันมีความคิดยังไง "กูต้องมีธุรกิจห้องซ้อมเป็นของตัวเองก่อนอายุ 30" นี่คือคำพูดของมันตอนมันเรียนกับผมตอน ม.6 พ่อ+แม่มันแยกทางกัน แต่พอพ่อมาหามันที่โรงเีรียนมันควักเงินที่ได้จากการทำงานปั๊มน้ำมันตอนดึก ให้พ่อมันอย่างไม่คิดเลย แล้วคุณคิดว่า การที่ผู้ใหญ่แยกทางกันมันจะทำให้คนคนหนึ่งมีความคิดท้อหรือเปล่า สำหรับเพื่อนผมคนนี้ ไม่มีคำว่าืท้อครับ มันเจ๋งจริง คุณก็ทำไ้ด้ เด็กบางคนเกิดมาไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า พ่อ กับ แม่ หน้าตาเป็นไง คุณยังโชคดีที่มีพ่อ กับแม่นะครับ และที่สำคัญคุณยังมี เพื่อนแน่นอน อย่างน้อยก็ใน web นี้ไง ผมไม่มีโอกาสที่จะได้แม้แต่กระทั่ง entrance ด้วยซ้ำไป ไม่ได้ซื้อใบสมัครด้วยซ้ำ

ดูจากรูปการแล้วอ่านหนังสือหนักจนปิดกั้นตัวเองจนไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนหรือเปล่าอันนี้ผมไม่แน่ใจแต่แนะนำได้อย่างคือ หาเวลาไปเดินเที่ยว สยามบ้าง ดูหนังบ้าง shopping บ้างกับเืพีื่อน มันจะช่วยเสริมความสัมพันธ์นะครับ ทำงานกลุ่มก็ไปทำที่บ้านเพื่อนบ้าง อย่าขอตัวกลับบ้านก่อนเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้เพื่อนห่างเรา และเราก็ห่างเพื่อนด้วย แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ขอตัวได้ แล้วค่อยนัดเพื่อนไปเที่ยวทีหลัง วางตัวเป็นกลาง เหมือนน้ำที่ไหลได้ตอนเวลา ไม่ยึดติด แต่ก็ไม่ไหลย้อน

สวดมนต์ นั่งสมาธิ เพื่อให้จิตใจสงบ ไม่ใช่นั่ง เพื่อให้ได้ตามความต้องการอย่างที่พี่เค้าตอบไว้นะถูกแล้วนะครับ จงศรัทธาในตัวเองก่อน มั่นใจในสิ่งที่ทำ ถึงแม้จะมารู้ทีหลังว่าผิด แต่เราจะต้องแก้ไขให้มันถูกให้ได้ แล้วไม่กลับไปทำผิดอีก สิ่งใดพลาดแล้วพลาดเลย เอาคืนมิได้ ดังนั้นก่อนทำ ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ แล้วทำด้วยความมั่นใจ เอาใจเขา มาใส่ใจเรา คิดว่าถ้าเป็นเรา เราจะโกรธไหม เราจะทำอย่างไร ถ้าเราเจอสถานการณ์แบบนี้ อะไรประมาณนี้นะครับ

เขียนซะยาวเลย
พอละ

 

ผมก็เห็นแพทย์หลายคนที่เข้ามาทางธรรม แต่เขาก็ไม่ได้พูดว่า เป็นเรื่องเหลวไหลนินา..นั่งสมาธิ เพราะอยาก หรือเปล่าหล่ะ..
ลองละคำว่าอยากออกสิ..

 

สิ่งที่คุณเห็นหรือติดต่อ ทดลองได้ไม่คิดว่าเป็นวิทยาศาสตร์บ้างหรือครับ

 

ทำใจให้สบายก่อนครับสมาธิฝึกแล้วรู้ถึงจิตครับ ไม่ใช่คาดหวังอะไรฯครับ

สำหรับการสอบลองทำอย่างนี้ดูดีกว่าไหม

อ่านหนังสือแค่ผ่านฯ ทำใจให้สบายฯ จะรู้สึกว่าส่วนใดในหนังสือที่สำคัญจะออกสอบบ้างแล้วอ่านให้เข้าใจในส่วนนั้นฯเพิ่มขึ้น ผมใช้วิธีนี้ครับไม่ต้องจำทั้งเล่มทุกฯเล่ม
ทำให้ง่ายแก่การสอบขึ้นครับ

ของให้เจริญฯขึ้นทั้งทางโลกและการปฎิบัติธรรมนะครับ

 

เรียนเก่ง จำดี สอบผ่าน ฯลฯ ช่วยได้หมดทุกทาง

ลองศึกษาการปฏิบัติแบบหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ดูนะครับ

แนะนำได้เท่านี้แหละ

 

ตัวเราเองก็ไม่ได้มีความรู้ทางธรรมมากเท่าไหร่นะคะ

แต่จากที่ถามเพื่อนๆที่ทำคะแนนได้เยอะๆมาเนี่ย

การจะทำคะแนนให้ดีๆ

ต้องทำโจทย์เยอะๆ

คนที่เรียนรู้เรื่องเนี่ย

ต่อให้เรียนแล้วรู้เรื่องแค่ไหน

ถ้าไม่เคยทำโจทย์เลย

พอเข้าห้องสอบเจอข้อสอบ

ยังไงก็ทำได้ไม่ดีเท่าคนที่เคยทำโจทย์หรอกค่ะ

สู้ๆนะคะ

เป็นกำลังใจให้

 

หลักธรรมในพุทธศาสนาเป็นสัจจธรรมเที่ยงแท้
ผมยอมรับอย่างสุดใจ ก่อนนี้ไม่เคยเชื่อเลย เพราะจักรวาลวิทยาของศาสนาพุทธโดยแท้
บางทีเราอาจไม่ต้องใส่ใจอะไรมาก เพราะมันคือทางผ่าน

จริงๆแล้ว ถ้าไม่ยึดติดกับสถาบันก็น่าจะดีนะครับ และไม่ยึดติดกับชัยชนะ
เพราะถ้ามุ่งแต่จะเอาชนะ มันไม่ดีหรอกครับ ผมพูดจริงๆ
แข่งเพื่อที่จะพิสูจน์ฝีมือตนเอง และยอมรับในผลที่ออกมา นี่คือจุดประสงค์ของการสอบ

คุณก็ติวให้เพื่อนๆได้ดีหนิครับ คุณเก่งมากๆแล้ว
แต่เพื่อนๆของคุณตั้งกฎเกณฑ์กับตัวเองไว้มากมายหรือเปล่าครับ

เรียนวิชาพวกนี้ต้องใช้ปัญญา+สัญญาครับ สมาธิช่วยเรื่องปัญญา
ถ้าอยากให้ความจำดี ต้องฝึกสมถะกรรมฐาน เช่น พวกกสิณครับ

และตั้งใจเรียนด้วยหละครับ
อ่านหนังสือ กับฟังอาจารย์อธิบาย ---ฟังอาจารย์อธิบายดีกว่าหลายเท่าครับ
มีเวลาไปดูแลตัวเองในด้านอื่นๆด้วย ไม่ต้องคร่ำเคร่งกับตำราจนมากเกินไป

ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรมครับ

 

แค่ทำให้ดีที่สุดก็พอ...