ศิลปะปริศนาธรรมบนพระสมเด็จ.

การสะสมพระเครื่องไทยนอกจากสายพาณิชย์ สายพุทธคุณแคล้วคลาดเมตตา ยังมีสายพุทธศิลป์ ที่มีความสุขที่ได้ชื่นชมเส้นสายลวดลายนูนต่ำนูนสูง กลายเป็นจิตรกรรมปูนปั้นขนาดเล็กได้อย่างอัศจรรย์ใจในฝีมือพระเดชพระคุณพระมหาเถระโบราณ ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานอันงดงามน่าหลงใหลเหล่านี้ เช่นพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ทรงพระประธานองค์นี้ เป็นผลงานของสมเด็จพุฒาจารย์โตพรมรังสี วัดระฆ้ง ซึ่งมีความใกล้ชิดสนิมสนมกับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่4 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง ท่านเป็นอริยสงฆ์ผู้แตกฉานพระไตรปิฎก เทศนาด้วยคารมกล้าหาญองอาจ บทจะให้ญาติโยมสนุกสนามก็ได้ฮากันตึงๆ และชอบทำเรื่องประหลาดๆให้คนโจษขานเอาไปร่ำลือกัน ได้รับความนับถือเลื่อมใสมาตลอดจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับพระเครื่องพิมพ์สมเด็จของท่าน ส่วนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านเป็นจอมปราชญ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงผนวชอยู่ถึง ๒๗ ปีก่อนขึ้นครองราชย์ ทรงรอบรู้พระไตรปิฎกอย่างลึกซึ้งเช่นเดียวกัน ทั้งสององค์ต่างวัย แต่ก็มีความใกล้ชิดสนิทสนม ให้ความเคารพนับถือซึ่งกันและกัน มีอัธยาศัยตรงกัน แต่ก็มักจะ “ลองเชิง” กันอยู่เสมอ บางครั้งก็เล่นกันแรงจนถึงขั้นไล่ลงจากธรรมมาสน์ ซ้ำไม่ให้อยู่ในพระราชอาณาจักร แต่ไม่นานความสัมพันธ์ก็กลับคืนอย่างเดิม

พระสมเด็จองค์นี้ท่านสร้างขึ้นให้มีศิลปะ ปริศนาธรรมให้ญาติโยมลูกศิษย์ศัทธา ได้เข้าใจในสารที่ท่านสื่ออกมาผ่านพระสมเด็จชิ้นฟักเชื่อมของท่านมีชื่อว่า"มัชฌิมา ปฏิปทา"ให้พิจารณาสายกลางไม่มากไม่น้อยเกินไป ส่วนท่านฝากสารถึงใครขอโปรดใช้จินตนาการในผลงานพุทธศิลป์ของท่าน.
ด้านหน้าซ้ายขวามีปริศนาธรรม.

ด้านหลังพอจะเห็นว่าใคร

ภาพนูนต่ำทั้งสองด้าน..

 

เฉยปริศนา พระสมเด็จ"จุดไต้กลางแดด"ปริศนาธรรมสมเด็จฯ โตจุดไต้ไฟกลางวันมี2ครั้ง ครั้งแรกจุดไต้เข้าวังหลวงเตือนสติสมเด็จพระจอมเกล้า ร.4 ในเรื่องสุรานารีให้เดินสายกลางมัชฌิมาปฏิปทาอย่าเยอะจนล้น การจุดไต้ครั้งสอง จุดเข้าจวนพระยาศรีสุริยวงศ์(ช่วง บุญนาค) หลังร.4สวรรคต3ปี พ.ศ.2414 ถามหาใครจะกฎบรัชกาลที่5...:สังเกตุซ้ายกรอบพระมีลายปูนปั้นเป็นภาพมือกำไต้ไฟด้านปลายเป็นเปลวไฟ ด้านขวาเป็นภาพสมเด็จโตเผชิญหน้าเจราจากับคู่กรณี สมเด็จโตท่านใจถึงพึ่งได้ รักความถูกต้องยุติธรรม ไม่กลัวใครในแผ่นดิน...
การสะสมพระเครื่องต้องอ่านความหมายจากผู้สร้างที่สื่อให้เราเข้าใจได้ ถึงแรงบันดาลใจในการสร้างพระองค์นั้นๆ จะชื่นชมและมีความสุขมากกว่าจ้องมองหาชี้ตำหนิที่องค์พระตามแนวเซียน สวดพระ เหมือนสร้างมากับมือ จนแท้กลายเป็นเก๊ เก๊กลายเป็นแท้ มั่วไปหมด เหมือนกรณี"เซียนหยดปลอมหลวงพ่อเงินมีฟัน"องค์เป็นล้านในมือเซียนใหญ่ในป้จจุบัน โดยอาจารย์ธว้ชเข็มครุฑจงใช้สติปัญญาตนเองพิจารณาไปตามความเป็นจริง จะไม่หลงทาง.

 

ขอนุโมทนาสาธุ ด้วยครับ พระสมเด็จองค์นี้สวยจริงๆ ยิ่งมองยิ่งเกิดปีติ