ถูกหลอกขายวัตถุมงคลราคา ๒๖๐,๐๐๐ บาท โดย "ยายผีป่า"

การเซ็นชื่อคู่กรณีในสลิปโอนเงิน ถือเป็นการยอมรับสภาพหนี้ และถือว่าเป็นการทำสัญญา

จะมีผลตามกฎหมาย หากให้คนที่ไม่ใช่เจ้าทุกข์ไปแจ้งความอาจทำให้รูปคดีเปลี่ยนใด้

เรื่องราวกำลังจะเป็นไปในทางดีแล้ว ใครจะคิดไปในทางใหนก็ให้เป็นไปตามภูมิธรรมที่ใด้

อบรมกันเถิด เอาแค่ว่าคนซื้อไม่สบายใจ คนขายก็ยินดีคืนเงิน จะใด้เป็นบรรทัดฐาน แล

มาตรฐาน ในการเช่าบูชาวัตถุมงคล

 

ผมว่านะครับแค่ทำสัญญาคืนเงินให้มั่นคงให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ก็ถือว่าจบแล้วนะครับเรื่องนี้..... ไม่อย่างอ่านภาค 2 ละครับ

 

ระวัง จะเป็น " ดับเบิลลักษณ์ซ่อนเงื่อน " นะครับ ถ้าทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้ก่อนก็โอเคนะ

ยังไงคุณยายก็ยอมจ่ายอยู่แล้ว 3 เดือนนี่ พอดีกับอายุความเลยนิ . .

 

เห็นด้วยกับการทำสัญญาเป็นลายลักษร์อักษร ทุกวันนี้ จะใช้แค่คำพูดอย่างเดียวนั้นไม่ได้ แม้เพื่อนกันก็หักหลังกันเพราะเรื่องเงินๆทอง ทำให้ต้องเสียมิตรภาพที่ดีกันเลย กระทู้นี้ก็คงต้องตามดูจนกว่าผู้เสียหายจะได้รับ เงินคืนครบ จนเจ้าตัวเขาพอใจละคับ

 

เยี่ยมครับคุณวิสุทโธ (good)(good)(good) เรื่องนี้ทางทีมงานถือว่าได้เข้ามาช่วยในระดับหนึ่ง เป็นที่น่ายินดีที่ทีมงานไม่ทอดทิ้งสมาชิกที่ถูกเอาเปรียบ ทีมงานได้ทำหน้าที่ที่ควรจะทำแล้ว ถือว่าจบสำหรับทีมงานครับ ส่วนเรื่องต่อไปคุณดาวจรัสแสง ควรจะไปดำเนินการอย่างที่คุณวิสุทโธแนะนำครับ อย่าลืมนะครับ ใจคนยากแท้หยั่งถึง รู้หน้าไม่รู้ใจ และทางทีมงานคงไม่โกรธ ที่สมาชิกได้มาออกความเห็น อาจจะมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ก็อย่าได้ถือสา นำส่วนที่ดีมาพัฒนา ปรับปรุงเว็บพลังจิต ให้มีมาตรฐานเถิดครับ ออกกฎกติกา ป้องกัน พวกทุจริต ฉ้อโกง อย่าพูดเรื่องเวรกรรม กับคนที่คิดจะโกง เพราะเขาฟังไม่รู้เรื่องหรอกครับ ต้องใช้กฎ กติกา และกฎหมายเท่านั้นครับ สังคมจะเรียบร้อย ดูดี มีสง่า ถ้าทำตามกฎ (ระบียบ กฎหมาย) กติกา มารยาท ครับ

 

สัญญาปากเปล่าก็เหมือนลมปากเป่า แจ้งความไว้แบบวิสุทโธ บอกดีกว่าครับคุณดาว ถ้าจ่ายครบแล้วค่อยถอนแจ้งความก็ไม่สายครับ WIN WIN ทั้งสองฝ่าย

 

ขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า....ผมได้ติดต่อประสานงานกับคุณเอื้อมแล้ว<O</O
และผมก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากเกี่ยวกับของทั้งสองชิ้นนี้นะครับ..<O</O
<O</O


ผมเองคุยแล้วก็เห็นใจคุณเอื้อมเธอ...คุยกันแล้วก็เข้าใจเรื่องกฏของกรรมดี โดยมีอีกหลายท่านที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เหล่านี้ (แต่ขอไม่เอ่ยถึงดีกว่าเพราะเดี๋ยวยาว เรื่องจะได้จบเสียที) เป็นกรรมที่ไม่มีเจตนาจะทำร้ายน้ำใจกันจริงและทั้งคุณดาวและคุณเอื้อมต่างก็ให้อภัยซึ่งกันและกันแล้ว จะได้ไม่ติดค้างกันนะ...คุยกันง่ายครับกับคุณเอื้อมเนื่องจากมีครูบาอาจารย์องค์เดียวกัน<O</O
<O</O


และคุณเอื้อมก็ตั้งใจจะคืนเงินทั้งหมดให้คุณดาวภายในระยะเวลาประมาณ ๓ เดือนนับจากวันนี้ เนื่องจากติดภาระหนี้สินค่าก่อสร้างบางส่วน....ผมเลยต่อรองผ่อนผันขอให้เป็น ๖ เดือนน่าจะสบายๆเพราะคุณดาวก็ไม่รีบร้อนอะไร<O</O
<O</O


แต่ก็ขอชื่นชมคุณเอื้อมนะ...เพราะเธอก็แจ้งว่าได้พูดบอกไปแล้ว ขอยืนยัน ๓ เดือนเหมือนเดิม<O</O
<O</O


น่าจะสรุปจบได้นะครับ....เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สอนอะไรไว้หลายอย่างครับ<O</O
<O</O

ขอบคุณครับ<O</O
<O</O
<O</O


อ. เทพวุฒิ<O</O

 

อนุโมทนาครับ
ว้าวๆคุณ chaiyo6600 คนที่ประมูลได้คนแรกเข้ามาดูแล้วอิอิ(แซวเล่นๆครับ)

ปล.ลงรูปแบบท่านอื่นไม่เป็นขอโทษด้วยครับเขิลเลยแหๆ

 

หายไปห้าวัน....จบแล้วสินะ.....ไปอบรมสืบฯมาครับ.....ขอบอกว่า เมืองไทย...มีละครโรงใหญ่ กว่านี้ เยอะ!!!.....เฮ้อออ มนุษย์หนอ ช่างอ่อนแอ เต็มไปด้วยตัณหาและกระจ้อยร่อยจริงๆ.......

 

เรื่องนี้ ผมคิดว่าให้เป็นเรื่อง ของคุณดาว และคุณยายแกดีกว่า ในเมื่อตกลงกันได้แล้ว ก็เป็นที่ยุติ
อย่างไรเสียก็ต้องให้เครดิต คุณยาย เพราะยายแกก็ออกมารับผิดชอบแล้ว ขอนับถือในความกล้าหาญเหมือนกัน เป็นคนอื่นคงหายไปแล้ว อะไรที่เกิดจาก ความผิดพลาด ประมาท พลาดพลั้งไป ก็อภัยให้กัน เรื่องนี้อาจส่งผลกระทบต่อผู้อื่น อย่างน้อยก็คนในครอบครัวยาย เจตนาเรามิได้ต้องการสร้างความทุกข์ให้ผู้อื่นเพื่มมิใช่หรือ แค่นี้ยายแกก็เรียนรู้ที่จะไม่ประมาท ในการดำเนินการเรื่องแบบนี้ ยายแกคงไม่มีเจตนาโกง เพียงแต่ประมาทไปนิด

 

ตามอ่านมาหลายวัน เรื่องก็น่าจะจบลงด้วยดีแล้วนะครับ....เฮ่อ เหนื่อยใจแทนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดจริงๆ มิน่าละพระพุทธเจ้าถึงสอนให้ใช้ปัญญาหาได้สอนให้ใช้วัตถุไม่ ยินดียิ่งครับที่ได้ทราบว่าจะจบลงด้วยดีทั้ง 2 ฝ่าย

 

มาตรา 203 ถ้าเวลาอันจะพึงชำระหนี้นั้นมิได้กำหนดลงไว้ หรือ จะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้ย่อม จะเรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน และฝ่ายลูกหนี้ก็ย่อมจะชำระหนี้ของ ตนได้โดยพลันดุจกัน

มาตรา 204 วรรค2 ถ้าได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน และลูกหนี้มิได้ ชำระหนี้ตามกำหนดไซร้ ท่านว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้อง เตือนเลย วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ก่อนการชำระหนี้ ซึ่งได้กำหนดเวลาลงไว้ อาจคำนวณนับได้โดย ปฏิทินนับแต่วันที่ได้บอกกล่าว

บอกกล่าวโดยไม่ต้องทำหนังสือก็ได้ครับ

 

ขอแสดงความเสียใจกับคุณดาว ด้วยนะค่ะ

 

ติดตามมาหลายวัน เรื่องจบลงด้วยดีก็ยินดีด้วย