คนแขวนเบี้ย.

เบี้ยแก้ หลวงปู่เปรียม วัดโพธิ์เรียง​

วันนี้เอาไปถักเชือกมาใหม่ ครับ แบบ 3 ห่วง ในงาน OTOP ครับ​

​

 

สวยครับคุณเอท เท่าไหร่ครับค่าถัก

 

เรื่องปรอทไหลไปกัดทองคำนั้น มีอีกเรื่องครับ ผู้ใหญ่ที่ผมสนิท แกมีแหวนเบี้ยแก้อยู่หนึ่งวง แหวนเบี้ยแก้นี้วางไว้รวมกับสายสร้อยทองคำในถาดพระเครื่อง วันนึงแกสังเกตุว่าปรอทไหลออกจากเบี้ยแก้ แต่ที่ผิดสังเกตุคือสร้อยทองคำของแกสีทองนั้นซีดอ่อนเป็นสีแบบเสตนเลสไปเลยครับ ปรอทกัดผิวทองคำซะซีดขาวเลย ส่วนเพื่อนผมใช้เบี้ยแก้วัดบางพระ เลี่ยมกรอบพลาสติกกันน้ำอย่างดี แต่แขวนรวมกับสร้อยทองคำ ปรอทมันไหลออกจากเบี้ยแต่ค้างอยู่ในกรอบพลาสติก
เพื่อนรุ่นน้องแขวนเบี้ยแก้หลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว แล้วไปวัดสายไหมเพื่อทำบุญ ช่วงที่เดินผ่านกำแพงวัดเบี้ยแก้เกิดสั่นขึ้นมา ที่สั่นเพราะตรงกำแพงมีช่องใส่กระดูกคนตาย

 

ปกติ 1 ห่วง 100 บาทครับ ถักแบบ 2 ชั้นด้วยสวยมากเลย แต่ผมทำแบบ 3 ห่วงครับเลยถักได้ชั้นเดียว 150 บาท กะว่าจะเอาไปถัก 1 ห่วงซักตัวครับ

 

พรุ่งนี้อยากไปงานพุทธาพิเษกเบี้ยแก้และวัตถุมงคลหลวงปู่รอด วัดนายโรง

 

"เบี้ยแก้ ครับ"

 

สมาชิกใหม่ขอฝากเนื้อฝากตัวและขอคำชี้แนะด้วยนะครับ
ขออนุญาติเผยแพร่เบี้ยแก้สายอ่างทองครับเพราะผมเกิดและโตที่อ่างทองครับ

 

วัดนายโรง

พรุ่งนี้ใครศรัทธาสนใจเชิญได้ที่วัดนายโรงครับ มีพิธีใหญ่ครังแรกในรอบ 150 ปี

วัดอยู่เยื้องหลังเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ไปป้ายรถเมล์นึง มีวินมอเตอไซค์อยู่หน้าปากซอยครับ
เบอร์วัดถ้าจะถามรายละเอียด024349119,024339874 (โทรติดยากนิดนึงครับ)
ช่วงเช้ามีหล่อ รูปหลวงปู่รอดขนาดเท่าองค์จริง

ช่วงบ่ายมีพิธีปลุกเสก เบี้ยแก้

รายได้ทั้งหมดทุกบาทบูรณะโบสถ์และวิหารอายุ 150 ปี

* ถ้าใครไปงานอย่าลืมไปตักน้ำในบ่อปูนซีเมนต์หน้าวิหารนะครับ
นั้นน้ำมนต์อย่างดีเลยนะนั้น เพราะเป็นบ่อสรงน้ำของหลวงปู่รอดวัดนายโรงครับ

ส่วนใครอยากไปดูเรือบิณฑบาตร(เรืออีสัมพุทเธ)ของหลวงปู่รอดคงต้องผิดหวังครับเพราะเรือยังจมอยู่ใต้ดิน

 

ไม่ทราบว่าของสำนักใหนครับ ชันดูแห้งดีครับผม

 

น่าจะหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ

 

วันนี้ใครไปวัดนายโรงมาบ้างครับ

 

รูปเบี้ยแก้วัดนายโรง

จากหนังสือ 150 วัดนายโรง
เบี้ยแก้ในภาพปัจจุบันอยู่ในการดูแลของวัดนายโรงครับ

 

กราบหลวงปู่รอด

ขอบคุณเครดิตภาพ จากหนังสือ 150 ปีวัดนายโรง

 

กลอนครับ

" หมากดีที่วัดหนัง ถ้าเบี้ยขลังวัดนายโรง

ไม้ครูอยู่คู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบินวัดหนองโพธิ์

พิสมรวัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง

ราหูคู่วัดศรีษะฯ เเหวนอักขระวัดหนองบัว

ลูกเเร่ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน

เก้าสิ่งล้วนเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา

ติดกายยามญาตตรา ภัยมิกล้ามาเเพ้วพาน"

 

ที่กล่าวไว้ในกลอน ผมไม่มีซักอย่างเลยครับ แหะๆๆๆ

 

ลึกซึ้งมาก

ใครชอบเครื่องรางประเภทเบี้ยแก้
ลองศึกษาให้ดีเถอะ พ่อแม่ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านมีอุบายธรรมแยบคายลึกซึ้งมากในการปฏิบัติธรรมจนคนยุคปัจจุบันอย่างเราๆ คิดไม่ถึงตามไม่ทันกันเลยทีเดียว
เริ่มตั้งแต่ การหาปรอทดักปรอทที่มีชีวิตก็ใช้ว่าจะหามาง่ายๆ ต้องถือฤกยามใช้ความเพียร(วิริยะ) ต้องช่างสังเกต ตั้งแต่ภูมิอากาศสภาพแวดล้อมที่ปรอทมันจะมาฝังตัวอยู่ คาถาที่ใช้ก็ใช่ว่าใครจะท่องๆบ่นๆแล้วจะดักปรอทได้ปั๊บก็ไม่ใช่ต้องท่องบ่นคาถาจนเกิดเป็นวสี เกิดเป็นฌาน4 ขึ้นมา เรียกดักปรอทก็ต้องภาวนา
จะกรอกปรอทมันลงเบี้ยก็ต้องภาวนา จะอุดปรอทไม่ให้มันหนีก็ต้องภาวนา
คาถาบางตัวยันบางตัวก็ไม่ใช่ว่าจะมาเขียนมาจารบนตัวเบี้ย ท่านต้องกำกับคาถาแล้วเพ่งภาพยันต์ที่ต้องการให้เป็นอุคคนิมิต(ภาพติดจิต) ส่งไปที่เบี้ยแบบเดียวกับที่เราชาร์ตแบตมือถือเลย นักรบสมัยโบราณเค้าไม่นิยมห้อยพระกันเพราะตัวสกปรกเลยกลัวบาป บ้างก็กลัวศัตรูจะรู้แกว กลัวจะมากระฉากทิ้ง ว่างั้น ผู้รู้หลายท่านสัณนิฐาน ว่าเดิมเบี้ยสมัยก่อนเป็นเงินนี่แหละ สมัยที่ต่างชาติเรียกเราว่า โยเดีย (อโยธยา)ได้รับอิทธิพลการนับถือเบี้ยมาจากอินเดีย คือนับถือ ภควจั่น เป็นตัวแทนพระแม่อุมา (ซึ่งในทางพุทธถ้าเราจะนับถือเบี้ยก็ไม่ผิดอีกพระพุทธเจ้าท่านไม่ห้ามละม้ายคล้ายเหมือนตอนชลิฏ3พี่น้องที่บูชาไฟใครขยันลองไปหาอ่านดู ส่วนใครจะนับถือบูชาเทพเจ้าอะไรท่านก็ไม่ได้ว่าอีก)เพราะการนับถือบูชาท่านจัดเป็น เทวานุสติ เป็นกรรมฐานกองนึงใน 40 กองนั้นแหละนับถือได้แต่ต้องใช้สติปัญญาน้อมเอาคุณธรรมของเทพเจ้าองค์นั้นๆมาเป็นมาเป็นที่ระลึก ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านก็มีปัญญามาก เบี้ยนี้มาจากพราหมณ์ทั้งดุ้นเลย คำสวดคำบูชาอ้อนวอนอะไรก็เป็นของพราหมณ์ หมด ท่านก็เอาคาถาต่างๆซึ่งก็คือพระสูตร พระวินัย ย่อส่วน นั้นแหละ เสกท่องบ่นเป็นองค์ภาวนาไปในตัวเบี้ย เพื่อไม่ให้ลืม พระสูตร พระวินัย ข้อวัตรต่างๆ พอภาวนามากๆเข้าจิตมันเป็นสมาธิเอง เป็นฌาน ญาณโดยลำดับก็หลุดพ้นสิทีนี้ ส่วนพลังจิตก็ถูกส่งผ่านมายังเบี้ยแบบเดียวกับแบตมือถือเป็นผลพลอยได้
เพราะฉะนั้นใครจะนับถือเบี้ยห้อยเบี้ยก็ไม่ผิดหรอก ถ้าห้อยแล้วเวลาเกิดมีภัยขึ้นมาก็คิดถึงหน้าหลวงพ่อองค์ที่ทำก็เป็นสังฆนุสสติ คิดถึงพระพุทธเจ้าก็เป็น
พุทธานุสสติ คิดถึงเทพก็เป็นเทวานุสสติ ไม่มีอะไรถูกทั้งหมดหรือผิดทั้งหมดหรอก ขึ้นอยู่กับเราผู้ใช้ต่างหากว่าจะมีปัญญาไตร่ตรอง ชั่วดี ถี่ห่างมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง (ผ่านมาเลยมาบ่นให้ฟัง)

 

ฝากตัวด้วยนะครับ เบี้ยกันของ วัดท้องไทร ตัวนี้พิเศษตรงที่หลวงปู่อั๊บท่านนั่งกรอกแต่ตีเบี้ยเองครับ

 

เบี้ยหลวงพ่อตี๋ วัดหูช้างครับ

 

เบี้ยแก้คหบดีเศรษฐี หลวงปู่ท่านเจ้าคุณ เสงี่ยม วัดสุวรรณเจดีย์

 

เบี้ยแก้จักรพรรดิ์หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน