เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wanwi, 11 ตุลาคม 2016.

  1. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    โอ...จริงๆครับ ยังกับรู้ใจผู้ถ่ายทอด มี่ความสุขจังที่ได้เขียนออกมาให้ผู้สนใจรับรู้
     
  2. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    มีครวามรู้อีกมาก จะค่อยๆแกะเกาออกมาให้อ่านกันครับ
     
  3. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    ไม่ต้องรอแล้วครับ เดี๋ยวตอบทุกคนเสร็จ ลุยกันต่อได้อีกยกใหญ่
     
  4. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    บ้ายอครับ...สู้ตายครับผม
     
  5. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    คนถ่ายทอดก็สนุกครับ บางเรื่องไม่เคยเปิดอ่านละเอียด บันทึกไว้หลายสิบปี ลืมแล้วเช่นกัน
     
  6. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    มาล่ะ...แฟนคลับของแท้...ว่าแต่พวงมาลัยอย่างเดียวเหรอครับ ไม่ห้อยอย่างอื่นพ่วงมาด้วย....ล้อเล่นนะคุณ อย่าถือสาผสว.เด้อ
     
  7. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    เห็นทีต้องรีบจดลิขสิทธิ์ เดี่๋ยวพวกเกาหลีมาขโมยไปทำซีรี่่ส์...555
     
  8. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    ขอบคุณด้วยใจจริงครับ
     
  9. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    สนุกไปด้วยกัน ทั้งคนเขียน คนอ่าน วิน วิน ครับ
     
  10. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    เรื่องเค้าดีครับ ผมแค่เติม ชูรส น้ำปลา พริกขี้หนู มะนาว ปรุงรสให้แซ่บยิ่งขึ้นเท่านั้น
     
  11. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    อาจมีบางท่านที่ตอบตกหล่นไปบ้าง อย่าถือสากันนะครับ...ขอบคุณทุกกำลังใจอีกที ก่อนเข้าเรื่องกันต่อ....

    (ต่อ).....ฯ เผชิญหน้า "เสือสมิง"!!
    ------------------------------------

    ชาวทะเลมีคติประจำใจว่า....คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล!

    คนป่าเขา ชาวดอยดงพงไพรจริงๆ ไม่ใช่ป่าหลอกๆเหมือนสมัยนี้ ก็เน้นสอนคน
    เพิ่งเข้าป่าว่า...คืบก็ป่า ศอกก็ป่า อย่าไว้ใจความเงียบสงบ ต้นไม้ใบหญ้าที่ไม่ไหวติง
    ดูไร้พิษภัย อาจเป็นหญ้าพิษสัมผัสคันคะเยอ บางคนแพ้ถึงตาย ผมเคยเจอคนงานแพ้ยางต้นรัก เป็นขี้เรื้อนกุดถังเหมือนท้าวแสนปม สุดท้ายโลหิตเป็นพิษตาย (สมัยนั้น เขาไม่เรียกเลือดเป็นพิษ แต่จำไม่ได้แล้วว่าเรียกยังไง)...ใต้ผืนหญ้าระบัดงดงามเป็นทิวทุ่ง อาจมีอสรพิษร้ายกบดานสงบนิ่ง เผลอเหยียบหรือเฉียดใกล้ทำให้มันตกใจ ตายไม่รู้ตัวง่ายๆ

    ผมยังไม่เคยเล่าสภาพแวดล้อมของป่าที่ล้อมเหมืองใหญ่สุดในสวนผึ้ง...ขอเล่าพอเป็นสังเขปให้เห็นภาพ

    บนอาณาจักรแห่งขุนเขาตะนาวศรีที่ทอดตัวยาวเหยียดกั้นเขตแดนประเทศระหว่างไทย-พม่ากินพื้นที่หลายจังหวัดอาศัยสันปันน้ำเป็นที่ปันแดน แต่เมื่อคุณเข้าไปยืนหรือเหยียบในป่าแห่งนี้ มองไม่ออกหรอกว่า ตรงไหนคือสันปันน้ำ ไหนคือไทย? หรือดินที่เหยียบอยู่ก้อนไหนเป็นพม่า มอญ กะเหรี่ยง

    ยิ่งส่วนที่เรียกว่า"สวนผึ้ง"ครั้งอดีตเลยกึ่งพุทธกาลไม่กี่ขวบปี ต้องถือว่าเป็น"ป่าดิบ"ตัวจริง...เหมืองใหญ่ที่มีคนงานกว่า 200 ชีวิตรวมกับผู้บริหารอีกไม่กี่คน..ถือเป็นเพียงจุดเล็กน้อยเป็นรอยด่างบนแผนที่ป่าผืนใหญ่แค่นั้น

    เมื่อมองจากตัวเหมืองออกไปรอบด้าน หรือขึ้นไปยืนที่เป็นจุดตั้งร้านชำ กงสีผู้การ
    บริเวณนี้จะเป็นจุดสูงสุดของเหมือง มองได้รอบด้านเป็นวิวพาโนราม่า เลยจากขุมเหมืองไป หรือจากปากทางเข้าเหมืองมา ทุกทิศทางล้วนเป็นป่า ป่า และป่า...ดงไม้ทึบใหญ่ทะมึนเลยขุมเหมืองที่กว้างใหญ่ออกไปเพียงไม่กี่ก้าว หากเข้าไปในดงนั้น เงยหน้ามองไม่เห็นท้องฟ้า

    เอาแค่ด้านหลังที่พักคนงาน เดินสองก้าวก็ป่าแล้ว บางทีวิ่งเข้าปลดทุกข์ในป่า เพราะส้วมเต็ม เสียวสันหลังวาบๆ นั่งไป หันหน้า ซ้ายที ขวาที ได้ยินเสียงแกรกกรากข้างหลังก็สะดุ้งโหยง ภาษาไม่สุภาพพูดประสาชาวดงไม่ดัดจริตตรงๆก็ว่า...ขี้หด ตดหาย นั่นแล

    ป่ากับต้นไม้ดงทึบ ให้ความรู้สึก"หลอน"ทุกอณูเพียงนี้ ยังไม่เทียบกับ สิ่งที่อาศัยในป่าเหมือนเรา แต่เราไปรุกล้ำก้ำเกินแย่งที่ ทำให้คนกลายเป็นปฏิปักษ์กับพวกมัน...นั่นคือสัตว์ป่านานาชนิด ทั้งเล็กและใหญ่

    เจ้าแห่งพงพฤกษ์ดงดิบ หลายประเภททั้ง หมูป่า ควายป่า(กูปรี) กระทิง ช้างป่า ล้วนกลัว และเกลียดขี้หน้ามนุษย์ขี้เหม็นอย่างพวกเราทั้งสิ้น

    โดยเฉพาะ เจ้าป่าตัวจริง สุดยอดนักล่าแห่งขุนเขาตะนาวศรี...เจ้าลายพาดกลอน!!!
     
  12. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    ในช่วงขุดล้างป่าช้า ...ผมผิดสังเกตเห็นพวกมอญ กะเหรี่ยง รีบกลับแค็มป์ก่อนค่ำทุกครั้ง แรกๆก็เฉยๆเพราะพวกเราเดินกลับแค้มป์มืดๆตั้ง4คนไม่มีอะไรต้องกล้ว มีทั้งจอบพลั่ว เสียม อีเตอร์ เป็นอาวุธหน้าไหนแหลมมาจะคนหรือสัตว์ พ่อล่อแหลกแน่

    ทางเดินแคบๆในป่าห่างแค้มป์หลายร้อยเมตร จะว่าไปถ้าเดินคนเดียว เปลี่ยวเกินห้ามใจ เพราะบางช่วงข้างทางหญ้าสูงท่วมหัว แต่พวกเราถือไต้จำเป็นทำใช้กันเอง ก็พอส่องเห็นทางไม่เผลอเดินเหยียบงู ที่ต้องระวังคือ เจ้าเห่า หรือกะปะ แมวเซา โดนแล้วหามไปฝังได้เลย ไม่ต้องรอไปอนามัยที่อยู่ห่างด้วยระยะการเดินทางเกือบวัน

    ขุดกระดูกป่าช้าผ่านไปเกือบอาทิตย์ เจ้ามอญที่พอเริ่มสนิท เข้ามาพูดกับผม..."อย่ากลับค่ำ บ่อยๆนะเพ่" (พยายามจินตนาการ คนพม่าพูดไทยในเมืองไทยที่เราได้ยินกันออกบ่อยนะครับ จะได้นึกสำเนียงออก)...มันเห็นผมทำหน้างงๆ ก็เลยพูดต่อเบาๆเหมือนกระซิบ...

    "เสือ เสือ แถวนี้เสือดุ"

    เออ...เป็นหนแรกที่ได้ยินคนพูดคำว่า"เสือ"...นึกว่าเข้าป่า อย่าพูดถึงเสือ หยั่งคนโบราณว่าซะแล้ว....

    "กินคนด้วย กินหลายคนแล้ว"!!!

    เกียรติเห็นเราสองคนซุบซิบก็เดินเข้ามาร่วมวง พอรู้เรื่องก็ผสมโรงว่า..."กูว่าแล้ว ทำไมพวกมันกลับก่อนค่ำทุกที เย็นนี้กลับพร้อมพวกมันเถอะว่ะ"

    ของพรรค์นี้ ใครจะไปขัดคอกันเล่าครับ จากนั้นทุกวันพวกเราก็เดินรวมกลุ่มกลับพร้อมกัน ไทย มอญ กะเหรี่ยง สามัคคีหนีช่วงตะวันตกดิน ยิ่งในป่าทึบเช่นนี้ ตะวันลับยอดไม้ไวเหลือเกิน เห็นดวงแดงๆเหนือยอดไม้แพล่บเดียว...อ้าว ! ท่านชักราชรถลับเหลี่ยมเขาไปแล้วซะงั้น

    จนเสร็จพิธี ฌาปนกิจ เรื่องเสือก็เลือนไปจากความรู้สึกของผม เพราะมัวยุ่งกับการต่อสู้ชีวิต สู้กับธรรมชาติ กับงานหนัก ผมตั้งเป้าไว้ว่า เหลือเงินสัก4-500บาท ก็จะออกจากเหมืองกลับบ้านไปหาพ่อ เยี่่ยมน้องต่างแม่เมืองกรุง...แต่เงินสัก500 สมัยนั้นทำไมมันหายากเย็นยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นเขาตะนาวศรีปานนั้น ขนาดบางวัน ผมทำงานสองกะ เช้าอยู่ในขุมเหมือง กลางคืนขอขึ้นไปโกยหิน ดินทรายบนรางแร่ คุมอย่าให้ก้อนหินก้อนโตๆหลุดเข้าราง ซึ่งงานตรงนี้หนักมาก เพราะต้องใช้ทั้งพลั่วสลับกับคราดคอยกราดหิน คอยโกยหินที่ตกมาลงในตะแกรงเหล็ก มีช่องเป็นตาข่ายเล็กรอบตะแกรงเพื่อให้แร่หรือดิน วัสดุเล็กกว่า หลุดรอดลงรางไป...บางทีหินเต็มตะแกรงไวมาก เพราะเครื่องจักรพลังดูดมหาศาลส่งขึ้นมาตามท่อเร็วกว่าแรงคน ต้องโกยแข่งกับเครื่องจักรจนหน้ามืด งานโกยหินนี้หนักจนเหมืองต้องเพิ่มค่าจ้างให้อีกกะละ 3บาทต่อคน

    จากนั้นเว้นอีกคืนสองคืน ผมขอลัดกะไปเฝ้ารางแร่ที่กำลัง
    จวนได้เวลาขึ้นแร่...ทำงานหนักเยี่่ยงวัว เยี่ยงควาย เหล้า เบียร์ สาโท อุ กระแช่ ทั้งไทยทำเอง ชาวบ้านทำให้ไม่กินทั้้งนั้น เพราะผมเป็นโรคแพ้กอฮอล์ ซดเข้าปากสักแก้ว ตัวงี้แดงเถือก ผื่นคันขึ้นเต็มตัว เป็นโชคของผม แต่โชคไม่ดี ถูกเพื่อนรักทั้ง3คนที่อยู่ด้วยกันให้เลี้ยงบ่อยๆ...ผมก็เลยเหมือนหัวหน้ากลุ่ม เลี้ยงแล้วกินแต่กาแฟหรือน้ำเปล่า นั่งเป็นเพื่อนดูพวกมันเมากัน บุหรี่สูบบ้าง(เกล็ดทองซองละ 4บาท ฉีกซองขายมวนละหนึ่งสลึง...4มวน1บาท)

    ถึงวันเงินออกทุกท้ายสัปดาห์ หักค่าเชื่อ กิน ดื่ม สูบร้านของชำแล้ว เหลือเงินเต็มที่20-30บาทแค่นั้น...ชาติไหนจะได้เงินครบ 500หนอนี่? อนาถกับชีวิตสุดๆ
     
  13. soidao2559

    soidao2559 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2016
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +3,754
    ติดตามครับ:cool::cool:
     
  14. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    อย่างที่เคยเล่า...เหมืองแห่งนี้ คนงานไม่มีเงินเดือนกิน กินค่าแรงรายวัน ดังนั้น
    ใครจะทำงาน ใครจะหยุดงานไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เพราะหัวหน้าคนงาน แต่ละกะ
    แต่ละกลุ่ม จัดสรรคนเข้ากะได้เก่ง บรรดาหัวหน้าคนไทยก็เป็นคนใต้มีอายุหน่อย ส่วนชาวมอญ มีคนมอญเชี่ยวงานแล้วคอยจัดสรรกะให้กลุ่มคนพวกเขา

    ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ไม่มีวันหยุดรึวันติดประจำเดือนสำหรับผม แต่ทุกเสาร์ผมก็สังเกตเห็นลุงกะเหรี่ยง ขอเรียกง่ายว่า ลุงพร ...ชื่อกะหร่างเรียกยากเหลือกำลัง

    ลุงพรไม่เคยทำงานเสาร์-อาทิตย์ ทุกสองวันนี้แกจะโพกหัวด้วยผ้าขาวม้า แบกปืนแก็ปด้ามยาวเก่าคร่ำคร่า อายุน่าจะสมัยพระเจ้าเหาพอกับตัวเจ้าของ เจ้าปืนแก็ปนี้เป็นปืนไทยทำเอง (หรือควรเรียก "กะเหรี่ยงทำเอง"ดีหว่า) วิธีทำง่ายมาก ง่ายจนไม่น่าเชื่อ พวกเขาเพียงหาแป็บเหล็กขึ้นสนิมที่เหมือนลำกล้องปืนมีทิ้งเกลื่อนกลาดในเหมือง พอได้ขนาดพอเหมาะ ก็เอาเลื่อยตัดเหล็กตัดขาดให้เท่าลำกล้องปืนยาว เอากระดาษทรายหยาบ(ของเหมืองทิ้งขว้างเยอะแยะอีกแหละ) นั่งขัดเช้า-ขัดเย็น พักเดียวขี้สนิมก็หลุดหมด ขัดจนขาววับ ในลำกล้องก็เอากระดาษทรายพันไม้ยาวแหย่เข้าทางนี้ ดึงออกทางโน้น ใช้ความอุตสาหะหน่อย ก็เป็นอันสำเร็จ มีลำกล้องปืนใช้แล้ว

    ตัวปืนยิ่งทุเรศหนัก เป็นไม้เนื้อแข็งหน่อยที่ตัดเอาตามข้างทางหรือป่าข้างเหมือง
    เลือกชิ้นพอเหมาะ แล้วก็นั่งบาก นั่งเหลาด้วยมีดไม่ก็อีโต้เล่มโต ถากซ้ายถากขวา ไม่มีเครื่องกลึง เครื่องเชื่อมเข้าเหลี่ยม เข้าง่ามใดๆทั้งสิ้น...บากไม้จนมีรูปร่างเป็นด้ามปืนได้แล้ว ก็วางลำกล้องปืนยาวทาบลงไป เซาะร่องให้ท่อแป็ปวางได้สนิทอย่าเลื่อนหลุดไป-หลุดมา คราวนี้ต้องอาศัยเครื่องมือในโรงเครื่องมือของเหมืองจากเอ็นยิเนียร์ที่สนิท กันให้หยิบพวกสกรู น็อต ขนาดพอเหมาะ เจาะแล้วเอาเหล็กฉาบ ทาบตรึงระหว่างลำกล้องกับไม้ที่ทำเป็นตัวปืน

    ถึงตอนนี้ก็เหลือไกปืน โกร่งปืนไม่ต้องเพราะไม่ต้องการความสวยงาม ทำไกอย่างเดียว
    กับที่สับนกซึ่งต้องอาศัยความชำนาญทางช่างเล็กน้อย แล้วก็สบายมากสำหรับตัวเชื้อประทุ กับดินประสิว ดินปืน เพราะเหมืองมีตัวนี้มากมาย ไว้ระเบิดหินก้อนใหญ่ๆที่เป็นอุปสรรคในการบุกเบิกขุมเหมือง ซึ่งบางทีเจ้าแคทฯตีนตะขาบจอมตะกละผู้ทรงพลังเอาชนะไม่ได้

    วัตถุระเบิดนี้ ถูกเก็บรักษาไว้ห่างพอควรจากที่พักผู้คน จะเบิกจ่ายเข้มงวดมาก แต่เมื่อ
    อยู่ห่างตา ไกลทีน เรื่องอะไรจะมัวรอทำเรื่องเบิก งัดเข้าไปหยิบเอาเองตามแต่ต้องการใช้สิครับ สดวกที่สุด แต่อย่าขโมยไปขายเทียวน่ะ เป็นเรื่องใหญ่น้องๆขโมยแร่ทีเดียว

    บรรยายมาตั้งเยอะ ขอสรุปง่ายๆว่า...ลุงพรแกเข้าป่า ล่าสัตว์เสาร์-อาทิตย์ แล้วเอาเนื้อป่ามาขายเอาเงินเข้ากระเป๋าด้วยปืนแก็ป กะเหรี่ยงทำเองที่แสนทุเรศทุรังกระบอกนั้น...
    เนื้อที่ได้ จะมีพ่อค้าขึ้นมารอรับในวันอาทิตย์ จากนั้นก็กลายเป็นเมนูอาหารป่าสุดแสนอร่อยหาทานยากในเมือง กระจายไปจอมบึง ราชรี เข้ากรุงเทพฯและจังหวัดอื่นๆ เป็นรายได้ที่ทำให้พรานป่ากะเหรี่ยง ไม่เคยต้องทำเหมืองเสาร์-อาทิตย์

    และนั่นก็ทำให้ผมมองเห็นช่องทางหาเงินเพิ่ม เพื่อจะได้เอาตัวเองหลุดไปจากชีวิตชาวเหมืองอันแสนลำเค็ญนี้เสียที!!!

    เรื่องปืนผาหน้าไม้ สำหรับอดีตทหารเกณฑ์อย่างพวกผม หมูมาก....พวกเราชำนาญใช้
    ปืนยาว ปืนปรส.(ปืนไร้แรงสะท้อน ยุคสงครามโลก) ปืนสั้นก็ผ่านมาทั้งปืนราชการ สิบเอ็ดมม.ที่ลองยิงของหมวดในค่ายบ่อยๆ แต่ถนัดมากคือ...

    ปืนคอลล์ตราควาย ไทยประดิษฐ์ ศิษย์จังโก้...ยุคนั้นหนังเคาบอยตะวันตก จังโก้ ริงโก้ ฮิตมาก พวกเราพกโคลท์ที่ผันเป็นคอลล์ แล้วผลัดกันชักว่า ใครชักไว ยิงไวกว่ากันออกบ่อยในค่าย ไม่อยากคุยนะว่า ในกลุ่มทั้งหมดสิบกว่าคน ผมเจ๋งที่สุด (แน่ะ...คุยไปแล้ว)
     
  15. soidao2559

    soidao2559 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2016
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +3,754
    ตามติดๆครับ:cool:
     
  16. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    พักนิ้ว พักสายตาประสาอาวุโส มาต่อตอนค่ำ จะพยายามให้จบช่วง"เสือสมิง" เพราะพรุ่งนี้ขอหยุดพัก พาผบ.ทบ.ไปทอดกฐิน(ล่วงหน้า)กับหลวงปู่สมชาย วัดคงคา ท่าม่วง กาญจนบุรี ถ้ากลับค่ำมืดก็หมดแรง ถ้าไม่หนักนัก ก็คงพอต่อได้ไหว....ไงก็แล้วแต่ เอาบุญมาฝากท่านผู้อ่านที่่รักทุกคน...อนุโมทนาร่วมกันตามสบาย...สาธุ สาธุ สาธุ ครับผม
     
  17. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    ขอบคุณคร้าบพ้ม
     
  18. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,078,865
    ตามต่อตอนค่ำนะ จะพยายามไม่ให้ผิดหวัง บางครั้งผิดนัดไปบ้างอย่าเคืองกัน
    เพราะสายตาเริ่มแย่ จ้องจอนานๆน้ำตาแห้งไว ต้องคอยหยอดน้ำตาเทียม
    บางที ผบ.ทบ. บังคับให้เลิกพิมพ์
     
  19. soidao2559

    soidao2559 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2016
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +3,754
    โอ้....ไม่ได้เลยนะครับหยุดพิมพ์นี่ขาดใจเลยครับ:cool:
     
  20. Puthapower2012

    Puthapower2012 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +2,598
    ขออนุโมทนาบุญทอดกฐินด้วยครับ ขอให้เดินทางไปกลับปลอดภัย พักผ่อนให้สบายครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...