ขอเชิญท่านที่สนใจ ฝึกกสิณ ดิน น้ำ ลม ไฟ ระดับต้น

ขอเชิญท่านที่สนใจ ฝึกกสิณ ดิน น้ำ ลม ไฟ ระดับต้น เรียนฟรี


สถานที่ 33/12 ถนนนนทรี (ตรงข้ามตลาดรุ่งเจริญสาธุประดิษฐ์ 33) แขวงบางโพงพาง ยานนาวา กทม 10120

โทร . 08 9215 0588​

วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 21-22 เมษายน 2555 ลงทะเบียนเวลา 9:00น.

วันเสาร์ที่ 21 เมษายน 2555
9:00 น. ลงทะเบียน
10:00 น. ไหว้พระ แนะนำประวัติของชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำกรรมฐาน ๔๐ กสิณเบื้องต้น กสิณดิน
11:30 น. รับประทานอาหาร
13:00 น. เจริญกสิณต่อ สลับเดินจงกรมโดยใช้กสิณกรรมฐาน
16:00 น. พัก
16:30 น. สวดมนต์ทำวัตรและ สรภัญญะโบราณ
17:45 น. พัก
19:00 น. เจริญกสิณต่อ
21:00 น. พักผ่อนตามอัธยาศัย



วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน 2555
5:00 น. สวดมนต์ทำวัตรเช้า เจริญกสิณกรรมกรรมฐาน
9:00 น. กสิณน้ำ
12:00 น. จบกสิณพื้นฐานสองบท กลับบ้านโดยปลอดภัย

สถานที่ใกล้เคียง ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 3 ,โลตัสพระราม 3 , ตลาดรุ่งเจริญ , สำนักงานเขตยานนาวา​

รถเมล์สาย 22 62 67 77 102 180 519​

 

นอนค้างได้นะคะ ลืมบอกรายละเอียดไป
แต่งชุดสบาย ๆ เสื้อสีขาวก็ได้ ชุดขาวก็ได้ค่ะ
แสนสวาท

 

:z8 กทม.อีกแล้วไกลมาก

 

อยู่ต่างจังหวัดหรือคะ เชิญไปสอนได้นะ

แสนสวาท

 

ไม่ทันเเล้ว ติดไปสมัครงานค่ะ เเต่อยากไป ไว้โอกาสหน้าส่งข้อความมาอีกนะคะ

 

ได้ค่ะ ไม่นานจะจัดอีก
จะแผ่ดวงชาตาของท่านให้ด้วย
เพื่อจะได้รู้ชัด ว่าเส้นทางของท่านเป็นอย่างไรในทางธรรม

ตั้งจิตไว้เป็นกุศลเจตนา เพื่อจะเผยแพร่ กสิณดินน้ำลมไฟ
หากท่านได้ฝึก จนครบ ท่านจะรู้ชัดด้วยตัวเอง
กสิณเป็นเส้นทางแห่งการตั้งมั่นของจิตได้ดี
ประโยชน์มากหลาย

สาธุการ
แสนสวาท

 

^V^ ขอบคุณนะคะที่ส่งข้อความมา แต่อยู่ต่างจังหวัดและติดอยู่เวร ถ้ามีแบบฝึกเบื้องต้นแนะนำก็ดีนะคะ

 

ที่วัดยานนาวา ใช่มั้ยครับ เคยได้ยินมาว่าที่วัดนี้มีสอนกสิณ

แล้วครูฝึกท่านเป็นพระ หรือ ฆราวาสครับ ถ้าจะขอให้ท่านแสดงอภิญญาให้ดูก่อน เพื่อเป็นการยืนยันผลการฝึก ท่านจะแสดงให้ดูได้มั้ยครับ

เพราะในหนังสือ เค้าเขียนไว้ว่าถ้าจะฝึกอภิญญาให้เรียนกับท่านที่ทรงอภิญญา ถ้าไปเรียนกับคนที่ไม่มีอภิญญา เราก็ไม่สามารถสำเร็จอภิญญาได้น่ะครับ

 

ดิฉันเคยไปฝึกที่วัดยานนาวา เหมือนกัน ไปเรียนกับท่านอาจารย์จรูญ ท่านมีเมตตามาก สอนมาหลายปีค่ะ
ส่วนที่วัดยานนาวา เป็นวรรณกสิณ เป็นคนละส่วนกับที่ชมรมฯ เปิดสอน
กสิณที่วัดยานนาวา เป็นวรรณะกสิณ ซึ่งเหมาะกับคนที่มีโทสะจริต
อุปกรณ์ของดวงกสิณที่เป็นวรรณะกสิณทำได้ง่ายกว่ามาก

ส่วนชมรมฯ เปิดสอนเรื่องกสิณดิน เป็นหลัก มาพัฒนาเป็นมหาภูตรูปสี่
คือกสิณดินน้ำลมไฟ เมื่อต้นปีที่แล้ว ๒๕๕๔ จากศิษย์รุ่น ๑๔ จะได้เรียนครบ
เนื่องจากแต่ละคนจะได้เดินทางสายที่ตนถนัด ทำได้พัฒนาได้ดีกว่าค่ะ

เรืองการฝึกจากครูหรือพระ เราเรียนจากพระ ผู้ที่ทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับกสิณดินโดยเฉพาะ เรียกได้ว่า เป็นสถานที่เดียวหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจนัก
ที่ฝึกกสิณดิน และมีดวงปฐวีกสิณจำหน่ายเป็นเรืองเป็นราว ไม่ต้องไปทำเองให้เสียเวลา ทั้งหนังสือก็มีจำหน่าย เล่มละ 20 บาท เอาไปอ่านให้เพลิดเพลินได้
หากเป็นนักอ่าน ก็อ่านในอินเตอร์เนท แต่ต้องเลือกเชื่อด้วยนะคะ
เพราะบางท่านก็ออกนอกแนวไปบ้าง

ชมรมฯ สอนตามแนวขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกประการ
ส่วนใครจะได้ฌาน ญาณ ก็สุดแล้วแต่จิตตั้งมั่นอย่างไร
คนที่จะรู้ว่าคนอื่นได้ ต้องสูงกว่าคนนั้น จึงจะบอกได้ว่า เขา/เธอได้....หรือเปล่า
เราฝึกกสิณเพื่อจะตัด ลดละกิเลส ควรคำนึกถึงเรืองนี้มากกว่าการได้ฤทธิ์ ฌาน ญาณ
จิตที่คิดอยากเป็นตัณหา ไปฝึกเท่าไรก็ไม่ได้อะไร เพราะยังมีกิเลสอยู่

กสิณดินน้ำลมไฟ ทำให้จิตตั้งมั่นได้เร็ว ฝึกง่าย ไม่ยากอะไร
ไม่ต้องเก่งเลิศเลอก็ฝึกกสิณได้ หากรู้หลักนิดเดียว
เราเป็นผู้แนะ ความสำเร็จต้องทำเอง คำของตถาคต

ขอให้เจริญในธรรม
แสนสวาท

 

ผู้เป็นเลิศทั้งสามภพองค์ที่ 4 แน่ใจหรือคับท่านฝึกกสิณ ผมอาจ
เข้าใจคลาดเคลื่อน นึกว่าสำหรับฤาษี ไว้แสดงฤิทธิ์ และกสิณผมมอง
ไม่เห็นว่าใช้ตัด ลดละกิเลสอย่างคุณกล่าวได้อย่างไร
และที่คุณกล่าวประโยค เราเป็นผู้แนะ ความสำเร็จต้องทำเอง ไม่ใช่
คำกล่าวของท่านแน่ๆ เรื่องนี้ ใครสัมผัส ทางภพภูมิจะเข้าใจดี
คิดดีๆนะครับ. หรือกรุณาชัดเจนด้วย.
ขอบคุณครับ

 

กสิณ ก็อยากฝึกเหมือนกันครับ แต่ จิตผม ไม่นิ่ง จิตไม่นิ่ง ปัญญาไม่มี กสิณไม่เกิด
สถานที่ฝึกอยู่ไกล ผมต้องทำงานด้วย ไปไม่ได้เสียดายจัง
ผมมองว่า กสิณ คือ กิเลส ชักนำสมาธิ พอมีสมาธิ จิตก็นิ่ง ปัญญาเกิด เมื่อ ปัญญาเกิด กสิณ ที่เป็น กิเลส ชักนำ ก็จะหายไป เพราะใช้ปัญญาที่เกิด ไตรตรองก็เลส แล้วตัดกิเลสออก

 

กสิณไม่ได้ใช้ตัดกิเลส แต่เป็นการใช้กดทับ เพื่อไม่ให้กิเลสมีโอกาสเผยอหน้าออกมาสร้างความอับอายให้มนุษย์
ส่วนอื่นกล่าวไปแล้ว

 

เดือนหน้าจะจัดอีกค่ะ
ที่ผ่านมาครั้งนี้ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
กสิณเป็นการเพ่งรูป เห็นง่าย ฝึกง่าย นำไปต่อยอดเอาเองได้

หากท่านคิดว่า ฝึกของง่าย ๆ เป็นจุดเริ่มต้น จะมีโอกาสดีกว่า
ก็ลองติดตาม เดือนหน้าจะมีอีกค่ะ
กรรมฐานมี 40 กอง การที่รู้ว่ากองไหนเหมาะกับตนได้เป็นการดี เพื่อจะได้ฝึกได้ง่ายกว่า

 

ถ้าใครตั้งใจแน่วแน่จะฝึกอะไรก็ได้ผลทั้ง กสิณหรือกรรมฐาน40 ก็เป็นแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงได้วางไว้ให้ เพื่อให้เหมาะแก่บุคคลนั้น และต่อยอดไปเป็นวิปัสสนาเพื่อลดละกิเลสต่อไป เห็นมีหลายคนยังเข้าใจว่ากสิณฝึกไปเพื่อมีฤทธิ์เพียงอย่างเดียว(ฤทธิ์เป็นผลที่ได้เพราะการกำหนดจิตที่กล้าแข็ง) ถ้าคนที่ฝึกมีปัญญาก็ยกเป็นวิปัสสนาเพื่อทางหลุดพ้น ถ้าอ่านพุทธประวัติบ้างคงเข้าใจ สำหรับตัวผมเองก็ไม่ได้เก่งอะไร ก็มานึกๆดูว่าอันนี่ก็ทางที่พระพุทธเจ้าท่านหามาให้อีกทางหนึ่งในการทำลายกิเลส ก็ยังมีคนตำหนิว่าไม่ใช่บ้าง ไม่ได้บ้าง ไม่ถูกบ้าง นานาจิตตังกันไป
ก็อ่านกันขำๆนะ อย่าเอาอะไรกับกระผมเลยนะครับ ผมก็คนธรรมดาคนหนึ่งถอดจิตไปที่นั่นที่นี่ไม่ได้ แค่ขอให้ตัวเองมีสติอยู่กับตัวเองก็พอ
ขอบพระคุณครับ

 

จิตแน่วแน่ก็ฝึกได้ผล แต่บางอย่างที่ดิฉันเห็นและพอสรุปจากคนที่ราคะจริต
ยังไม่มีคนไหนที่ฝึกอสุภะกรรมฐาน(คนที่มีราคะจริต)ได้โดยง่ายเลย
ทั้งนี้เพราะอุปนิสัยของราคะจริตเป็นรักสวยงามและความสบาย นั่นเอง

กรรมฐานทั้งหมดเป็นไปเพื่อลดละ ทั้งนี้ ลดอาจพอดีทำได้ ละนี่ยากหน่อย
เลยกลับมาฝึกสมถะ เพื่อลดก่อน เพื่อให้จิตตั้งมั่น
ทางของสมถะเป็นทางที่มีฤทธิ์ ก็ต้องศึกษาเพื่อไม่ให้ติดหรือหลงไป
เหมือนกับการใช้ฤทธิ์ เพื่อหลอกพระเจ้าอชาตศัตรูของพระเทวทัตในกาลก่อน
ด้วยเหตุที่ความหลงทำให้ยึดติดกันง่าย กลุ่มบุคคลบางกลุ่มเลยไม่ยอมฝึกสมถะ
เพราะสรุปว่าเป็นทางที่นำไปสู่การยึดติดอีกนั่นเอง
หากได้รับการแนะนำในการฝึกที่ถูกต้องและหมั่นทำความเข้าใจถูกต้องแล้ว
ก็สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีผล

ในหลายครั้งที่พระพุทธเจ้าทรงใช้ฤทธิ์ ก็เพื่อทำให้เกิดศรัทธาเป็นส่วนใหญ่
จะตั้งจิตไว้เพื่อได้ฤทธิ์ในแนวทางของกสิณ ก็ไม่สนับสนุนเช่นกัน


อย่างไรก็ดี จะได้ฤทธิ์ได้หรือไม่ได้ ก็เป็นทางนำไปสู่ ฌาณ ซึ่งเป็นผลดี
ต่อยอดวิปัสสนากรรมฐานหน่อย ก็ทำให้ได้ปัญญาเช่นกัน

สมถะและวิปัสสนาเป็นของคู่กัน เหมือนเท้าซ้ายและเท้าขวา
ความมั่นคงและการเคลื่อนไหว
ฌาน ญาณ
เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ
จะฝึกหรือไม่ ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ ก็จะรู้เอง

ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป
อนุโมทนาสาธุการ

แสนสวาท

 

ท่านหนึ่ง โทรไปถามเรื่อง จริตตน โพสอยู่ห้องห้องดูดวงค่ะ
บอกรายละเอียดใน pm
ทำตามกติกา
แล้วพยากรณ์ให้ทางหน้าเวป

http://palungjit.org/threads/จริต-๖-เพื่อฝึกกรรมฐานที่เหมาะสม.310598/page-25

 

ห้องนี้กำลังจะปิด
เพราะจะเปิดรุ่นสอง
กำลังดูว่า วันไหน น่าจะเหมาะสมกว่า
๑๙ - ๒๐ พฤษภาคม หรือ ๒๖ - ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕

 

อนุโมทนาสาธุครับ กับสติแบบท่องๆจำๆแบบโลกๆ ที่นำมาบอกกล่าว
ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณครับที่ตอบ พอดีผมเห็นคุณเขียนว่า "เราฝึกกสิณเพื่อจะตัด ลดละกิเลส ควรคำนึกถึงเรืองนี้มากกว่าการได้ฤทธิ์ ฌาน ญาณ" คุณ GhostHead ใน rep # 10
ก็เลยขอแย้งความเห็นเพื่อฟังคำชี้แจงครับ..ส่วนเรื่องควรคำนึกถึงเรืองนี้มากกว่าการได้ฤทธิ์ ฌาน ญาณ ส่วนนี้เห็นด้วยครับ..
ผมมองว่าถ้าใช้กำลังสมาธิที่ได้จากฝึกกสิณ ไปใช้สำหรับวิปัสสนาจุดนี้นะครับที่ผมมองว่าเป็นประโยชน์ แต่จะใช้อะไรเป็นเครื่องมือเท่านั้นเอง
ส่วนคุณ นวสูตร คุณไม่มีทางรู้หรอกครับว่าคุณยังไม่มีสติในทางธรรม(ที่จะเข้าไปดูจิต เข้าไปคลายกิเลสออกจากจิตถ้าคุณยังไม่สามารถถอดจิตได้ซักครั้ง ไว้ซักวันคุณจะเข้าใจ ส่วนผมไม่อ่านหรอกครับพุทธประวัติจริงไม่จริงผมก็ไม่ทราบ...ถ้าอยากรู้อะไรผมอ่านใน Google ได้.ไม่ใช่ผมไม่เคารพ และไม่ศรัทธานะครับ...ถ้าผมจะรู้อะไรทางภพภูมิ..ผมมีวิธิพิสูจน์ด้วยตัวผมเองได้..ที่คุณพูดคือ ผู้เป็นเลิศทั้งสามภพองค์ที่ 4 ถ้าในภัทรกัปลนี้..ผมพอเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรและองค์ที่คุณอ้างผมพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร..แม้กระทั่งเรื่องกสิณ หรือเรื่องญานทัศนะของพระองค์ท่าน..
สรุป คุณไปสร้างสติให้เกิดเถอะครับ...
ขอบคุณครับ..

 

ต้องการฝึกกสิณอย่างไร เพื่ออะไร ก็ตามแต่จิตท่านจะคิดเอาเถิด
ดิฉันคงทำได้ในส่วนที่ได้ศึกษามา ที่แนะนำก็เพียงเบื้องต้น
ต่อยอดกันเอาเอง

หากศรัทธากันได้ ก็แนะนำทางที่ดิฉันร่ำเรียนมาได้
อย่างไรก็ดี ขอให้ท่านเจริญ ๆ ในธรรมยิ่งขึ้นไป
พบครูที่เหมาะกับตนได้ สาธุ
แสนสวาท