เมื่อประมาณช่วงก่อนวิสาขะบูชา ที่ผ่านมากระผมสวดมนต์ไหว้พระและนั่งสมาธิภาวนาตามปกติ จวบจนจิตสงบนิ่งมีแค่สุขอยู่ภายใน เมื่อผ่านเวลาได้สักระยะหนึ่ง ก็ปรากฏนิมิตในสมาธิกระผมได้ยินเสียง ดังก้องกังวาล ทุ้มใหญ่ ก้องเข้ามาในโสตประสาทว่า ;ท่าน บัดนี้ถึงเวลา ที่ท่านต้องรับใช้วิบากกรรม ของท่านแล้ว ข้ามาเพื่อรับท่าน ถึงเวลาของท่านแล้ว' สิ้นเสียงดังกล่าวนี้ นิมิตปรากฏเป็นชายผิวดำรูปร่างสูงใหญ่ ตรงศรีษะท่านสวมชฏาแบบเป็นเขาควายเผือกสีขาว มีอาวุธประจำกายคือหอกทองเหลืองยาวปลายเป็นง่ามสามง่าม นัยตาแดงก่ำ จากนิมิตดังกล่าวกระผมจึง ได้สติ และรู้ว่าท่านคือพยามัจจุราช จึงสื่อกับท่านไปว่า ; ข้าแต่ท่านพยามัจจุราช หากกระผมได้กระทำกรรมหนักไว้ มีวิบากกรรมให้ผลแล้วในเวลานี้ กระผมก็ยินดี ให้ท่านมารับกระผมไป กระผมจักไม่ต่อสู่หรือหลีกหนี และยินดีพร้อมใช้วิบากกรรมคืนแก่กรรมหนักเหล่านั้น; เมื่อกระผมกล่าวเช่นนี้ออกไป ทันใดนั้นกระผมก็เกิดปรากฏนิมิต มีแสงสว่างจ้าขาวสว่างขยายเป็นวงกว้างมาในสมาธิขณะนั้น ซึ่งเมื่อแสงสว่างนั้นค่อยๆลดความสว่างลง ก็ปรากฏเห็น พระสงฆ์แต่งกายแบบพระจีนรูปหนึ่ง ถือคะทาแบบพระจีน ส่วนมืออีกด้านหนึ่ง ท่านแบไว้มีดวงแก้วใสสว่างสีเขียวนวลสวยงามมาก พร้อมด้วยสามเณรสองรูปประทับยืนอยู่ด้านข้าง ท่านเป็นพระสงฆ์จีนหนุ่ม ผิวขาว วรรณะงดงามผุดผ่องมาก ท่านกล่าวด้วยเสียงอันนุ่มไพเราะกังวาลว่า ; ช้าก่อนท่านพยามัจจุราช อันบุตรชายผู้นี้ ที่ท่านมาเพื่อจะเอาชีวิตเขาไปนี้ อาตมาขอบิณฑบาตร เพราะด้วยเหตุ ที่บุตรชายผู้นี้ ในกาลเวลาที่ผ่านมาจนปัจจุบัน บุตรผู้นี้เขาได้กระทำความดีไว้มากมาย อีกกระทั่ง ในกาลข้างหน้า บุตรผู้นี้เขายังมีภาระเพื่อพุทธศาสนา ในการสืบทอดและจะต้องสร้างคุณงามความดีอีกหลายประการ ด้วยเหตุนี้ อาตมาจึงขอบิณฑบาตร ท่านสักครั้งนี้ด้วยเถิด; ขณะนั้น จึงได้ยินเสียงของ ท่านพยามัจจุราช ท่านกล่าวตอบกลับมาว่า ; เราจักถวายทานนี้แก่ท่าน ขอท่านพระโพธิสัตว์ ได้โปรดรับบิณฑบาตในครั้งนี้ด้วยเถิด สาธุ ; และพยามัจจุราช ก็กล่าวกับกระผมว่า ครั้งนี้เราจะไม่เอาชีวิตท่าน เพราะเราได้ถวายบิณฑบาตร ไปแล้ว แต่ในคราวหน้าเราจักต้องทำตามหน้าทีของเรา ท่านคงเข้าใจ อนึ่ง ได้เวลาเราจักต้องกลับแล้ว ; กระผมรู้สึกดีใจปิติสุขบังเกิดขึ้นเป็นแสงสว่างภายใน จึงกราบสักการะและกราบขอบพระคุณท่านพระโพธิสัตว์พระองค์นี้ และจึงกล่าวแก่ท่านพยามัจจุราชไปว่า ; ขอท่านพยามัจจุราชจงเชื่อมั่นว่า เราจักไม่ปิดเบือนหรือหลบหลีก เราจะยินดีให้ชีวิตแก่ท่านเมื่อถึงเวลานั้นของเรา สุดท้ายนี้ด้วยบุญกุศลและบารมีที่กระผมได้สั่งสมมา กระผมขอแผ่และอุทิศให้ท่าน ตลอดจนในอนาคตก็เช่นกัน บุญกุศลใดที่กระผมจะได้กระทำในอาคตกาลนั้นก็ขอให้สำเร็จแก่ท่านเช่นกันตลอดกาลนานเทอญ; หลังจากนั้นท่านพยามัจจุราชก็กล่าวอนุโมทนา เสร็จแล้วบังเกิดเป็นแสงสว่างจ้า จนกระผมหลุดออกจากสมาธิ ก็มาคิดทบทวนว่า นี่มันจริงหรือไม่จริง แต่ก็เชื่อว่าต้องเป็นความจริง จึงคิดว่าต่อนี้ไปเราจักตั้งตนอยู่ด้วยความไม่ประมาทครับ
ต่อครับ หลังจากนั้นในคืนนั้น กระผมก็เข้านอนและหลับไป จนกระทั่งเวลาประมาณตี4 กระผมได้สติ ตื่นมา เพราะได้ยินเสียงชายคนหนึ่ง มายืนเรียกที่ปลายเท้าว่า ; เจ้าเคยฆ่าและทำลายครอบครัวของข้า เจ้าต้องได้รับผลกรรมนั้น แม้จะเป็นเศษแห่งกรรมก็ตาม ; ในขณะนั้น กระผมมีสติแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น ตอนนั้นแขนข้างซ้ายของกระผม ไม่มีความรู้สึกใดๆ เหมือนคนพิการแขนขาด แขนไม่มีความรู้สึกใดๆ ในใจตอนนั้นก็ตกใจมากที่แขนข้างซ้ายมันห้อยโตงเตงไม่สามารถเคลื่อนไหวอะไรได้อีก ในขณะจึงพยุงตนเองขึ้นมา ได้สติ จึงนั่งสมาธิบนที่นอน รวบรวมสมาธิได้แล้วก็นิมิตเห็นชาย พม่า นุ่งชุดแบบนายทหารของพม่า จึงเห็นต่อเนื่องไปว่าในอดีตชาติหนึ่ง กระผมเคยเป็นแม่ทัพ นำทหารแห่งสยามประเทศไปโจมตีทำลายทหารพม่าที่เข้ามาประชิดเมืองให้แพ้พ่ายถอยกลับไป ในการต่อสู้กระผมได้ใช้ดาบฟันแขนข้างซ้ายของเขา ผู้นี้ขาดสะบั้นลง เขาล้มลงที่พื้น และถูกทหารใกล้ชิดของกระผม แทงซ้ำเข้าไปกลางหลังทำให้เขาขาดใจตาย ด้วยเหตุนี้จึงเข้าใจทุกอย่าง เสร็จแล้วในนิมิตก็ปรากฏชายพม่าคนดังกล่าว กระผมเห็นในสมาธิแล้วจึงรีบ กล่าวแผ่อุทิศบุญกุศลทั้งหมดทั้งสิ้นแต่แต่อดีตจวบจนปัจุบัน อุทิศให้แก่ท่าน ขอท่านจงอโหสิกรรมและเมตตาแก่กระผม จวบจนอนาคตกาลบุญกุศลอันใดทั้งหลายก็จะมอบและอุทิศให้แก่ท่านเช่นกัน การที่กระผมเคยทำร้ายท่านก็เพราะด้วยหน้าที่ ทำไปโดยไม่ได้เจตนา เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ท่านจึง อโหสิกรรมและกล่าวอนุโมทนาในบุญนี้ และก็หายไปในนิมิต จากนั้นกระผมก็ออกจากสมาธิปรากฏว่าแขนข้างซ้ายที่เป็นอัมพาตชั่วขณะ ก็เริ่มปวดร้อนขึ้นมา ชนิดเจ็บแสบไปถึงกระดูกครับ แล้วก็เริ่มขยับนิ้วขยับแขนได้ในที่สุดครับ จึงมานั่งทบทวนว่า นี่คือเศษกรรมที่ตนได้กระทำไว้ยังไงก็หนีไม่พ้น แต่ก็นับว่ายังโชคดีมากที่ไม่ต้องสูญเสียแขนของตนไป เหมื่อนที่เคยไปทำร้ายเขาครับ สาธุ
ต่อครับ จากนั้นไม่นาน ล่วงมาได้5วันจึงเดินทางกลับไปบ้านที่นครสวรรค์ กระผมก็ล้มป่วยลง ด้วยอาการปวดหัวอย่างหนัก มีไข้ขึ้นสูง เป็นหนักมาก แต่ก็อดทนและรู้ว่าวิบากกรรมให้ผลจริงๆ กระผมไม่ยอมไปหาหมอ แม้จะป่วยแค่ไหนก็ต้องสวดมนต์นั่งสมาธิ ขอให้ครูอาจารย์ช่วย การป่วยในวันที่สองหนักมากไข้ขึ้นสูงพอนั่งสมาธิเสร็จแล้ว เข้านอน ไข้กลับขึ้นสูงสี่สิบองศา ป้าจึงเอาผ้าชุบน้ำ เช็ดตัว คืนนั้นทั้งคืน คนที่นั่นบอกว่าไปหาหมอเถอะ ผมบอกว่าไม่ต้องไป ให้รักษาแบบนี้แหละ คือให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว เพราะตัวจะร้อนมากจนช็อคสลบได้ ก็เคยเอาไฟไปเผาเขาทั้งเป็นจนเขาตายคากองไฟ ตอนที่ไปรบกับทหารพม่าในตอนนั้นนั้นแหละ ภาพทุกอย่างมันปรากฏเป็นนิมิตให้เห็นทันที จึงบอกป้าว่าให้เช็ดตัวผมอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เพราะตัวร้อนมาก เสื้อผ้านี่เปียกปอนไปหมด จนต้องถอดออกเหลือแค่กางเกงในตัวเดียว ให้คุณป้านำผ้ามาชุบน้ำเช็ดตัวให้ผม ทั้งคืน จนเกือบสว่าง จึงดีขึ้น ในเช้าวันถัดมา อาการเป็นไข้ก็ทุเลาลง แต่ยังไม่หาย ยังปวดหัวอยู่แต่ก็ทุเลาลงแล้ว ถัดมาอีกวัน อาการเจ็บป่วยก็ดีขึ้นมาก จึงกลับมาทำงานได้ตามปกติ ตอนนี้จิตก็รับรู้แล้วว่า นิมิตทั้งหมดเป็นเรื่องจริง วิบากกรรมเราทำไว้แล้ว เราหนีไม่พ้น ยังไงก็ต้องรับใช้ หนีไม่พ้น ครับ สุดท้ายจิตก็น้อมระลึกไปถึงพระสงฆ์จีนรูปนั้น ท่านเป็นใคร ท่าเป็นพระโพธิสัตว์พระองค์ใด จนกลับมาที่ทำงานที่ห้องพัก ก่อนทำงานก็เหลือบไปเห็นสมุดสวดมน์ต์ที่ตนเคยนำมาท่องสวดมนต์ไหว้พระ ก็บังเอิญไปเห็นรูปพระสงฆ์จีนดังกล่าว เป็นรูปสี ช่างเหมือนในนิมิตมาก เมื่อดูชื่อด้านล่าง ปิติสุขเกิดแรงมากจนผมและขนตั้งชูชัน ;;;;;ลูกรู้แล้วท่านคือ พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ นี่เอง ที่ได้ช่วยชีวิตลูกไว้; ชีวิตนี้ลูกจะตั้งใจสร้างกุศลสร้างคุณงามความดีเป็นปฏิบัติบูชา แก่ท่านและครูอาจารย์ทุกๆพระองค์ครับ สาธุ
ความดีเท่านั้นจะช่วยเราได้ แม้จะช่วยได้ไม่หมด แต่ความดีก็ช่วยให้ผ่อนหนักเป็นเบาได้ แม้กระนั้นความดี ก็ย่อมนำเราไปสู่สุขคติเสมอครับ สาธุ
มาร มาทดสอบหรือปล่าวครับท่าน เร่งความเพียรเถอะครับ จะไปรั้งทัพ คอยท่า ท่านอยู่ที่หน้าด่าน ;welcome2 อนุโมทนาครับ.
เป็นกุศลผลบุญที่คุณเพียรปฏิบัติอยู่ในปัจจุบันจึงส่งผลให้กรรมของคุณลดทอนลงไปได้บ้างด้วยอำนาจบารมีของพระโพธิสัตว์ เร่งทำความเพียรตามแนวปฏิบัติที่คุณได้ปฏิบัติอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ นะคะ กรรมทั้งหลายลดทอนลงได้ด้วยบุญกุศลของตนเอง อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
เป็นอดีตทหารเช่นกันค่ะ (มีอาจารย์และพระอาจารย์หลายๆท่านทักเหมือนกันหมด เรียกได้ว่าเก็บสถิติก็คือ 90% ขึ้นไปค่ะ) และนับถือองค์พระกษิตครรภธโพธิสัตว์ (พระมาลัย) เช่นกันค่ะ เป็นคนที่จะมีชีวิตผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่เล็กมากกว่า 10 ครั้ง เหตุเพราะชาติก่อนๆ เคยกระทำปานาติบาต ฆ่าคนไว้ แม้จะเป็นหน้าที่ปกป้องประเทศชาติก็ตาม ตอนนี้ก็พยายามสวดมนต์ นั่งสมาธิ ปฏิบัติ แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้ท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายและขออโหสิกรรมท่านทั้งหลายที่เราเคยได้ทำร้ายไม่ว่ากาย วาจา ใจ ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดีอยู่อย่างต่อเนื่อง
เมื่อได้ฟังเรื่องราวของเจ้าของกระทู้แล้ว..ผมก็คงจะต้องทำอย่างจริงจังบ้างแล้วเพราะที่ผ่านมา...นั่งบ้างไม่นั่งบ้าง ไม่ค่อยประติดประต่อกันเท่าไหร่ ขออนุโมทนาสาธุกับคุณเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ จะพยายามต่อไป สวัสดี
ขอบคุณคุณ tjs ที่share เรื่องราวให้ัฟัง มีประโยชน์มากเลยค่ะ ถ้าพระท่านไม่มาสงเคราะห์ไว้ คุณtjs อาจจะไปแล้ว แต่ก็ผลบุญของคุณtjsด้วยที่มีส่วนมาก เป็นกำลังใจ สู้ สู้ ค่ะ มีข้อสงสัยค่ะ พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์ เป็นใครหรือคะ แล้วทำไมถึงเป็นองค์นี้มาช่วยคะ ทำไมจึงไม่เป็นครูบาอาจารย์องค์ที่คุณtjs สื่อได้
เมื่อครั้งพุทธกาลพระพุทธองค์ทรงแสดงอานิสงค์แห่งการบูชาพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ไว้ถึง ๒๘ประการคือ ๑.เทพนาคาปกปักษ์รักษาและระลึกถึงอยู่เป็นนิจ ๒.กุศลผลบุญเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้นทุกทิวากาล ๓.เป็นการสร้างสมอริยมรรคเป็นสมุกฐาน ทั้งยังถือเป็นเหตุปัจจัยแห่งกุศลกรรม ๔.ไม่ท้อถอยในการบังเกิดโพธิจิต ๕.สมบูรณ์ด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคตลอดกาล ๖.แคล้วคลาดปราศจากโรคาพยาธิ ๗.รอดพ้นจากอุทกภัย อัคคีภัย ๘.นิราศจากโจรภัยมาเบียดเบียน ๙.เป็นที่เคารพยกย่องของนรชนไปทั่ว ๑o. เทพารักษ์คุ้มครองอุ้มชูช่วยเหลืออยู่เสมอ ๑๑.สตรีปรารถนากลับเพศเป็นบุรุษ ๑๒.เกิดในตระกูลวงศาแห่งกษัตริย์และอำมาตย์ ๑๓.มีรูปอินทรีย์ กายอินทรีย์สมบูรณ์ ๑๔.ได้อุบัติในแดนสวรรค์ ๑๕.ภพหน้าจะได้กำเนิดเป็นพระมหาราชาธิราช ๑๖.สามารถหยั่งรู้ระลึกเหตุการณ์ในอดีตชาติ ๑๗.คิดประสงค์สิ่งใดย่อมได้ดั่งปรารถนา ๑๘.ญาติและบริวารเสวยแต่ความสุขปราศจากทุกข์ ๑๙.สิ่งอัปมงคลทั้งหลายสูญหายมลายสิ้น ๒o.ไม่ต้องบังเกิดในทุคติภูมิ ๒๑.หากสัญจรไป ณ แห่งใดย่อมได้รับความสะดวก ๒๒.ในยามราตรีย่อมมีสุบินในทางศุภมงคล ๒๓.บรรพบุรุษและญาติวงศ์ที่ล่วงลับไปแล้วจะได้หลุดพ้นจากทุกขภูมิ ๒๔.กำเนิดในภพหน้าจะเป็นผู้มีวาสนาสูง ๒๕.ได้รับการยกย่องจากพระอริยเจ้าทั้งหลาย ๒๖.มีสติปัญญารอบรู้เป็นเลิศ ๒๗.มีจิตเปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรมเป็นสมุฏฐาน ๒๘.และจะได้สำเร็จพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่สุด
เหมือนกันค่ะ ยังหาทางกลับไม่เจอเลย ลุ่มๆดอนๆ ใครมีวิธี ช่วยแนะนำหน่อย ผุดขึ้นมาในใจ@ ตนเป็นที่พึ่งของตน@ อีกและ
ตอนเด็กๆ ประมาณอยู่มัธยมต้น เคยฝันเห็นลักษณะคล้ายๆ แบบนี้ แต่เป็นชายสูงใหญ่ หน้าตาดุๆ ผิวคล้ำๆ ถึงดำไปเลย นุ่งโจงสีแดง เสื้อไม่ใส่ ประมาณ 4-5 คน ยืนเรียงหน้ากัน แล้วบรรยากาศฉากหลังเป็นสีดำเหมือนตอนกลางคืน เหมือนเรายืนอยู่ในอวกาศโล่งๆ เราเห็นเค้าซึ่งยืนในลักษณะเผชิญหน้ากันกับเรา ในฝันเราตกใจว่าเอ๊ะ...จะใช่ไม๊นะ ถึงเวลาแล้วหรอ แต่เค้าก็ไม่ได้พูดอะไรนะ แค่ยืนเผชิญหน้ากันเฉยๆ แต่ตอนนี้มาคิดอีกที อาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรก็ได้ เพราะมีอยู่ครั้งนึง เราทำสมาธิ แล้วก็เห็นในสมาธิ คือเราตั้งใจจะไปดูสถานที่แห่งหนึ่งที่เราอยากจะรู้ความเป็นมา ละเราก็เห็นชายลักษณะเดียวกันคือเสื้อไม่ใส่ นุ่งแต่โจงสีแดง นั่งล้อมกันเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า นั่งกันเป็นจุดๆ ทั้งหมดน่าจะประมาณซัก 6-8 คนนี่ล่ะ หันหน้ามาหาเราห่างจากจุดที่เรายืนดูประมาณ 10 เมตร เราก็ตกใจสิ...หันหน้ามาพร้อมกันแบบนี้ ละเราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ยืนสำรวมชื่นชมธรรมชาติแถวนั้นเฉยๆ เราก็ออกจากสมาธิทันที...กลัวเลย งือๆๆ
พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์มีความเกี่ยวเนื่องกับภพอบายภูมิโดยตรง ทั้งนี้ขอแก้ต่างนิดนึงว่าท่านไม่ได้เป็นองค์เดียวกับพระมาลัยแต่อย่างใด เพราะเท่าที่ผมได้รู้มาพระมาลัยเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อแสดงถึงทัศนคติของพระสงฆ์ในฝ่ายเถรวาทไม่ได้เกิดจากเรื่องจริงแต่ประการใด( ถ้าผิดก็ต้องขออภัยและอโหสิกรรมในความรู้อันน้อยนิดของตัวข้าพเจ้าเองด้วย) ส่วนในฝ่ายของมหายานนั้นมีเรื่องเล่าอยู่ใน กษิติครรภ์โพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร เมื่อครั้งที่พระศากยมุนีพุทธเจ้าของเราทั้งหลายนี้ เสด็จขึ้นไปยังดาวดึงส์เพื่อโปรดพุทธมารดา (ซึ่งในฝ่ายของเถรวาทนั้นไม่มีอยู่ ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด ต้องรอให้ท่านผู้รู้กว่ามาไขข้อข้องใจอันนี้ต่อไป ) เนื้อความได้กล่าวถึงความเป็นมาและการตั้งปณิธานเพื่อปลดเปลื้องทุกข์แก่สรรพสัตว์ทั้งปวง แต่เน้นหนักไปทางด้านนรกมากว่า เพราะได้บำเพ็ญบุญกุศลต่าง ๆเพื่อช่วยเหลือมารดาที่ต้องตกนรกเป็นเสียส่วนใหญ่ ได้เห็นความทุกข์ทรมานของสัตว์นรกเหล่านั้นก็มีจิตเมตาคิดอยากจะช่วยเหลือสัตว์นรกเหล่านั้นเลยตั้งปณิธานว่า " หากแม้นรกไม่เว้นว่างจากเหล่าสัตว์แล้วก็จะไม่ขอตรัสรู้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า " เหล่าพยามัจจุราชทั้งหลายต่างให้ความนอบน้อมเคารพต่อท่านเป็นอย่างมาก... แต่เท่าที่ผมได้ประสบกับตัวเองมามีอยู่ข้อนึงที่คิดว่าจริง คือข้อที่ว่า เมื่อใครยินนามของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ได้เห็นรูป ได้รู้ถึงปณิธานของพระองค์แล้ว ย่อมมีจิตคิดบำเพ็ญเป็นโพธิสัตว์ แต่จะสำเร็จหรือไม่อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับกำลังใจของแต่ละคน สวัสดี
ขอร่วมอนุโมทนาในกุศลบุญที่ท่านได้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบไว้ดียิ่งแล้วครับ และขอให้มีความเพียรในธรรมยิ่งๆต่อไป
แต่ผมเคยฝันว่าตัวเองเป็นทหารเหมือนกันแต่ไม่ใช่ทหารไทยเป็นทหารที่นำกำลังพลมายึดตีอโธยาในฝันว่าตัวเองเป็นกษัตริย์นามว่า บุเรงนอง
พระกษิติครรภโพธิสัตว์ได้มาโปรดท่านแล้วหนอ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่ผมเคารพศรัทธามากๆครับ นามท่านในภาษาจีนคือ "ตี่จั่งอ๊วง" ปณิธานท่านคือไม่ยอมเข้าสู่แดนพระนิพพาน จนกว่านรกภูมิจะสิ้นจากสรรพสัตว์ทั้งหลาย ฉะนั้นแล้ว ปณิธานอันยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ แม้สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งที่ยังหลงผิดอยู่ก็ดี ทั้งที่ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ก็ดี มากมายเสียจนหาประมาณมิได้ ทั้งๆที่บารมีท่านล้นพ้น แต่ท่านก็ทำเพื่อสรรพสัตว์ มหาเมตตามากๆครับ พระพุทธเจ้าท่านยังสรรเสริญคุณงามความดีของพระโพธิสัตว์ท่านนี้เลย (หาอ่านได้จากประวัติท่านนะครับ) การที่ท่านมาโปรดพี่นั้น เป็นบุญกุศลยิ่งใหญ่ครับ และอีกนัยหนึ่ง ก็เป็นการเพิ่มความศรัทธาของผมที่มีต่อท่านด้วย ว่าท่านมีอยู่จริง... ขอให้พี่เดินหน้าทางธรรมต่อไปนะครับ ท่านมาโปรดพี่แล้ว พี่ก็ต้องใช้ช่วงเวลาชีวิตในชาตินี้และชาติต่อๆไป สร้างบุญสร้างกุศลให้มากๆ ผมขออนุโมทนากับพี่ด้วยครับ สาธุ อนุโมทามิฯ