พี่ครับผมเกิดอาการจิตชั่วปรามาสพระอริยะเจ้า ผู้มีคุณ มาเป็นระยะๆมีบ้างหายบ้างเกิดจากอะไรครับ ยิ่งกำลังใจในการปฎิบัติสูงเท่าไหร่ ยิ่งมาแรงมากจิตมารคอยปรามาส เซ็งจริงๆครับ เราจะแก้ไขอย่างไรครับ
คือหนูมักจะมีป่วยเป็นไข้ ไม่สบาย หลังจากมีรอบเดือนมา 3 เดือนแล้ว จะดป็นเวลาเดียวกันทุกเดือนเลยด้วย อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไร และควรแก้ไขอย่างไรดีค่ะ การเจ็บป่วยมีเหตุจากสุขภาพในปัจจุบัน ที่อาจจะเกิดจากการปรับตัว การสูญเสียเลือด การพักผ่อนการทานอาหารให้พร้อม และจากที่ตรวจสอบจะมีอาการปวดท้องมวนท้อง ให้แก้ไขด้วยการสวดมนต์ภาวนาทำสมาธิก็จะช่วยทุเลา และมีกรรมเก่าจากการที่เคยฆ่าสัตว์พวกปลามาก่อนครับ ขอให้ปล่อยปลาและทำบุญให้เขาไปก็จะดีขึ้นครับ ตอนนี้เวลาที่นั้งสมาธิหนูจะกำหนด พองหนอ-ยุบหนอค่ะ แต่ก่อนหน้านี้หนูฝึกพุทโธ น่ะค่ะ อยากทราบว่าหนูควรจะฝึกแบบไหนจึงจะเหมาะกับหนู เพื่อให้เกิดปัญญาสามารถแกปัญหาในชีวิตได้ค่ะ ต้องถามว่าเราทำวิธีไหนแล้วจิตเราสงบหรือรวมเป็นสมาธิได้ง่ายและเร็ว ให้เลือกวิธีนั้นครับ พอเราฝึกสมาธิได้แล้วค่อยไปต่อวิปัสสนากันครับ ขอบคุณมากค่ะ [/B][/COLOR][/QUOTE]
================ ไม่ต้องไปกังวลครับ มันเกิดได้กับทุกท่านครับ กระผมก็เคยเป็น เพราะจิตเรากำลังก้าวไปสู่ความดีก็เป็นอย่างนี้แหละครับ สิ่งสำคัญขอให้เรามีสติรู้ทันความคิดที่มันปรุงแต่งจิต เมื่อเรารู้ทันความคิดไม่ดีมันก็แพ้พ่ายไม่กล่้าคิดหรือโผล่มาให้เห็นครับ ทำบ่อยๆเรามีปัญญาเราดับมันได้เองในที่สุดครับ กิเลสมารทั้งหลายกลัว ตัวรู้ กลัวสติปัญญาครับ หากเรามีเพียบพร้อมแล้ว มันจะไม่กล้ามมาหาเราอีกเพราะมันกลัว มันรู้ตัวมันเหมือนกันว่า มันมาที่ไรมันต้องแพ้กลับไปทุกที แล้วนั่นเองกิเลสมารก็ย่อมมลายหายไปครับ สาธุ
ขอบคุณ คุณ tjs มากๆค่ะ ที่สละเวลาอันมีค่า ตอบปัญหาของดิฉันและเพื่อนสมาชิก ดิฉันซาบซึ้งใจมาก จะต้งใจเดินหน้าในทางที่เป็นกุศล เพื่อหลีกหนีสิ่งที่ทำอกุศลมาแต่อดีต ขอให้คุณ tjs ประสบแต่สิ่งดีงามเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม นะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ตัวรู้คืออะไรต้องทำอย่างไรแนะนำด้วยครับ กลัวไปฝึกมโนเกิดอาการแบบนี้แย่เลยต้องฆ่ามันให้ได้ก่อนไปฝึกมโน ตอนนี้ได้แต่ขอขมาพระรัตนตรัยอย่างเดียวควบคู่กับการปฎิบัติ
พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า สตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม คฤหัสถ์ก็ตาม บรรพชิตก็ตาม ควรพิจารณาเนือง ๆ ถึงความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความพลัดพรากจากบุคคล และของรัก และผู้ที่ทำความดีความชั่วแล้วได้รับผลดีและผลร้าย เห็นคนแก่ชราภาพ ให้นึกว่า เราก็จะต้องแก่อย่างนั้น จะช่วยบรรเทาความมัวเมาในวัย เห็นคนเจ็บทุกข์ทรมาน ให้นึกว่า เราก็จะต้องเจ็บอย่างนั้น จะช่วยบรรเทาความมัวเมาว่าตนไม่มีโรค เห็นคนตาย ให้นึกว่า เราก็จะต้องตายอย่างมากไม่เกิน ๑๐๐ ปี จะช่วยบรรเทาความมัวเมาในชีวิต คิดว่าตัวเองจะอยู่ค้ำฟ้า เห็นคนประสบความวิบัติจากคนรักและทรัพย์สินเงินทอง ให้นึกว่า ความจากกันนั้นมีแน่ ไม่เขาจากเรา ก็เราจากเขา จะช่วยบรรเทาความยึดติดผูกพันในคนรักและของรัก เห็นคนผู้ทำความดีและความชั่วแล้ว ได้รับผลดีและผลร้าย ให้นึกว่า ทุกคนมีกรรมเป็นของตน จะช่วยบรรเทาความทุจริตต่าง ๆ ได้ ดังหลักธรรมดังนี้ อภิณหปัจจเวกขณะ ๕ ๑. ควรพิจารณาทุกวัน ๆ ว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ ๒. ควรพิจารณาทุกวัน ๆ ว่า เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้ ๓. ควรพิจารณาทุกวัน ๆ ว่า เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ ๔. ควรพิจารณาทุกวัน ๆ ว่า เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น ๕. ควรพิจารณาทุกวัน ๆ ว่า เรามีกรรมเป็นของตัว เราทำดีจักได้ดี ทำชั่วจักได้ชั่ว อภิณหะ แปลว่า เนือง ๆ เสมอ หรือเป็นประจำ ปัจจเวกขณะ แปลว่า การพิจารณา คือเก็บเอามาคิดเพื่อให้เข้าใจความจริง อภิณหปัจจเวกขณะ จึงมีความหมายว่า การพิจารณา หรือการคิดเนือง ๆ เพื่อให้เข้าใจความจริง ครับ สาธุ
=============== ตัวรู้ คือการฝึกสติ ครับ แต่เป็นสติในวิปัสสนา ฝึกสติ เพื่อระลึกได้ทันทุกขณะจิต เราเรียกว่าเป็นด่านตรวจสอบ สติที่ฝึกดีแล้ว เราเรียกว่า มหาสติ หรือพูดอย่างง่ายคือเราฝึกสร้างสติให้เกิดอยู่กับจิต ทุกขณะจิต เมื่อเราฝึกสติหรือตัวรู้เกิดขึ้นได้แล้ว ทำให้เรารู้เท่าทันความนึกคิด เมื่อรู้ทันแล้ว เรารู้ต่อว่า สิ่งที่นึกคิดปรุงแต่งนั้นๆดีหรือไม่ดี เป็นบุญหรือบาป เราก็รับรู้ จากนั้น จิตจะทำงานต่อโดยการติดสินใจว่าจะทำอะไรต่อตามความนึกคิดปรุงแต่งเหล่านั้นหรือไม่ ปกติ หากพอใจชอบใจก็ยินดี จิตก็จะสั่งให้ต้องทำทุกอย่างให้ได้ตามที่ปรุงแต่งพอใจ แต่สำหรับนักปฏิบัติ ด้วยความมีสติรู้ ก็จะรู้ว่าควรปล่อยวางความนึกคิดปรุงแต่งที่ไม่ดีลงอย่างไร ไม่ไหลไปตามอย่างไร เป็นเครื่องปิดกั้นไม่ให้ทำผิดหรือทำชั่วนั่นเองครับ
ธรรมของสัตบุรุษ เรียกว่า สัปปุริสธรรม มี ๗ อย่าง คือ ๑. ธัมมัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักเหตุ เช่นรู้จักว่า สิ่งนี้เป็นเหตุแห่งสุขสิ่งนี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ ๒. อัตถัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักผล เช่นรู้จักว่าสุขเป็นผลแห่งเหตุอันนี้ ทุกข์เป็นผลแห่งเหตุอันนี้ ๓. อัตตัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักตนว่า เราว่าโดยชาติ ตระกูล ยศศักดิ์ สมบัติ บริวาร ความรู้ และคุณธรรมเพียงเท่านี้ แล้วประพฤติตนให้สมควรแก่ที่เป็นอยู่ อย่างไร ๔. มัตตัญญุตา ความเป็นผู้รู้ประมาณในการแสวงหาเครื่องเลี้ยง ชีวิตแต่โดยทางที่ชอบ และรู้จักประมาณในการ บริโภคแต่พอสมควร ๕. กาลัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักกาลเวลาอันสมควรในอันประกอบกิจนั้น ๆ ๖. ปริสัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักประชุมชน และกิริยาที่จะต้องประพฤติต่อประชุมชนนั้น ๆ ว่า หมู่นี้เมื่อเข้าไปหา จะต้องทำกิริยาอย่างนี้ จะต้องพูดอย่างนี้ เป็นต้น ๗. ปุคคลปโรปรัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักเลือกบุคคลว่า ผู้นี้เป็นคนดีควรคบ ผู้นี้เป็นคนไม่ดีไม่ควรคบ เป็นต้น สัตบุรุษ คือคนดีมีความประพฤติ ทางกาย วาจา ใจ อันสงบ และทรงความรู้ หรือจะกล่าวว่า ผู้ประกอบด้วยธรรม ๗ ประการนี้ คือ รู้จักเหตุ รู้จักผล รู้จักตน รู้จักประมาณ รู้จักกาลเวลา รู้จักเข้าหาชุมชน รู้จักเลือกคนที่ควรคบ เรียกว่า สัตบุรุษ ก็ได้ รู้ว่า จุดไฟทิ้งไว้ในบ้าน ไฟจะไหม้บ้าน ชื่อว่า รู้เหตุ รู้ว่าไฟไหม้บ้านพร้อมทั้งทรัพย์สินต่าง ๆ หมดสิ้น ก็เพราะจุดไฟทิ้งไว้ ชื่อว่า รู้ผล การรู้เหตุ ทำให้รู้จักสร้างเหตุดี หลีกหนีเหตุร้าย การรู้ผล ทำให้เป็นคนมีประสบการณ์ ด้วยประสบการณ์ย่อมทำให้ทราบผลว่า ทำอย่างนั้นแล้วเกิดผลเสียหายแล้วจึงไม่ทำอย่างนั้นอีก ครับ สาธุ
1 วันนี้ทำบุญกฐินกับเวปพลังจิตทั้ง2รายการ เอาบุญมาฝากทุกท่านนะคะ 2 คืนนี้ หลังนั่งสมาธิเสร้จ รู้สึกตื้อๆ หนืดๆกลางกระหม่อม หว่างคิ้ว และในหู สงสัยจะสอบไม่ผ่านในวันนี้ทั้งๆที่พยายามแก้ไขตามที่ท่าน tjs กรุณาแนะนำ 3 วันนี้สามีบอกว่าในช่วง2-3วันนี้ ดิฉันจิตสะอาดน้อยลง เพราะหงุดหงิดกับข้างบ้านที่ชอบมาวุ่นวายเรื่องที่อยู่อาศัย แต่ทั้งหมด1-3 ดิฉันรู้ตัวว่ามีอารมณ์กุศลมากกว่าจริงๆ จะฝึกสติและให้อภัยเพิ่มค่ะ สาธุค่ะ
============= ขออนุโมทนาครับ วันนี้ จากเริ่มต้นที่ยังแก้ไขธรรมชาติของจิตได้ไม่มากนัก แต่เราก็เริ่มรู้เห็นธรรมชาติของความเป็นไป แน่นอนว่าเมื่อเริ่มเห็นหรือเริ่มรู้ทัน เมื่อทำเช่นนี้บ่อยๆสติปัญญาจะเกิดมากขึ้น แล้วในที่สุดเราจะปล่อยวางเรื่องเหล่านั้นลงได้เอง เป็นจิตที่ไม่ไหลไปสู่ความชั่วเป็นจิตที่ดีงามยิ่งๆขึ้นไปได้เองครับ เหมือนที่ผมผ่านมาแล้วและอยากให้ทุกท่านลองฝึกฝนเฝ้าดูจิตตนให้มากๆนะครับ สุดท้ายเรื่องทางโลกก็ทำให้เราเป็นทุกข์ไม่ได้ ความโลภอาจเกิดขึ้นแต่เรารู้ทันและไม่ไปทำอะไรต่อให้เสียหายให้เหนื่อยเห็นแล้วก็ดับลงทันที ความโกรธอาจเกิดขึ้นแต่เรารู้ทันและไม่ไปทำอะไรต่อให้เสียหายให้วุ่นวายเห็นแล้วก็ดับลงทันที ความหลงอาจเกิดขึ้นแต่เรารู้ทันและไม่ไปทำอะไรต่อให้เสียหายให้มัวเมาเห็นแล้วก็ดับลงทันที ความชั่วก็ไม่สามารถดึงเราให้ชั่วได้ครับ เห็นแล้วรู้แล้วก็ดับลงทันที สาธุครับ
กราบขอบพระคุณท่าน tjs ค่ะ ดิฉันพยายามเจริญสติควบคู่กับสมาธิค่ะ เวลาทำสมาธิวันที่มีสติ ดิฉันสามารถผ่านปิติไปสงบได้ แต่บางวันสติดูน้อย ก็รู้สึกว่านานมากกับช่วงปิติ ส่วนสติในการทำงานและชีวิตประจำวัน ยังขึ้นๆลงๆ ดิฉันจะพยายามต่อไปค่ะ ด้วยความเคารพ
================= ขอร่วมอนุโมทนาครับ ทราบว่ามีแจกพระผงด้วยนิครับ มวลสารและพุทธคุณดีมากๆครับ หากไม่ติดธุระก็อยากไปเข้าแถวขอมาบูชาติดตัวไว้ครับ ดีมากๆครับ
กำหนดการเข้ากราบ 15:30-18:00 ผมไปถึงประมาณ 17:00 บังเอิญเจอคนรู้จัก เค้ากำลังยืนอยู่ ผมเลยไปทักทาย เค้าบอกว่า คนอื่น ๆ เค้ามารับบัตรคิวกันตั้งแต่เช้า 2,000 คิวแล้ว ผมก็เลยคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้กราบท่าน ก็เลยเดินไปทำบุญทอดผ้าป่า, ลงนามถวายพระพร, และบอกให้ลูกยกมือไหว้สมเด็จพระสังฆราชอยู่หน้าตึกแทน ระหว่างกำลังจะกลับได้คุยกับคนที่ได้ขึ้นไปกราบสมเด็จพระสังฆราช พี่เค้าแนะนำว่า ให้ไปต่อแถว เผื่อจะได้ พอเดินไปต่อแถว รปภ บอกว่าไม่ทันแล้วครับ แต่ผมก็อุ้มลูกเดินตามแถวไป รปภ ก็บอกว่า ถึงเดินแถวไป ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ดี ไว้โอกาสหน้านะครับ แต่ผมก็เดินต่อไป กะว่าถ้าไม่ได้ขึ้นก็ไม่เป็นไร พอถึงคิวผม คนดูแลตึกให้ขึ้นครับ โชคดีจริง ๆ เลยได้พาลูกขึ้นไปไหว้ทำบุญสมเด็จพระสังฆราชตามที่ตั้งใจครับ (^___^)
รู้จัก คือการได้เห็นได้อ่านได้พบได้รู้ เสมอเหมือน ปริยัติ รู้จริง คือการเห็นของจริง ของจริงจะเห็นได้รู้ได้คือต้องปฏิบัติ เสมอเหมือน ปฏิบัติ รู้แจ้งคือ การเห็นแจ้งให้สภาวะทั้งหลาย หมายถึงผลที่จักได้รับด้วย เสมอเหมือน ปฏิเวธ ผู้ใด้เข้าถึง3รู้ก็หมายถึง เข้าถึง ไตรสิกขา ได้ ย่อมเป็นผู้ห่างไกลกิเลสได้ในที่สุดครับ