เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ขอนิมนต์กลับมาอยู่กับมุนะคะ รอมุ อัดวิดีโอเสร็จค่ำๆ จะดำเนินการให้ค่ะ

 

ยินดีเลยครับ'จารย์มุ' ทั้ง 2 อาจารย์ใหญ่ พกทีเดียวหนึ่งเหมือนได้สอง เมื่อคืนวันพระผมลองนำท่านจับนั่งสมาธิ พลังงานจัดจ้านรุนแรงมาก เรื่องพวกนี้ไม่อยากเขียนมันเหมือนอวดอุตริ แต่ผมก็ทำบ่อยและทำได้พราะผ่านการประพฤติปฏิบัติมา 40 กว่าปี คุณตาคุณยายเคี่ยวเข็นแต่เด็กอีกด้วย

วิตก วิจารณ์ ปิติ สุข เอกัคคตา สัมผัสผ่านพ้นทุกขั้นตอน หากเอาดีทางบวชเรียนน่าจะไปสุดปลายทางที่เจ้าวัด-ฮ่า

เมื่อเห็นพวกสวะ"ตื้นธรรม" อวดอุตริสอนธรรมะทั้งที่ไม่เคยปฏิบัติ จึงอยากจะอ๊วก มันอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ แบบเดียวกับ ยันตระ เณรคำ แค่เห็นวิธีปฏิบัติผมก็รู้ทันทีในภาพแวบแรกว่า...ของปลอม!

ไอ้ "ตื้นทำ" ตัวนี้เหมือนกัน ดูคลิปแรกมันสำรากภาษาพ่อขุนต้องรีบเลื่อนหนี ไม่มีหรอกครับ ธรรมะที่จะสอนโดยวิธีถ่อยสถุนทางวาจากิริยาท่าทางเอากระโถนมาประกอบ ยิ่งอุบาทว์หนัก

ธรรมะเป็นเรื่องของความ สะอาด สว่าง สงบ สวยงาม เรียบง่าย นุ่มละมุน ปลอดโปร่งในอารมณ์ ไม่ใช่ที่สำหรับไอ้สถุน สำรากวาจาลูกพ่อขุน

สอนอย่างนั้น...โน่น มรึงต้องไปสอนในโรงนวด ในซ่อง ในคุก เพราะบัวใต้น้ำเยอะ จะถูกจริตชอบวาจาพรรค์นี้ ฟังแล้วเครียด ฟังแล้วฮาอย่างไม่ต้องเอาสาระแก่นสาร ฟังแล้วขุ่นข้องหมองจิตหนักเข้าไปอีก

มีแต่ลัทธิคลั่งศาสนา คลั่งสงครามเท่านั้นที่สอนสาวกสไตล์นี้ สอนให้มันไม่ต้องเถียง ไม่หือ ไม่อือ ให้เชื่ออย่างเดียว ดุดัน ตะคอก มองมุมเดียว ไร้อิสระทางความคิด ปราศจากจิต ไม่มีสมาธิ และไม่พบเห็นแสงสว่างแห่งปัญญา

ตอบรับ'จารย์มุ ทีไร ต้องเผลอเลี้ยวไปหา"ไอ้ตื้นทำ-น้ำเน่า"ทุกที จบตรงนี้ โมทนาส่งอาจารย์ใหญ่ไปหาอาจารย์พรุ่งนี้ครับ

 

รับยอดเรียบร้อยครับ
กราบขอบพระคุณทุกรายนามที่ได้เมตตากับทางบ้านสวนรัก อ.ปะทิว อย่างต่อเนื่องตลอดมาด้วยครับ



ข้าวสารได้จัดส่งถึงบ้านสวนรักเมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ในวันนั้นเป็นการทดลองเอาข้าวที่ถูกน้ำท่วมบางส่วนส่งไปให้ในราคาถูก ได้ทดลองหุงดูก่อน ๑ ถัง



ปรากฏว่าเมื่องหุงเสร็จ ข้าวจะติดกันเป็นก้อน ต้องเอามาแช่น้ำแล้วบี้เพื่อสลายก้อนข้าว ทำให้ต้องเสียเวลาไปมาก อีกทั้งบางส่วนสุกบางส่วนดิบ ทำให้แก้ไขยากขึ้นไปอีก



จึงได้ขอเปลี่ยนเป็นข้าวปกติเหมือนเดิม ทางร้านวิลาศค้าข้าวจึงได้นำไปเปลี่ยนให้เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม




เงินค่าโครงไก่จากพี่วันจำนวน ๒,๐๐๐ บาท และเงินค่าอาหารแมวจากคุณ sepultura จำนวน ๘๐๐ บาท
ได้โอนให้ทางบ้านสวนรักแล้ว จำนวนรวม ๒,๘๐๐ บาท ในวันนี้แล้วครับ

 

วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันอังคาร แรม ๙ ค่ำ เดือนอ้าย(๑) ปีมะโรง
วันนี้ไม่ได้ใส่บาตรครับ แต่นำเอาข้าวปลาอาหาร ขนมทั้งใส่ปิ่นโตและนอกปิ่นโต รวมทั้งน้ำผึ้ง ยาหอม ยาอุทัยทิพย์ หนังสือธรรมมะ วัดท่าซุง เครื่องดึ่มและน้ำดึ่ม ไปถวายพระที่วัดโพธิการามแทน





เสร็จจากทำบุญที่วัดได้ไปซื้อปลาหน้าเขียงจำนวน ๔ กก. (๑๒ ตัว) ไปปล่อยในคลองท่าตะเภา

จากนั้นช่วงบ่ายได้มีแม่ค้าปลาเจ้าประจำเอาปูดำมาขายที่บ้าน(ปกติจะมีมาขายแต่ปลา กุ้ง หมึก หอย เป็นส่วนใหญ่ แต่วันนี้มีปูดำมาขาย เลยซื้อเหมาไว้ทั้งหมด ประมาณ ๔-๕ ตัว นำไปปล่อยที่ทะเล ขากลับมาอีกทางได้ผ่านตลาดชุมชนของหมู่บ้าน เจอแม่ค้านั่งขายปูดำอยู่ ๓ ราย แต่ละรายมีปูอยู่ไม่มาก เจ้านึงประมาณ ๕-๖ ตัว จึงเหมามาทั้งหมด แล้วนำไปปล่อยอีกรอบ จะหยิบโทรศัพท์มาเพื่อถ่ายรูปปูกล่อยจะปล่อย เจ้ากรรมดันลืมเอาโทรศัพท์ไปด้วย จึงไม่มีรูปปูมาให้ได้ชมกัน

นับได้ว่าวันนี้ได้ปล่อยปูมากที่สุดในชีวิต

 

สวัสดีครับ คุณอา wanwi และ พี่ๆนักขุดฯทุกท่าน

ได้รับลูกอม หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณครับ



วัตถุมงคลของวัดสะพานสูง ผมพอจะมีตะกรุดของหลวงตาวาสอยู่บ้างครับ เช่าเองกับมือที่กุฏิหลวงตา ตอนนั้นดอกละพัน เห็นบางคนเค้าเรียกกันว่าตะกรุดไม้ไอติม เพราะตอนไปเช่าตะกรุดนั้นยางรักที่ทาไว้ยังไม่แห้ง ตะกรุดจะถูกเสียบด้วยไม้เสียบลูกชิ้นปักตากลมไว้ที่กระถางธูป คนเช่าก็เอาตะกรุดไปพร้อมทั้งไม้ เดินถือกันเป็นไอติมหลอดแบบนั้นเลยครับ เพราะถ้ารอให้ยางรักแห้งค่อยมาเช่าบูชาคงไม่ทันคนอื่นครับ 55

 

วันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันพุธ แรม ๑๐ ค่ำ เดือนอ้าย(๑) ปีมะโรง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

พิษน้ำท่วม แม้แต่ร้านข้าวสารยังอ่วม มีข้าวโดนน้ำซึ่งพิสูจน์แล้วกินไม่ได้ ต่อให้ไห้เป็นข้าวไม่เน่า แล้วอย่างนี้ไอ้ข้าว 10 กว่าปีกินได้ที่นักกินเมืองน้ำเน่าบางคนเล่นละครเพื่อหาทางเอานักการเมืองฉ้อฉลกลับบ้าน ก็ไม่ต้องคิดเลยว่า จะกินได้

ขอบคุณสะพานบุญอันเข้มแข็งทางใต้ ทำงานละเอียดและฉับไว ผู้ร่วมบุญทั้งนอก-ในกระทู้ สบายใจ

 

บุญปล่อยปูกับบุญทำที่วัดมาแทนบุญใส่บาตร ร่วมอนุโมทนาการช่วยชีวิตปูมากตัวถ้าคิดเป็นตัวเงินเวลาอยู่บนจานตามร้านอาหารก็จานละหลายร้อยหรือเป็นพัน ยิ่งในกรุงเทพแพงหายห่วง

ปล่อยให้ไปแพร่พันธุ์มากๆ ราคาจะได้ถูกลงมาบ้าง ทำดีมากแล้วครับ

 

ลูกอมผงโสฬสมหามงคลก็เดินทางเรียบร้อย เด็กบรรจุกล่องเก่าที่เก็บรักษาไว้เนิ่นนานไปด้วย สภาพทั้ง 2 ลูกไม่บุบสลาย ดูง่ายสบายตา เนื้อเดียวกับพระปิดตาของท่าน

น้องภาสเป็นนักนิยมสะสมเครื่องรางคนรุ่นใหม่ที่บุกถึงวัด จัดถึงที่หลายแห่ง ดีมากเลยครับ รับกับวัดทำบุญกับมือ ของใหม่วันนี้เก่าวันหน้ายิ่งถึงรุ่นลูกหลานเรา ยิ่งมีราคาเพราะประวัติที่มาชัดเจนไม่มั่วนิ่ม ขอบคุณและโมทนาครับ

 

เช้าวันคริสต์มาสของชาวคริสต์ เราคนพุทธก็ทำบุญตามปกติ ทำเสร็จก็กรวดน้ำกันข้างถนน ส่งบุญถึงจุดหมายอย่างว่องไว ร่วมอนุโมทนาตามไปให้สุขกายสบายใจ

 

"ยอดขุนพล-ทุ่งเศรษฐี"
วัดพระบรมธาตุ-กรุเก่า
===============

(ขอบคุณภาพจากหนังสือพระกำแพงยุคแรกๆของประเทศไทย ที่มีข้อมูลมาตรฐาน เชื่อถือได้มากที่สุด!)

'ยอดขุนพล'..ชนแซ่ซ้อง
ยอยกย่อง.....ปองถวิล
ดินกำแพง.....แต่งโสภิณ
ศักดิ์ศรีศิลป์..อจินไตย
--'บรมธาตุ'..ผงาดง้ำ
--เจดีย์ค้ำ.....ย้ำยิ่งใหญ่
--เกริกไกรกรุ..ลุล่วงสมัย
--ก้มกราบไท้....ใคร่ครอบครอง!
----------------------

กรุวัดบรมธาตุ ทุ่งเศรษฐี นครชุม ถูกยกให้เป็น "โคตรกรุ" ยิ่งใหญ่สุดในกระบวนยอดพระเครื่องวัตถุมงคลแห่ง "ท้อง ทุ่งเศรษฐี"!

ที่เป็นดังนี้ก็เพราะ มีพระยอดนิยมดินกำแพงแทบทุกพิมพ์ เรียกว่า 10 พระพิมพ์กำแพงดังๆเป็นที่หมายปองของนักสะสม ต้องพบในกรุ"วัดพระบรมธาตุ" ไม่ต่ำกว่า 8 พิมพ์

นอกจากนี้วัดพระบรมธาตุยังมีการ "ขุดกรุ-แตกกรุ" ทั้งเป็นทางการและลักลอบ แตกมาแต่โบราณก่อนปี 2500 จากนั้นหลังปี 2500 ก็พบพระจากกรุนี้อีกหลายครั้งหลายครา

พระที่ขึ้นก่อนปี 2500 ถูกเรียกว่า "กรุเก่า"!

ยุคหลัง 2500 เรียกว่า "กรุใหม่"!

แต่จะเก่าหรือใหม่ ในคุณค่าความเป็นพระกรุ "วัดบรมธาตุ" ขอให้แท้เถิด นั่นแหละ "ทุ่งเศรษฐี" ตัวจริง เสียงจริง ดินที่ "กำแล้วแพง" ดินที่ "องค์ปู่ฤาษีตาไฟ" ลั่นอมตะวาจาไว้ว่า...มีกูแล้วไม่จน!!!

"ยอดขุนพล-กรุเก่า" เนื้อดินผสมว่านเกสรและผงวิเศษจากอดีตกาล คือหนึ่งในตระกูล "มีกูแล้วไม่จน" ที่ขอเปิดกรุนำมอบแด่สมาชิกต้อนรับปีใหม่

ชม"ภาพเล่าเรื่อง" ไม่เปลืองเวลา ปรารถนานำท่านไปประดับเป็นยอดแห่งศิริมงคลประจำบ้านก็เชิญร่วมบุญ...

=======9,000=======


พิมพ์บัวสองชั้น ทรงเสมาไม่ตัด ลูกยอดปั้นแต่งทีละองค์จากในกรุ เนื้อดินผสมว่านและเกสร สีขาวๆด้านล่างที่เห็นคือ "ผงวิเศษ" ที่ "ครูปู่ฤาษี" โบราณรังสรรค์ไว้ อาจเป็นผงพุทธคุณ 5 ประการหรือไรก็มิอาจทราบได้ แต่เมื่อปั้นองค์แล้วก็พอกปั้นด้วยดินกำแพง แล้วสุมแกลบเผาจนสุกแกร่ง

ในตำราพระเนื้อดินกำแพงของ คุณเชียร ธีรศานต์ เจ้าของ "พระซุ้มกอ-องค์เจ้าเงาะ" ราคาแพงหลายสิบล้าน ระบุไว้ว่า พระกำแพงที่เนื้อดินด้านในเป็นผงวิเศษนั้นพบเจอยากมากที่สุด ร้อยองค์จะเห็นสักองค์ หากไม่อยู่ในไหก็จะผุพังไปก่อนตามกาลเวลาอันยาวนานเกินกว่า 500 ปี

องค์นี้โชคดี บรรจุอยู่ในที่ปลอดภัย แต่ขนาดนั้นองค์ท่านยังเปลือกดินหลุดล่อน กระเทาะไปบ้าง เปิดออกให้เห็นเนื้อผงวิเศษอัศจรรย์ อาจเป็น "แม่บท-ต้นแบบ" ที่ท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ได้นำเอามาสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง ด้วยผงวิเศษ 5 ประการเช่นเดียวกันก็เป็นได้

"ท่านสมเด็จโต" เป็นผู้หนึ่งที่ธุดงค์ไปเมืองกำแพง แล้วเปิดกรุพระสมัยโบราณที่คนไม่เก็บเข้าบ้านกัน นำพระกำแพงจำนวนหนึ่งมาเป็นส่วนผสมในองค์พระสมเด็จวัดระฆังยุคต้นของท่าน ดังที่เรารับรู้กัน

เชื่อว่ากรุที่ท่านสมเด็จโต ได้พระไปก็คือ "กรุวัดพระบรมธาตุ" กรุยิ่งใหญ่ที่มีพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นวัดหลวงของเมืองแต่โบราณ จึงไม่ต้องกังขาเลยว่า ทำไมมีพระบรรจุไว้มากมาย หลายยุคหลายสมัย...!

ความงามของผิวดินที่คลุมผงวิเศษเอาไว้ มีถลอกบ้างเป็นจุดเล็กจุดน้อย ดินเหี่ยวย่นยิ่งกว่าผิวคนแก่ ความเก่าที่ธรรมชาติและกาลเวลากระทำ เป็นสิ่งเดียวที่มิอาจสร้างขึ้นมาได้ด้วยกระบวนการของทำเทียมเลียนแบบ

หลังอูม องค์พระใหญ่ หนา เนื้อหาเพียบจุใจเป็นพิเศษ เป็นของขวัญปีใหม่ให้ตนเองหรือมอบใครก็ได้ที่สุดล้ำค่า ไม่ต้องไปแสวงหาอีกแล้วในยุคสมัยใหม่นี้ด้วยราคาเพียงเท่านี้เดินให้เกือกพังร้อยคู่ก็ไม่เจอ
ด้านข้างทั้ง 2 แลความหนา และชมเนื้อผงวิเศษสีขาวหม่น ผงมหัศจรรย์ที่คนสมัยใหม่ลืมเลือนไปแล้วว่า พระเนื้อดินกำแพงมีแบบที่ดินเผาบรรจุผงวิเศษไว้ด้านใน

อาจเป็นเพราะ ไม่มีใครเคยเห็น คนเห็น คนรู้ คนมีก็คงอำลาไปหมด และคนรุ่นหลังก็ไม่มีตัวอย่างมาให้ชม

ขนาดของท่านกับใต้ฐาน
อย่างใหญ่ หนา ตั้งวางเป็น
พระบูชาองค์ย่อมยังได้...!

มี"ครอบแก้ว"ให้เป็นพิเศษ
สำหรับผู้รับท่านไปบูชาต่อ

เปรียบเทียบภาพส่วนหนึ่งของพระยอดขุนพล พิมพ์เสมาตัดจากกรุเดียวกัน จะเห็นชัดว่า เป็นพระปั้นแต่ง ปั้นพิมพ์ทีละองค์ด้วยความอุตสาหะของช่างโบราณ

พิมพ์เดียวกัน แต่รายละเอียดแต่ละองค์จะผิดเพี้ยน ต่างกันไปรวมทั้งเนื้อชิน ซึ่งกรุวัดพระบรมธาตุ มี "ยอดขุนพล" ทั้งดิน-ชิน พิเศษมากกว่ากรุอื่นๆ

(ขอบพระคุณภาพหนังสือพระเมืองกำแพง ยุคเก่าที่มีข้อมูลชั้นยอด เชื่อถือได้มากที่สุด)

ปิดเรื่องด้วย ภาพใน "ครอบแก้ว" ซึ่งองค์ท่านสถิตมายาวนาน มอบให้ไปด้วยสำหรับผู้นิมนต์ท่านเป็นศิริ ศรีแก่ตน เป็นมิ่งขวัญต้อนรับปีใหม่...มีกูไว้ไม่จน!!!

 

วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑๑ ค่ำ เดือนอ้าย(๑) ปีมะโรง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

กำลังนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่ แต่กรมอุตุฯไม่วายเตือนเรื่องฝนหนักเพราะอิทธิพล "ปาบึก"ที่ขึ้นฝั่งเวียดนามไปก่อนหน้า

เช้านี้ถนนคนใส่บาตรทางใต้ น้ำแห้งสดใส ก็ขอให้แค่หนาวไปยันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเป็นวันหยุดยาว 5 วันเต็ม ร่วมอนุโมทนาฝ่าลมหนาวอากาศสดชื่นรื่นรมย์อุรา

 

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 8375 6849 9 TH สามเสนใน

 

สมเด็จวัด "ชากมันเทศ"
"ปู่ทิม-พ่อหอม" เสกปี17
===============

วัดทางระยองขึ้นชื่อด้วย "ชาก" โด่งดังกระฉ่อนสุดคือ "วัดชากหมาก-หลวงพ่อหอม"!

ถัดมาก็มี วัด'ชากมะกรูด' และวัด "ชากมันเทศ" ต.ปลวกแดง ระยอง ซึ่งสร้างพระสมเด็จในปี 2517 มีทีเด็ดที่คณาจารย์สุดยอดแห่งภาคตะวันออกร่วมพุทธาภิเษกมากรูป

ยืนยันกันว่า หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ท่านเมตตาร่วมงาน และ หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ก็ไม่พลาด

ยังไม่นับระดับเทพอีกหลายท่าน แต่แค่ 2 ท่านที่เอ่ยนามก็เหลือแหล่

พระสมเด็จสามชั้น หลังยันต์ห้า วัด "ชากมันเทศ" จัดเป็นของดีราคาถูกที่ตกสำรวจ เปิดกล่องพบเจอก็นำมาเป็นของดี-ปีใหม่สำหรับสมาชิก

=======500=======

3 ชั้นแก่น้ำมันนิดๆ ผสมผงพุทธคุณมาก เนื้อหาแน่นปึ้ก สวยงามไม่ผ่านการใช้ เก่าเก็บตามอายุสร้างที่ผ่านมากว่าครึ่งศตวรรษ

ยันต์ ๕ หลัง ใช้ยันต์ตัวเดียวกับวัดแม่น้ำคู้ กับพระสมเด็จปี 18 ของ "หลวงปู่แก้ว เกสโร" จอมอาคมแห่งภาคตะวันออก ซึ่งจากยันต์ที่ใช้และการสร้างติดต่อใกล้เคียงกัน จะไม่แปลกใจเลย ถ้ามี "หลวงปู่แก้ว" ยอดขลังหนังเหนียว เจ้าแห่งกสิณไฟร่วมปลุกเสกให้วัดชากมะขามเทศด้วย

 

ภาพกระโดดไปก่อน
เชิญชมอีกชุด ทุกมุม
"สมเด็จวัดชากมันเทศ"
--------------------

ข้างหนาปึ้กส์
ตั้งวางได้สบาย
เนื้อหาหนักแน่น

ความงามของสมเด็จมาตรฐาน

 

"นางพญาเนื้อผง"
วัด'เอี่ยมวรนุช'06
พระอจ.ทิม-ปู่โต๊ะ
============

ยอดพระดัง พิธีดีสุดแสนดีที่ตกสำรวจจากอดีตถึงปัจจุบันยังมีอีกมาก หากเปืดทำการค้นคว้าให้แม่นยำ ก็จะพบ "ของดี" ที่มักคุยกันว่าหลักร้อย สุดยอดพุทธคุณหลักล้าน ไว้บูชาอย่างมีความสุข ไม่ต้องทุกข์ใจกับของแพง ที่อาจจะโดนพวกมือผีปิศาจเล่นงาน

พระเนื้อผงพิมพ์นางพญา คืออีกหนึ่งรุ่นที่ตกสำรวจเนิ่นนาน ทั้งที่สร้างเมื่อปี 2506 ณ วัดเอี่ยมวรนุช โดยท่าน "พระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้" เมตตาทำให้ ใช้ผงกรุบางขุนพรหมที่มีมากมายมหาศาลยุคนั้นบดผสม

ปลุกเสกวัดเอี่ยมฯ 3 วัน 3 คืน พร้อมกับพระ "หลวงปู่ทวด หลังตัวหนังสือ" เนื้อโลหะหน้าเลข ๑

จากนั้นนำเข้าพิธีที่ "วัดประสาทบุญญาวาส" ท่าน้ำสามเสนในปีนั้นอีกวาระซึ่งมิใช่เรื่องยุ่งยาก เพราะ พระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ หัวแรงใหญ่สร้างพระหลวงพ่อทวด หาทุนบูรณะวัดประสาทฯ ท่านพำนักวัดเอี่ยมฯ เป็นศูนย์กลางในยามขึ้นมาอยู่เมืองกรุง

เรื่องพิธีและคณาจารย์จึงหายห่วง อยากทราบรายนามก็เปิดดูการสร้างพระ "วัดประสาทฯ" นั่นแหละ ของจริงไม่อิงนิยาย

สำหรับพิธีปลุกเสกที่วัดเอี่ยมฯ นอกจากพระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ ก็มี "หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี" ซึ่งวัดละแวกบางขุนพรหม-บางลำภู หลวงปู่โต๊ะ ไม่เคยขัดศรัทธาในการช่วยเหลือและมีคณาจารย์ชุดเดียวกับวัดประสาทฯ อีกหลายสิบท่าน จึงขอข้ามรายนาม

มาชม "นางพญา-เนื้อผง" กันเลย...

=======500=======

นางพญาพิมพ์มารวิชัย ขัดสมาธิเพชร หน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ผงบางขุนพรหมลอยฟ่องตามผิวเนื้อมากเห็นตาเปล่า

ให้ราคาถูก ทั้งที่เป็นพระสวยสะอาดไม่เคยผ่านการใช้ เพราะองค์ท่านมีกระเทาะที่ปลายยอดด้านบนเล็กน้อย แม้จะไม่รบกวนองค์พระและมองด้านหน้าตรงไม่เห็น แต่ก็ถือว่ามีตำหนิเล็กๆ

เหมาะต่อการใช้บูชาโดยเฉพาะสุภาพสตรี เนื้อผสมบางขุนพรหมแท้ๆมโหฬาร สมัยนี้ไม่มีอีกแล้ว มีแต่ราคาคุยเท่านั้น

ด้านหลังบนยอดเห็นรอยกระเทาะ ส่วนมุมซ้ายมือนั้น เป็นมาจากดั้งเดิมเล็กน้อย เป็นสองมุมที่ไม่เกี่ยวข้องความงาม แต่ต้องบอกกล่าวเล่าละเอียด จะได้ไม่เกิดข้อครหาว่า "หมกเม็ด"!

ขนาดงดงามสมเป็น
"นางพญา"เมืองกรุง!