ขอรบกวนผู้รู้ เกี่ยวบาปจากการทำร้ายมารดา

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ปิยะกร, 13 เมษายน 2013.

  1. ปิยะกร

    ปิยะกร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +11
    คุณแม่ป่วยเป็นโรคประสาท( เป็นมาตั้งแต่สาวๆและคุณพ่อเสียไปในเวลานั้น)และโรคเบาหวาน ไม่ยอมทานยา ชอบแอบทิ้งยา และชอบทานขนมหวาน หากไม่หาให้จะโกรธ ต้องตามใจหาขนมหวานให้ทานตลอด ส่วนยานั้นต้องแอบผสมในอาหารให้..และพึ่งรุ้ตอนคุณแม่เสียว่า ตัวยาแรงไปจนไปกดประสาทเพราะไปหาหมอก็เปลี่ยนและลดขนาดยาลงแต่ยาคงแรงไปอีก เพราะทุกครั้งที่ท่านทานยาจะปวดหัว เราจะดุท่านดวย คิดว่าท่านไม่อยากทานยา เนื่องจากหมอบอกว่าคนเป็นโรคเกี่ยวกับประสาทจะไม่ค่อยชอบทานยา ในบางครั้งคุณแม่ก็เหมือนคนปกติดีแต่บางครั้งก็เหมือนคนป่วย ก่อนท่านเสียสองวัน เริ่มมีอาการไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะไม่ยอมทานยา คุณแม่เอาฝาถังขยะตีหัวตัวเอง จนเลือดออกตอนตี2-3 เราเดินหาจนเจอว่าอยู่หน้าบ้าน พามาอาบน้ำเช็ดตัวป้อนยา หายาล้างแผลใส่ยาและ คิดว่าให้ทานยาแล้วคงสงบ จะพาไปหาหมอดูแผลตอนบ่าย ท่านไม่ร้องไห้ ไม่มีน้ำตา สักพักช่วงบ่ายได้ยินเสียงท่านเรียกแต่ไม่รีบร้อนเดินไปดูท่าน พอผ่านไปสัก5นาทีถึงเดินไปดู เพราะอยู่ในครัว ตอนนั้นเราเปิดทีวีเกี่ยวกับพระเทศน์ให้ท่านดูแต่นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ท่านเรียกเรา..ท่านนิ่ง รีบนำส่งรพ. หมอบอกท่านหัวใจล้มเหลว ..
    บาปมากมั้ยที่ทำกับแม่แบบนี้ เหมือนเราเป็นคนฆ่าแม่ ที่บังคับแม่ให้ทานยา เคยโกรธแม่แล้วพูดกับแม่ว่าชาติหน้าจะไม่ขอเกิดเป็นลูกแม่อีก เคยดุท่านหลายครั้ง แต่เราก็มีเหตุผลที่ดุท่าน ตอนท่านมีชีวิตอยู่เราปฎิบัติหน้าที่ของลูกดีแค่ในระดับหนึ่ง ดูแลอาหารที่นอน พาไปหาหมอทุกเดือน วันหยุดวันสำคัญพาเที่ยวทานข้าวนอกบ้านบ้าง
    มีส่วนมั้ยที่เรานั่งสมาธิจิตไม่สงบ เพราะทำบาปกับมารดาที่เป็นเหมือนพระอรหันต์องค์หนึ่ง จะมีวิธีใดช่วยแนะนำบ้าง
     
  2. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    อย่าไปโทษตัวเองเลยค่ะ ขอแสดงความเสียใจด้วย และขอให้ดวงวิญญาณคุณแม่คุณไปสู่ สุขติ

    ไปยังภพภูมิที่ดี คุณยังได้มีโอกาสได้ดูแลท่านในยามที่ท่านเจ็บป่วย ตามความสามารถของคุณ

    นั่นก็นับว่าดีที่สุดแล้วค่ะ แม้คุณจะบอกว่าแค่ในระดับหนึ่งก็ตาม ดิฉันยังไม่มีโอกาสได้ทำอย่างที่คุณ

    ทำเลย (เมื่อก่อนคิดโทษตัวเอง เสียใจมากที่ไม่ได้ดูแลท่าน) พอเข้ามาใน้ว็บนี้เพื่อนๆสมาชิกให้กำลังใจ

    ให้ข้อคิดดีๆ ก็เลยพอจะเข้าใจไม่โทษตัวเองอีก



    หมั่นทำบุญ ไม่ว่าจะเป็นบุญอะไรก็ตาม ทาน, ศีล, ภาวนา, กรรมฐาน แล้วอุทิศส่วนกุศลให้

    ท่านดีกว่าค่ะ (เพราะเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ทำปัจจุบันให้ดีจะดีกว่า ไปนึกถึงอดีต )



    ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ จขกท ด้วยนะคะ สู้ๆค่ะ


    " เมื่อเราสูญเสียคนที่เรารักบางคนไป เราไม่จำเป็นต้องเสียใจไปตลอดชีวิต "


    ยังไงความเศร้าโศกเสียใจที่เสียท่านไปนั้น มันเกิดขึ้นแน่อยู่แล้ว อย่าเฝ้าโทษตัวเองให้จิตคุณ

    ต้องหม่นหมองเลยค่ะ


    ขออนุโมทนา สาธุ กับคุณด้วยนะคะที่ได้ดูแลคุณแม่ จนถึงวาระที่ท่านสิ้นใจ

    ลูกบางคนมือเท้าดีๆ หน้าที่การงานดีๆ ยังทิ้งแม่ไม่ดูแลแม่เลยค่ะ แต่คุณไม่ทิ้งท่าน นั่นก็ประสริฐสุด

    แล้วค่ะ สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
     
  3. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ไม่มีเจตนา ไม่มีความตั้งใจ
    มีแต่เจตนาดี

    ไม่มีอกุศลกรรมเกิดขึ้น
     
  4. ปิยะกร

    ปิยะกร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +11
    ขอขอบคุณกำลังใจและคำแนะนำนะค๊ะ
     
  5. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ทำทาน ศีล ภาวนาเท่าที่ทำได้แล้วสวดเมตตัญกรณีกวดน้ำยกบุญให้แม่บ่อยๆ
    ปฏิบัติธรรมนี้จะได้อานิสงฆ์มากกว่าแต่ก็แล้วแต่สะดวกคับ ว่ากันว่าแ่ค่อึดใจจิตสะอาดปราศจากโลภะโทสะโมหะ เห็นสัจธรรมความเป็นจริงว่าต้องแก่เจ็บตายพลัดพลาก นี้มีอานิสงฆ์มากกว่าการรักษาศีล100ปี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2013
  6. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    กรรม มีความหมายว่า เจตนา หรือ ตั้งใจ ( อ้างอิง พระพุทธธรรม ของ ท่าน ปอ)

    เมื่อกรรม อุบัติขึ้นแล้ว ลบทิ้งไม่ได้
    วิบากแห่งกรรม เป็นผลสืบเนื่องจาก กรรม ไม่ว่าจะชาตินี้ หรือ ชาติหน้าใดๆ

    พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ อยู่กับปัจจุบัน แล้ว ทำหน้าที่นั้นไป


    กรรมของท่าน นั้นมีอยู่ จะหนักจะเบาขึ้นกับเจตนา (กาย วาจา ใจ) จากความไม่รู้ ถึงอาการและต้นตอที่แท้จริง และการหาช่องทางหรือวิธีการที่เหมาะสม
    กรรมที่เกิดขึ้นนี้ ท่านเข้าไปทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว แต่วิบากของกรรมนี้เป็นตัวส่งผล อยู่ และเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาขวางการพัฒนาการทำสมาธิของท่าน

    เบื้องหลังเหล่านี้ จงวางไว้ข้างหลังก่อน มองจากวันนี้ถึงวันหน้า หมั่นปฏิบัติธรรมเจริญบุญกุศล แผ่ให้กับมารดา ขออโหสิกรรม ตรงนี้คือหน้าที่ของวันนี้ ที่ต้องทำ


    หากท่าน อ่านแล้วยังไม่เข้าใจ หรือ เข้าไม่ถึง แนะนำให้ไป สนทนาปรับทิฏฐิกับพระสงฆ์
     
  7. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    เราทำดีที่สุดแล้วในขณะนั้น ในสถานการณ์เช่นนั้น เมื่อผ่านมาแล้ว ก็แล้วกัน ก็ไม่ควรเก็บมาคิดบวกลบ ให้เกิดสนิมในใจอีก ผ่านแล้วผ่านเลย เหลือเพียงแต่ว่า ทำบุญก็อุทิศไปให้ท่าน หลังจากทำสมาธิภาวนาก็อุทิศไปให้ท่าน ชีวิตเราที่เหลือ ก็ดำรงวงศ์สกุลไม่เสื่อมเสีย ก็ดีแล้ว
     
  8. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ผมขอแนะนำว่า ให้ลืมสิ่งที่ผ่านมาแล้วให้หมดครับ เพราะเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ จะเป็นบุญหรือเป็นบาปให้วางเฉยไปเลย อย่าไปยึดติด ปล่อยวางซะ ให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน เพราะปัจจุบันสำคัญที่สุด ตอนนี้มีสิ่งที่คุณควรทำมากที่สุดคือไปทำบุญถวายสังฆทาน วิหารทาน บุญบวชพระ สร้างองค์พระ ฯลฯ ให้มากที่สุดแล้วอุทิศส่วนกุศลให้คุณแม่ท่านมาโมทนาในบุญที่เราทำ

    จากนั้นเพื่อให้คุณหายข้องใจ ว่าท่านได้รับผลบุญแล้วรึยัง ก็ให้คุณไปฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลม เพื่อไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง จะได้หายข้องใจครับ เพราะสิบปากว่าก็ไม่เท่าตาเห็นครับ

    ขอจบการแนะนำแต่เพียงเท่านี้ครับ
     
  9. Jsus Christ

    Jsus Christ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +82
    รู้ปัจจุบัน รู้ว่าควรทำอะไร เพื่อต่อยอด จิต นั้นให้ถึง ที่สุดแห่งทุกข์
     
  10. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    ผมคิดว่าสิ่งที่ท่านทำไปแล้วไม่สบายใจนี่แหละครับเป็นบาป ร้สึกไม่ดีแม้ว่าจะผ่านไปแล้วแต่หวนนึกถึงก้รู้สึกเหมือนไม่ดี ผมว่าบาปทั้งนั้น เพียงแต่ความร้สึกเหล่านี้หากปล่อยวางมันได้ สบายใจมาแทนที่ วางใจให้เป็นอุเบกขา เวลาที่ทำสมาธิจะทำให้จิตสงบเป็นสมาธิ แต่ถ้าตัดใจไม่ได้ก้จะทำสมาธิด้วยความลำบาก
    และการที่พูดว่าจะไม่ขอเปนลูกท่านอีกและต่อว่าท่านเพราะความจำเป็นนั้นจนกระทั่งท่านเสียไปแล้ว ก้ไม่ได้ขออภัยท่าน จริงๆถือเป็นวจีทุจริตน่ะครับอีกเพราะพ่อแม่เปนพระอรหันต์ของลูก แต่ท่านก้ได้ดูแม่เป็นอย่างดีจนนาทีสุดท้ายก้ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว
    แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้นเวลาสวดมนต์ ทำสมาธิหรือตักบาตรทำบุญแล้ว เวลาอุทิศส่วนกุศลให้ขอให้อโหสิกรรมด้วยกายก้ดี วาจาก้ดี ใจก้ดี อโหสิกับท่านก่อน(ในครั้งที่พูดไม่ดีกับท่าน) แล้วจึงอุทิศผลบุญกุศลไปให้ท่าน แม้ว่าท่านจะอยู่ภพภุมิใดหากแรงกุศลถึงแล้วได้รับและรับรู้ด้วยแรงอธิษฐานของจขกท ท่านก้จะอโหสิกรรมให้เองครับ เพียงแต่ต้องขออโหสิกรรมและแผ่ให้ท่านเป็นประจำ ถือว่าคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงน่ะครับ

    และผมจะขอแนะนำให้สักอย่างว่าบุญที่ได้อานิสงส์เยอะจริงๆ มีดังนี้
    - **บุญกุศลที่เกิดจากการเอาความชั่วออกจากใจตัวเองได้ คือ ละชั่วได้ มีศีล5ได้ ตรงนั้นคือบุญ

    - *** ให้ธรรมะเป็นทานเช่นแจกหนังสือธรรมะ แจกบทสวดมนต์ แนะนำให้คนอื่นๆร้จักไปทำบุญที่วัด รู้จักความกตัญญูต่อบิดามารดา หรือแนะให้มีศีลมีธรรม ทำสมาธิได้
    (สร้างปัญญาให้กับคนอื่น เราก้จะมีปัญญามากเช่นกัน เหมือนบอกทางแก่คนหลงทางหรือจุดคบไฟในถ้ำมืด) จัดว่าเปนบุญใหญ่

    - ****ให้อภัยทานเป็นทาน ข้อนี้สำคัญมากหากอภัยให้ใครได้จะเป็นบุญอย่างแรง ไม่ใช่แต่เฉพาะพอ่แม่ตัวเอง รวมไปถึงคนที่เราเกลียดหรือศัตรูของเราด้วย หากให้อภัยใครไม่ได้ เมตตาจะไม่เกิดเลย เมื่อเมตาไม่อออกจิตจะสงบลงยากมาก ทำสมาธิอย่างลำบากยากเข็ญ


    สรุปได้ว่า "มีศีลมีธรรม บุญมาเอง"
     
  11. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    ผมว่าไม่ได้เป็นโรคประสาท
    ไม่งั้นลูกก็ต้องเป็นด้วย(ฮา)
    ถ้าคุณไม่เป็นก็มีได้หลายสาเหตุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...