หลวงปู่สรวงผู้วิเศษแห่งภูตะแบง

แปลกจังไม่ใช่ท่านมรณภาพไปแล้วรึครับ แปลกแต่จริง

มีรูปของท่านให้ดูมั่ยครับตอนนี้อ่ะครับที่ท่านกลับมาใหม่

 

เรื่องราวของหลวงปู่สรวงเป็นเรื่องที่อัศจรรย์เหนือความนึกคิดคาดฝันของเราเสมอๆ ไม่ว่าเรื่องอายุของท่านซึ่งจากการที่ผมสอบถามจากน้องชายของหลวงพ่อสร้อยซึ่งมาร่วมงนศดของหลวงพ่อสร้อยที่วัดเลียบราษฏ์บำรุงเขตบางซื่อสรุปได้ว่าคะเนอายุที่ต่ำที่สุดของท่านก็ต้องไม่ต่ำกว่า 275 ปี นอกจากนี้บ้างก็บอกว่าท่านมีอายุ 3 ร้อยกว่าปี ที่ได้ยินจากหลวงพ่อสร้อยเองท่านบอกว่า 414 ปี นอกจากนี้บางท่านก็บอกว่าห้าร้อยปี และหกร้อยกว่าปี

มีพระคณาจารย์บางท่านที่เที่ยวศึกษาจากพระธุดงค์แถบชายแดนเขมรเล่าวว่าลูกศิษย์ของหลวงปู่สรวงรุ่นเก่าๆที่สำเร็จวิฃาอายุวัฒนะนี้ก็มีอายุหลายร้อยปีเช่นเดียวับท่าน ท่านเหล่านี้จะอยู่ตามตะเข็บชายแดนไม่ค่อยสุงสิงกับใคร บางท่านเคยมรณะภาพไปแล้ว ฌาปนกิจศพไปแล้ว มีกระดูกวางไว้บูชาในโกฐแล้วด้วยซ้ำ แต่พอไม่นานก็ออกมาจากป่ามาโปรดคนอีก พระท่านหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่าลูกศิษย์ของหลวงปู่สรวงท่านหนึ่งบอกว่าต้องเผาหรือต้องตายครบ ๘ ครั้งจึงตายจริงครั้งหนึ่งจะมีอายุได้ประมาณ 300 ปี บางท่านตายมาแล้วครั้งหนึ่ง บางท่านเคยตายมาแล้วสามครั้ง และมีการยืนยันว่าสำหรับหลวงปู่สรวงท่านแล้วยังไม่มีใครเคยเห็นท่านมรณะภาพลงเลยครั้งนี้อาจเป็นครั้งแรก

วิชาเหล่านี้จะไม่เรียกว่าตายจริงแต่จะเป็นเสมือนการลอกคราบของงูหรือจั๊กจั่น ซึ่งทิ้งสังขารเก่าไว้เหมือนซาก แต่กลับมีร่างใหม่กายใหม่ขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์

ถ้าติดตามกระทู้มาโดยตลอดจะเห็นว่ามีการเล่าด้วยว่า หลวงปู่สรวงมีด้วยกันถึงสามองค์อีกสององค์อยู่ในเขมรเที่ยวโปรดญาติโยมอย่างลี้ลับ

เรื่องของท่านฟังแล้วเข้าใจยาก แต่ง่ายที่สุดที่เข้าใจได้คือท่านไม่ได้อยู่อย่างเราไม่ได้อยู่ด้วยเงื่อนไขอย่างที่เราๆท่านๆอยู่ ท่านคือสิ่งที่เหนือความเข้าใจของปุถุชนไปแล้ว

วันเวลาที่ท่านอยู่หรือท่านไปไม่มีความจริงสำหรับเราและท่าน ด้วยว่าท่านอยู่เหนือสมมุตินั่นเอง ดังนั้นการที่ท่านจะมีกี่กาย มีอายุยืนนานเท่าใดจึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหาข้อยุติได้ สุดวิสัยแห่งการหยั่งรู้ของเราผู้เป็นปุถุชน เราทราบแต่ว่าตลอดเวลาที่ท่านอยู่นั้นท่านไม่สะสม ท่านไม่มีวัดอยู่ มีอะไรท่านก็แจกหมด หรือไม่ก้เผาทำลายทิ้งซะ เป็นแบบอย่างพระผู้ละโลกโดยแท้ และถือว่าเป็นตำนานแห่งโลกอุดรที่ปรากฏเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน

 

รู้ที่อยู่ครับ ไม่ได้อยู่วัดครับ อยู่บนเขา ประตูถ้ำ สามารถ ปิด และ เปิด อัตโนมัติได้ หลวงพ่ออาท ได้เมตตาเล่ามา ท่านยังเล่าว่าเมื่อปีที่แล้วยังไปเยี่ยม ปู่สรวง แต่ปีนี้ยังไม่ได้ไปเลย คงมีคนอยากรู้กันมากว่าอยูที่ไหน ......

 

พี่อิทธิปาฏิหาริย์<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1168988", true); </SCRIPT> ทราบแค่นี่เองเหรอครับกระผมเคยถามหลวงตาเก่งที่ผมสร้างเหรียญให้ท่านในสมัยก่อนหลวงตาเก่งท่านธุดงค์ไปทั่วประเทษไทยเกี่ยวกับอายุของหลวงปู่สรวงผมถามว่าหลวงปู่สรวงอายุ500ปีใช่มั่ยครับท่านบอกไม่ใช่แปลว่าท่านอายุไม่ถึง500ปีแน่นอนครับ

 

หลวงตาเก่งรู้ดีแค่ไหนครับ ผมรู้ที่อยู่หลวงปู่สรวงตอนนี้ ตามคำบอกเล่าของ หลวงพ่ออาท แต่ไม่อยากบอกเท่านั้นเอง ... (หลวงพ่ออาท เป็นลูกบุญธรรม หลวงปู่สรวง ประวัติความเป็นมาอย่างไรของ หลวงพ่ออาท ถึงเป็นลูกธรรม หลวงปู่สรวงได้นั้น ผมไม่รู้จะเรียบเรียงคำพูดอย่างไร จึงไม่ขอเล่าละกัน )
ให้เป็นปริศนา ... ถ้าหลวงปู่สรวง อยากให้ใครรู้ คนนั้นก็ได้รับรู้เองแหละ

*** พูดเท่านี้ ไม่ได้หมายความว่ารู้เท่านี้ ***

 

ภาพหลวงปู่สรวงแจกฟรี พร้อมจัดส่งแล้วครับ

 

ภาพหลวงปู่สรวงที่เตรียมไว้แจกให้ท่านที่แจ้งความต้องการไว้ เป็นภาพที่ผมขออนุญาต คุณทิพยจักร และคุณ MOUNTAIN คัดลอกจากกระทู้นี้ นำไปให้ช่างภาพล้างอัดออกมา เป็นภาพขนาดโพสการ์ด จากนั้นได้นำไปขอบารมีครูบาอาจารย์ ให้ช่วยปลุกเสกให้ ขอแจ้งให้ท่านได้ทราบเพื่อเสริมศรัทธาและมั่นใจได้ว่า ภาพที่ได้ไปนี้มีพุทธคุณจริง จากบารมีของครูอาจารย์ คือ

1. บารมีหลวงปู่สรวง ผู้วิเศษแห่งภูตะแบง เทวดาเล่นดิน ฯลฯ

2. บารมีหลวงปู่ขุ้ย ฐิตธัมโม พระเกจิอาคมขลัง มหาอุตม์ มหาอุดมโชคลาภ แห่งวัดซับตะเคียน ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์

3. บารมีพระอาจารย์นเรศ ธัมมโชโต พระเกจิเจ้าของน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ สะเดาะเคราะห์ เสริมบารมี แห่งสำนักสงฆ์บุญน้ำทิพย์ (น้ำจาง) ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

พระอาจารย์นเรศ ท่านเป็นชาวเขมร บวชและจำพรรษาในประเทศไทย ที่สำคัญ พระอาจารย์นเรศ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่สรวง ในช่วงปี พ.ศ. 2534 (ปี พ.ศ.อาจคลาดเคลื่อน) ท่านเคยจำพรรษาร่วมในสำนักกับหลวงปู่สรวง บริเวณชายแดนไทย - เขมร เขตจังหวัดศรีษะเกษ ชาวบ้านเรียกสถานที่แห่งนั้นว่าป่าช้าง เนื่องจากเป็นถิ่นที่อยู่ของช้างจำนวนมาก เป็นเวลาประมาณ 1 ปี กับ 4 เดือน

อักขระยันต์ที่ลงในภาพ พระอาจารย์นเรศ ท่านจารมือทุกภาพ ท่านบอกว่า เป็นยันต์ของหลวงปู่สรวงนั่นเอง

เรียนถามท่านว่า อยู่กับหลวงปู่สรวงเป็นเวลานานได้รับการถ่ายทอดวิชาบ้างหรือไม่ ท่านไม่ตอบตรงๆ แต่ได้พูดว่า หลวงปู่สรวงไม่สอน แต่ถ้าหลวงปู่นั่งพักตรงไหนเป็นเวลา 10 - 20 นาที แล้วเข้าไปสังเกตที่ตรงนั้น หลวงปู่สรวงท่านจะขีดเขียนไว้ตามพื้นดินบ้าง ใบไม้บ้าง พระที่เคยอยู่กับท่านจะรู้ ชาวบ้านหลายคนเคยมีโชคจากการสังเกตกริยาของหลวงปู่แบบนี้

ท่านบอกอีกว่าหลวงปู่สรวง มีจังหวะก้าวเดินที่มั่นคงมาก ไม่ว่าจะเดินในระยะทางใกล้ หรือไกลเพียงใด หรือใช้เวลามาก น้อยเพียงใด ระยะระหว่างก้าวที่หลวงปู่สรวงเดินจะอยู่ที่ 1 เมตร 20 เซ็นติเมตร โดยตลอด

อีกอย่างหนึ่งแม้หลวงปู่สรวงจะเดินแบบธรรมดา แต่พระที่เดินตามหลัง เดินตามหลวงปู่ไม่ทัน พระอาจารย์บอกว่าเดินตามหลวงปู่เหนื่อยมาก

ท่านบอกว่ามีหนังสือประวัติหลวงปู่สรวงอยู่เล่มหนึ่ง หน้าปกเป็นสีคล้ายจีวรพระ หนังสือเล่มนี้ข้อความช่วงแรกๆ หลวงปู่สรวงท่านเขียนเอง แต่ตอนท้ายมีพระลูกศิษย์ใกล้ชิดเป็นผู้เขียนต่อ พระลูกศิษย์ท่านนี้ ขณะนี้ไม่ทราบอยู่ที่ใด และหนังสือเล่มนี้ ใครจะได้ไปบ้างท่านไม่ทราบ ที่ท่านเองก็ไม่มีเช่นกัน

ผมไม่มีเจตนาที่จะเชียร์ หรือโปรโมตพระอาจารย์นเรศ เจตนาคือเผยแพร่กิตติคุณของหลวงปู่สรวงสำหรับผู้เคารพนับถือหลวงปู่เท่านั้น

แต่ที่กล่าวถึงพระอาจารย์นเรศ ทั้งหมดเพื่อให้ท่านที่ได้ภาพหลวงปู่สรวงไปบูชาจะได้มีความมั่นใจว่า มีพระอาจารย์ที่เคยสัมพันธ์กับหลวงปู่สรวง ได้เมตตาในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย

ขออภัยทุกท่านถ้าถ้อยคำ หรือข้อความใดไม่สมควรครับ

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 

ภาพนี้เก็บไว้บูชาส่วนตัวครับ

 

ภาพนี้เป็นของพระอาจารย์นเรศ ที่ให้ผมมา

ท่านบอกว่า ภาพนี้ กับภาพของคุณ MOUNTAIN (ที่ผมขออนุญาตนำมาแจก) ระยะเวลาที่ถ่ายห่างกันมากกว่า 10 ปี แต่เมื่อสังเกตเค้าหน้าของหลวงปู่สรวง แทบไม่แตกต่างกันเลยครับ

 

เรื่องราวของหลวงปู่สรวงนี่สุดมหัศจรรย์เกินคำบรรยายจริงๆใครที่ได้เคยพบท่านและเคยได้ใกล้ชิดท่านถือว่ามีบุญจริงๆ(good) ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ

 

ดีใจมากๆที่กำลังจะได้ภาพหลวงปู่มาบูชา(deejai) (||)(sing) (ping)

 

(good) ผมได้ยินท่านนานมากแล้วๆ พอมองแล้วท่านน่าจะมีแนวทาง ปฏิบัติ คล้ายหลวงปู่ คำคนิง วัดคูหาสวรรค์ อ.โขงเจียง อุบลราชธานี นะครับ แววตา ลักษณะ ท่านเมตตาสูง มีพลังสูง และปล่อยวาง แล้วจริง
อนุโมทนาสาธุ...
แสดงความนับถือ

 

คล้ายกับถ้ำวัวแดงที่หลวงปู่สุภาท่านเล่าให้ฟังเป็นถ้ำที่ปกติจะไม่มีทางเข้าแต่สามารถเปิดแง้มได้แต่แง้มเพียงนิดเดียวไม่พอให้คนรอดเข้าได้จะเข้าได้ต้องมีฤทธิ์ย่อตัวให้เล็กจึงสามารถที่จะเข้าไปด้านใน. ปัจจุบันมีศิษย์ของหลวงปู่2ท่านบำเพ็ญอยู่ในถ้ำนี้และจะออกมาเยี่ยมหลวงทุกปี(smile)

สิ่งมหัศจรรย์ดีๆในบ้านเรามีอีกมากมายนั่นคงเพราะบ้านเมืองเรามีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาหลักของชาติ(good)

 

พี่อิทธิปาฏิหาริย์<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1168988", true); </SCRIPT> ทราบแค่นี่เองเหรอครับ หมายความว่า ผมอยากอยากรู้ที่อยู่ของหลวงปู่ผมเลยถามว่าทราบแค่นี่เหรอเพราะอยากให้พี่ตอบต่อ ส่วนเรื่องหลวงตาเก่งท่านก็บอกแค่อาบยุไม่ถึง500ปีขอละประเด็นกันพี่ หลวงตาเก่งเป็นใคร หหลวงตาเก่งก็คือหลวงตาที่เก่งและเคยเจอหลวงปู่สรวงเพราะท่านธุดงค์นานมาก

 

ภาพถ่ายหลวงปู่สรวง ผมส่งเป็นแบบไปรษณีย์ธรรมดานะครับ อาจถึงช้าหน่อย

แต่สอบถามไปรษณีย์แล้วอย่างช้าที่สุดไม่น่าจะเกิน 5 วันครับผม

 

ขออนุโมทนาทุกท่านด้วยครับ หลวงปู่สรวงเป็นพระอริยะเจ้าที่มีความลี้ลับสุดประมาณ ยากที่คนสามัญจะเข้าใจ แต่ที่ดีที่สุดคือตัวอย่างในการดำเนินชีวิตและปฏิบัติธรรม ท่านทำให้เราเห็นอย่างประจักษ์ชัดเจนที่สุดแล้ว การอยู่อย่างไม่ยึดติด การอยู่อย่างไม่ยึดมั่นถือมั่น การอยู่อย่างสันโดษ การประกอบคุณด้วยการให้ทานและเจริญเมตตาจิต การไม่ผูกพันเกาะเกี่ยว สิ่งเหล่านี้คือข้อวัตรปฏิบัติที่ดีที่สุดที่เราควรพึงเอาเป็นเยี่ยงอย่างในการปฏิบัติสืบไป

 

ที่อยู่ผมนะครับ
นายวิษณุวรรธน์ ทีน้อย (ฝากให้วรวัฒน์)
ทรัพย์ธานีแมนชั่น ห้อง 204
เลขที่ 165 หมู่ 8
ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง
จ.พิษณุโลก
65000

รบกวนขอซักรูปนะครับผม

 

รบกวนขอรับด้วยนะครับ

นายประเทือง เป็งแก้ว
สถานีอนามัยห้วยมุ่น
ตำบลห้วยมุ่น
อำเภอน้ำปาด
จังหวัดอุตรดิตถ์
53110
ขอบคุณนะครับ

 

เมื่อวานช่วงเช้าผมได้ไปทำบุญที่วัดเลียบราษฏร์บำรุง ได้กราบรูปเหมือนหลวงปู่สรวงและสรีระของหลวงพ่อสร้อย ที่วัดยังมีวัตถุมงคลที่หลวงพ่อสร้อยท่านสร้าง และหลวงปู่สรวงปลุกเสกร่วมอยู่ด้วยครับ ท่านใดสนใจไปทำบุญและกราบหลวงปู่สรวง หลวงพ่อสร้อย ปู่ฤษีนารอด ก็เรียนเชิญไปทำบุญกันที่วัดได้ และในวันที่ 19 มิถุนายน ทางวัดจะทำการเปลี่ยนจีวรหลวงพ่อสร้อยครับ ทุกท่านสามารถไปร่วมบุญกันได้ โดยได้รับแจ้งจากป้าผู้ดูแลว่า ทางวัดจะแจกผ้าจีวรหลวงพ่อสร้อยให้แก่ผู้ร่วมงานด้วยครับ จึงขอเรียนเชิญทุกๆท่านไปร่วมบุญด้วยกันน่ะครับ

ช่วงบ่ายไปทำบุญและกราบรูปเหมือนหลวงปู่สรวงที่สวนพุทธธรรม บายติ๊กเจีย มาครับ ( หลังจากที่ไปรอบแรกแล้วหาไม่เจอ หลงครับ [Embarrass ต้องโทรไปสอบถามเส้นทางจากทางสวนพุทธธรรม )

รูปเหมือนหลวงปู่สรวงที่สวนพุทธธรรมนี้ เหมือนในรูปถ่ายมากๆครับ ไปกราบแล้วรู้สึกเหมือนได้กราบหลวงปู่สรวงจริงๆเลยทีเดียว ที่วัดยังมีหนังสือประวัติหลวงปู่สรวง รูปหล่อบูชา รูปถ่าย ให้บูชาร่วมทำบุญกับทางวัดด้วยครับ ซึ่งตอนนี้สวนพุทธธรรม มีความต้องการจะขยายพื้นที่วัดออกไปเป็น 6 ไร่ เพื่อทำเรื่องเปลี่ยนเป็น" วัด " ( หากพื้นที่น้อยกว่า 6 ไร่ จะไม่สามารถขอเป็น " วัด " ได้ครับ )

ทางสวนพุทธธรรม จึงยังต้องการปัจจัยเพื่อซื้อที่ดินอีกจำนวนมาก งบประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งทางสวนพุทธธรรมจำเป็นต้องวางเงินมัดจำบางส่วนภายในปลายปีนี้ จึงบอกบุญแก่ทุกท่านครับ ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน มีความจำเป็น บุญที่ทำจึงเป็นมหากุศลยิ่งครับ ท่านใดสนใจร่วมทำบุญกับทางสวนพุทธธรรม สามารถติดต่อได้ที่

สวนพุทธธรรมบายตึ๊กเจีย อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยตรงได้ที่ ๐๒-๕๐๑-๓๕๓๖

 

ขออนุโมทนาด้วยครับที่ช่วยประชาสัมพันธ์งานบุญของทั้งสองวัด ซึ่งทั้งสองสถานที่ต่างถือว่าเป็นสายธรรมของหลวงปู่สรวง ใครที่อยู่ใกลเมีโอกาสได้ไปหรือประสงค์อยากบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่สรวงน่าจะลองไปดูครับรับรองไม่ผิดหวังแน่ๆ

ที่สวนพุทธรรมบายตึ๊กเจีย จะมีรูปเหมือนหลวงปู่สรวงสององค์ครับ อีกองค์หนึ่งจะเหมือนหลวงปู่สรวงมากๆเลยครับแต่ทางพระอาจารย์ท่านจะนำออกมาให้ผู้คนสักการะเฉพาะงานพิธีสำคัญๆเท่านั้นครับ เช่นงานไหว้ครูซึ่งสามปีจะจัดครั้งหนึ่งครับ