ทำอย่างไร จึง "เห็นธรรม"

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อัศวินสีชมพู, 19 เมษายน 2021.

  1. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
  2. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    อันนี้ ตัวอย่าง ในพระสูตรนะครับ


    โพชฌงคสูตร
    ว่าด้วยโพชฌงค์
    [๑๓๐๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ อันภิกษุเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก.

    [๑๓๐๘] ก็อานาปานสติ อันภิกษุเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้วอย่างไร ย่อมมีผล
    มาก มีอานิสงส์มาก?
    ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ อันสหรคตด้วยอานาปานสติ อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ
    ย่อมเจริญธรรมวิจยสัม
    โพชฌงค์ ...
    วิริยสัมโพชฌงค์ ...
    ปีติสัมโพชฌงค์ ...
    ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ...
    สมาธิสัมโพชฌงค์ ...

    อุเบกขาสัมโพชฌงค์ อันสหรคตด้วยอานาปานสติ อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ อันภิกษุเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้วอย่างนี้แล ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก.
    จบ สูตรที่ ๒

    - ฉบับหลวง เล่ม ๑๙ หน้า ๓๑๙

    .....................................................
    คือ ผมเข้าใจแบบนี้ครับ

    โพชฌงค์ เป็นชื่อพระสูตร
    แต่เวลาเรียก เรียก ว่า สติสัมโพชฌงค์

    โพชฌงค์ เป็นธรรม องค์แห่งการตรัสรู้ มี 7 อย่าง
    แต่เวลาเรียกในหัวข้อ จะเพิ่มคำว่า สัม เช่น สติสัมโพชฌงค์

    ในพระสูตรก็ใช้ คำว่า เจริญสติสัมโพชฌงค์

    โพชฌง กับ สัมโพชฌง ก้ไม่ต่างกัน
    ภาษาปฏิบัติ แบบบ้านๆ ก้เรียกสั้นๆ ว่าเจริญสติ

    แต่หาก คุณชอบ พระสูตร จะบัญญัติในความเข้าใจ ส่วนตัว
    ว่าเจริญสติสัมโพชฌงค์ ก็ไม่ต่างกัน
    เพราะ ผล ที่เกิดจากการเจริญสติ มันเป็นอย่างเดียวกัน
    คือ ทำให้จิตรู้เท่าทันตัวมันเอง

    และเมื่อมี สติสัมโพชฌงค์ เกิดขึ้น ได้อย่างต่อเนื่อง
    ย้ำนะครับ เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
    อีก 6ข้อ ในโพชฌงค์ มันจะตามมาเองอัตโนมัติ

    เรียกได้ว่า ธรรมในโพชฌงค์ เป็น ธรรมที่ เป็นไปเองล้วนๆ จากการสร้างเหตุ

    ฟังดีดีนะครับ ธรรมในโพชฌงค์ เป็น ธรรมที่ เป็นไปเองล้วนๆ จากการสร้างเหตุ
    (หรือเรียกว่า พ้นเจตนาล้วนๆ ตรงนี้จะอธิบายได้ชัด เกี่ยวกับ สันตติที่ถกกันมาก่อนหน้านี้)

    การสร้างเหตุคืออะไร ก็คือการเจริญสติ ก็คือ อาหาร ของโพชฌงทั้ง 7

    ลองไล่ดูอาหาร วิชชาและวิมุติ
    ......................................................................................
    อาหารของวิชชาและวิมุตติ
    ๑. วิชชาและวิมุตติมีอาหาร อาหารของวิชชาและวิมุตติ คือ โพชฌงค์ ๗
    ๒. โพชฌงค์ ๗ มีอาหาร คือ สติปัฏฐาน ๔
    ๓. สติปัฏฐาน ๔ มีอาหาร คือ สุจริต ๓
    ๔. สุจริต ๓ มีอาหาร คือ อินทรียสังวร
    ๕. อินทรียสังวร มีอาหาร คือ สติสัมปชัญญะ
    ๖. สติสัมปชัญญะ มีอาหาร คือ โยนิโสมนสิการ
    ๗. โยนิโสมนสิการ มีอาหาร คือ ศรัทธา
    ๘. ศรัทธา มีอาหาร คือ การสดับสัทธรรม
    ๙. การสดับสัทธรรม มีอาหาร คือ การเสวนาสัปบุรุษ
    การเสวนาสัปบุรุษอย่างบริบูรณ์ย่อมยังการได้สดับสัทธรรมให้บริบูรณ์
    การได้สดับ (เล่าเรียน) สัทธรรมบริบูรณ์ย่อมยังศรัทธาให้บริบูรณ์
    ฯลฯ
    โพชฌงค์ ๗ บริบูรณ์ ย่อมยังวิชชาวิมุตติให้บริบูรณ์วิชชาวิมุตติมีอาหารอย่างนี้ มีความบริบูรณ์อย่างนี้

    ..........................................................


    อีกอย่างนึง คำว่า สมาธิ
    การเจริญสติ ก็คือ การทำสมาธิโดยตรง
    เพียงแต่ว่า ผลของมัน เป็นสัมมาสมาธิแต่ถ่ายเดียวเมื่อทำได้ถูกต้อง
    ย้ำ เมื่อทำได้ถูกต้อง

    แต่ หากทำไม่ถูกต้องย่อมมี ที่จะแฉลบเข้าไปสมาธิแบบฤษีบ้าง
    ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
    เมื่อยังปรารภความเพียรอยู่ ก็จะเข้าไปมุมที่ถูกได้

    ฉะนั้น การเจริญ สติ จะทำในรูปแบบหรือนอกรูปแบบ ก้ทำได้ทั้งนั้น
    เป็นอีกเหตุผลนึง ที่ การเจริญสติ(วิปัสนา) ไม่มีการแก้ เพราะฝึกได้ แบบ อกาลิโก


    สำหรับ การเจริญสติ

    ฟุ้ง ก้กำหนดรู้ฟุ้ง
    หากรู้ว่าไม่รอด ก้กำหนดรุ้ว่าไม่รอด ก็มีเพียงเท่านี้ครับ
    เอาภาษาบ้านๆที่คุณเข้าใจ
    สำทับลงกับการเจริญสติ ก็เป็น การเจริญสติ ในชีวิตประจำวัน ได้ทุกอิริยาบท

    เวลา ผลมันเกิด มันจะเป็นอย่างเดียวกัน คือ ทำให้จิต รู้เท่าทันตัวมันเอง
    การปล่อยวางจะเกิดขึ้นทันที

    ส่วน
    "เวลาจิตหดหู่หรือจิตฟุ้งซ่าน ควรดูไปตามความเป็นจริง หรือใช้การแก้ด้วยโพชฌงค์ ยังสับสนตรงนี้ครับ"

    จิตหดหู่ เมื่อ กำหนดรู้ตามความเป็นจริง
    ก็คือ การเจริญโพชฌงค์ อยู่แล้วครับ หรือจะเรียกว่า เจริญ สติสัมโพชฌงค์

    ที่คุณ สับสน ผมมองว่า คุณ ไปสับสนคำคัพย์เฉยๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2021
  3. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
    เขากะบอกอาศัยวิเวกวิราคะถึงจะดูเฉยๆๆ
    มีละเหรอ
    ถ้ายังไม่อยู่วิเวกวิราคะ
    กะความเพียรแบบสัมมปทาน4
     
  4. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    เอ็งก็ลอง ไปดู ว่า สัมมปทาน 4 คืออะไร

    จำเป็นมั้ย ที่ต้องเอามาโคสะนาแบบเอ็ง
    ว่า ผมแค่มี สายสิน ทำงานหาข้าวกินไปวันๆใช้หนี้กะพอแว้วว หนี้ป๋มเยอะ
     
  5. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
    เปิดเพลงตามคอนเเซพกะได้55
     
  6. LiSaBDoDaYup

    LiSaBDoDaYup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,251
    ค่าพลัง:
    +657
    upload_2021-5-7_11-15-24.png

    พะยาจับคลี ว่า ไปแล้ว

    พระยาจักรีภาคต่อ ซังฮี้ มองไพ่แล้ว งง หน่อยๆ
    แต่ขอ วาง บิดคอยไปสองสามเหรียญ แล้วขอดู
    จ้าวอะแซkunstกี้จะว่า อย่างไร

    ปล : มาทวนอีกที สงสัย เทสสาแลค ทำ เวลาลีก หน่อยๆ แหะแหะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2021
  7. ลุงโจฮันผี

    ลุงโจฮันผี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2021
    โพสต์:
    731
    ค่าพลัง:
    +345
    ลองให้ไปอ่านอาณาปานสติสูตรแบบเต็มๆสักรอบนึง
    อ่านช้าๆไม่ต้องรีบมีสมาธิ เมื่ออ่านจบจับอาการจิตมาเล่าให้ฟังก่อน (ไม่ต้องจดอะไรออกมา ไม่ได้ออกสอบ)
     
  8. LiSaBDoDaYup

    LiSaBDoDaYup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,251
    ค่าพลัง:
    +657
    upload_2021-5-7_11-50-58.png

    กาว้องเอ้ย โสะ สัย กุ เข้า ผิด เว๊บ เป่า ว๊ะ

    เหมือน ที่นี้ จะ ฉาย ซีรี่ เว้ยเฮ้ย !!!
     
  9. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    อานาปานสติ ไม่ใช่ดูลมหายใจเข้าออก
    แต่อานาปานสติ มันเห็นการเกิดดับได้ง่าย ให้เห็นแบบนั้นไปเรื่อยเเห็นอาการเกิด
    อาการดับ
     
  10. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
    555มันเป็นความหลอนของคนนอนดึก
    ลูกศิษย์พระพุทธเจ้าดันเชื่อผี555
    มันน่ามะละ
     
  11. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    อันนี้ ภรรยาหรือฝาชี พิม
     
  12. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ทราบอยู่แล้ว ทำไมเหรอ
     
  13. LiSaBDoDaYup

    LiSaBDoDaYup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,251
    ค่าพลัง:
    +657
    เมื่อ กรรมกร กาว้อง ได้ ซับพอต บียอนเซ่

    หอบหับคามือ <--- กาว้องโองรี่ 40+
     
  14. Kunst

    Kunst สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +16
    ตอบได้ดีครับ

    ถ้ารู้ว่าโพชฌงค์และสัมโพชฌงค์ เป็นองค์ธรรมเดียวกัน ก็โอเค จบปัญหา ไม่ต้องกังวลเรื่องศัพท์แสงนะครับ ภาษาพระไตรฯหรือภาษาชาวบ้าน จัดมาได้เต็มที่ ผมเข้าใจ

    จากการปฏิบัติมา ก็พบว่า จริงแล้วก็เข้าไปแก้ไม่ได้ เพราะพอเจริญธรรมที่เข้าไปแก้ ้ก็กลายเป็น จิตหดหู่ก็ดับไป ธัมมวิจยเข้ามาแทน ก็มาดูที่องค์ธรรมที่เป็นปัจจุบันแทน

    หรือเมื่อสมาทาน อานาปานสติ หายใจเข้า หายใจออก ที่เห็นชัดคือ สติ สมาธิ ธรรมวิจย วิริยะ ส่วน ปีติ ปัสสัทธิ อุเบกขา เห็นไม่ชัด

    สรุปคือ รู้ชัดธรรมตามความเป็นจริงไปเรื่อยๆ ล่วงส่วนไปเรื่อยๆ เห็นความจางคลายและสลัดคืน ดีกว่านะครับ
     
  15. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,258
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    เอาจริงๆ การปฏิบัติ ก้มีแค่นี้ละครับ

    กำหนดรู้กายไหว จิตเคลื่อนไปเรื่อยๆ (การเจริญสติ จะด้วย วิธีใด วิธีนึง ใน 21 วิธี ตามสติปัฏฐาน หรือ ตามความถนัดและคล่องแคล้ว ใช้ได้หมด อานาปานสติ ก็เป็น 1ใน 21 วิธี ของ สติปัฏฐาน)

    " รู้ชัดธรรมตามความเป็นจริง จะกลายเป้นผลงาน ไปเรื่อยๆ"
    "เห็นความจางคลาย และสลัดคือ เป้นผลงานที่จิตจะเป็นไปเองตามลำดับ"
     
  16. LiSaBDoDaYup

    LiSaBDoDaYup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,251
    ค่าพลัง:
    +657
    เมื่อ ผู้เฒ่าอะแซkunstกี้ กลับมารบเต็มกำลังเยี่ยงนี้แล้ว

    ขอ อนุสหาย ไม่ถึงกะญาติกา

    คำว่า "จิตหดหู่" นั้นเป็น คำไทย ที่บังเอิญว่า ยังมีคนใช้
    ทำให้ภาษามัน "ดิ้นได้" จนความหมายน่าจะเคลื่อนไป
    จากเดิมตอนสมัยอโยธยาศรีรามเทพนครโน้น

    จิตหดหู่ หากเปิด พระสูตรอื่น จะกล่าวถึง อาการงอกลับ
    มารู้ที่จิตเมื่อพิจารณทุกข์(สัจจ) ภาษาปัจจุบันสุดดอน
    เขียวเล็ก เรียกว่า "จิตอึ๊ก" ถอยลงไปตอนเผ่าอาข่า ก็
    "ตุ๊หาอะไร... ตุ๊หาพุทโธ พุทโธตุ๊ไม่หาย"

    ซารุป จิตหดหู่ คือ จิตตั่งมั่น

    จิตงอกลับมารู้ที่จิต กาลนี้ ไม่ใช่เวลาจะทำ สมาธิ
    เข้าไปอีก แต่จะต้อง หัดออกรู้ ออกดู รื้อค้น หรือ
    ยกจิตขึ้นสู่วิปัสสนา ( ซึ่งคนภาวนาเป็น ก็จะ อ๋อ
    ให้ไปเจอกันที่ จุดนัดพบนักภาวนา ถือว่า พอดี
    อย่าเลยไปกว่านั้น แต่ไม่ห้ามหากเป็น น้องๆพระจักขุบาล )

    ซารุปอีกที เมื่อรู้ว่า จิตดี จิตตั่งมั่น อย่าให้จิตติดเฉย
    ( แต่ก็ใช่ว่า เอ๊อะ ตั้งมั่น แล้ว ออกเลย ก็ไม่เอา
    ตรงนี้ก็จะยากขึ้นมาอีกนิด เรื่องของการประครอง
    รอให้ ถึงจุดเหมาะสมเสียก่อน หากเป็น หลวงพ่อ
    ก่อนบ่ายพฤหัส ก็จะ บอกว่า อย่ารีบร้อน ให้มัน
    ถอยไปสู่การพิจารณาเอง ...แต่ มันก็จะไม่เองอีก
    ถ้าไม่ได้หัดรื้อค้น )

    ส่วนจิตฝุ้งซ่าน "เวลานี้จิตข้ามีแต่ความฝุ้งซ่านไม่สงบ
    เลย" หลวงปู่หลังบ่ายพฤหัสสองวันกล่าวไว้

    ดังนั้น จิตฝุ้งซ่านก็คือ อาการรู้ว่า ตนจิตน้อมไป
    วิปัสสนาตลอดเวลา ( แต่ จับได้ว่า มันไม่มีการ
    เปลี่ยนแปลง แถม ยังรู้สึกว่า อินทรียตนดีเยี่ยม
    เกิดวิปัสสนาเที่ยง ) จนหลวงพ่อหลุดโค้งดารา
    ท่านนึงไปหาหลวงตา หลวงตาก็บอกว่า เชื่อม
    ขนมอารัวนะ บริกรรม เพี้ยง!!!! ดีที่สุด [ คือต้อง
    กลับไปปรากรอบ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา ]

    อ้อ ตรงนี้ลืมไป ห้ามใช้คำว่า "กำลังสมาธิไม่พอ"
    เพราะจะอุปทานไปอีก มันไม่ใช่เรื่องไม่พอ
    มันพอจนเกินพอ ธรรมจะเตือนเรื่องมิจฉาทิฏฐิ
    เห็น สิ่งใดๆเที่ยง ยังมีแฝงอยู่ อะฮับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2021
  17. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ชักกระบี่เพื่อดูคม
    ชักคำพูดเพื่อดูคมวาจา
    ชักปัญญาออกมา
    จึงจะรู้ว่าปัญญาคม
     
  18. LiSaBDoDaYup

    LiSaBDoDaYup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,251
    ค่าพลัง:
    +657
    ไหนๆก็ ไหนๆ

    ขอเสนอ คำไทย บานลาคลำ อีก คำ

    "เบื่อหน่าย" อันเป็นเหตุให้ "คลายกำหนัด"

    คำว่า เบื่อหน่าย ก็น่าจะดิ้นผิดกับ สมัยอโยเดีย

    หากจะบิดคำให้คงความหมายเดิม ต้อง
    เอา ทุกข์บีบคั้นตั้ง แล้ว จะก่อให้เกิด
    อาการ "อิจหนาระอา" ต่อ สัจจะที่บีบอยู่
    ผละไม่ได้เลย ( จะเห็นว่า หากใช้คำว่า
    เบื่อหน่าย พวก กะลอกธรรม มันจะไป
    โอ้ยเซ็ง กุ มะเอาแล้ว ปล่อย )

    ซึ่งจะคนละเรื่องกับ อิจหนาระอา ซึ่งก็
    ยังโดนบีบคั้นอยู่ตลอด หนีไม่ได้ เพราะ
    เป็น กิจในการภาวนา เมื่อ ขันติ ยิ้มหวานๆ
    ให้ใจคลี่บานออกมา ก็จะเห็นได้ว่ามัน "คลายกำหนัด"

    ทีนี้กล่าวแบบนี ไม่ใช่จะเน้นว่า ใช้คำอะไร

    แค่จะให้เห็นว่า "สัญญามันเคลื่อน" ภาษามันดิ้น
    อันเป็น กรรมของเผ่าพันธ์อโยเดีย

    ตามเห็น สัญญาที่เคลื่อน เป็นสภาวะเกิด ดับ
    แทนการ หาคำไหน หรือ ภาวนายังไงจึงจะถูก
     
  19. LiSaBDoDaYup

    LiSaBDoDaYup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,251
    ค่าพลัง:
    +657
    ทีนี้ พระร่วมสมัย ที่ภาวนาแล้ว ผั๊วะ จะเน้นกัน

    ไม่ใช่สติ ไม่ใช่สมาธิ ไม่ใช่จิตตั่งมั่น
    เพราะอะไรพวกนี้ ต้อง บริหารให้ถูกสมัย
    ซึ่งจะเป็นเรื่อง โพชฌงค์ องค์ประกอบ
    การ สืบเนืองความเป็นเผ่าพันธ์ องค์"พืช"

    ส่วน สัมโพชฌงค์ จะเป็นเรื่อง อนาสวะ

    จะต้องเอา วิเวก วิราคะ นิโรธน ที่ได้
    จาก โพชฌงค์ มา เจมส์ศักดิ์ข้าวมันไก่

    จึงจะได้ สัญญาหมาย อาการสลัดคืน
    มาจับกมลชนก ภาวนาต่ออีก ( หากไม่ใช่
    คนเจอทางแยก แล้ว โดดขึ้นฝั่ง )
     
  20. ลุงโจฮันผี

    ลุงโจฮันผี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2021
    โพสต์:
    731
    ค่าพลัง:
    +345
    สอบถามเพื่อความกระจ่างครับ
    คำว่า” เอาจริงๆการปฏิบัติก็มีแค่นี้” ก็ดูไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากนี่ครับ แค่วางจิตให้ถูก
    แต่ทำไม ผู้สอนมักพาผู้ถูกสอน ไปเสวยอารมณ์ตามกรรมฐานกองต่างๆก่อน(อ้อมโลก) คงไม่ต้องยกตัวอย่าง มีสารพัดวิธีมากมาย ด้วยหรือครับ ยิ่งยุคโควิดระบาดจะตายวันตายพรุ่งไม่รู้ได้ ยังเสวยอารมณ์กันอยู่เลย อยากทราบเหตุผลครับ.

    ขอยกเว้นกรณีสายบุญ จองห้องคอนโดล่วงหน้าบนสวรรค์นะครับ คนละ Target มาร์เกตติ้งคนละกลุ่มกับนักภาวนาอยู่แล้วที่ไม่เน้นสวรรค์

    เพื่อความกระจ่างแก่ลุงและผู้อ่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...