เสียงธรรม รวมปัญหาและแนวทาง การอ่านเครื่องหมายต่างๆ และข่าวสารความก้าวหน้าอื่นๆ ฯลฯ

เคล็ดลับเก็บตก เพื่อการรักษาถนอมลำคอ และเสียง เพื่อการอ่าน ค่ะ

๑. ต้องดื่มน้ำมาก ๆ ถ้าเป็นน้ำอุ่นผสมเกลือยิ่งดี เพราะจะทำให้ชุ่มคอ ไม่มีเสมหะเกิดขึ้นได้
<O</O
๒. แต่ห้ามดื่มน้ำนมก่อนที่จะอ่าน เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ลำคอ ถ้าดื่มไปแล้ว ให้รีบดื่มน้ำตาม เพื่อเป็นการล้างคอ จะทำให้เสียงดีขึ้น
<O</O
๓. ห้ามดื่มสุรา ของมีนเมา และหลีกเลี่ยงการดื่ม ชา กาแฟ นำแข็ง น้ำเย็น เพราะจะทำให้เส้น
เลือดฝอยบริเวณเส้นเสียงเกิดการขยายตัว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นเลือดฝอยบริเวณเส้นเสียงแตกได้
<O</O
๔. ห้ามสูบบุหรี่ และสารเสพติดทุกชนิดเพราะการสูบบุหรี่จะทำให้สารนิโคตินมาเคลือบบริเวณช่องคอ ทำให้เกิดอาการระคายคอได้
<O</O
๕. ก่อนอ่านให้ผักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ ๘-๑๐ ชั่วโมงจะทำให้เสียงดีขึ้น
<O</O
๖. ออกกำลังกายด้วยการฝึกเปล่งเสียงออกจากช่องลำคอในแต่ละระดับ เป็นการบริหารกล้ามเนื้อบริเวณหลอดลม

(555)<O</O​

 

สำหรับท่านใด อาจกำลังอยู่ในอาการดังกล่าว เช่นว่านี้ ลองปฏิบัติตามวิธีการที่รวบรวมไว้นี้ ลางเนื้อ ชอบลางยา ตามชอบนะคะ


อาการเจ็บคอ เสียงแหบแห้ง ไอ เหงือกบวม เลือดออกทางปาก ปากอักเสบ ทอลซิลอักเสบ เหงือกบวม ปากเป็นแผล โรคภูมิแพ้ มีเสมหะในลำคอ ไอในเวลากลางคืน

<O</O
- อมเกลือชนิดเม็ด หรือละลายน้ำ กลั่วลำคอ<O</O
- เถาบรเพ็ดหั่นบางๆแช่น้ำเกลือใช้อม<O</O
- ใบหนุมานประสานกายเคี้ยวให้ละเอียดอมไว้<O</O
- หญ้าใต้..ใบใช้ตำแหลก ตุ๋นกับเหล้าโรงอม<O</O
- ตะไคร้หั่นเป็นชิ้น จิ้มเกลือ เคี้ยว อม กลืนน้ำและกากยา<O</O
- สีเสียดเทศเท่าดินสออมไว้ใต้ลิ้น<O</O
- ลูกเบญกานี ๕ ลูก ทุบแตก ต้มให้ได้น้ำ ๑ ขวดเบียร์ สารส้ม น้ำตาลทราย<O</O
อย่างละ ๑ ช้อนชา ผสมลงไป ใช้อมกลั้วคอ หาย..<O</O
- ตะไคร้หั่นเป็นชิ้นแช่น้ำเกลือทะเลให้เค็ม..เอาตะไคร้เคี้ยวอมกลืนน้ำทั้งกากยา..หาย..<O</O
- เถาบรเพดหั่นเป็นแว่น..ตากลม..ให้ยางแห้ง..แล้วแช่น้ำผึ้ง รับประทาน ทั้งน้ำและเนื้อ ก่อนนอน ครั้งละ ๑ ช้อนกาแฟ..หาย..<O</O
- มะแว้ง ทำให้ชุ่มคอ (ทานกับน้ำพริก อร่อย !)

(b-love2u)​

<O</O

 

น้ำชาเข้มข้นแก้อาการเจ็บคอ


อาการเจ็บคอ และมีอาการไอ หากไม่ต้องการใช้ยาปฏิชีวนะ ลองใช้ชาชง เข้มข้น คือใส่ใบชาเยอะหน่อย น้ำให้น้อยหน่อย ใช้ใบชาสักสองช้อนโต๊ะ เติมน้ำร้อนจัดประมาณครึ่งแก้ว แช่นานสัก ชั่วโมงหนึ่ง แล้วนำมากลั่วคอนาน ๆ สักนาที เมื่อกลั่วเสร็จก็ให้บ้วนทิ้ง อาการจะบรรเทาอย่างเห็นได้ชัด หากว่าได้ใบชาดี ๆ หลังจากกลั่วคอจะมีลักษณะเหมือนมีเสมหะเป็นก้อนออกมา อาการเจ็บคอจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด หากว่าเจ็บคอตอน กลางคืนแล้วเป็นบ่อย ๆ ก็ให้ชงทิ้งไว้ข้างเตียง หา กระบอกเก็บความร้อนใส่ไว้ และ หาถัง กระป๋องไม่ใช้หรือกระโถนไว้รับเสมหะและน้ำชา มีรู้สึกตัวกลางดึก ไม่ว่าจะเพราะไอหรือเพราะเจ็บคอ ก็ให้กลั้วคอทันที เหตุที่ได้ผลเช่นนั้เพราะในน้ำชามี tannin สามารถทำให้โปรตีนตกตะกอน บรรดาเชื้อหวัด คือไวรัสเองค์ประกอบป็น RNA ซึ่งเป็นหน่วยย่อยของโปรตีน ก็จะถูกน้ำชาพาให้ตกตะกอนแล้วหมดสภาพหลุดออกมา ไม่ควรดื่มน้ำชาเข้มข้นมาก เพราะนอกจากจะทำให้ท้องผูกได้แล้ว น้ำชาเข้มข้นจะไปพาเอาวิตามินและสารมีประโยชน์จากร่างกายออกมากับตัวมันด้วย แต่การกลั่วคอ จะมีปริมาณชาติดคออยู่เล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ชุ่มคอ ทดลองดูได้ไม่เสียสตางค์มากและปลอดภัย
<O</O
ที่มา : http://gotoknow.org/blog/tea<O</O

 

แก้เจ็บคอแบบชาวบ้าน

การรักษาอาการเจ็บคอ คอแห้งหรือระคายเคืองบริเวณช่องคอเนื่องจากการไอ หรือใช้เสียงมากเกินไป ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ


ใช้มะนาวอ่อนเก็บจากต้นใหม่ ๆ ประมาณ ๒-๓ ลูก ล้างให้สะอาดผ่าครึ่งคว่ำลงในภาชนะหรือถ้วยกาแฟที่ทดความร้อน ลาดด้วยน้ำผึ้งปริมาณเท่ากับมะนาวที่คว่ำในภาชนะ แล้วนำไปนึ่งประมาณ ๕ นาที หรือนำเข้าเตาอบไมไวโคเวป ประมาณ ๒ นาที สังเกตุโดยดูสีของเปลือกมะนาวจากเดิมสีเขียวแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแสดงว่าใช้ได้ ปล่อยไว้ให้เย็นจึงรับประทาน จะมีรสขมอมหวาน


วิธีรับประทานคือ ใช้ช้อนเล็ก ๆ ตักทีละน้อยจิบไปเรือย ๆ หมดแล้วทำใหม่ วันละ ๒ ครั้ง เช้า-เย็นสัก ๒-๓ วันจะทำให้คอชุ่มขึ้นแล้วค่อย ๆ หายเป็นปกติ ใช้ได้ทั้งเด็กเล็ก ๆ จนถึงคนชรา ซึ่งการรักษาแบบนี้ใช้มาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย


ที่มา : http://gotoknow.org/blog/tippawan/28153
<O</O

(deejai)​

พร้อมนี้ มีข้อมูลน่าศึกษาเพิ่มเติม ดังนี้ค่ะ

http://www.doctor.or.th/node/3211<O</O
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=13<O</O

 

มีหายค่ะ กบแบ่งเนื้อหาเล่มหนึ่งทำเสร็จแล้ว พอกลับมาดูยังเหมือนเดิม ก็เลยแบ่งเนื้อหาให้สมาชิกอ่านใหม่ค่ะ

 

อนุโมทนาค่ะ..

ข้อมูลเป็นประโยชน์มากนะคะ..

Rajithida

 

เรียน ทีมงานฯ.ค่ะ
ทดลองอ่าน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๖ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๖
อ่านจบแล้ว ค่ะ
รบกวนทางทีมงานฯ. กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ค่ะ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
และพร้อมจะแก้ไข ให้ใหม่ค่ะ...
ปล.หากมีกิจใดให้รับใช้อีก ยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งค่ะ
อยู่โหมด Stand by นะคะ...



ขออนุโมทนา
ทีมงานเวบพลังจิต และ สมาชิกเสียงอ่าน ทุกท่านค่ะ...<!-- google_ad_section_end -->

 

บุญญสิกขา

ขอบคุณค๊าสำหรับเคล๊ดลับมากมาย

^^~

 

แจ้งให้ทราบค่ะ

ได้มีเพื่อนสมาชิกได้สอบถาม เกี่ยวกับเนื้อหาที่อ่านว่าจะให้อ่านอย่างไร บางทีผู้อ่านเองยังไม่เข้าใจแล้วผู้ฟังจะเข้าใจได้อย่างไร

ขอยกตัวอย่างมาพอสังเขปดังนี้ค่ะ จากเนื้อหาพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙ตั้งแต่หัวข้อ ๖๔๕ ถึง ๖๖๙ ทางทีมงานได้ไปค้นหาพระไตรปิฎกต้นฉบับและได้ถ่ายภาพมาประกอบ (เขาไม่ให้ยืมออกมาค่ะ) ภาพอาจจะเบลอๆ แต่เมื่อดูเนื้อหาในเวบ 84000 ต้นฉบับที่เรากำลังทดลองอ่านกัน คงพอจะเดาๆอ่านได้นะคะว่า เนื้อหาในเวบได้พิมพ์ตามพระไตรปิฎกต้นฉบับ ( เนื้อหาตั้งแต่หัวข้อ ๖๔๕ ถึง ๖๖๙ และ ภาพถ่ายพระไตรปิฎกต้นฉบับ เนื้อหาตั้งแต่หัวข้อ ๖๔๕ ถึง ๖๖๙ อยู่ข้างล่างค่ะ)
ดังนั้น สรุปแล้วตอนนี้ เรากำลังทำหน้าที่อ่านพระไตรปิฎก ขอให้อ่านตามเนื้อหาที่มีในพระไตรปิฎก ไม่ต้องขยายความเพิ่มเติมอีกนะคะ เรามีหน้าที่เปลี่ยนตัวอักษรอักขระให้ออกมาเป็นเสียง เพื่อให้ผู้ที่ต้องการศึกษาพระไตรปิฏกได้ฟัง ส่วนการฟังแล้วจะเข้าใจหรือไม่อยู่ที่ผู้ฟังหรือผู้ศึกษาจะต่อยอดกันเองค่ะ

ขอบคุณท่านผู้ที่ถามปัญหานี้มาค่ะที่ทำให้ทีมงานได้ไปค้นหาพระไตรปิฎกต้นฉบับมา และสามารถตอบคำถามแก่สมาชิกท่านที่อ่านเล่มอื่นๆที่มีปัญหานี้ด้วยค่ะ


เนื้อหาตั้งแต่หัวข้อ ๖๔๕ ถึง ๖๖๙

[๖๔๕] สาวัตถีนิทาน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อัฏฐิกสัญญา อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำ
ให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความสังเวชมาก ก็อัฏฐิกสัญญา อันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร กระทำ
ให้มากแล้วอย่างไร ย่อมเป็นไปเพื่อความสังเวชมาก? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์อันสหรคตด้วยอัฏฐิกสัญญา อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ
น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันสหรคตด้วยอัฏฐิกสัญญา อาศัยวิเวก
อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อัฏฐิกสัญญา อันบุคคลเจริญ
แล้วอย่างนี้แล กระทำให้มากแล้วอย่างนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความสังเวชมาก.
[๖๔๖] สาวัตถีนิทาน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อัฏฐิกสัญญา อันบุคคลเจริญแล้ว กระ
ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่ออยู่เป็นผาสุกมาก ก็อัฏฐิกสัญญา อันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร กระ
ทำให้มากแล้วอย่างไร ย่อมเป็นไปเพื่ออยู่เป็นผาสุกมาก? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัย
นี้ ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ อันสหรคตด้วยอัฏฐิกสัญญา อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ
น้อมไปในการสละ ฯลฯ เจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันสหรคตด้วยอัฏฐิกสัญญา อาศัยวิเวก
อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อัฏฐิกสัญญา อันบุคคลเจริญ
แล้วอย่างนี้แล กระทำให้มากแล้วอย่างนี้ ย่อมเป็นไปเพื่ออยู่เป็นผาสุกมาก.
[๖๔๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปุฬวกสัญญา อันบุคคลเจริญแล้ว ฯลฯ
[๖๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย วินีลกสัญญา ฯลฯ
[๖๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย วิจฉิททกสัญญา ฯลฯ
[๖๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุทธุมาตกสัญญา ฯลฯ
[๖๕๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมตตา อันบุคคลเจริญแล้ว ฯลฯ
[๖๕๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กรุณา อันบุคคลเจริญแล้ว ฯลฯ
[๖๕๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มุทิตา อันบุคคลเจริญแล้ว ฯลฯ
[๖๕๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุเบกขา อันบุคคลเจริญแล้ว ฯลฯ
[๖๕๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ อันบุคคลเจริญแล้ว ฯลฯ
[๖๕๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อสุภสัญญา อันบุคคลเจริญแล้ว ฯลฯ
[๖๕๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มรณสัญญา อันบุคคลเจริญแล้ว ฯลฯ
[๖๕๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อาหาเรปฏิกูลสัญญา ฯลฯ
[๖๕๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัพพโลเก อนภิรตสัญญา ฯลฯ
[๖๖๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนิจจสัญญา ฯลฯ
[๖๖๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนิจเจ ทุกขสัญญา ฯลฯ
[๖๖๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทุกเข อนัตตสัญญา ฯลฯ
[๖๖๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปหานสัญญา ฯลฯ
[๖๖๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย วิราคสัญญา ฯลฯ
[๖๖๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย นิโรธสัญญา อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว
ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก ก็นิโรธสัญญา อันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร กระทำให้มากแล้ว
อย่างไร ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสติ-
*สัมโพชฌงค์ อันสหรคตด้วยนิโรธสัญญา อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการ
สละ ฯลฯ ย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันสหรคตด้วยนิโรธสัญญา อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ
อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นิโรธสัญญา อันบุคคลเจริญแล้วอย่างนี้
แล กระทำให้มากแล้วอย่างนี้ ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก.
[๖๖๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนิโรธสัญญา อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว
พึงหวังผลได้ ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ อรหัตผลในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีความยึดถือ
เหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี เมื่อนิโรธสัญญา อันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร กระทำให้มากแล้ว
@๑. ตั้งแต่ข้อ ๖๔๗ ถึงข้อ ๖๖๔ มีเนื้อความเหมือนข้ออัฏฐิกสัญญา
อย่างไร พึงหวังผลได้ ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ อรหัตผลในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีความยึด
ถือเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์
อันสหรคตด้วยนิโรธสัญญา อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ
ย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันสหรคตด้วยนิโรธสัญญา อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ
น้อมไปในการสละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อนิโรธสัญญา อันบุคคลเจริญแล้วอย่างนี้แล กระทำ
ให้มากแล้วอย่างนี้ พึงหวังผลได้ ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ อรหัตผลในปัจจุบัน หรือ
เมื่อยังมีความยึดถือเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี.
[๖๖๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย นิโรธสัญญา อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์มาก เพื่อความเกษมจากโยคะมาก เพื่อความสังเวชมาก เพื่ออยู่เป็น
ผาสุกมาก ก็นิโรธสัญญา อันบุคคลเจริญแล้วอย่างไร กระทำให้มากแล้วอย่างไร ย่อมเป็นไป
เพื่อประโยชน์มาก เพื่อความเกษมจากโยคะมาก เพื่อความสังเวชมาก เพื่ออยู่เป็นผาสุกมาก?
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ อันสหรคตด้วยนิโรธสัญญา
อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์
อันสหรคตด้วยนิโรธสัญญา อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย นิโรธสัญญา อันบุคคลเจริญแล้วอย่างนี้แล กระทำให้มากแล้วอย่างนี้ ย่อมเป็น
ไปเพื่อประโยชน์มาก เพื่อความเกษมจากโยคะมาก เพื่อความสังเวชมาก เพื่ออยู่เป็นผาสุกมาก.
[๖๖๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม่น้ำคงคาไหลไปสู่ทิศปราจีน หลั่งไปสู่ทิศปราจีน บ่าไป
สู่ทิศปราจีน ฉันใด ภิกษุผู้เจริญโพชฌงค์ ๗ ก็ย่อมเป็นผู้น้อมไปสู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน
โอนไปสู่นิพพาน ฉันนั้นเหมือนกัน ก็ภิกษุผู้เจริญโพชฌงค์ ๗ กระทำให้มากซึ่งโพชฌงค์ ๗
อย่างไร ย่อมเป็นผู้น้อมไปสู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน โอนไปสู่นิพพาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อม
ไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ
น้อมไปในการสละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เจริญโพชฌงค์ ๗ กระทำให้มากซึ่งโพชฌงค์ ๗
อย่างนี้แล ย่อมเป็นผู้น้อมไปสู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน โอนไปสู่นิพพาน.
(พึงขยายความบาลีไปจนกระทั่งถึงการแสวงหา)
สังโยชน์ ๕
[๖๖๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังโยชน์อันเป็นส่วนเบื้องสูง ๕ ประการนี้ ๕ ประการ
เป็นไฉน? คือ รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา สังโยชน์อันเป็นส่วนเบื้องสูง ๕
ประการนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย โพชฌงค์ ๗ อันภิกษุควรเจริญ เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อกำหนดรู้ เพื่อ
ความสิ้นไป เพื่อละซึ่งสังโยชน์อันเป็นส่วนเบื้องสูง ๕ ประการนี้ โพชฌงค์ ๗ เป็นไฉน? ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ
อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ
อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย โพชฌงค์ ๗ เหล่านี้แล อันภิกษุควรเจริญ
เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อกำหนดรู้ เพื่อความสิ้นไป เพื่อละซึ่งสังโยชน์อันเป็นส่วนเบื้องสูง ๕ ประการนี้แล

ภาพถ่ายพระไตรปิฎกต้นฉบับ เนื้อหาตั้งแต่หัวข้อ ๖๔๕ ถึง ๖๖๙

 

คุณกบกับคุณผ่อนคลายขา ทราบไหมค๊ะว่าทำไมบทอ่านบางตอนที่อ่านเป็น .mp3 ไม่สามารถจะเล่นเป็น .mp3 ได้ เท่าที่ไปดูในพระอภิธรรมปิฏกเล่มที่ 4 จะอัพโหลดต่อ เห็นว่าบางส่วนขาดไปเลยไม่อัพโหลดต่อ เพราะต้องการแก้ไขให้เรียบร้อยเสียก่อน ตอนนี้มึนแล้ว คิดไม่ออก ถามดีกว่า เพราะว่าอ่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าอัดต่อไปยิ่งแก้ไขลำบาก เพราะเยอะมาก...................

 

ปัญหาของคุณ Aung CapAคือ ไฟล์ 04-036 , ไฟล์ 04-037 ฯลฯ ไม่เล่นเป็น mp3 ให้ อันนี้เป็นปัญหาทางเทคนิคในเวบค่ะ กบก็เจอปัญหานี้เหมือนกันในพระวินัยเล่ม 1 ไฟล์ 01-001 , ไฟล์ 01-009 แต่ตอนโหลดเพื่อนำมาเผยแพร่ในรูปไฟล์ ซิป ได้แก้ไขให้แล้วก่อนอัพโหลดไฟล์ค่ะ ถ้ามีปัญหาไฟล์ไหนแก้ไขไม่ได้จะขอให้อัพให้ใหม่ในกระทู้ต้นฉบับนะคะ ตอนนี้ที่อัพไปแล้วไม่มีปัญหา คุณ Aung CapA ลองไปโหลดไฟล์ซิปพระวินัยเล่ม 4 ในกระทู้นี้มาดูซิค่ะ

เชิญดาวน์โหลดไฟล์ซิปพระไตรปิฎกเสียงอ่าน เพื่อไปฟัง/ทำแผ่น MP3

ภาพไฟล์พระวินัยเล่ม 4



ภาพไฟล์พระวินัยเล่ม 1

 

คุณกบและคุณผ่อนคลายค๊ะ

ทดลองอ่าน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔ เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ

 

ตามไปดูในกระทู้แล้ว ยังขาดอีกหลายไฟล์ค่ะ

 

ได้รับแจ้งจากสมาชิกว่าไม่สามารถอัพโหลดไฟล์ที่บอร์ดเสียงธรรมได้ค่ะ

สมาชิกที่แจ้งคือ Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> แจ้งเมื่อวานนี้ ส่วน black_star<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> แจ้งวันนี้ค่ะ


Chayutt<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนบริจาค



black_star<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก



สมาชิกท่านอื่นมีปัญหาแจ้งที่กระทู้นี้เลยนะคะ

 

เรียนท่านสมาชิก

ท่านที่ไม่สามารถอ่านได้กรุณาแจ้งผ่อนคลายหรือ Kob ด่วน เพื่อทางเราจะได้จัดสมาชิกเข้าอ่านแทน

สำหรับท่านที่ร่วมสร้างกุศลกับเรา ทางเราไม่ได้เร่งอะไร กำหนดเสร็จ 1 มิ.ย. 2553 (แต่ถ้าเล่มไหนไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเป็นเวลานาน ทางเราจะติดต่อกับท่านหรือจัดสมาชิกเข้าอ่านเสริมค่ะ)

ด้วยความนับถือ
(bb-flower(bb-flower(bb-flower


​

 

เจ็บคอมาก็หลายวัน ขออนุโมทนากับเคล็ดลับถนอมเสียงค่ะ

 

รับทราบค่ะ พี่กบ
แต่มีคำถามค่ะว่า อย่างตัวอย่างแสดงที่อ้างอิงไว้นี้ เมื่อพบ ฯลฯ เช่นนี้แล้ว จะต้องอ่านให้เต็มความเหมือน วรรคต้น - ก่อนหน้าหรือเปล่าค่ะ เพราะบุญญสิกขา เจอบ่อย แลได้ปรับความใส่ให้สมบูรณ์ดังวรรคต้นไปทุกครั้งเลย

ขอโทษนะคะ หากผิดพลาดไป จะได้พยายามกลับไปแก้ไขทันท่วงที น่ะค่ะ

[b-nurse]​

 

"ฯลฯ" อาจอ่านว่า และอื่นๆ (หรือละ)

ไม่ต้องขยายความค่ะ คือให้เปลี่ยนข้อความตัวอักษรที่เห็นออกมาเป็นเสียงหรือคำพูดเลยค่ะ

 

รับทราบค่ะ คุณพี่ (เอื้อย) กบ