รักปู่ได้แต่ทำบุญปล่อยปลาและสวดมนต์นะครับไม่ได้ออกไปเวียนเทียนเลยครับ ไม่ชอบคนมากๆ นะครับ คุณนักพรตเหมา สบายดีนะครับ ว่างๆอยากขอยันต์เมตตาจากคุณนักพรตเหมา บางจังครับ ไม่ทราบจะกรุณาหรือเปล่า
[IMG] สวัสดีครับ...ญาติธรรมทุกๆท่าน...ช่วงหลังๆนี้ ผมไม่ค่อยได้แวะมาทักทาย เพราะวุ่นวายทั้งทางโลกและทางธรรม...ทำให้บ้างทีเกิดความนึกสงสัยว่าทำไมมาทางนี้แล้วยังไม่สงบอย่างแท้จริง...ทุกวันนี้สวดมนต์ภาวนา ก็ยังไม่มีความสุข เพราะห่วงและสงสารท่านเหล่านั้น จนบางครั้งน้ำตาไหลออกมา...อมิตพุทธ...อีก2อาทิตย์ ผมก็จะปิดเทอมแล้ว...ผมจะหนีความวุ่นวาย ไปสู่ความสงบซักระยะหนึ่ง ณ วัดกองดิน จ.ระยอง จะไปบำเพ็ญ ไปสอนแม่ณี(แม่บุญธรรม)สวดมนต์ทางมหายาน พูดคุยธรรมะ และจะกลับมาเมื่อถึงเวลาที่สมควร ผมคงหายไประยะหนึ่งนะครับ...นโมอมิตพุทธ...นโพธิสัตว์กวานอิน
........สวัสดีสหายธรรมยามเย็น...... [IMG] ผู้ปรารถนาโพธิญาณย่อมรักษาศีลยิ่งชีวิต "ประดุจจามรีรักษาขนหาง" ..........ยอมตายแต่ไม่ยอมให้ขนหางเสียไป
จะเป็นปลาเป็นหรือปลาตาย...หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ หลวงพ่อชากล่าวว่ามีแต่ปลาตายเท่านั้นที่ไหลตามน้ำ หากเป็นปลา่เป็นๆเค้าจะว่ายทวนน้ำ คำพูดนี้น่าคิดมากเพราะหากเราปล่อยชีวิตให้ไหลไปตามกระแสโลก ...กระแสอารมณ์..ความต้องการ..เราคงไม่ผิดอะไรกับปลาที่ตายแล้ว การเอาชนะใจตนเอง การฝึกฝืนอารมณ์ที่จูงเราไปในทางหมกหมุ่น หรือจมจ่อมอยู่กับสิ่งไม่เป็นสาระแก่การยกระดับจิตใจของเราซิ คือชีวิตที่มีค่า เป็นผู้เดินหมาก ดีกว่าหมากที่ถูกเดิน ดังที่หลวงปู่กล่าวเตือนสติว่า...ที่แกทำๆไปมันสูญเปล่า ชีวิตจะมีค่าก็ตอนไหว้พระ สวดมนต์ ทำภาวนาเท่านั้น .......
ควรทำหรือไม่.....หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ ครั้งหนึ่ง มีลูกศิษย์หลวงพ่อผู้สนใจธรรมปฏิบัติกำลังนั่งภาวนาเงียบอยู่ ไม่ห่างจากท่านเท่าใดนัก บังเอิญมีแขกมาหาศิษย์ผู้นั้นแต่ไม่เห็น ก็มีศิษย์อีกท่านหนึ่งเดินเรียกชื่อท่านผู้กำลังนั่งภาวนาอยู่ด้วยเสียงอัน ดัง และเมื่อเดินมาเห็นศิษย์ผู้นั้นกำลังภาวนาอยู่ก็จับแขนดึงขึ้นมาทั้งที่ กำลังนั่งภาวนา เมื่อผู้นั้นห่างไปแล้ว หลวงพ่อท่านจึงเปรยขึ้นมาว่า.... "ในพุทธกาลครั้งก่อน มีพระอรหันต์องหนึ่งกำลังเข้านิโรธสมาบัติ ได้มีนกแสกตัวหนึ่งบินโฉบผ่านหน้าท่านพร้อมกับร้อง "แซก" ท่านว่านกแสกตัวนั้นเมื่อตายแล้วได้ไปอยู่ในนรก... แม้กัปนี้พระพุทธเจ้าผ่านไปองค์ที่สี่แล้ว นกแสกตัวนั้นยังไม่ได้ขึ้นมาจากนรกเลย" สวัสดีตอนเช้าครับท่านนักพรต ....^___^.....
แก้ไขตรงไหนก่อน .....หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ เวลามีสิ่งมากระทบให้ต้องเกิดความขุ่นมัว ไม่ว่าเรื่องงานหรือเรื่องใดๆก็ตาม มีข้อระวังซึ่งต้องคอยเตือนตัวเองว่า อย่ารีบร้อนไปแก้ไขเหตุการณ์ให้เป็นไปตามปรารถนา หากแต่ ต้องหยุดสักครู่ เพื่อหันกลับมาแก้ไขใจที่ขุ่นมัวนั้นเสียก่อน ไม่อย่างนั้นการแก้ภายนอกก็ทำบนพื้นฐานใจที่มีอคติ ไม่เป็นกลาง ไม่ตั้งอยู่บนความปรารถนาดี ไม่ตั้งอยู่บนความเห็นชอบของการยอมรับในความจริง ของกระบวนการแห่งเหตุปัจจัย ดังนั้นหลวงปู่เน้นย้ำว่า.....ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต...... สวัสดีครับ ....^___^..