ปิดรับบริจาค ขออนุโมทนากับทุกท่านที่มีส่วนในบุญทอดกฐินสามัคคีนี้

ในห้อง 'กฐิน - ผ้าป่า - งานวัด' ตั้งกระทู้โดย พระเสริฐ, 1 ตุลาคม 2013.

  1. พระเสริฐ

    พระเสริฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +2,507
    ขอเชิญท่านผู้ใจบุญร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี ประจำปี ๒๕๕๖ ของวัดสันทราย ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ในวัน เสาร์ ที่ ๙ เดือน พฤศจิกาย พ.ศ. ๒๕๕๖ "เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม กว้าง 15 เมตร ยาว 30 เมตร"ดังนั้นขอเชิญท่านผู้ใจบุญทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ด้วย ท่านผู้มีความประสงค์เป็นส่วนหนึ่งในบุญใหญ่นี้ร่วมบุญตามเจตนาได้ โดยท่านผู้ใจบุญสามารถร่วมบุญผ่าน บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาไชยปราการ ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี "กองทุนเพื่อการเผยแผ่ศีลธรรมวัดสันทราย" เลขบัญชี "545-0-14343-5" สอบถามรายละเอียดที่.. พระครูวรสุตเขต เจ้าอาวาสวัดสันทราย โทร. 089-8523498 E-mail:Dhamsan4@gmail.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2013
  2. พระเสริฐ

    พระเสริฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +2,507
    อานิสงส์กฐินที่ท่านอาจยังไม่รู้
    อานิสงส์ของการถวายกฐินแท้จริงแล้ว ก็เหมือนกับการถวายสังฆทานนั่นแล เพียงแต่มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น จำกัดกาล (ปีหนึ่งถวายได้หนเดียว) จำกัดเวลา (ต้องถวายภายใน ๑ เดือนหลังออกพรรษา) เป็นต้น เรียกว่า ใช้กำลังใจสูงกว่าการถวายผ้าป่าที่ถวายได้ตลอดปี หรือสังฆทานธรรมดานั่นเอง เลยมีอานิสงส์พิเศษ

    คำว่า "อานิสงส์กฐิน" ที่อยู่ตอนต้น ก็ควรเขียนว่า "อานิสงส์การถวายกฐิน" ครับ เพราะอานิสงส์กฐินแท้จริงนั้น เกิดแก่พระภิกษุ ฆราวาสไม่เกี่ยว ดังนี้

    ๑. เที่ยวไปโดยไม่บอกลา (ออกพรรษา อนุโมทนากฐินแล้ว เที่ยวไม่ยั้งครับ)
    ๒. จาริกไปไม่ต้องเอาไตรจีวรไปครบชุด (ปกติพระไปไหนต้องพกสังฆาฏิใส่ย่ามไปด้วยครับ)
    ๓. ฉันคณโภชน์และปรัมปรโภชน์ได้ (อันนี้แปลคร่าว ๆ ว่า ฉันเป็นหมู่คณะได้)
    ๔. เก็บอดิเรกจีวรได้ตามปรารถนา
    ๕. จีวรอันเกิดในที่นั้น (ที่ที่จำพรรษา) เธอมีสิทธิที่จะกรานกฐินและได้รับอานิสงส์ ถึงขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ และจะได้รับสิทธิพิเศษนี้ไปอีก ๔ เดือน

    ไม่มีข้อใดเป็นอานิสงส์ของผู้ถวายเลย เรื่องนี้ทั้งพระครูวิหารกิจจานุการ หรือหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และพระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง เคยพูดไว้เกี่ยวกับอานิสงส์การถวายกฐิน ซึ่งให้ใช้การสังเกตครับ มิได้ยกพระพุทธพจน์ขึ้นอ้าง แสดงว่า พระพุทธเจ้าไม่เคยตรัสถึงอานิสงส์แห่งการถวายกฐินตรง ๆ ท่านว่า ให้สังเกตดูถ้าไปร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินตั้งแต่ ๓ ครั้งขึ้นไป ความเป็นอยู่จักคล่องตัวขึ้น คำว่า "คล่องตัว" นี่ ไม่ได้หมายความว่า "รวย" แต่หมายถึงมีความเป็นอยู่สะดวกสบายขึ้นกว่าแต่ก่อน อันนี้เป็นแค่เศษของความดี

    ท่านยกอานิสงส์ที่พระสมณโคดมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทรงเคยไปเกิดในสมัยของพระปทุมมุตตรพุทธเจ้า มีชื่อว่า มหาทุกขตะ เป็นคนจนมาก แล้วมีโอกาสได้ร่วมถวายกฐินด้วยหลอดด้ายเพียงหลอดเดียว พระปทุมมุตตรพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ถึงการบรรลุพระโพธิญาณของมหาทุกขตะ เป็นพระสมณโคดมพุทธเจ้าในอนาคตกาลนั้นมีการถวายกฐินนี้เป็นปัจจัยแสดงว่า การตั้งใจถวายกฐินนั้นแม้ปรารถนาพระโพธิญาณ ความเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลก็สำเร็จ สำมะหากระไรกับสิ่งอื่น ย่อมต้องสำเร็จตามประสงค์

    แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า "บุคคลที่ตั้งใจทำบุญกฐิน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า แม้แต่ทิพยจักษุแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งถือว่าเลิศแล้ว ที่สุดยังมองไม่เห็นเลยว่า อานิสงส์นั้นจะไปสิ้นสุดตรงไหน ส่วนใหญ่ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ก็จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จะเป็นพระมหากษัตริย์ หรือเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี เกิดแล้วเกิดอีกอยู่ในระดับของความดีนี้ตลอดจนกระทั่งไม่สิ้นสุดของอานิสงส์กฐิน ก็จะเข้านิพพานเสียก่อน ฟังดูแล้วน่าทำไหม ร่วมกับเขาบ่อย ๆ"
    http://akkarakitt.exteen.com/20100917/entry
     

แชร์หน้านี้

Loading...