คนแขวนเบี้ย.

เช็คหลังสุดเหลือห้าสิบตัวได้ เวลาเขย่าเสียงปรอทกระทบเบี้ยดังกระเฉาะกังวาลดี และปรอทที่เอามาใส่เป็นปรอทป่าที่หาดักมาไม่ใช่ปรอทวิทยาศาสตร์ที่ใช้กันอยู่

 

เบอร์วัดครับ

เบอร์วัดนายโรงคับ
024349119
024339874

 

ขอสอบถามหน่อยครับ ผมกะว่าจะนำยาทาเล็บแบบใสมาทาเคลือบครับ แต่ว่าจะเลี่ยมยังไงดีครับ แนะนำหน่อยครับ ขอบคุณครับ

 

สมัยก่อนนั้น ใช้เบี้ยแทนเงินตรานะครับ การมีเบี้ยนั้นถือว่ามีเงิน ส่วนปรอทนั้น ไม่ได้ไล่เงินนะครับ แต่ปรอทสามารถกินเงินได้ถ้าเอามาวางรวมกัน โบราณจึงไม่ให้เอาปรอทวางรวมกับเงิน แต่ปรอทในเบี้ยแก้อยู่ในตัวเบี้ยแก้ ไม่สามารถออกมาได้ครับ

 

เข้าร้านเลี่ยมดีๆหน่อยครับ หาช่างเก่งๆ เค้าจะรู้ว่าเบี้ยแก้ห้ามโดนความร้อนมากๆ ส่วนตัวผมเลี่ยมที่สนามหลวง๒ แถวเลียบคลองทวีวัฒนาครับ

 

พอมีกับเค้าบ้างทำบุญวิหารทานกับหลวงพ่อเกิดตอนปี 48 เก็บจนลืมเลย มาดูในกล่อง เออแฮะ!!!เราก็มีกับเค้าเหมือนกันครับ

เบี้ยแก้มหากันหลวงพ่อเกิด ปัณฑิโต วัดเขาดิน จ.ชัยนาท ครับ









หลวงพ่อท่านเล่าว่า ความจริงแล้วการทำเบี้ยแก้นี้ ตามตำรามันมีมานมนานมากแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัย จะเห็นได้ว่าตามกรุพระเก่าๆอายุเป็นร้อยเป็นพันปี บางกรุก็มีเบี้ยแก้บรรจุอยู่ เป็นเบี้ยหุ้มตะกั่วปรอทไม่มีเหลือแล้ว ซึ่งก็น่าจะจริง

เบี้ยแก้มหากันรุ่นแรกนี้หลวงพ่อทำตามตำราเบี้ยมหากัน ซึ่งตกทอดมาแต่ครั้งกรุงสุโขทัย กรรมวิธีการสร้างซับซ้อนยุ่งยากมาก ขอย้ำว่านี่คือปรอทธรรมชาติไม่ใช่ปรอทกระปุกที่มีขายทั่วไปแบบวัดต่างๆใช้กัน ปรอทนี้หลวงพ่อหามาทั้งชีวิตสะสมไว้ได้จำนวนหนึ่งเอาไข่เน่าไปดักตามป่าเลี้ยงด้วยทองคำ จนเดี๋ยวนี้ท่านบอกว่าทองคำราคาแพงมากท่านเลี้ยงไม่ไหว จึงได้นำออกมาสร้างเบี้ยแก้ ซึ่งใช่แต่เท่านั้นวิธีการสร้างยังสลับซับซ้อนยุ่งยากเหลือเกินและหอยที่ใช้ยังเป็นเอกลักษณ์สวยงามอีกด้วย

เบี้ยนี้หลวงพ่อท่านนำมากรอกปรอทปิดด้วยชันโรง เสร็จแล้วท่านจะนำผงว่านผงลบกระดานมากมายตามสูตรมาพอกไว้ก่อนพอผงแห้งท่านจะลงจารดินสอดำไว้จากนั้นจึงนำแผ่นตะกั่วมารองหุ้มและลงจารอีกทีก่อนทำการถักเชือก เป็นการทำที่พิถีพิถันมากแม้กระทั่งตัวเบี้ยท่านยังใช้แต่ตัวเบี้ยที่เป็นสีม่วงเท่านั้น อธิษฐานจิตปี 2548 สร้างเพียง 372 เบี้ย

 

ขอบคุณครับผม คงไปเลี่ยมที่พันธ์ทิพย์ครับ ว่าแต่เอาน้ำยาทาเล็บแบบใสเคลือบก่อนดีไหมครับ

 

ถ้าจะเลี่ยมไม่ต้องทาก็ได้ครับ

 

ขอบคุณครับ

 

พันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วานรึเปล่าครับพี่ ถ้าใช่รบกวนขอพิกัดร้านเลี่ยมด้วยครับผม

 

สวัสดีครับผมมือใหม่ครับ
อยากทราบว่า "เบี้ยแก้" ห้อยคอตอนอาบน้ำ จะเป็นอะไรไหมครับ
ขอบคุณครับผม

 

ไม่เป็นไรครับ..............

 

ผมเพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องเบี้ยแก้ ขอตอบว่าเรื่องสั่น"มีคัฟผม" ของผมเป็นเบี้ยแก้ลป.เจือ วัดกลางบางแก้ว เช่ามาตั้งแต่เดือนตุลา 2547 ก้อครบ8ปีพอดี

ปสก.ก้อคือ นั่งทำงานอยู่เพลินๆ มีสายเข้า-มือถือ-(ตั้งแบบสั่น+เสียง) ก้อเอามือควานหามือถือที่เป๋าเสื้อ บร๊ะเจ้า!!! นี่เบี้ยแก้ของเรานี่นา แล้วขอบอกว่ามีปรากฏการณ์นี้อีกหลายครั้งด้วย ผมก้อพยายามคิดแบบวิทยาศาสตร์ว่า ปรอทในเบี้ยแก้อาจทำปฏิกิริยาเวลาเจอความร้อนจากกายมนุษย์ ปรอทเลยสั่นได้ แถมมีเสียงอืออออออออเหมือนระบบสั่นจากมือถืออิกต่างหาก

แต่พอมาอ่านปสก บางคนพกเหรียญลพ.(จำไม่ได้) หรือวัตถุมงคลอื่นๆ ก้อมีการสั่นแบบมือถือเพื่อเตือนคนใส่ได้ ผมเลยมั่นใจว่าเบี้ยแก้สั่นเตือนเราจริงๆ

ประเด็นคือ สั่นเพื่อจะบอกเตือนให้เราระวังภัยอะไร? หรือสั่นเพราะกำลังกันภัยอะไรให้เรา หรือสั่นให้รู้ว่ามีตัวตน อันนี้อยากทราบเหมือนกัน เพราะสั่นหลายรอบมาก

 

เรื่องเบี้ยสั่นผมก็เคยมีน๊ะ ของหลวงพ่อทรง กับของ อ.ปืนวัดลาดชะโด แต่ไม่รู้ว่าสั่นเพราะอะไรเหมือนกัน

 

ขอบคุณมากคับ พอดีต้องไป ต่างจังหวัด เลยเปนกังวล
อิอิ

 

สอบถามหน่อยครับ
ผมเพิ่งได้ "เบี้ยแก้" มาครับ ทางผู้ใหญ่ที่ให้ท่านบอกให้ แขวนไว้ที่เอวอ่ะครับ
แล้วทีนี้ผมไม่มี เชือกคาดเอวอะไรเลย
แต่แถวๆ ที่พักมี แผงพระ เยอะพอสมควรครับ
คำถามคือถ้าผม จะไปเช่าตะกรุดที่พร้อมสายเอวมาแล้ว เอาเบี้ยแก้ที่ผมมีอยู่แขวนรวมไปด้วย จะได้มั้ยครับ ผมก็ไม่รู้ที่มาของตะกรุดเหล่านั้นด้วยครับ ว่าแท้หรือปลอมอะครับ
หรือจะเอาแค่ เชือกร่ม ธรรมดาก็พอครับ?

ขอบคุณครับ

 

ใช้เชือกร่มคาดเอวดีกว่าครับ ดีกว่าเอาตะกรุดที่ร้อยขายเป็นพวงๆมาคาด หนักป่าวๆ

หรือจะแขวนแบบพวงกุญแจที่หูกางเกงก็ได้ ผมก็ทำแบบนี้ครับ

 

เกิดมาผมไปตจว.นอนโรงแรมเป็นร้อยครั้ง ก็มีเบี้ยแก้ของครูบาอาจารย์นี้แหละครับติดตัว เพราะถ้านำมีดหมอไปด้วยก็ลำบากในการเดินทาง เพราะส่วนใหญ่จะเดินทางโดยเครื่องบิน แต่ถ้าขับรถไปเองนี้เต็มที่ครับ ทั้งเล่มเล็กเล่มใหญ่55+โดยเฉพาะถ้าไปเที่ยวกับครอบครัว แบบว่าลูกยังเล็กนี้ยิ่งต้องเต็มที่ครับ เบี้ยแก้มีดหมอต้องอยู่หัวนอน โรงแรมใหนที่เค้าว่าเจอกัน ผมไปเงียบครับหลับสบายยันเช้า หัวหน้าที่ทำงานก็เพิ่งเล่าให้ผมฟังว่า เวลาแกไปเที่ยวประชุมหรือสัมนา ถ้าพาแฟนแกไปด้วย เป็นต้องเปลี่ยนโรงแรมบ่อยๆ เพราะแฟนแกเหมือนจะจูนคลื่นตรงกับพวกนี้ เห็นเป็นประจำ ล่าสุดหัวหน้าผมไปสัมนาที่ระยองกำลังเข้าประชุม แฟนแกก็โทรมาขอย้ายโรงแรม เพราะเมื่อตอน๗โมงเช้า เห็นเป็นเงาดำๆเดินไปเดินมาในห้อง จริงๆแฟนแกรู้สึกไม่ดีตั้งแต่เช็คอินเข้าห้องแล้ว แต่ไม่อยากพูดเกรงใจ กะว่าจะทนๆไป แต่เจอแบบนั้นก็เลยทนไม่ใหว จำเป็นต้องย้าย เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมก็เลยเอาเบี้ยแก้ของพระอาจารย์ปุ้ม วัดศาลาแดงไปให้แก บอกว่าถ้าแฟนพี่ไม่ห้อยพระ(ผู้หญิงชอบห้อยจี้ แบบเครื่องประดับ) ก็เอาเบี้ยแก้นี้ไปพกติดตัว ห้อยเป็นพวงกุญแจรถก็ได้ เวลาไปพักค้างคืนตามสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ก็เอามาวางไว้ไกล้ๆตัว แกก็ขอบคุณเป็นการใหญ่เลยครับ ต่อไปก็รอฟังผล ว่าจะเจออีกใหม ถ้ายังเจออีกก็ต้องมีดแล้วครับ ชักออกมาถ้าไม่เผ่นก็ให้มันรู้ไป 555+

 

ขอบคุณมากๆเลยครับ สำหรับประสบการณ์ดีๆ สำหรับมือใหม่อย่างผมได้รู้อะไรเยอะเลย อิอิ

 

เบี้ยแก้ ผมพกไม่เยอะหรอกครับ ก็จะมี...

๑.เบี้ยหลวงปู่ดี
๒.เบี้ยหลวงตาเผือด
๓.เบี้ยหลวงปู่เจือ
๔.เบี้ยหลวงพ่อมี วัดม่วงคัน
๕.เบี้ยพระอาจารย์ปุ้ม
๖.หลวงพ่อเสียน

เท่านี้ก็ครบ๓สายหลักๆ กลางบางแก้ว นายโรง และอ่างทอง แล้วครับ