สมเด็จหลวงพ่อลมูลปี๐๙ ลป.เทียนเสกเหรียญหันข้างหลวงปู่ริมอุทุมพรปี๑๔

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,912
    ค่าพลัง:
    +21,459
    1766923146805.jpg 1766923142792.jpg 1766923140619.jpg

    พระสมเด็จวัดพลับพลารุ่นปี๒๕๑๕ ด้านหลังปั๊มหมึกแดง ซึ่งสร้างเพื่อแจกในงานวางศิลาฤกษ์อุโบสถเมื่อวันที่ ๔-๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ ปลุกเสกโดยหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม โดยเฉพาะส่วนที่เหลืออยู่กับวัดนี้ได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเพิ่มเติมหลายครั้ง เช่น พิธีปี ๒๕๑๖ อันมีคณาจารย์ยุคนั้นมาร่วมเป็นอันมาก หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีก็มา รวมทั้งนำเข้าพิธีพระผงรัตนเกษม ที่สุสานไตรลักษณ์ด้วย พระสมเด็จชุดนี้จึงมีทั้งหลวงพ่อเงิน, หลวงปู่โต๊ะ และหลวงพ่อเกษมร่วมปลุกเสก องค์นี้เนื้อขาวว่ากันว่าเป็นผงบางขุนพรหมปี ๐๙ ร่วมด้วยทั้งมวลสารและอาจารย์แต่ละท่ามาปลุกเศก

    สมเด็จวัดพลับพลา ปี ๒๕๑๕
    ปลุกเสกโดยคณาจารย์แห่งยุค อาทิเช่น
    - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    - หลวงพ่อเกษม เขมโก
    - หลวงพ่อวัดดอนตัน จ.น่าน
    - หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    - หลวงปู่เก๋ วัดปากน้ำ

    มวลสารสมเด็จบางขุนพรหมปี ๐๙

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 650 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ.

    IMG_20251228_182340.jpg IMG_20251228_182424.jpg IMG_20251228_182536.jpg
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,912
    ค่าพลัง:
    +21,459
    FB_IMG_1767085703214.jpg FB_IMG_1767085697812.jpg
    หลวงพ่อริม วัดอุทุมพร จ.สุรินทร์ ท่านเป็นพระเกจิดังในช่วงยุคปี2500ต้นๆ สมัยก่อนนั้นยุคที่บ้านเมืองยังไม่ค่อยสงบ ยังมีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์และโจรชุกชุมต่างจากสมัยนี้มาก อันตรายยังมีอยู่ทุกภาคของประเทศ ยิ่งใกล้ชายแดนกัมพูชา อย่างสุรินทร์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อันตรายมากๆ พวกทหารตำรวจได้อาศัยบารมีท่านและเครื่องรางของขลังของท่านไว้คุ้มครองป้องกันภัยกันทั้งนั้นครับ หลายคนมีประสบการณ์เจอกันมาเองจนมั่นใจเลยครับ บางคนเคยเห็นท่านแสดงอภินิหาร จนมีการสร้างเหรียญกายทิพย์แยกร่างของท่านถวายให้ท่านเสกแจกกันเลยครับ พวกทหารแถบนั้นนิยมกันมากๆ แถมยังไปช่วยท่านสร้างสำนักสงฆ์บนเขากันเลยครับ

    หลวงพ่อริม วัดอุทุมพร อีกหนึ่งเกจิที่มีปาฏิหาริย์มาก ท่านเป็นพระเกจิดังในช่วงยุคปี2500ต้นๆ สมัยก่อนนั้นยุคที่บ้านเมืองยังไม่ค่อยสงบ ยังมีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และโจรชุกชุมต่างจากสมัยนี้มาก อันตรายยังมีอยู่ทุกภาคของประเทศ ยิ่งใกล้ชายแดนกัมพูชา อย่างสุรินทร์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อันตรายมากๆ พวกทหารตำรวจได้อาศัยบารมีท่าน และเครื่องรางของขลังของท่านไว้คุ้มครองป้องกันภัยกันทั้งนั้นครับ หลวงพ่อริม
    ได้มรณภาพไปตั้งแต่ พ.ศ.2528 และศพของท่านก็ไม่เน่าเปื่อย

    ประวัติหลวงปู่ริม

    ชื่อ ริม นามสกุล แก้วกระมล เกิดวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๔ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๕ ปี ระกา ที่บ้านเลขที่ ๑ หมู่ที่ ๑ ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์

    บรรพชา เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ที่วัดอุทุมพร ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์
    พระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการจริง สุวณฺณโชโต วัดเพชรบุรี ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์

    อุปสมบท เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ที่วัดอุทุมพร ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาม จังหวัดสุรินทร์
    พระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการจริง สุวณฺณโชโต วัดเพชรบุรี ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ พระกรรมวาจาจารย์ พระหงษ์ พรหฺมปญฺโญ วัดเพชรบุรี ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาม จังหวัดสุรินทร์

    พระอนุสาวนาจารย์ พระเถาะ ภูกธมฺโม วัดเพชรบุรี ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์

    พ.ศ. ๒๕๐๐ ก่อภูเขา คีรีวงคต ๓ ลูก ( พนมลูก )

    พ.ศ. ๒๕๐๐ – ๒๕๒๘ จัดกิจกรรมปฏิบัติธรรม อนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรม ด้วยกิจกรรมและงานบุญตามสถานที่สำคัญๆ

    พ.ศ. ๒๕๐๑ สร้างสะพานไม้ข้ามลำชี สัญจรระหว่าง จังหวัดสุรินทร์ กับบุรีรัมย์ ( สะเปียนลูก )

    พ.ศ. ๒๕๐๓ ให้กำเนิดโรงเรียนบ้านทุ่งมน ( ริมราษฎร์นุสรณ์ )

    พ.ศ. ๒๕๐๗ สร้างสถานีอนามัยตำบลทุ่งมน

    พ.ศ.๒๕๑๐ ให้กำเนิดวัดสะเดารัตนราม ( เวือดทะมัย เวียสตะโมกสะเดา )

    พ.ศ. ๒๕๑๕ – ๒๕๒๘ สร้างอุโบสถ์จัตุรมุข ในวัดอุทุมพร พร้อมพระพุทธชินราช พระประธารองค์ใหญ่อุโบสถ์

    พ.ศ. ๒๕๑๗ สร้างศูนย์พัฒนาตำบลทุ่งมน ฯลฯ

    มรณภาพ วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๘ ( อายุ ๖๕ ปี ) คณะศิษย์ได้ช่วยกันสร้างศาลาหลังใหญ่ เพื่อเก็บสรีระท่านไว้ตราบเท่าทุกวันนี้ .

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญหันข้างปี๒๕๑๔หลวงพ่อริม รุ่นประสบการณ์ มีตำหนิ ด้านบนหูเหรียญตามภาพครับ

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20251230_161031.jpg IMG_20251230_161051.jpg
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,912
    ค่าพลัง:
    +21,459
    1767102877579.jpg

    ประวัติหลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู จ.อุบลราชธานี " หลวงปู่คำบุ คุตฺตจิตฺโตพระอริยสงฆ์แห่งลุ่มน้ำโขง(เทพเจ้าแห่งโชคลาภ)ที่เล่าขานกันว่าทรงคุณพุทธาคมเข้มขลัง แห่งวัดกุดชมภู ต.กุดชมภู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ท่านเป็นศิษย์สายตรงของพระครูวิโรจน์รัตโนมล (หลวงปู่รอด นันตโร) แห่งวัดทุ่งศรีเมือง และอดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี พระเกจิอาจารย์ผู้มีความเข้มขลังมีพลังจิตสูง

    ประวัติหลวงปู่คำบุ ชาติภูมิ หลวงปู่คำบุถือกำเนิดเกิด ณ บ้านกุดชมภู เมื่อวันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2465 ตรงกับวันจันทร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ปีจอ เกิดในตระกูล คำงาม โยมบิดา-มารดา ชื่อนายสาและนางหอม คำงาม ครอบครัวทำนาทำสวน มีชื่อ-นามสกุลเดิมว่า คำบุ คำงาม ท่านเป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 6 คน กาลต่อมาท่านเจริญวัยขึ้น มีอายุอันสมควร บิดามารดาได้ให้บรรพชาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดกุดชมภู โดยมี พระครูญาณวิสุทธิคุณ (กอง) วัดตากโพธิ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ภายหลังบวชท่านได้มีโอกาสเดินทางไปกราบไหว้ พระครูวิโรจน์รัตโนมล (หลวงปู่รอด นันตโร) วัดทุ่งศรีเมือง เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีและได้รับความเมตตาโอบอ้อมอารีจากหลวงปู่รอดเป็นอย่างยิ่ง

    อุปนิสัยหลวงปู่คำบุ เป็นผู้ใฝ่เรียนรู้จึงมีโอกาสได้พบกับพระอาจารย์รอด วัดบ้านม่วง ผู้เป็นศิษย์อุปัฏฐากหลวงปู่รอด นันตโร แห่งวัดทุ่งศรีเมือง ด้วยเหตุนี้พระอาจารย์รอดจึงได้อยู่รับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่รอดจวบจนท่านได้ มรณภาพลง พระอาจารย์รอดก็กลับมาพำนักพักที่วัดบ้านม่วงตามเดิม กล่าวสำหรับพระอาจารย์รอด วัดบ้านม่วง ท่านเป็นพระที่มีวิทยาคมแก่กล้า พระอาจารย์รอดเป็นคนบ้านเดียวกันกับหลวงปู่คำบุ จึงมีความคุ้นเคยกันมาก่อน ด้วยความที่หลวงปู่คำบุเป็นผู้มีนิสัยสงบเรียบร้อย ใจเย็นมีเหตุมีผล เหตุนี้เองพระอาจารย์รอด จึงได้ถ่ายทอดวิทยาคมคาถาต่างๆ ที่ได้ร่ำเรียนมาแก่หลวงปู่คำบุตั้งแต่นั้นเรื่อยมา จวบจนถึงวัยอุปสมบทเป็นพระภิกษุ จึงอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2486 ได้รับฉายาว่า "คุตฺตจิตฺโต" มีพระครูสาธุธรรมจารี (สา) วัดดอนจิก เป็นพระอุปัชฌาย์

    ครั้นบวชเป็นพระแล้ว หลวงปู่คำบุท่านยังคงแวะเวียนไปร่ำเรียนสรรพวิชาเวทมนตร์คาถาอาคมต่างๆ กับพระอาจารย์รอด ที่วัดบ้านม่วงอยู่เป็นประจำ ได้ศึกษาศาสตร์วิชาต่างๆ จากตำรา จนมีความชำนาญแตกฉานจึงออกเดินธุดงค์เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ หลวงปู่คำบุได้มีโอกาสร่ำเรียนวิชาวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาคมจากพระอาจารย์ที่มีความ ชำนาญด้านพระคาถาต่างๆหลายรูปจนวิชาแกร่งกล้า จึงได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดกุดชมภูจนถึงปัจจุบัน มีเรื่องน่าสนใจอยู่ตอนหนึ่ง เนื่องจากพระอาจารย์รอดท่านเป็นพระที่ร้อนวิชาชอบลองวิชาอยู่เสมอ เมื่อร่ำเรียนวิชาอาคมแขนงใดได้ก็จะนำมาทดสอบหรือทดลองวิชานั้นอยู่เป็นประจำ มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านได้สำเร็จวิชาหุงสีผึ้งมหาเสน่ห์ แล้วทำการทดลองปรากฏว่าบรรดาญาติโยมทั้งหญิงและชายแห่เข้ามาที่วัดเพื่อมาขอ สีผึ้งมหาเสน่ห์จากท่านอย่างมากมาย จนไม่มีเวลาประกอบกิจสงฆ์อันใดได้ ท่านจึงย้ายมาอยู่กับหลวงปู่คำบุ ที่วัดกุดชมภูและได้เขียนตำราเพื่อมอบให้กับหลวงปู่คำบุไว้ศึกษาเล่าเรียน สืบต่อไป

    หลวงปู่คำบุได้ศึกษาศาสตร์วิชาต่างๆ จากตำราจนมีความชำนาญแตกฉาน จึงออกเดินจารึกธุดงค์เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ ได้มีโอกาสร่ำเรียนสายวิชาวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาคมต่างๆ ในสายของท่านสำเร็จลุน แห่งวัดเวิ่นไชย เมืองปากเซ นครจำปาสัก พระผู้ทรงอภิญญา นอกจากการศึกษาวิชาทางด้านวิปัสสนากรรมฐานแล้ว สรรพวิชาอาคมทุกแขนง หลวงปู่คำบุท่านก็มีความชำนาญและได้หมั่นศึกษาฝึกฝนอยู่เป็นประจำ ตามคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต วัดกุดชมภู. ท่านยังให้ความเมตตาศิษยานุศิษย์อย่างสม่ำเสมอ ในทุกวันอังคาร เสาร์ และอาทิตย์ ท่านจะประกอบพิธีลงเหล็กจารอักขระธรรมอักษรลาว ลงบนแผ่นหลังของบรรดาลูกศิษย์ที่เดินทางมาจากสถานที่ต่างๆ ด้วยความเมตตา

    วัตถุมงคลหลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู

    การจารอักขระธรรมลงแผ่นหลังของหลวงปู่คำบุ ถือเป็นกุศโลบายทางธรรมเพื่อบ่งบอกถึง "ความประมาทเป็นบ่อเกิดแห่งความตายหรือความหายนะ" ดังนั้นควรตั้งมั่นไม่ให้อยู่ในความประมาท ที่สำคัญถ้าท่านได้จารอักขระธรรมได้ครบถึง 7 ครั้ง ว่ากันว่าอักขระธรรมจะฝังลึกถึงกระดูกและถ้าประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งของครูบาอาจารย์อย่างเคร่งครัดแล้ว จะอยู่ยงคงทน ต่อศาสตราวุธทั้งปวง สำหรับพระเครื่อง-วัตถุมงคลของหลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต วัดกุดชมภู ที่สร้างขึ้นมานั้นมีมากมายหลายรุ่น ส่วนใหญ่มักได้รับความนิยมจากนักสะสม ต่างมากด้วยประสบการณ์ จนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวบ้าน และลูกศิษย์รวมถึงผู้ใกล้ชิดมา นานแล้ว ดังจะเห็นได้ว่าวัตถุมงคลของท่านเริ่มมีจัดสร้างมาตั้งแต่ปี2522ปัจจุบันท่านเป็นที่รู้จักจากประชาชนทั่วประเทศแล้ว อาจด้วยบารมีและประสบการณ์ในวัตถุมงคลทุกรุ่นของหลวงปู่ ที่ปลุกเสกได้อย่างเข้มขลัง จนทำให้นิตยสารพระเครื่องหลายเล่มได้นำประวัติ รวมถึงวัตถุมงคลของท่านมาตีพิมพ์หลายฉบับ
    ''ปัจจุบัน หลวงปู่คำบุ คุตฺตจิตโต ท่านได้ละสังขารแล้ว เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 สิริอายุ 92ปี ร่างของท่านอยู่ในโลงแก้ว ที่วัดวิหารเจดีย์ศรีชมพู(วัดกุดชมภู) จ.อุบลราชธานี
    พี่ๆท่านใดถ้ามีไปอุบลราชธานี แวะกราบไหว้ ขอพรหลวงปู่ได้นะครับ

    ศิษย์ หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมพู

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของระบบความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญบาตรน้ำมนต์เนื้อนวะหลวงปู่คำบุปี ๒๕๕๔ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๓.๕ ซ.ม.

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20251230_205135.jpg IMG_20251230_205155.jpg
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,912
    ค่าพลัง:
    +21,459
    get_auc1_img (37).jpeg
    พระสมเด็จปิดตา เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆังฯ กรุงเทพฯ สร้างจากเนื้อดินหุ่นหรือดินไทย ที่เหลือจากพิธีการสร้างหล่อรูปเหมือนสมเด็จโต เมื่อพิธีใน ปี ๒๕๐๐

    พระสมเด็จสร้างจากเนื้อดินหุ่นหรือดินไทย เจ้าคุณเที่ยง (พระเทพวิสุทธิเมธี สิริอายุ 76 พรรษา 53 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค 11 และเจ้าอาวาสวัดระฆังวรมหาวิหาร) วัดระฆังโฆสิตาราม ด้านหลังปั๊มตราวัดระฆังคณะ 5 วัดระฆังฯ พระชุดนี้สร้างขึ้นในวาระพิธีเดียวกับสมเด็จวัดระฆังฯ ปี 2507 โดยมวลสารหลักได้จากดินที่เหลือจากการปั้นหุ่นหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) องค์ใหญ่(ท่านเสียดายดินที่ปั๊นเป็นหุ่นสมเด็จโตฯ ที่ทุบออกมาหลังจากหลอมรูปแล้วซึ่งท่านว่าเป็นของดี ของศักดิ์สิทธิ์) และนำมาผสมผงพุทธคุณและผงเก่าของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และผงวิเศษต่างๆ ที่รวมรวมมาได้ พิธีปลุกเสกโดย พระเกจิสายวัดระฆัง และเกจิอาจารย์ที่นิมนต์มาร่วม อาทิ
    หลวงปู่หิน วัดระฆังฯ
    หลวงปู่นาค วัดระฆังฯ
    เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆังฯ
    ฯลฯ
    พุทธคุณไม่แตกต่างจากสมเด็จสายวัดระฆังฯ รุ่นแพงๆ แต่มีดีที่ราคาเช่าหายังถือว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับพระสมเด็จรุ่นที่สร้างใหม่กว่าอย่างสมเด็จ 100 ปี ที่ขึ้นไปถึงหลักหมื่น แล้ว ถ้าอยากมีสมเด็จวัดระฆังไว้แขนแบบแท้สนิทใจพึงพาพุทธคุณได้ ไม่ควรมองข้ามพระชุดนี้ด้วยประการทั้งปวงครับ

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20251230_204221.jpg IMG_20251230_204331.jpg IMG_20251230_204352.jpg
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,912
    ค่าพลัง:
    +21,459
    เหรียญเม็ดกระดุมพระกริ่ง วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพฯ เข้าพิธีเสกพร้อมพระกริ่งปี2544 จัดสร้างขึ้นเนื่องในโอกาศอายุมงคล 70ปี พระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสโดยสมเด็จพระญาณสังวรฯสมเด็จพระสังฆราชเจ้าเป็นประธานจุดเทียนชัย ในพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 19มกราคม 2544 ประกอบพิธีราชาแห่งฤกษ์ ณ อุโบสถวัดสุทัศน์เทพวราราม 9 วัน 9 คืน โดยพระคณาจารย์ทั่วประเทศทั้งไทย จีน ญวน ร่วมพิธี มูลเหตุการจัดสร้าง พระกริ่งจอมไทย (เนื้อเงิน) พุทธาภิเษกใหญ่ 9 วัน 9 คืน ณ.วัดสุทัศน์ฯ จัดสร้าง ปี 2544 พระกริ่งสมญานาม “จอมไทย” แห่งสำนักวัดสุทัศน์ฯ ดำริการจัดสร้างโดยพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาส เนื่องในการเฉลิมฉลอง อายุมงคล 70 ปี โดยเป็นประธานเททองหล่อ ในมหัทธโนฤกษ์ พร้อมพระกริ่ง 70 ปี ในวันที่ 27 พ.ย. 2543
    สมเด็จพระญาณสังวรฯ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เสด็จเป็นประธานจุดเทียนชัย ในพิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ 19 ม.ค 2544 ประกอบด้วยราชาแห่งฤกษ์ ณ อุโบสถวัดสุทัศน์เทพวราราม รวม 9 วัน 9 คืน
    โดยพระเถระภาวนาจารย์ทั่วประเทศ และที่สำคัญคือ 3 สังฆราชเจ้า คือ ไทย-จีน-ญวน ร่วมพิธีด้วยหากจะพูดถึงทำเนียบแห่งพระกริ่งที่โด่งดังสุดๆ เห็นจะไม่มีพระกริ่งรุ่นใดที่โด่งดังประเภทที่เรียกว่าสะท้านฟ้า จนผู้คนแห่แหนมาเช่าบูชาจนล้นวัดสุทัศนเทพวราราม
    สร้างประวัติการณ์หน้าใหม่แห่งวงการพระกริ่ง ที่เปิดบูชาทันที ด้วยพลังศรัทธาของผู้คน พระหมดทันใด ใช้ระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง นักสะสมสนมราคาบูชาสูงขึ้นหลายเท่าตัวในทันทีด้วยบารมีธรรมในพระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม ผนวกกับเกียรติประวัติความเชื่อถือในสูตรนวะโลหะของสำนักวัดสุทัศนเทพวราราม ที่มีอาจารย์นิรันด์ (หนู) แดงวิจิตรเป็นผู้กำกับการผสมสูตร จึงทำให้เป็นที่จุดประกายความศรัทธาของทุกกลุ่มชนที่เคยได้ยินเกียรติประวัติการสร้างพระกริ่งของสำนักวัดสุทัศน์ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของพลังศรัทธาแห่งคลื่นมหาชนล้นวัดสุทัศน์ เป็นประวัติการณ์จารึกไว้ในรอบ 100 ปี พระกริ่งจอมไทย เป็นพระกริ่งที่ถอดแบบ และย่อส่วนมาจากพระกริ่งใหญ่ 69 ของพระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี ด้วยประสงค์ให้เป็นพิมพ์ทรงนิยมที่จัดสร้างร่วมสมัยในยุคนั้น คือสุดยอดแห่งพระกริ่งไทย มีความหมายตามที่พระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ ท่านได้เฉลิมพระนามถวายพระเกียรติคุณแด่ องค์สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ซึ่งพระองค์เป็นพระปรมาจารย์เจ้าตำรับของการสร้างพระกริ่งสูตรนวโลหะของประเทศไทยเพื่อความเป็นสุดยอดสมกับพระนามกริ่งจอมไทย พระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี จึงให้จัดพิธีที่ยิ่งใหญ่ให้สมเกียรติเพื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของการจัดพิธี ท่านฯ (พระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี) จึงให้จัดพิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่ 9 วัน 9 คืน เป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยอารถนาพระเถระภาวนาจารย์ที่ทรงวิทยาคมแก่กล้าจากทุกจังหวัด ทั่วพระราชอาณาจักรไทยมาร่วมในพิธี ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ในการนี้ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย ในวันศุกร์ ที่ 19 ม.ค. 2544 พิธี 9 วัน 9 คืนในครั้งนั้น นอกจากรายนามพระคณาจารย์จากทุกจังหวัดทั่วประเทศที่ได้มาเข้าร่วมงานแล้ว ยังมีคณาจารย์อีกมากที่พระเดชพระคุณท่านฯได้เชิญมาเป็นการพิเศษเพื่อประกอบพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น พิธีมหาอุจจ์ และ พิธี 3 สังฆราช คือ มีสังฆราชไทย,จีน,ญวน มาร่วมพิธีด้วยความยิ่งใหญ่แห่งการจัดสร้างพระกริ่งของสำนักวัดสุทัศนเทพวรารามในการฉลองชนมายุครบ 70 ปี ที่มีความเป็นเอกปรากฏตามความเชื่อของพระเดชพระคุณท่านฯ ที่ว่า องค์พระจะศักดิ์สิทธิ์ได้ก็ขึ้นอยู่กับการจัดพิธีที่ยิ่งใหญ่ และเข้มขลัง แม้จะหล่อพระกริ่งที่ใดถ้าได้มาจัดพิธีพุทธาภิเษกในพระอุโบสถวัดสุทัศน์ ก็จะคงความ ศักดิ์สิทธิ์ ดังการปิดพระอุโบสถ ทำมหาอุจจ์หลังพิธีแล้ว หลวงปู่พวงแห่งจังหวัดอุดรธานี ท่านได้บอกว่า ปรากฎพระมหาเถระผู้ใหญ่ร่างท้วมดำ ออกมาร่วมพิธีในคืนนั้น ซึ่งอาวุโสกว่า สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ไม่ทราบว่าเป็นท่านใด จึงเป็นปริศนามาจนทุกวันนี้ครับ

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญเม็ดกระดุมพระกริ่ง ๙ วัน ๙ คืน เนื้อนวะ

    ให้บูชา 220 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ...

    IMG_20251230_160007.jpg IMG_20251230_160036.jpg
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,912
    ค่าพลัง:
    +21,459
    1767105739582.jpg 1767105298504.jpg

    พระผงรูปเหมือน เม็ดกระดุม หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่

    ธนาคารเอเชียจัดสร้าง ปี2518 พระผงรุ่นนี้หลวงปู่ได้มอบผงพุทธคุณของท่านให้ทางธนาคารนำไปจัดสร้าง

    นวเรศ วิมล
    6 ชั่วโมง ·
    นอกจาก
    "หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม."
    แล้ว
    ก็ยังมี
    "หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง"
    อีกองค์
    ที่ไม่ยอมเสกทับพระของ
    "หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่"....!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!??????????????????????????????????????????
    ****************************************************************************************
    เมื่อหลายปีก่อน
    ตอนที่ "คุณปภัสสร์ พูนพัฒนปรีชา"
    อดีตไวยาวัจกร วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
    (ผู้มอบ "ลังไม้ที่คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมใส่พระพุทโธน้อยมาถวายพระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิเทสโก) เมื่อปีพ.ศ.2494 ให้กับผม จากความดีความชอบที่ช่วยประชาสัมพันธ์ "พระมงคลมหาลาภ" พ.ศ.2499 ที่เคยมีเหลือตกค้างที่วัดสัมพันธวงศ์เป็น "หมื่นๆองค์" จนหมดวัดในที่สุดเมื่อราวปีพ.ศ.2549)
    ยังมีชีวิตอยู่
    "คุณปภัสสร์ พูนพัฒนปรีชา" ได้เล่าให้ผมฟังกับปากว่า
    "มีวัดๆหนึ่งแถวจังหวัดระยอง(คาดว่าน่าจะเป็นวัดคีรีภาวนาราม)ทำพระเครื่องขึ้นมาชุดหนึ่ง แล้วนำไปให้หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋งเสกก่อน จากนั้นก็ได้นำมาให้หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปลุกเสกต่อ"
    "ปรากฏว่า หลวงปู่ทิมไม่ยอมเสกพระที่หลวงปู่แหวนเสกมาก่อนชุดนั้นในทันที ก่อนบอกกลับมาอีกด้วยว่า"
    "ท่านสูงกว่านี่(เรา)"
    เมื่อได้ฟัง ผมก็ได้แต่เก็บเงียบไว้ในใจ ไม่ได้เล่าในสื่อที่ไหนมาก่อน
    เพราะเล็งเห็นว่า "คุณปภัสสร์ พูนพัฒนปรีชา" เคยเป็น "ทส.คนสนิทของหลวงปู่แหวน + อาจารย์หนู วัดดอยแม่ปั๋ง" มาก่อน
    คำพูดจะมีน้ำหนักให้คนอื่นๆเชื่อถือได้
    ยังเป็นที่ต้องคิดให้จงหนักมากๆเสียก่อน
    แม้ตอนนั้น จะมีข่าวที่ "หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี" ปฏิเสธที่จะ "เสกพระหลวงปู่แหวน" ให้กับ "อาจารย์เบิ้ม" แพร่หลายมาก่อนหน้าแล้วก็ตาม...
    https://www.tiktok.com/@ice.../video/7274403222624734470
    *****************************************************************************************
    จนกระทั่งวันไหว้ครู "หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง" ที่บ้านอาจารย์ชินพร สุขสถิตย์เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
    ได้คุยกับ "ศิษย์อาวุโสอาจารย์ชินพร" ท่านหนึ่ง
    ซึ่งเป็นเจ้าของ "เหรียญเจริญพร หลังเรียบ เนื้อเงิน" 1 ใน 5 เหรียญในโลกนี้
    ทำให้ได้ทราบ "ข้อมูลลึกพิเศษ"มาเรื่องหนึ่งโดยไม่คาดหมาย
    สรุปความรวมได้ว่า
    "พระบรมพุทโธ (ที่สร้างจากชนวนส่วนพระองค์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้นำชนวนมาร่วมเททองเป็นพระกริ่งชินบัญชร พ.ศ.2517 ดังที่รู้จักกันในนาม "พระกริ่งชินบัญชร เนื้อบรมพุทโธ")เพียงไม่กี่องค์ที่หาได้ยากยิ่งที่สุด) จริงๆแล้ว คนสร้างจะให้หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋งเสกเป็นองค์หลัก"
    "แต่ต่อมา ได้นำเอาพระบรมพุทโธดังกล่าวมาให้หลวงปู่ทิม เสกที่วัดละหารไร่ด้วย"
    "และในทันทีที่ได้เห็น "หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง" ก็ตอบปฏิเสธที่จะเสก "พระบรมพุทโธ" ที่ "หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่" เสกมาก่อนหน้าให้
    เหมือนกับที่เคยปฏิเสธให้กับ "วัดๆหนึ่งที่จังหวัดระยอง" ใน
    "กรณีแบบเดียวกันเปี๊ยบ"
    ก่อนจะกล่าวสั้นๆแต่เพียงว่า
    "เต็มแล้ว เสกอีกไม่ได้แล้ว.....!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
    ก็ลอง "คนใน" ในสาย "หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง" ระดับอาวุโสเล่ามาถึงขนาดนี้แล้ว
    ก็ไม่มีอะไรที่จะต้อง "พักสงสัย" ใดๆอีกแล้ว
    เลยสามารถนำเรื่องราวที่ "คุณปภัสสร์ พูนพัฒนปรีชา" เคยเป็น "ทส.คนสนิทของหลวงปู่แหวน + อาจารย์หนู วัดดอยแม่ปั๋ง" เคยเล่า
    และ "มีเนื้อความตรงกัน" ไม่ผิดเพี้ยนมานำเสนอได้อย่างมั่นใจ สิ้นสงสัย
    และเมื่อเล่ามาถึงตอนนี้
    ยังจะมีใคร "กล้ามองข้าม" พระหรือเหรียญของ
    "หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่"
    ที่แม้แต่ "หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี สุรินทร์" ยังต้องรับรองว่า
    "หลวงปู่แหวนมีมหาบารมีครอบฟ้าครอบแผ่นดินในระดับเดียวกับหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 550 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20251230_214121.jpg IMG_20251230_214144.jpg
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,912
    ค่าพลัง:
    +21,459
    FB_IMG_1767117456053.jpg

    สมเด็จพิมพ์ใหญ่จัมโบ้ หลังรูปเหมือน ปี ๒๕๐๙ พระครูลมูล (ส.พัฒนกิจ) วัดเสด็จ จ. ปทุมธานี เทพเจ้าแห่งสวนพริกไทย ศิษย์เอกของหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ พระเกจิดังแห่งเมืองปทุมธานี เป็นพระเครื่องรุ่นแรกๆ ที่สร้าง และทันหลวงปู่เทียน ร่วมปลุกเสก หายากแล้วครับ

    พระครูสาทรพัฒนกิจ (หลวงพ่อลมูล) วัดเสด็จ อำเภอเมือง จ.ปทุมธานี ศิษย์เอกของหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ พระเกจิดังแห่งเมืองปทุมธานี ท่านเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกในพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก ปี 2515 หลวงพ่อละมูล หลวงพ่อลมูล ท่านเป็นยอดพระเกจิที่เก่งมากๆ พลังจิตของท่านดีมาก จนชาวบ้านยกย่องเป็นเทพเจ้าแห่งสวนพริกไทย หลวงพ่อละมูล ท่านเองก็ชอบสร้างพระสมเด็จเช่นกันครับ เหมือนอาจารย์ท่าน คือหลวงปู่เทียน โดยหลวงปู่เทียน นอกจากท่านจะสำเร็จวิชาการทำผงวิเศษ ๕ ประการ คือ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห และ ผงพุทธคุณ แล้ว ท่านยังเป็นพระที่สำเร็จวิชา “ผง ๑๒ นักษัตร์” ซึ่งเป็นผงที่เขียนลบมาจากยันต์ ๑๒ นักษัตร์ ทั้ง ๑๒ ปี ดังนั้น พระเนื้อผงของท่านจึงดีเด่นสูงค่าไปด้วยพระพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม อุดมโชคลาภ มีกินมีใช้ทุกปี ไม่ขัดสน เข้าได้กับทุกผู้คน ทุกปีเกิด สามารถป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดเวลาที่มีพระเครื่องของท่านพกพาอาราธนาติดตัวอยู่ เวลาดวงชะตาตกต่ำ ก็จะค้ำจุนไม่ตกอับจนเกินไป เวลาดวงชะตารุ่งโรจน์ ก็จะเสริมดวงชะตาให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น หลวงปู่เทียนท่านได้ถ่ายทอดวิชาผง ๑๒ นักษัตร์นี้ให้แก่ศิษย์ คือ หลวงพ่อลมูล โดยหลวงพ่อลมูลท่านจะทำพิมพ์ให้ต่างจากหลวงปู่เทียน และท่านก็ลบผงพุทธคุณเองด้วยเช่นกัน พระท่านน่าแขวน รุ่นเก่าๆหาก็ไม่ค่อยง่ายเช่นกัน ทางพื้นที่นิยมกันมากครับ จำไว้ว่าตะกรุดที่ฝังจะไม่เรียบร้อยเช่นกัน ม้วนไม่ค่อยกลมนะครับ พุทธคุณยอดเยี่ยมไม่เป็นรองอาจารย์ของท่าน ทั้งคงกระพัน มหาอุด มหานิยม เมตตา โชคลาภ ลูกศิษย์ทั้งหลายล้วนทราบกันดี หลวงพ่อลมูล ยังฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพีล หลวง่พอสังข์ วัดนากันตม เป็นต้น หลวงพ่อลมูล เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในพื้นที่ตั้งแต่ปี 2500กว่าๆ วัตถุมงคลของหลวงพ่อลมูล ก็มีประสบการณ์เยอะหมือนกัน เช่น เหรียญสองหน้าที่ด้านหลังเป็นรูปจอมพลสฤษดิ์ เหรียญรุ่นแรก หวงพ่อลมูล ปี 2510 พระสมเด็จฝั่งตะกรุด และพระปิดตาฝั่งตะกรุด คล้ายหลวงปู่เทียนแต่ด้านหลังจะเขียนว่า ส.พัฒนกิจ เป็นต้น พระเครื่องของท่านจะเด่นด้านแคล้วคลาด เมตตา คงกระพัน หลวงพ่อลมูล มีลูกศิษย์เยอะเหมือนกันโดยเฉพาะในสายทหาร ตำรวจ นับถือท่านมาก

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่
    ฝังตะกรุด 2 ดอกเลี่ยมเก่าเปิดด้านหลัง

    ให้บูชา 950 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ


    IMG_20251231_004836.jpg IMG_20251231_004858.jpg IMG_20251231_004917.jpg
     
  8. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,404
    ค่าพลัง:
    +7,562
    ขอจองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...