ลักษณะ ความรู้ขั้นโลกุตระ..ที่ควรสังเกตุ

เขาถามถึงวิธีทำ ถ้า บอกเขาไม่ได้
ก็แสดง ว่าไม่เข้าใจ ในบริบทที่ยกธรรมหลวงปู่พุธ มา

 

ถามหาวิธีทำ เหมือนทำกับข้าวหรือไง?!!!

ก็ภาวนาไปสิ ก็จะเจอเอง. โง่ไปได้...

 

นู้นต้องไปตอบ จิ๊ง จก ตุ๊ก แก นู้น

ว่าไง จิ๊ง จก ตุ๊ก แกรเครมั้ย

 

ประเด็นคือ เขาถามสมุทเฉท อายตนะดับไหม

และที่คุณโสดาเขาสลด น้ำตาไหล มันเป็นเอฟเฟ็คของการรู้สภาวะนี้ หลวงปู่เทสก์ ท่านบอกว่า คนที่ถึงอนัตตาญาณ จะมีการสลดสังเวชตามมา หรือเฉยๆ ก็ได้

ตอบไม่ได้ให้ยอมรับว่าตอบไม่ได้

 

เริ่มพาลละ!!

 

ลูกเพ่ก้ลอง ย้อนไล่ไปดู ก้ตอบตามสถานะการ

 

เขาเขียนกระทบฉิ่ง!! นั่นละสันดานเขา!..

 

เอาเครื่องช่างน้ำหนักไปชั่งอากาศมันกะว่างดิ
ง่ายดีออกอากาศนี้ว่างมัยมัยกะว่างตามที่เห็น55

 

พุทธศาสนา จะต้องเป็นเรื่อง พหุลีกตา ทำให้มว์ากๆ
เป็น ชาครินานุโยค(สะกดผิดเป่ามะรุ)แปลว่า ตื่นตัวบึ๊ดจั้มบึ๊ด

อย่างวันนี้ ป๋ม บอกให้ big fanta กำหนดรู้ "ว่างๆ ว่างๆ"
ที่ ทำเป็น เออะ อะ ว่าเห็น ว่ารู้ ว่า ทรงไว้อยู่ เห็นอยู่

ป๋มก็บอกไปว่า ให้ พินา กุศลเกิด หรือ ไม่เกิด พร้อม
ยกตัวอย่างให้ไป ขับรถ โครม!!

คนฉลาด จะไม่ต้อง ขับรถ นั่งอยู่หน้า คอมฯ นี่ก็จะ
ทำปากจื่อๆ พ่นลมออก บรือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ได้เลย

" ว่างๆ ว่างๆ "

แต่ถ้า สังเกตไม่ทัน กุศลเกิด หรือ อกุศลเกิด

ก็เคยแนะนำไปบ่อยว่า ให้ไป ตักบาตรตอนเช้าๆ
แม้น พระทุศีล ก็ได้

แล้ว สังเกต "ว่างๆ ว่างๆ" ว่างอะไรของมะอึง!!!
ว่ามี กุศลเกิดไหม หรือ ว่า อกุศลเกิด

ซึ่งโดยหลักปฏิบัติ ก็ต้อง หมายเอาที่ กุศลเกิด
หาก อกุศลเกิด ก็ ประเคนสันติ บร๊ะเฮีย ไปไกลๆ
อะไรงี้

แล้ว ตักบาตรบ่อยๆ

ทำอะไรก็ได้ ให้ กุศลเกิดบ่อยๆ แล้ว "ว่างๆ ว่างๆ"

ว่างอะไรของมะอึง ก็ สวนไปเลย ว่างแบบทิ้งเหว
มีกุศลรองรับจำนวนมาก ไม่หวั่นไหว แม้วันมาม่า

พอได้แบบนี้

"ว่างๆ ว่างๆ" มันจะกลายเป็น สัญญา มี มานะ มานี
ปิติ ชูใจ ทำให้ ทรงฌาณ สมาบัติ ได้

เหลือแต่ กำหนดรู้ว่า "ว่างๆ ว่างๆ" นั้นเป็น ภพอย่างหนึ่ง(ไม่ว่าง)

ด้วยเหตุเพียงแค่นี้ พระศาสดาก็ตรัสว่า พึงพยกรณ์
มรรคผล อิทธิปาฏิหารย์ ญาณทัสนะ บรรดามีในโลก
แต่ ว่างๆ ว่างๆ แลอยู่ ไม่ น้ำตาเล็ดน้ำตาไหล โซดาหนาสันตี !!!

 

จี จี พระสูตรว่าด้วย สุญญตาไปเลย ถูกต้องแน่นอน
จะมี พระสูตรอื่นอีก

แต่สาวกสมัยนี้ เอา สันติ อุดฯ หมด

ปัญหา มันอยู่ที่ ไม่สามารถ อธิบาย แยกแยะ

การรู้ธรรม

การรู้อรรถ

การแจ้งว่ารู้อรรถ

การแจ้งธรรม

ว่ามันต่างกันยังไง

และก้อ อยู่ที่ big fanta ถาม เพื่อเป็น ม้านิว์ฬฬฬฬฬมังกร

หรือว่า ถามแบบคนบึ๊ดจั้มบึ๊ดพาหุลีกตาชาครินานุโยค

 

ว่างเก๊าคือว่างวงจรปกิจสุมทรบาท
วงจรนีมีอันไหนนิพพานไม่มีอันนั้น
ส่วนนิพพานจะมีอย่างอื่นป่าวไปดูเอาเอง
เดากันอ่อนมากบอกตรง

 

ในสภาวะที่ปัญญาญาณทำงาน เช่นสมุทเฉทประหาน กำหนดอะไรไม่ได้ในตอนนั้น... รุ้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องจริง

 

อันไหนเดาน่าจะพอเชื่อได้นะไม่ได้รู้เดา55

 

กั๊กๆๆๆๆ อเหตุทิฏฐิ แหลก กระบาน

บรรลุธรรม เกิดลอยๆ บริหารจัดการไม่ได้

มรรคเกิดเอง สติเกิดเอง สมาธิเกิดเอง ปัญญาเกิดเอง

สันตี !!!

 

เป่าลมใส่ลูกโป่ง คิดว่าลมในลูกโป่งเหมือนว่างใช่ะมะ แล้วลองดันลูกโป่งลงบ่อน้ำ จะรู้สึกว่าลมในลูกโป่งมันว่างอยู่มั้ยคะ

 

เรียบเรียง มาใหม่ จิ

อย่าใจสั่น

ไม่ใช่ จีบสาว จะ ปากสั่น มือสั่น ทำไมฮับ

เวลา อธิบายธรรม



มันถึงได้ " ได้แต่ซื้อกิน "


กิวส์ๆ

 

ขอเชิงอัด : ม้านิลมังกร หน่อยเจ้าค่ะ

 

โง่วไม่เลิกอีกแล้ว
โสดาเขาฟังธรรมแล้วโน้มกำหนดสติตาม ขณะแรกมีเจตนา ทำไปเรื่อยๆ ลมหายใจแต่ละขณะไม่ใช่อารมณ์จิตเดียวกัน สติ สมาธิ มันไล่ระดับเกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนขณะสุดท้ายเกิดสมุทเฉท ...

ในสภาวะตัวปัญญาทำงาน อะไรก็แทรกแซงมันไม่ได้ เพราะมันต้องทำหน้าที่เทสังโยชน์

หุบปาก แล้วนั่งลงซะนะ

 

จะพูด แต่เช้าแล้ว มงคล38

ไปโดน พวกพราหม์มันเขียนตำราใหม่ หลอกแดก
ว่า มงคลมี 38 ข้อ ลูบๆ คลำๆ

จริงๆ ในกลุ่มคง มงคล พระศาสดา ตรัสแยกกัน
เป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มสมาทานกลุ่มไหน ถึงนิพพานหมด

ทีนี้ เวลา การ้อง จะอธิบายธรรม แล้ว ปากสั่น ใจสั่น
ไม่กล้า เอยวาจา

พึงสดับ มงคลวรคสุดท้าย

" จิตของผู้ใดอันโลกธรรม ทั้งหลายถูกต้องแล้ว
ย่อมไม่หวั่นไหว ไม่เศร้าโศก
ปราศจากธุลี เป็นจิตเกษม นี้เป็นอุดมมงคล "

กอปปี้มาแปะ อะนะ หากให้แปลเองจาก บาลี
บางคำนี้ คนละเรื่องเลย หากรักษาบาลี พอสดับ
แล้ว เหมือน พระราชา สั่งให้ออกไป รบ !!!

ไม่ใช่ อธิบายธรรม ขาสั่น ต้อง ไปดูในตู้กระจก หาซื้อกิน

 

ก่อนอื่น คุณหนู ไปรับยา รักษาเก๊า ก่อนดีมั้ย