"ไทย-เทศ" แห่ฝึกวิปัสสนาฯ ณ วัดร่ำเปิง

​

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย และสภาพสังคมที่วุ่นวาย ทำให้ ประชาชนต้องการ หามุมสงบเพื่อทบทวนตัวเอง บางส่วนหันหน้าเข้า วัดเพื่อสงบสติอารมณ์ โดยเฉพาะที่ วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) ถนนเลียบ คันคลอง ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กำลังได้รับความนิยมจากทั้งชาว ไทยและชาวต่างประเทศ ทั้งที่นับถือศาสนาพุทธและศาสนาอื่นๆ แห่เข้า มาศึกษาวิธีการฝึก วิปัสสนากรรมฐานหรือการฝึกจิต อย่างไม่ขาดสาย

พระครูภาวนาวิรัช เจ้าอาวาสวัดร่ำเปิง บอกว่า วัดได้จัดกิจกรรมให้มีการ สอนฝึกวิปัสสนากรรมฐาน มาตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ โดยมี พระเทพสิทธาจารย์ (พระอาจารย์ทอง สิริงฺคโล) เจ้าอาวาส เป็นผู้ริเริ่ม

ในช่วงแรกมีผู้ให้ความสนใจไม่มากนักเพราะยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา คนนิยมเข้ามารับการฝึกจิตมากขึ้น อาจเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และปัญหาทางสังคมที่เพิ่ม ขึ้น ทำให้คนหันมาพึ่งพาพระศาสนา และต้องการที่จะฝึกจิตเพื่อลดความกลัดกลุ้มใจทั้งหลายให้ หมดไป
สำหรับการฝึกจิตเป็นการฝึกควบคุมจิตเพื่อไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน เป็นการสอนให้สามารถยอมรับความ ทุกข์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ให้รู้จักและเข้าใจถึงความเป็นจริงและสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

จากสถิติในปี ๒๕๔๘ ที่ผ่านมา มีผู้เข้ารับการฝึกวิปัสสนากรรมฐานทั้งสิ้นกว่า ๖,๖๕๐ คน เป็นคน ไทย ประมาณ ๖,๒๐๐ คน และชาวต่างชาติ ๔๕๐ คน
จะเห็นได้ว่ามีชาวต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาเรียนวิปัสสนากรรมฐานจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นชาวยุโรป

​

อย่างไรก็ตาม "คม ชัด ลึก" ได้สอบถามถึงเหตุผลและผลที่ได้รับจาก การปฏิบัติธรรม ซึ่งแต่ละคน ได้ให้เหตุผล ไว้อย่างน่าคิด เช่น คริสตินา คริสเตนสัน อายุ ๒๐ ปี ชาวเดนมาร์ก บอกว่า นับถือ ศาสนาคริสต์ได้เข้า มาเมืองไทย โดยเป็นอาสาสมัครเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ จ.อุดรธานี ในขณะ ที่เป็น อาสาสมัครได้รู้จักกับเพื่อนชาวอังกฤษ และได้แนะนำ ให้ศึกษา เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา

จากปัจจัยดังกล่าวทำให้รู้สึกสนใจเกี่ยวกับการฝึกสมาธิ และเข้าไปค้นหา ในอินเทอร์เน็ต พบว่าที่วัด ร่ำเปิงได้ เปิดสอนวิปัสสนากรรมฐานสำหรับ ชาวต่างชาติ จึงเข้ารับการฝึกมีกำหนด ๒๖ วัน

ส่วนเหตุผลที่ต้องการมาฝึกจิตก็เพราะต้องการประสบการณ์ส่วนตัว และเรียนรู้เกี่ยวกับหลักธรรม ของพระพุทธเจ้า

ด้าน ไมเคิล โจเซปสัน อายุ ๒๘ ปี ชาวแคนาดา บอกว่า เมื่อ ๓ ปีก่อน ได้เดินทางไปแถวทวีปเอเชีย ตอนใต้ และ ได้ยินเกี่ยวกับการทำสมาธิของคนเอเชีย ทำให้สนใจ และต้องการศึกษาอย่างจริงจัง จึงลองฝึกด้วยตนเองกระทั่งเมื่อ ปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเดินทางมา จ.เชียงใหม่ และทราบว่า มี สถานที่สำหรับฝึกจิตโดยสอนให้กับชาวต่างชาติด้วย จึงเข้ามาเรียนการฝึกจิตที่วัดร่ำเปิงเป็นเวลา ๑๐ วัน จากนั้นได้เดินทางกลับแคนาดา และในครั้งนี้ตั้งใจจะมาฝึกแบบ ๒๖ วัน เพราะคิดว่าในครั้ง ก่อนยังได้รับความรู้ไม่มากนัก

"ประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกสมาธิ ทำให้ผมเริ่มเข้าใจและเรียนรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกย่อม ต้องมีความเปลี่ยนแปลง ไม่จำเป็นต้องกลัวความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและกังวล ในสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงไป จงอยู่กับปัจจุบันและ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด" ไมเคิล กล่าว

ในขณะที่ ปราณี แซ่ลี่ อายุ ๒๕ ปี ชาวเชียงใหม่ กล่าวว่า เข้ามาเรียนวิปัสสนากรรมฐานที่วัดร่ำเปิง เป็นครั้งแรก เนื่องจากมีความเชื่อในเรื่องวัยเบญจเพส ประกอบกับก่อนหน้านี้มีปัญหาต่างๆ มาก มายเข้ามาในชีวิต ทำให้รู้สึกเครียด จึงอยากจะลองศึกษาการฝึกจิตดู

จากการเข้ามาเรียนวิปัสสนาเป็นเวลา ๘ วัน ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ได้เข้าใจถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต และยอมรับว่า เมื่อก่อนเป็นคนใจร้อนมาก แต่พอได้เข้ารับการฝึกทำให้ใจเย็น ลงมาก สามารถควบคุมจิตได้ทำให้นิ่งลง และยังได้เรียนรู้การกราบไหว้ที่ถูกต้องอีกด้วย

อรกัญญา เพ่งสมบูรณ์ อายุ ๒๘ ปี จาก จ.กระบี่ บอกว่า ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว ที่ได้มาฝึก วิปัสสนาที่วัด นี้ก็เพราะมีโอกาสเดินทางมาหาเพื่อนที่เชียงใหม่ เพื่อนจึงชวนให้ลองมาฝึกจิตดู ประกอบกับเคยมีความคิดที่จะฝึก สมาธิมาก่อนแล้วแต่ไม่มีโอกาส พอเพื่อนชวนเลยตัดสินใจ ลองฝึกดู โดยได้เลือกฝึกแบบ ๑๐ วัน ผลจากการฝึกทำให้ มีสมาธิในเรื่องต่างๆ มากขึ้น มอง ปัญหาและสามารถเข้าใจปัญหาต่างๆ ได้ดี สามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ได้อย่างมีสติ ทำให้จิตใจเข้มแข็งขึ้น

การฝึกวิปัสสนากรรมฐานที่วัดร่ำเปิง แบ่งหลักสูตรเป็น ๒ แบบ คือ ๑๐ วัน และ ๒๖ วัน แต่หากไม่มี เวลาก็ สามารถที่จะกำหนดเองได้ ส่วนค่าใช้จ่ายแล้วแต่ศรัทธา

สนใจสามารถเข้าไปดูในเวบไซต์ www.watrampoeng.org

พระไตรปิฎก ๑๗ ภาษา

​

วัดร่ำเปิง นอกจากจะมีชื่อเสียงทางด้านการฝึกวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ภายในวัดยังได้มีเก็บรักษา พระไตรปิฎก ซึ่งเป็นหลักธรรมคำสอนใน ศาสนาพุทธ ประกอบด้วย พระวินัยหรือข้อห้ามและข้อ ปฎิบัติของพระสงฆ์ พระสูตร หรือหลักคำสอนธรรมะโดยทั่วไป และพระอภิธรรม อันประกอบ ด้วย จิตเจตสิก รูป และนิพพาน

โดยได้สร้างหอพระไตรปิฎกขึ้นเพื่อเป็นสถานที่รวบรวมพระไตรปิฎกภาษาต่างๆ จำนวน ๑๗ ภาษา ประกอบด้วย ภาษาไทย ไทยใหญ่ ล้านนา บาลี มอญ เวียดนาม ศรีลังกา พม่า ทิเบต ญี่ปุ่น จีน เกาหลี เนปาล สเปน อังกฤษ อินเดีย และอินเดียโบราณ (เทวนาคี)

พระครูปลัดนพพันธ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฝ่ายปกครองและผู้ดูแลหอพระไตรปิฎก วัดร่ำเปิง กล่าวถึง สาเหตุที่มีการเก็บ รวบรวมพระไตรปิฎกของนานาชาติว่า พระเทพสิทธาจารย์ (พระอาจารย์ทอง สิริงฺคโล) เจ้าอาวาสวัดร่ำเปิง เห็นว่า จ.เชียงใหม่ มีความเจริญทางด้านศาสนาพุทธจึงน่าจะมี พระไตรปิฎกที่เป็นภาษาล้านนารวบรวมไว้ในวัด รวมทั้ง พระไตรปิฎกภาษาอื่นๆ เมื่ออดีตเจ้า อาวาสได้มีโอกาสเดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังต่างประเทศจึงได้เก็บรวบ รวมพระไตรปิฎก ของประเทศนั้นมาโดยการขอเช่าหรือแลกเปลี่ยนกับพระไตรปิฎกของเมืองไทย ต่อมา ปี ๒๕๓๐ ทางวัดได้สร้างหอพระไตรปิฎกขึ้นจึงได้นำพระไตรปิฎกภาษาต่างๆ ที่ได้เก็บรวบ รวมไว้ทั้งหมด มาประดิษฐานไว้ในหอพระไตรปิฎกแห่งนี้

ขอขอบคุณที่มาของข้อมูล http://www.komchadluek.net/

 

สาธุ สาธุ สาธุ
[b-wai] [b-wai] [b-wai]

 

ดีจัง

 

ขออนุโมทนาครับ...

เป็นการดีครับที่มีผู้สนใจเข้ามาฝึกปฏิบัติทำสมาธิ...เพื่อสงบสติอารมณ์กัน...ยิ่งสภาวะสภาพเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างนี้ด้วยแล้ว...การสงบสติอารมณ์ทางจิตใจช่วยได้มากเลยครับ...ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านครับ...สาธุ...สาธุ...สาธุ...อนุโมทามิ...[b-wai]