การเดินจงกรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ณฉัตร, 13 พฤษภาคม 2015.

  1. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ภาคปฏิบัติทางจิต ถ้าประสบการณ์เรื่องดีๆพิสดาร ก็หลงอารมณ์ว่าเป็นจริงเป็นจังก็มี ถ้าประสบอารมณ์ที่น่าหวาดกลัว ก็กลัวจนไม่กล้าทำสมาธิก็มี ที่เตลิดหลุดโลกไปก็มี
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    51,032
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,067
    **************************
    มีสามีของน้องคนหนึ่งชอบทําสมาธิ(เป็นฝรั่ง) เขาบอกว่ามีคนสอนตอนจบ ม ๘ มีอยู่วันนึงเห็นผีและเปรต ร้องโวยวายเลย สามปีมาแล้วที่เขาเลิกทําสมาธิ แต่นอนกอดพระประจําเลยตั้งแต่นั้นมา
    ขอบคุณในคําแนะนําค่ะ
     
  3. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    อย่าเลิกภาวนาครับ จริงๆ ไม่อยากเล่า แต่ก็ต้องเล่านะครับ คุณพ่อพาผมไปฝึกกรรมฐานอย่างเป็นทางการที่ซอยสายลม ไปกราบรับกรรมฐานหลวงพ่อฤษีตั้งแต่ อายุ 12 -13 ปี ราวๆ ช่วงอายุ 15- 16 หลังจากสวดมนตร์ไหว้พระ ทำสมาธิแบบเด็ก เสร็จก็นอน ครั้งแรก ที่เห็นเป็นร่างปีศาสร่างเปลือยเปล่า จมูกงุ้ม เอาอะไรมาใส่หัวผม ก็ไม่ทราบ จากนั้น ก็มาตลอดในช่วงเวลาหนึ่ง คือ ยามใดที่ทำสมาธิเสร็จ ต้องเจอเป็นครั้งคราว วันไหนไม่ทำก็ไมเจอ นอนหลับสบาย จนช่วงหนึ่งไม่อยากเจอคิดว่าไม่ทำกรรมฐานก็ไม่เจอ แต่สุดท้าย ก็ยังทำครับ แล้วก็ติดว่าจะเจอก็เจอไป มันจะทำอะไรก็ทำไปเถอะครับ ชอบมาหลอกในความฝันแบบหลอนๆ ตลอด ถ้าทำกรรมฐาน สุดท้าย มันก็ไม่เห็นทำอะไรได้ครับ บางครั้งทำกรรมฐานจะนอนก็นอนตะแคง เค้ามานั่งข้างหลังเป็นเงาทะมึนเลย เราก็เคยตอบไปมาว่าจะมาทำทำไม ไอ้ที่ผมทำความเพียรนี่มันยังไม่พอที่ท่านจะมาผจญกัน ยังไม่ถึงเวลา เค้าก็ไป ผมมานึกขึ้นได้ ผมทำกรรมฐานแบบสบายๆ ไม่มีพิธีรีตอง สวดมนตร์ธรรมดา แต่อธิษฐานตามที่พระท่านสอนจะขาดไม่ได้ คือ ขอน้อมกายถวายชีวิตนี้ต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้จิตข้าพดับนิ่งสนิทในคำภาวนา (แปลว่าให้จิตมาสนใจแต่คำภาวนา บริกรรมภาวนา ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งสิ้น) ดังนั้น ในสมาธิไม่เคยเจอครับ แต่เจออารมณ์กรนมฐานตามปกติ แต่พอออกจากกรรมฐานนี้ มาแกล้งกันให้กลัว แต่ภายหลัง ผมพยายามทำตามแบบอันดีงามของพระท้านครับ สวดมนตร์ไหว้พระสมาทานศีลแล้ว จึงทำความคุ้มกัน ด้วยอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ถ้าไม่ สวดบารมีสามสิบทัศน์ ก็สวดกำแพงแก้วเจ็ดชั้น ครอบเขตไว้ก่อนครับ ขอบารมีพุทธองค์เป็นเกราะกำบังจากภูตผีปีศาส และมาร หรือขอคุณพระรัตนตรัยมาเป็นกำแพงแก้ว หรือชินบัญชรครับ ความจริงถ้าอธิษฐานสมาทานกรรมฐานก็จะยังจิตให้ไม่หวั่นไหวกับนิมิตร นะครับ สำหรับเราผู้ปฏิบัติ ถ้าเจอภูตผีปีศาส มาร ให้เห็นเป็นแค่นิมิตร หรือภาพฝันครับ มันทำอะไรแก่จิตและกายเราไม่ได้ถ้าเรามีสติ สัมปชัญญะ มีจิตมั่นคง แต่ทำความคุ้มกันก็ดีกว่า นอกจากนี้ ให้แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ไม่ว่าเปรต อสุรกาย สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน วิญญาณเร่ร่อน ทุกครั้งหลังกรรมฐาน การแผ่เมตตาอาจแผ่เมตตาหลังสวดมนตร์ก่อนก็ได้ เพราะจิตหลังสวดเริ่มมีกำลัง แล้วสวดแผ่เมตตาอีกครั้งหลังจบ อย่าลืมสำคัญอีกครั้ง กล่าวขอขมาเจ้ากรรมนายเวรและถอนคำสาบานสวปอช่งในอดีตของตัวเองไม่ว่าจะจำได้หรือไม่(จะรู้หรือไม่รู้ว่าเคยตั้งอาฆาตไว้) ก็ให้ขออนุญาต ทำภาวนาเถอะครับต่อให้ฟ้าผ่าตรงหน้าเราก็ไม่สะดุ้งต่อความตาย ท่านจะกลัวอะไรแต่ภาพฝัน กลัวกิเลสตัวเองครับน่ากลัวกว่ายักษ์มาร กิเลสที่ครอบงำจิตนี้และน่ากลัวครับ ฝนตกฟ้าร้องฟ้าผ่าถ้านั่งสมาธิจะตายก็ให้ฟ้ามันผ่าลงมาเถอะ แต่กรรมฐานเมื่อเราตั้งใจมั่นแล้ว เราจะไม่ถอนจนกว่าเวลาอันสมควรจะถอน ตามกำลังตามสติกำลังของเราครับ บางทีมีบางสิ่งมาโฉบเอาร่างเราไปจากความรู้สึกในร่างกายนี้ จับโยนไปทิ้งในท่ามกลางงูพิษ ก็เรารู้จักศีล ก็เรารู้จักขอขมา ถ้ามีเวรขอให้ระงับเวร เราไม่ได้ตั้งใจปลิดปลงชีวิตงูด้วยจิตเจตนาชั่วร้าย แล้วทุกอย่างก็กลับมาที่มิติโลกเรา แม้นิมิตรถึงเพียงนี้ ก็เป็นแค่นิมิตรนะครับ ความจริงเรากลัว กลัวตายจากสิ่งที่เราไม่รู้ แต่ความตายมันเป็นสิ่งที่เราไม่รู้อยู่แล้วว่าจะตายเมื่อไร แต่ยังไงก็ตายครับ แล้วจะกลัวไปทำไม บิดามารดาก็ห้ามความตายเราไม่ได้ เราจะห้ามความตายให้ตัวเองหรือบิดามารดาก็ไม่ได้ การเวียนว่ายตายเกิดในสงสารวัฏนี้น่ากลัวกว่า กิเลสเราน่ากลัวกว่า การตายเสียอีก ก็ขอให้ศึกษาวิธีคุ้มกันกายใจของเราในการทำกรรมฐานด้วย เรียกว่า การเตรียมกายใจให้พร้อม ต้องมีศรัทธาในพระรัตนตรัยก่อน ต้องมีพระรัตนตรัยนี้เป็นที่พึ่งก่อน ธรรมแลจะคุ้มครองเราเองครับ
     
  4. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    การปฏิบัติทางจิตเริ่มต้นควรทำให้ถูก เพราะจะเป็นที่พึงของตนเองขณะปฏิบัติได้ หากเร่ิมไม่ถูกแล้ว ตนทำไปๆปฏฺิบัติไปๆถึงระดับหนึ่ง ประสบการณ์น่ากลัวขณะทำสมาธิจะสติแตก ฯลฯ

    เริ่มต้นที่ถูกอย่างไร ? ตัวอย่าง เช่น ขณะนั้นๆเห็นอะไรก็แล้วแต่ ว่าในใจ (ภาษาที่ใช้อย่างรู้กัน "กำหนด" "เห็นหนอๆๆๆๆ" ได้ยินเสียงทุกอย่าง ว่าในใจ "เสียงหนอๆๆๆๆ" ฯลฯ เมื่อกำหนดตามสภาวะของมันแล้ว พึงเกาะหลักคืออานาปานะ (ลมเข้า-ออก หรือพอง-ยุบต่อไป)

    มีตัวอย่างให้ supatornเรียนรู้อีก ดูครับ

    ลืมตาแล้วสังเกตดูได้ ไม่มีข้อห้าม ดูสิมีตัวต่อ,ตัวไร ฯลฯ ตอมไต่ต่อยจริงมั้ย มีใครมาล้อมมาจ้องมองจริงมั้ย สังขารมันหลอกเอาครับ แต่ขณะนั้น เจ้าตัวว่าเหมือนจริง

    บอกฝากไปยังผู้ที่พูดค่อนขอดว่า ทำสมาธิก็แค่หลับตา จะรู้เห็นอะไร นี่ไงคำเฉลย :d
     
  5. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,085
    บางคนเจอเหตุการณ์แปลกตอนปฎิบัติก็หลง แล้วไม่ค่อยก้าวหน้า

    บางคนก็กลัวไม่กล้าปฎิบัติ ไปเห็นโลกทิพย์เข้า

    บางคนปฎิบัติแล้ว เกิดเวทนามาก ไม่อยากปฎิบัติ

    สิ่งที่มากั้นขวาง เหนี่ยวรั้ง มีมากมาย ต้องมีสติถึงจะผ่านได้

    เกิดสิ่งแปลกๆก็ ดู รู้ วาง

    เกิดเวทนา ก็ ดู รู้ ปัจเวก

    เห็นโลกทิพย์ก็ปล่อยวางไป ถ้าเราจะตายอยู่ที่ไหนก็ตาย ถ้าจะทำร้ายเรายังไงเราก็หนีไม่รอด แล้วส่วนมากก็จะเป็นแค่โดนหลอกไม่ให้ปฎิบัติ
     
  6. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    23,233
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,025

    ดู vdo ข้างบนนี้ได้เช่นกันครับ อนุโมทนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...